ศราวุฒิ มาสุข : กับชีวิตใหม่ในเส้นทางฟุตบอลเดินสาย

By ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

2 พ.ค. 2024 , 02:48น.

หากแฟนฟุตบอลไทย ที่ติดตามสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ อาทิ เฟสบุ๊ค, ติ๊กต่อก หรือ ยูทูป คงจะได้เห็นการแชร์คลิปต่างๆ ผ่านตาไปบ้าง เกี่ยวกับลีลาการเล่นและผลงานของ หนุ่ย - ศราวุฒิ มาสุข อดีตนักเตะทีมชาติไทย ซึ่งหันไปหาเลี้ยงชีพ ด้วยการเตะฟุตบอลเดินสายล่าแชมป์และเงินรางวัล

แน่นอนว่าเส้นทางชีวิตของ หนุ่ย อาจเจอทั้งช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ติดธงทัพ ‘ช้างศึก’ ได้โชว์ฝีเท้าในนามทีมชาติ ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลหลายหมื่นคน ที่เข้ามาให้กำลังใจในสนาม ในช่วงเวลาที่กระแสบอลไทยกำลังบูมสุดๆ

อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องมีช่วงเวลาที่ย่ำแย่แบบสุดๆ เช่นกัน เกี่ยวกับประเด็นข่าวเสียๆ หายๆ ที่หลุดออกมาเกี่ยวกับการเงิน ซึ่งเจ้าตัวไม่อยากย้อนกลับไปคิดถึงมันมากเท่าไหร่นัก เพราะต้องการให้เป็นบทเรียนแก่นักเตะรุ่นหลังๆ ที่ไม่ควรดำเนินรอยตามอย่างยิ่ง

การเปลี่ยนชื่อเดิมจาก ศราวุฒิ ไปเป็น พูลศักดิ์ อยู่ช่วงหนึ่ง เป็นเพราะเขาต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ให้ทุกอย่างกลับมาเข้าที่เข้าทาง เหตุผลอะไรกันบ้างที่ทำให้ หนุ่ย เลือกหันไปหาวงการฟุตบอลเดินสาย ชีวิตทุกวันนี้ของเขาเป็นอย่างไร

เขาไปเจออะไรมาบ้างกับการเปิดโลกทัศน์ใหม่กับโลกลูกหนังอีกใบหนึ่ง ที่ไม่ใช่ฟุตบอลลีกอาชีพ ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีพจากทีมงาน Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ตามฝันสู่เส้นทางบอลอาชีพ

หนุ่ย เกิดที่จังหวัดหนองคาย แต่อพยพย้ายไปใช้ชีวิตที่จังหวัดเชียงราย เขารู้จักกีฬาฟุตบอลเพราะถูกปลูกฝังจากพี่ชายที่ชอบกีฬาชนิดนี้ แล้วก็ชวนเล่นกันตามประสาเด็กๆ เตะในบ้านเอากระถางมาตั้งเป็นประตู ก่อนจะหอบหิ้วกันไปแข่งขันรายการต่างๆ ตามหมู่บ้าน, ตำบล, อำเภอ และไปสุดที่ระดับจังหวัด ติดสอยห้อยตามพี่ชายไปตลอด

หนุ่ย ไม่ได้เข้าฝึกฟุตบอลอาชีพตามอะคาเดมี่เหมือนเด็กๆ ในยุคนี้ แต่เขาได้ไปเรียนโรงเรียนกีฬาจังหวัดนครสวรรค์ การพัฒนาตนเองของเขาต้องเรียนรู้จากครูพละทั่วๆ ไป บวกกับการอาศัยครูพักลักจำไปตามมีตามเกิด แต่ด้วยพรสวรรค์ของเขาก็ก้าวไปมีชื่อติดเป็นเยาวชนทีมชาติ

ต่อมาสโมสร นครสวรรค์ ก็ดันเขาไปเล่นกับทีมชุดใหญ่ ก่อนจะไปสร้างชื่อกับอีกหลายสโมสร อาทิ จุฬา ยูไนเต็ด, จามจุรี ยูไนเต็ด, เมืองทอง ยูไนเต็ด, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, บางกอก กลาส และ อุดรธานี เป็นต้น

เส้นทางการค้าแข้งของ ศราวุฒิ ไม่ต่างกับนักเตะอาชีพจอมพเนจร ย้ายสังกัดเป็นว่าเล่น แต่เขาก็มีความประทับใจที่สุดกับหนึ่งสโมสรที่อยู่ด้วยเพียงสั้นๆ แค่ฤดูกาลเดียว ตามที่ย้อนความเอาไว้ว่า

“ช่วงที่แฮปปี้ที่สุดผมคิดว่าเป็นช่วงที่อยู่กับ โคราช-นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เพราะว่าการใช้ชีวิตในเมืองที่ไม่ต้องเผชิญปัญหารถติด แฟนบอลที่นั่นอบอุ่นมาก เวลาแข่งเสร็จมีขนม ของฝาก ติดไม้ติดมือกลับไปห้องตลอด”

“เวลาเดินไปกินข้าวที่ไหน ไปซื้อของอะไร พ่อค้า-แม่ค้าก็มีแถมให้บ้าง ให้มาฟรีบ้าง เหมือนเป็นการตอบแทนที่เรามอบความสุขให้เขาในสนามฟุตบอล เขาก็ตอบแทนเราคืนด้วยอย่างอื่นที่เขาให้ได้”

อย่างไรก็ตามด้วยสไตล์การเล่นของเขา ที่เป็นแนวรุกจอมลากเลื้อย ทำให้สภาพร่างกายของเขาต้องเจอกับอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง ผ่าตัดเข่าไปสามรอบ และ ข้อเท้าอีกหนึ่งรอบ พอกลับมาฟอร์มก็ไม่ดีเช่นเดิม แถมชีวิตนอกสนามก็สนุกเกินพอดีไปหน่อย จากการชอบสังสรรค์ เลยทำให้สิ่งที่สร้างมาเริ่มพังทลายลงไปทีละน้อย

ซึ่งเขาไม่อยากให้ใครมาเดินรอยตามสิ่งแย่ๆ หรือตามไปขุดคุ้ยเอาเรื่องในอดีตมาทำร้ายกัน เนื่องจากทุกคนสามารถผิดพลาดในชีวิตได้ทั้งนั้น อยากให้จำไปแค่ช่วงเวลาดีๆ หรือยึดถือนักเตะที่มีความเป็นมืออาชีพสูงๆ อย่าง เจ-ชนาธิป, มุ้ย-ธีรศิลป์, เช็ค-สุภโชค หรือ แบงค์-ศุภณัฏฐ์ ที่ได้ออกไปค้าแข้งต่างประเทศเป็นต้นแบบ

สำหรับมุมมองต่อการพัฒนานักเตะในประเทศไทย หนุ่ย เชื่อว่าทุกวันนี้เด็กๆ ได้รับการสนับสนุนมากกว่าในยุคของเขา เข้าอคาเดมี่ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ผ่านไปพอ 10 ขวบก็เก่งกันแล้ว ต่อยอดบนเส้นทางลูกหนังได้สบาย จากการดูแลแบบเป็นขั้นเป็นตอนหรือถูกทิศถูกทาง เพียงแต่น่าห่วงเรื่องของความอดทน

หากไปเจอกับสิ่งเร้าหรือช่วงเวลาที่ยากลำบาก มีโอกาสที่จะหลุดวงโคจรไปได้เช่นกัน ดังนั้นต้องตั้งเป้าหมายของตัวเองเอาไว้ให้ดี แล้วตั้งมั่นเพื่อไปถึงสิ่งที่ฝันให้ได้ ห้ามขาดเรื่องระเบียบวินัยในการดูแลตนเองเด็ดขาด

ปัญหาเรื้อรังเรื่องรายได้

ศราวุฒิ ผ่านประสบการณ์ค้าแข้งมาแล้วมากมายกับทั้งทีมเล็กและใหญ่ ระดับ ไทยลีก และ ไทยลีก สอง ซึ่งปัญหาใหญ่ที่ทุกวันนี้หลายสโมสรยังแก้ไม่ตก คือ เรื่องของการจ่ายเงินเดือนนักเตะ ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตโดยตรง

นักเตะอาชีพ ก็เป็นงานแขนงหนึ่ง ที่ต้องทำเพื่อหาเลี้ยงชีพ นำรายได้ไปจุนเจือครอบครัวหรือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทุกคนต้องมีภาระค่าใช้จ่ายแบบตายตัว อาทิ ค่ารถ, ค่าบ้าน, เงินส่งพ่อ-แม่ หรือแม้แต่เลี้ยงดูครอบครัวตัวเอง แต่ถ้าเกิดเงินรายได้มันหดหายไป หรือจ่ายไม่ตรงเวลา ผู้เล่นกลุ่มนั้นๆ ก็ไปไม่ถูกเช่นกัน

หากเป็นช่วงสภาวะที่เจอโรคระบาดโควิด-19 เล่นงานจนฟุตบอลไทย เกิดอาการรวนไปทั้งระบบ เหล่านักเตะก็พอเข้าใจได้ หากต้นสังกัดจะขอจ่ายค่าจ้างที่ลดน้อยถอยลงในจำนวนที่สมควร ขนาดทีมในลีกสูงสุดยังต้องทำ แต่สุดท้ายสโมสรที่มีเม็ดเงินจ่ายไหวก็จัดการแล้วไปต่อได้

ซึ่งนั่นไม่ใช่กับสโมสรในลีกล่างๆ ที่บางทีเบี้ยวจ่ายเงิน ยืดเวลาด้วยสัญญาปากเปล่าไปเรื่อย แล้วสุดท้ายก็ไม่จ่ายสักบาท ตามที่เขาเล่าไว้ว่า

“พวกนักเตะ ไทยลีกสองหรือสามเนี่ย เขาได้สัญญากันไม่กี่เดือนนะ 6 เดือนบ้าง 8 เดือนบ้าง ถ้าเข้ารอบแชมเปี้ยนส์ลีกก็ต่ออีกเดือนอะไรแบบนั้น ไม่ได้สัญญาเป็นปีแบบไทยลีก”

“ถ้าไม่ใช่ทีมลุ้นขึ้นชั้นนะ ปัญหาเรื่องการไม่จ่ายเงินหรือจ่ายช้า นักเตะต้องเจอแน่ๆ เป็นประจำ ทุกวันนี้วันที่จ่ายไม่มีความชัดเจนยังไม่พอ บางทีนักเตะจะไปฟ้องร้องยังไม่รู้จะเริ่มยังไง”

“ปีนี้ที่ผมหันมาเตะบอลเดินสายหลักๆ จ๋าๆ เลยเนี่ย เพราะสโมสร อุดรธานี ไม่จ่ายเงิน ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เลย ผมก็ถือไปว่าช่วยจังหวัดบ้านตัวเองและบ้านเกิดพ่อไป ผมอยู่กับทีมมา 4-5 เดือน ได้เงินมาแค่หมื่นเจ็ด ผมไม่ทวงแล้ว เลยไปขอยกเลิกสัญญาไปไม่เอาแล้ว ยอดค้างจริงผมต้องมีแสนห้า ถ้าผมเล่นต่อผมคงมีติดกันสามสี่แสน”

“มันทำให้ผมเบื่อกับสิ่งที่ต้องเจอ พอถึงเวลามาสัญญาว่าจะจ่ายวันนั้นวันนี้ หลอกให้เราลงไปแข่งก่อน แล้วก็ไม่จ่ายเงินตามเคย เราออกไปซ้อมมีค่าใช้จ่ายเรื่องกิน เดินทาง แต่มันไม่มีรายรับเข้ามา ก็เลยคิดว่าจะทำไปทำไมไปเตะเดินสายดีกว่า ผมไปเตะเดินสายก็เพราะอุดรนี่แหละ”

“ตอนนั้นผมรวมตัวจะฟ้องสโมสรกัน พี่เจ-วรปัฐ พี่อาร์ม หรือคนอื่นๆ ก็พร้อมช่วยเต็มที่ ผมก็รวบรวมหลักฐานให้เพื่อนๆ ได้ประมาณ 5-6 คน เตรียมจะฟ้อง แต่คนอื่นๆ กลัวไม่มีทีมเล่น กลัวไม่ได้ใบโอนย้ายเลกสอง ถอนตัวกันหมด เลือกไปขอยกเลิกสัญญา ผมก็เลยต้องไปขอโทษพี่ๆ เขาที่พร้อมช่วย แล้วก็ขอบคุณพี่ๆ เขาไป”

หลังจากนั้นสโมสร อุดรธานี ก็ถูกปรับสภาพมาเป็นทีมที่ไม่ส่ง คลับ ไลเซนซิ่ง คนทำทีมหนีหายไปไหนไม่รู้ ยังไม่มีใครมารับผิดชอบเรื่องเงินต่างๆ แล้วถูกปรับตกชั้นไปเริ่มกันใหม่ใน อเมเจอร์ ลีก ตามระเบียบ

เปิดโลกทัศน์สู่บอลเดินสาย

แรกเริ่มเดิมที หนุ่ย ไม่ได้ชื่นชอบในการไปเตะบอลเดินสายเป็นทุนเดิม แต่ได้รับการชักชวนไปตอนที่ว่างอยู่ยังไม่รู้อนาคต หลังต้นสังกัดที่แท้จริงอย่าง บางกอก กลาส ปล่อยให้เขามาเล่นกับ พีทีที ระยอง ด้วยสัญญายืมตัว สัญญาตัวเองก็กำลังจะหมดช่วงปิดฤดูกาล อนาคตไม่มีความชัดเจน พอถูกชักชวนก็กะไปลองเล่นขำๆ หารายได้เสริมช่วงปิดฤดูกาล

ทีมแรกที่เขาได้ร่วมงานด้วย คือ ทูแซด ได้รับการติดต่อจากคนทำทีมอย่าง บอสต้น ให้ไปช่วยงานแถบพัทยา ซึ่งแรกๆ ตัวของ หนุ่ย ยอมรับว่าการปรับตัวมาเล่นบอล 7 คน นั้นไม่ได้ง่ายเลย ต้องอาศัยประสบการณ์ในการประคองตัว ก่อนจะเริ่มเรียนรู้วิธีการแล้วปรับจังหวะได้ในภายหลัง

พอข่าวกระจายไปว่า ศราวุฒิ สามารถติดต่อให้มาเล่นในรายการบอลเดินสายได้ ผู้ใหญ่ที่ทำทีมอยู่หลายทีมก็ติดต่อเข้ามาหา ให้ไปช่วยแข่งขันตามรายการชิงแชมป์ต่างๆ แบบไม่มีสัญญาผูกมัดแบบบอลอาชีพ บางทีมก็มีซ้อมบ้าง บางทีมก็ไปแข่งเลยไม่มีซ้อม

การมีอิสระในการใช้ชีวิต บวกกับการดูแลที่ดีจากเจ้าของทีมต่างๆ ที่พร้อมสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายจิปาถะ เช่น ค่าเดินทาง, ค่าห้อง, ค่าอาหาร และ ค่ากิน-ดื่ม ใช้ชีวิตกินข้าวแบบร่วมโต๊ะแบบไม่ถือตัว ทำให้อดีตนักเตะทีมชาติอย่าง หนุ่ย เริ่มชื่นชอบโลกฟุตบอลใบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของรายได้ ก็มีการจ้างที่เรทราคาสูงพอควร เคยได้รับเงินสูงสุดลงเตะหนึ่งวันเต็มๆ ได้ค่าตัวระดับหนึ่งหมื่นห้าพันบาท บวกกับโบนัสและเบี้ยเลี้ยงอื่นๆ รวมแล้วมีแตะหลักสองหมื่น แต่นั่นก็เป็นเพียงครั้งเดียวที่เขาได้มากขนาดนั้น ทัวร์นาเมนต์อื่นๆ ค่าตัวจะตกอยู่ที่วันละประมาณ 5 พันบาท

หนุ่ย เผยว่าผู้ใหญ่ที่ทำทีมบอลเดินสาย ไม่เคยมีการค้างค่าตัวแม้แต่ครั้งเดียว เท่าที่เขาร่วมงานด้วยมาทั้งหมด จบงานจ่ายเลยก็มี บางครั้งเบิกก่อนได้ด้วยเอาไว้ซัพพอร์ทรายจ่ายต่างๆ ช้าสุดเต็มที่ก็จะโอนค่าตอบแทนมาให้ในวันต่อไป

เมื่อเปรียบเทียบข้อดีของบอลเดินสายกับบอลอาชีพ หนุ่ย มองว่าโลกสองใบนี้ มีข้อดี-ข้อเสียที่ต่างกันออกไป ตามที่บอกไว้ว่า

“ข้อดีของบอลอาชีพเอาตรงๆ นะ เราจะได้ดูแลร่างกายตัวเองตลอดเวลา เพื่อแย่งเป็น 11 ตัวจริง มีแพสชั่นให้สู้อยู่ตลอด หวังทำให้โค้ชเห็น มีทัศนคติของความเป็นมืออาชีพ พัฒนาตัวเองเพื่อสร้างมูลค่าให้ตนเองเพิ่มได้ มีโอกาสติดทีมชาติ สามารถยกระดับเส้นทางของตัวเองในการเป็นนักฟุตบอลได้”

“แต่บอลอาชีพ คำว่า อาชีพ เจ้าของทีมเขาต้องการผลงานจากคุณ จ่ายเงินไปแล้วต้องการให้เราทำผลงานออกมาได้ดี ทุกอย่างวัดกันที่ผลงาน เรื่องของความกดดันมันก็มีมากกว่า”

“ส่วนบอลเดินสายจะอยู่ดูแลกันแบบครอบครัว ถามว่าคนทำทีมจริงใจกว่ามั้ย อาจจะจริงใจมากกว่า เงินรายได้ก็ไม่น้อย มีความอิสระ ไม่ต้องซ้อมทุกวัน มีความยืดหยุ่นในการเล่น บางครั้งเขาจะแจ้งจุดประสงค์เลยว่าเอาเรามาโปรโมทรายการก็มี”

“ผมเคยได้สูงสุดวันละหมื่นห้า สองวัน บวกค่าน้ำมันสามพัน โบนัสอีกสามพัน แต่ผมคืนโบนัสเขาไป บอกว่าผมได้เยอะแล้ว บางรายการหลังๆ ติดต่อมาไปเตะเพราะช่วยๆ กันก็มี”

ทัวร์นาเมนต์ที่ ศราวุฒิ คิดว่าตัวเขาเล่นได้ดีที่สุดในการเตะบอลเดินสาย คงหนีไม่พ้น หนองละลอก คัพ 2023 ที่พาทีม “ธนาเมศฐคาร์เซ็นเตอร์” เป็นแชมป์ได้ในบั้นปลาย ซึ่งความจริงแล้วทุกรายการกับทีมอื่นๆ ที่เขาไปถึงตำแหน่งแชมป์ ก็ล้วนเป็นความทรงจำที่ประทับใจทั้งหมด

ด้านกระแสเกี่ยวกับความรุนแรงของบอลเดินสาย บางคลิปที่เขาโดนไล่เตะไล่หวด ศราวุฒิ ยอมรับว่า บางครั้งตัวเขาก็มีอารมณ์โกรธบ้าง แต่ต้องพยายามปล่อยผ่านไม่ตอบโต้ เพราะเคยผ่านเวทีที่สูงกว่านี้มาแล้ว ปล่อยให้สื่อโซเชี่ยล ลงโทษการกระทำแย่ๆ ของนักเตะไปเป็นรายๆ ทุกอย่างมันจะสะท้อนกลับไปหาคนผิดเอง

ส่วนน้องๆ นักเตะอาชีพ ที่พยายามติดต่อ หนุ่ย ให้ชักพาเข้าสู่วงการนี้บ้าง หากเป็นนักเตะระดับ ไทยลีก หรือ ไทยลีก สอง ที่อายุยังน้อย ศักยภาพไปต่อได้ คำแนะนำจากเขาจะเป็นการให้สู้ เพื่อเพิ่มมูลค่าตัวเองในบอลอชีพต่อไป

แต่ถ้าเป็นนักเตะระดับ ไทยลีก สาม รับเงินเดือนแค่หมื่นกว่าบาท หักค่าน้ำมันไปซ้อมแล้วแทบไม่มีกิน เงินเดือนจ่ายไม่ตรง หนุ่ย ก็จะปรับเปลี่ยนคำแนะนำ ให้หันมาเล่นบอลเดินสายดีกว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีเป็นรายๆ ไป

เป้าหมายต่อไป

หลายคนอาจทราบมาแล้วว่า หนุ่ย นั้นผ่านมรสุมชีวิตจนเกือบกลับมายืนไม่ได้ นั่นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เขาต้องเปลี่ยนชื่อเป็น พูลศักดิ์ มาสุข ซึ่งมาจากชื่อของคุณพ่อของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว นำมาเป็นหลักในการใช้ชีวิต เพื่อหวังจะเริ่มต้นใหม่

แล้วพอสถานการณ์ทุกอย่างกลับมาลงตัว เขาก็เปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อ ศราวุฒิ เหมือนเดิม เพราะตัวตนของเขาที่คนรู้จักคือชื่อนี้ ซึ่งทุกวันนี้เขามองว่าชีวิตของเขาค่อนข้างลงตัว หลังได้กลับมายังถิ่นฐานจังหวัดอุดรธานี ที่เป็นบ้านเกิดของคุณพ่อ หลังพเนจรจากภาคอีสานไปเป็นสิบๆ ปี

ศราวุฒิ เผยว่ามีทีมบอลอาชีพระดับ ไทยลีก สอง ยื่นข้อเสนอมาให้เขาพิจารณาเช่นกัน เป็นข้อเสนอมูลค่าประมาณ 5-7 หมื่นต่อเดือน แต่เขาเลือกที่จะไม่ไปเพราะมองว่าไม่คุ้มกับรายจ่าย เตะบอลเดินสาย ทำสิ่งที่ตนเองอยากทำควบคู่ไปด้วยคุ้มกว่า ขนาดมีคนจะไปคุยกับสโมสร ตราด เอฟซี ในลีกสูงสุดให้ยังไม่รับปากว่าจะไปเลย

หนุ่ย ฝากข้อความทิ้งท้ายให้กับนักเตะรุ่นน้องๆ ที่กำลังเดินบนเส้นทางนักฟุตบอลเอาไว้ว่า

“อยากให้น้องๆ เรียนรู้แต่สิ่งดีๆ จากการเล่นฟุตบอล จากวิถีการใช้ชีวิตที่ถูกที่ควร ไปพัฒนาปรับปรุงให้เข้ากับตัวเอง ส่วนเรื่องที่ไม่ดีรู้อยู่แล้วก็อย่าไปทำเลย ปล่อยมันทิ้งไป”

“ถ้าพลาดพลั้งทำสิ่งไม่ดีไปแล้ว ก็ต้องรู้จักหยุดแล้วดึงตัวเองกลับคืนมาให้ได้ เอาบทเรียนชีวิตราคาแพงของผมเป็นตัวอย่างก็ได้ แต่สิ่งที่ไม่ดีอย่าไปทำตาม เลือกทำตามแต่สิ่งที่มันดีๆ”

“ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลเดินสาย หรือ ฟุตบอลอาชีพ มันสามารถพัฒนาควบคู่กันไปได้ ถ้ามีคนที่รักในฟุตบอลเข้ามาบริหาร แล้วต้องการพัฒนามันจริงๆ ผมเชื่อเช่นนั้นนะ ถ้าตั้งใจทำจริงๆ ทำได้อยู่แล้วล่ะ อยู่ที่ว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน จะถอดใจกันไปก่อนหรือเปล่า”

ส่วนตัวแล้ว หนุ่ย แอบอยากเห็นการจัดแข่งขันเอาสโมสรดังๆ มาแข่งทัวร์นาเมนต์สั้นๆ วันสองวัน ดวลกับทีมบอลเดินสายที่เป็นแชมป์ระดับเงินล้าน ยกตัวอย่างเช่น การท่าเรือ, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือ บีจี ปทุม แล้วเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากแฟนบอลอย่างล้นหลาม ซึ่งอาจปลุกกระแสความนิยมบอลไทยกลับมาได้

นอกจากนี้ ศราวุฒิ หันไปทำอคาเดมี่เป็นธุรกิจเสริม ที่อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ชื่อว่า ‘มาสุข อคาเดมี่’ รับสอนน้องๆ ตั้งแต่อายุ 6-16 ปี เพื่อหวังว่าจะเป็นหนึ่งในฟันเฟืองในการสร้างนักฟุตบอลฝีเท้าดี ป้อนเข้าสู่วงการฟุตบอลไทยต่อไปในอนาคต

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : การสัมภาษณ์ส่วนตัว

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เทพนิยายภูธร : ‘สโมสร ดอนมูล’ ตำนานทีมระดับตำบลผู้พิชิตแชมป์ เอฟเอ คัพ

เมื่อครั้งหนึ่ง “อิชิอิ” เคยทำงานในโรงอาหาร หลังคว้ารองแชมป์สโมสรโลก

คล้ายตรงไหนบ้าง? : ศุภณัฏฐ์ นักเตะเงา โลซาโน่ ในสายตาสื่อต่างประเทศ

เวียดนามกร้าวก่อนซีเกมส์ : "4 ปีก่อน ทรุสซิเย่ร์ ก็เคยพาทีมเวียดนามยู 19 เอาชนะไทยมาแล้ว

เก่งในสนามไม่พอ : สาเหตุใด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงครองความยิ่งใหญ่ได้แบบยั่งยืน ?

บุรีรัมย์ ยังห่างแค่ไหน ? 10 สถิติไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้

คุณสมบัติอะไรที่ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ ?