‘สก็อตต์ คอนสเตเบิล’ : ลูกครึ่งไทย ที่ได้ประเดิมสนามให้กับ ‘ดันดี ยูไนเต็ด’ ชุดใหญ่ด้วยวัยแค่ 16 ปี
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนสื่อเล็กๆ ในไทยและต่างประเทศ รวมถึงแฟนบอลบางกลุ่ม ได้มีการพูดถึงนักเตะดาวรุ่งคนหนึ่งที่มีเชื้อสายเกี่ยวข้องกับประเทศไทยชื่อว่า ‘สก็อตต์ คอนสเตเบิล’ ที่ได้ลงประเดิมสนามให้กับสโมสร ดันดี ยูไนเต็ด ชุดใหญ่ ในเกมที่พบกับ แอดรีสโอเนียนส์
สก็อตต์ ถูกเปลี่ยนตัวลงไปในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พร้อมกับคำถามจากแฟนบอลมากมาย เพราะตอนนั้นทีมออกนำคู่แข่งอยู่เพียงแค่ 1-0 สถานการณ์ยังออกได้ทุกหน้า แต่ทาง จิม กู้ดวิน เฮดโค้ชของทีมกลับไว้วางใจให้เด็กที่อายุแค่ 16 ปี ลงไปในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน
หลังจากที่ สก็อตต์ ได้ลงเล่นในเกมดังกล่าว ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดอันดับที่สองตลอดกาลของทีม ที่ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ตามหลัง รอรี่ย์ แม็คลีอ็อด เพียงแค่ 5 วันเท่านั้น แล้วต้นสังกัดของเขาก็ได้ประตูปิดกล่อง 2-0 เก็บสามแต้มได้สำเร็จ
ทันทีที่ประเด็นนี้ไปเข้าตาสื่อทั้งไทยและต่างประเทศชื่อของ สก็อตต์ ก็กลายเป็นจุดสนใจขึ้นมาอยู่บ้างตามกลุ่มแฟนบอลต่างๆ แต่จากการที่เขาเป็นนักเตะในทีมเยาวชน เล่นอยู่กับทีมที่อยู่ในลีกรองประเทศสก็อตแลนด์ ทำให้การติดตามข้อมูลต่างๆ ค่อนข้างจะหาได้ยากพอสมควร
อย่างไรก็ตามทีมงาน Think Curve - คิดไซด์โค้ง ได้พยายามติดต่อไปหา ‘คุณแม่’ ของน้องที่เป็นคนไทย แล้วได้มีการพูดคุยสอบถามคร่าวๆ เกี่ยวกับเรื่องราวของ สก็อตต์ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับเส้นทางการค้าแข้งของน้อง รวมไปถึงความเป็นไปได้ในการพิจารณาในการเล่นให้กับทีมชาติไทยในอนาคต
ข้อมูลเบื้องต้น
สก็อตต์ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับ แฟร์เมียร์ บอยส์ คลับ ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ก่อนถูกดึงตัวมาเซ็นสัญญาเข้าอคาเดมี่ของ ดันดี ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ในปี 2016 เขาสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น กองหลังตัวกลาง, แบ็คขวา หรือ กองกลางตัวรับ ปัจจุบันเล่นให้กับทีมชุดอายุต่ำกว่า 18 ปี และถูกดันขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่หลายครั้งแล้ว
จากความสามารถที่โดดเด่น รวมไปถึงแนวทางการทำทีมของ ดันดี ยูไนเต็ด ที่ไม่ได้มีงบประมาณมากนัก แล้วยังเล่นอยู่ในลีกรองของประเทศ สก็อตแลนด์ ในตอนนี้ ย่อมทำให้ขุมกำลังฝีเท้าดีจากอคาเดมี่ มักจะได้รับโอกาสให้ลงสนามในทีมชุดใหญ่เมื่อถึงเวลาอันควร เช่นเดียวกับที่ สก็อตต์ ได้รับในเกมที่กล่าวไปข้างต้น
โดยทาง จิม กู้ดวิน เฮดโค้ชของทีม ได้กล่าวถึง สก็อตต์ เอาไว้ว่า
“ไอ้หนูสก็อตต์ ทำผลงานได้ดีจริงๆ กับทีมยู-18 ผมชอบทัศนคติในการเล่นของเขา จากการที่เขามีพลังงานในการขับเคลื่อนเกมกลางสนาม รวมไปถึงการเล่นโดยรวมเรื่องการครองบอลและคุมจังหวะเกม”
“มันเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจจริงๆ สำหรับสโมสรที่เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดลำดับสอง ที่มีโอกาสได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ ความจริงเขาขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่หลายรอบแล้ว เราจับตามองพัฒนาการของเขามาตลอด และเมื่อทีมของเราขาดผู้เล่นไป 3 คน เราก็พร้อมจะให้โอกาสเขาได้ลงเล่น”
แท้จริงแล้ว สก็อตต์ เพิ่งจะถูกเรียกตัวไปเล่นให้กับทีมชาติสก็อตแลนด์ ยู-17 ภายใต้การทำทีมของ ไบรอัน แม็คลาฟลิน เป็นโควต้าที่นำไปเสริมเพิ่มเติม แล้วได้โอกาสลงสนามในเกมที่บุกเอาชนะ สวิตเซอร์แลนด์ ได้ถึงถิ่น 3-2 แถมเจ้าตัวยังทำประตูในเกมนั้นได้ด้วย
ซึ่งเมื่อเฮดโค้ชของ ดันดี อย่าง กู้ดวิน เล็งเห็นว่านักเตะกำลังอยู่ในช่วงที่เล่นได้อย่างมั่นใจ ทำผลงานได้ดี ก็พร้อมที่จะส่งดาวรุ่งรายนี้ลงประเดิมสนาม ท่ามกลางความประหลาดใจของแฟนๆ เนื่องจากทีมนำอยู่แค่ประตูเดียว แต่พอได้ลูกสองปิดเกมทุกข้อสงสัยก็หมดไป ซึ่งเขาก็ยกเครดิตส่วนหนึ่งให้กับ สก็อตต์ ที่มีส่วนสำคัญกับชัยชนะเกมนั้นเช่นกัน
ก้าวต่อไปในเส้นทางอาชีพ
ตัวของ สก็อตต์ เป็นลูกครึ่งไทย-สก็อตแลนด์ เกิดและเติบโตที่แดนวิสกี้ เพิ่งจะอายุครบ 16 ปีเต็มไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ฟอร์มของเขากำลังเดินหน้าไปได้สวย แม้ว่าครอบครัวของเขาจะไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา จากกรณีที่คุณพ่อ-คุณแม่ แยกทางกันด้วยเหตุผลส่วนตัว
คุณแม่ของ สก็อตต์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในเรื่องของกฎหมายในแดนวิสกี้ น้องจะต้องใช้ชีวิตกับคุณพ่อเป็นหลัก แต่จะได้ใช้ชีวิตกับแม่สัปดาห์ละสองวันตามข้อตกลง ดังนั้นการวางแผนเรื่องของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ คุณพ่อย่อมมีส่วนในการช่วยตัดสินใจมากกว่า ซึ่งได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเอาไว้ว่า
“น้องคงต้องถูกขายออกไปจากแนวทางการทำทีมของสโมสร ดันดี ยูไนเต็ด ตอนนี้น้องมีรายได้ มีเงินเดือน มีค่าตัวแล้ว จึงเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจของสโมสรฟุตบอล พ่อเค้าก็อยากให้ลูกใช้ชีวิตอยู่ในโซนสหราชอาณาจักรก่อน อยากให้ไปอยู่กับทีมดังๆ ในอังกฤษ”
“พ่อของน้องมองว่าผลงานกำลังไปได้สวย เคยเดินทางไปเล่นกับเกมอุ่นเครื่องที่ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ มาแล้ว เลยอยากให้น้องสร้างอนาคตที่นี่ก่อน ซึ่งก็มองเรื่องกลับไปที่ไทยอยู่บ้าง แต่ด้วยตัวของน้องพูดไทยไม่ค่อยได้ เกิดและโตที่นี่ พ่อ-แม่ ก็ต้องห่วงลูกเป็นเรื่องปกติ”
จากการเปิดเผยเพิ่มเติม สก็อตต์ เคยไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสร ลิเวอร์พูล แล้วเคยได้รับการติดต่อจากสตาฟฟ์จาก ชลบุรี เคยเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศที่ไทยมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีก่อน ซึ่งตอนนี้น้องเพิ่งจะอายุแค่ 16 ปี การตัดสินใจเรื่องยากและลึกกว่านี้คงต้องใช้เวลาพอสมควร
ยิ่งไปกว่านั้น สก็อตต์ มีกำหนดการจากทางสปอนเซอร์ในการเดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับ 3 ทีมดัง ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งเป็นทีมระดับหัวแถวของลีก แต่ทางทีมงานไม่สามารถเปิดเผยชื่อของสโมสรทั้งหมดได้ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาซื้อ-ขาย ในอนาคต
โอกาสกับทีมชาติไทย
จากการที่ สก็อตต์ เกิดและเติบโตที่สก็อตแลนด์ ย่อมทำให้ตัวเขายัง ‘ไม่มี’ สัญชาติไทย แล้วด้วยเส้นทางอาชีพที่กำลังเป็นช่วงขาขึ้น ความต้องการของพ่อเลยอยากให้ตัวของลูก พยายามไปให้ไกลที่สุดในการเล่นฟุตบอลในแถบสหราชอาณาจักรก่อน
อย่างไรก็ตามเคยมีความคิดที่คุยกันไว้เกี่ยวกับเรื่องการทำ ‘พาสปอร์ตไทย’ ในอนาคต แต่ติดปัญหาเพียงแค่เรื่องเดียวและต้องการให้ผ่านพ้นไปก่อน ตามที่คุณแม่ได้ให้ข้อมูลว่า
“เรื่องพาสปอร์ตไทย ค่อยว่ากันอีกทีค่ะ เพราะว่าไม่อยากให้น้องกลับไปแล้วติดปัญหาเรื่องของการเกณฑ์ทหาร ที่อาจส่งผลกระทบต่ออาชีพของเขา เลยตกลงกันว่าอยากสร้างอนาคตกับน้องที่ตรงนี้ก่อน”
กรณีของ สก็อตต์ คงคล้ายคลึงกับ จู๊ด-ซุ่นทรัพย์ เบลล์ กองหน้าดาวรุ่งจากสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ยังมีทางเลือกในการเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในอนาคต หรือมีเส้นทางการค้าแข้งที่ดีกว่าการกลับมาเล่นในประเทศไทย
ดังนั้นโอกาสลุ้นเพียงอย่างเดียวของแฟนบอลไทย ที่จะได้เห็น สก็อตต์ ในสีเสื้อ ‘ช้างศึก’ คงต้องลุ้นให้ทางทีมชาติสก็อตแลนด์มองข้ามเขาไปก่อน จนถึงระยะเวลาที่ตัวนักเตะเองมองถึงเรื่องการเปลี่ยนสัญชาติ ซึ่งก็ต้องเป็นช่วงผ่านพ้นปัญหาติดขัดที่ทางครอบครัวแจ้งมา
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
การสัมภาษณ์ออนไลน์ส่วนตัว
https://www.dundeeunitedfc.co.uk/news/7882/FIVE-ADDITIONS-TO-OUR-U18s-SQUAD.html
https://www.scottishfa.co.uk/scotland/scotland-squads/mens-under-17s/
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
บุรีรัมย์ส่งประกวด : ‘เบน เดวิส’ เลือกหนึ่งในขุนพล ‘ปราสาทสายฟ้า’ เป็นนักเตะไทยที่เก่งที่สุด