สตีฟ ดาร์บี้ แนะ เวียดนาม ให้เวลา คิม ซัง-ซิก อย่าเพิ่งตัดสิน

สตีฟ ดาร์บี้ แนะ เวียดนาม  ให้เวลา คิม ซัง-ซิก อย่าเพิ่งตัดสิน
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

สตีฟ ดาร์บี้ อดีตกุนซือทีมชาติไทย ซึ่งคลุกคลีกับสื่อฟุตบอลในประเทศเวียดนามอย่าง Dantri ออกมาให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นศึก 3 เส้า LPBANK CUP 2024 ที่มี 3 ชาติเข้าร่วมชิงชัยทั้ง ไทย, รัสเซีย และ เวียดนาม รวมไปถึงผลงานของ คิม ซัง-ซิก เฮดโค้ชทัพดาวทองเอาไว้อย่างน่าสนใจ

ความเห็นส่วนตัว ดาร์บี้ มองว่าการคอมเมนท์ในเชิงลบเกี่ยวกับ รัสเซีย ที่เลือกตัดสินใจเดินทางมาแข่งขันกับชาติที่มีอันดับโลกต่ำกว่าและชื่อชั้นที่อ่อนกว่า คนที่วิจารณ์ต้องเข้าใจสถานการณ์จริงตอนนี้ด้วยว่า ตั้งแต่เกิดปัญหาสงครามระหว่าง รัสเซีย และ ยูเครน ทำให้ทัพหมีขาว ไม่มีทางเลือกมากนักเพราะน้อยทีมที่อันดับสูงๆ ในยุโรปจะตอบรับการเล่นเกมกระชับมิตรกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC), สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (UEFA) และ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ยังแบนพวกเขาออกจากการแข่งขันอย่างเป็นทางการมาจนถึงตอนนี้ ดังนั้นวิจารณ์แบบไม่ดูข้อเท็จจริงประกอบ มันดูไร้เดียงสาจริงๆ

รัสเซีย ที่เดินทางมาแข่งขันในรายการสามเส้าครั้งนี้ เป็นชุดผู้เล่นที่ไม่ได้มีประสบการณ์้ล่นทีมชาติมากนัก เต็มไปด้วยนักเตะหน้าใหม่ มีแค่ ซาฟานอฟ ผู้รักษาประตูจาก เปแอสเช, คาราวาเยฟ กองหลังจาก เซนิต และ คุซยาเยฟ กองกลางจาก เลอ อาร์ฟ ที่พอจะเป็นคีย์แมนที่แฟนบอลรู้จักเท่านั้น ยุคที่ฟุตบอลลีกของพวกเขาดึงดูดนักเตะฝีเท้าดีๆ ด้วยค่าจ้างแพงๆ มาค้าแข้งนั้นจบลงไปแล้ว ผู้เล่นรัสเซียฝีเท้าดีในประเทศจึงต้องมองถึงโอกาสในการพัฒนาฝีเท้าและการเติบโตในเส้นทางการค้าแข้ง ด้วยการออกไปเล่นในลีกอื่นๆ ในต่างประเทศ แม้ว่ามันอาจจะมองดูเป็นการให้ความสำคัญกับการเล่นในสโมสรมากกว่าการเล่นทีมชาติก็ตาม

จุดเด่นของผู้เล่นรัสเซีย คือ การมีรูปร่างที่ดีและแข็งแกร่งเป็นทุน ถูกฝึกทักษะมาอย่างดี, มีความเป็นมืออาชีพ และ มีวินัย แม้ว่าจะมีข้อสงสัยว่าพวกเขาใช้สารกระตุ้นทำให้ร่างกายมีศักยภาพสูงกว่าปกติ แต่เมื่อผลการตรวจสอบออกมาแล้วไม่มีอะไรในกอไผ่ ก็ต้องยกเครดิตให้กับผู้เล่นของพวกเขาที่พัฒนาร่างกาย จนแข็งแกร่งแบบที่เห็น แต่จุดบอดของพวกเขา คือ เรื่องของความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างเกมและความสามารถในการพัฒนานักเตะให้ก้าวไปข้างหน้า

ส่วนประเด็นการเรียกนักเตะมาติดทีมชาติเวียดนามของ คิม ซัง-ซิก รอบนี้ ดาร์บี้ ให้ความเห็นว่า เฮดโค้ชจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวล้วนขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ออกมา ไม่มีโค้ชคนไหนจะเรียกตัวนักเตะที่ไม่สามารถช่วยให้ทีมเขาเก็บชัยชนะได้เข้าสู่ทีมแน่นอน ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้และไม่ยุติธรรมเลย ที่จะตัดสินผลงานการคุมทีมของเขาเพียงแค่การคุมทีมในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2 นัด ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีช่วงเวลาเตรียมทีมที่สั้นเอามากๆ

ผู้เล่นที่จะเป็นคีย์แมนของ เวียดนาม ตอนนี้ ดาร์บี้ ยังคงมองไปที่ผู้เล่นที่มีความเป็นมืออาชีพสูงอย่าง โด ฮุง ดุง กองกลางกัปตันทีม และ เหงียน ฮอง ดุก มิดฟิลด์มากประสบการณ์ ที่มีฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอคงเส้นคงวา แต่สำหรับ เหงียน เทียน ลินห์ นั้นต่างออกไปเหมือนกับ

หากเปรียบเทียบศักยภาพระหว่าง ทีมชาติเวียดนาม และ ทีมชาติไทย ตอนนี้ มันยากที่จะตอบว่าชาติไหนนั้นดีกว่าแบบแน่นอน 100% อย่างไรก็ตามหากมองกันตามความเป็นจริง สโมสรระดับท็อปในประเทศไทย ช่วยทีมชาติได้อย่างมาก ด้วยการผลิตนักเตะฝีเท้าดีขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่องสินทรัพย์ล้ำค่าที่หาได้ยากในอุตสาหกรรมฟุตบอลเวียดนามและย่านอาเซียน เพราะดาวยิงรายนี้มีศักยภาในการจบสกอร์และสามารถช่วยทีมได้หลากหลายหน้าที่ สร้างประโยชน์ในภาพรวมให้กับทีมได้อย่างมากจริงๆ

น่าเสียดายอย่างมากที่กองหน้าส่วนใหญ่ในศึก วี ลีก สโมสรมักจะเลือกใช้ตัวต่างชาติ ซึ่งอาจไม่ใช่แนวทางที่คุ้มค่ากับการลงทุนและการพัฒนาอย่างมืออาชีพ จริงอยู่ที่การมีนักเตะต่างชาติเก่ง 2 คน ดีกว่าการมีนักเตะทั่วไป 5 คนในทีม แต่มันเป็นการปิดโอกาสพัฒนาเยาวชนที่จะได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องและพัฒนาศักยภาพของตัวเองขึ้นมาเพื่อช่วยทีมชาติได้ในอนาคต

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดไม่ต้องมองไปไหนไกลนอกจาก เทียน ลินห์ ที่ได้ลงสนามไปแค่ 100 เกมจากทั้งหมด 7 ฤดูกาล ซึ่งทาง ดาร์บี้ เปรียบเทียบกับตัวเองตอนค้าแข้งที่มีอายุแค่ 17 ปี แต่เขากลับได้ลงสนามปีละ 60 เกม ดังนั้นหาก เวียดนาม ต้องการพัฒนานักเตะของพวกเขา จำเป็นต้องเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ลงสนามมากกว่านี้ เมื่อเฮดโค้ชถูกบีบบังคับด้วยผลงานในสนาม จึงจำเป็นต้องใช้โควต้านักเตะต่างชาติ ดังนั้นก็ควรมีทัวร์นาเมนต์รองรับสำหรับเป็นเวทีในการพัฒนานักเตะเยาวชนขึ้นมาเพื่อพัฒนาควบคู่ไปด้วยกัน

สำหรับประเด็นการกลับมาติดทีมชาติชุดใหญ่อีกครั้งในรอบเกือบ 2 ปีของ ฟาน วาน ดึ๊ก อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย แสดงความคิดเห็นว่า

“อย่างแรก คือต้องมองว่าเขาเพิ่งจะอายุ 28 ปีเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงพีคของอาชีพนักฟุตบอล ที่จะควบรวมเอาความแข็งแกร่งและประสบการณ์ในการค้าแข้งออกมาใช้ได้เต็มที่ อย่าลืมว่าเขาเคยบาดเจ็บหนักเอ็นไขว้หน้าขาด ซึ่งใครก็ตามที่ประสบปัญหานี้ต้องพักรักษาตัวไม่ต่ำกว่า 9 เดือน และบางคนอาจกลับมาลงเล่นอีกไม่ได้เลย ขึ้นอยู่กับทีมแพทย์และเครื่องไม้เครื่องมือในการรักษาว่ามีคุณภาพมากแค่ไหน ดังนั้นในเคสนี้ต้องให้เครดิตดาวยิงรายนี้ที่มีความพยายามจนกลับมาได้อย่างที่เห็น”

ทิ้งท้ายด้วยประเด็นที่ ดินห์ ทันห์ ตรุง อดีตผู้เล่นที่เคยได้รับรางวัลลูกบอลทองคำในปี 2017 ถูกศาลตัดสินจำคุก 4 ปี 6 เดือน จากการมั่วสุมใช้สารเสพย์ติดกับเพื่อนอีก 4 คนในโรงแรม ดาร์บี้ มองว่า สมาคมฟุตบอลประเทศเวียดนาม ต้องมีมาตรการณ์ในการดูแลและให้ความรู้กับนักเตะให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชน ด้วยการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลสิทธิ์ของนักเตะและให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นการจัดการเรื่องทั้งหมดจะตกอยู่กับสโมสรต้นสังกัดเพียงฝ่ายเดียว แล้วอาจจะเกิดเรื่องร้ายแรงอย่างที่เห็นได้อีกในอนาคต

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ