สุเชาว์ เล่าความต่าง บุรีรัมย์ กับทีมอื่นในไทย แตกต่างกันตรงไหน ?
ปฏิเสธไม่ได้ว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ภายใต้การบริหารของ ‘ลุงเน-เนวิน ชิดชอบ’ ที่ถึงแม้จะถูกแฟนบอลบางส่วนโจมตีเรื่องการบริหารงาน ซึ่งอาจดูเกินกว่าหน้าที่ของประธานสโมสรไปบ้างในบางส่วน แต่สุดท้ายแล้วทีมของเขาก็คือทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทย
เกียรติประวัติของ ปราสาทสายฟ้า นับมาจนถึงปัจจุบัน พวกเขาคว้าแชมป์ ไทยลีก ไปแล้วถึง 9 สมัย, เอฟเอ คัพ 6 สมัย และ ลีก คัพ 7 สมัย ยากที่จะหาสโมสรอื่นๆ มาเทียบรัศมีเรื่องของความสำเร็จ เพราะถึงแม้เงินทุนในการทำทีมของบางสโมสรต่อฤดูกาลอาจเท่าๆ กัน แต่กลับไม่ออกดอกออกผลเป็นถ้วยแชมป์ได้เหมือนทัพ ‘ขุนพลเซาะกราว’
ซึ่งหากอยากถามถึงสิ่งที่ทำให้ บุรีรัมย์ แตกต่างจากสโมสรอื่นๆ ในประเทศไทย คงจะไม่มีใครให้คำตอบได้ดีไปกว่าอดีตกัปตันทีมอย่าง ‘กบ-สุเชาว์ นุชนุ่ม’ ที่เปิดเผยถึงเคล็ดลับของอดีตต้นสังกัดเอาไว้ว่า
“ถ้าในยุคของพี่ บุรีรัมย์ เขาวางเป้าหมายไว้ชัดเจน ก็คือต้องแชมป์อย่างเดียว เล่นเพื่อชัยชนะ ไม่มีเวลาให้คิดวอกแวกถึงเรื่องอื่นๆ ซึ่งไม่ได้หมายถึงถ้วยใดถ้วยหนึ่งแต่เป็นทุกถ้วยที่ลงแข่งขัน ถึงแม้พี่จะมีฐานะเป็นกัปตันทีม แต่หน้าที่ในการกระตุ้นน้องๆ ในทีมก็ไม่ต่างจากรุ่นพี่คนอื่นมาก เพราะทุกคนพร้อมสนับสนุนน้องๆ ในทีมทุกคนอยู่แล้ว เราอยู่กันเป็นทีมเป็นครอบครัว สู้ไปด้วยกัน แพ้ก็แพ้ด้วยกันชนะก็ชนะไปด้วยกัน”
“ทีมผู้บริหารพร้อมปรับแก้ทุกจุดที่บกพร่องของแต่ละฤดูกาลอยู่เสมอ การนำเข้านักเตะฝีเท้าดีหน้าใหม่เข้ามาสู่ทีมเป็นการสร้างแรงกระตุ้นและการแข่งขัน ไม่ให้ทุกคนหยุดนิ่ง ต้องสู้เพื่อที่จะได้เป็นตัวจริง ทำให้ปลูกฝังทัศนคติความเป็นนักสู้ตั้งแต่การซ้อมทีม พอภายในทีมเกิดการแข่งขันก็ทำให้เกิดการพัฒนาอยู่ตลอด ในยุคของพี่บางนัดยิงคู่แข่งขาดแล้วนาที 80-90 แต่เราต้องรู้สึกว่ามันยังไม่พอ ต้องทำประตูเพิ่มให้ได้มากที่สุด ไม่มีผ่อนเกม”
“ผมก็ได้รับการปลูกฝังจิตใจของการเป็นนักสู้มาจาก บุรีรัมย์ เช่นกัน พออยู่ในทีมที่มีการซ้อมเข้มข้น การทำทีมแบบมืออาชีพ จริงจังกับการแข่งขันอยู่ตลอด มันทำให้ผมกลายเป็นคนไม่อยากแพ้ ซึ่งผลลัพธ์มันก็จะตอบแทนมาสู่คนที่ตั้งใจ แบบที่เห็นพวกเขาประสบความสำเร็จอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีสะดุดช่วงไหน สุดท้ายก็จะกลับมาอยู่ในกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ตลอด”
ปัจจุบัน สุเชาว์ ในวัย 40 ปี ค้าแข้งอยู่กับสโมสร กาญจนบุรี ซิตี้ สโมสรในศึก ไทยลีก 3 โดยทีมมีการตั้งเป้าเอาไว้ในการทำอันดับติดกลุ่มโควต้าที่จะไปเล่นรอบ แชมเปี้ยนส์ลีก ต่อไป เพื่อลุ้นเลื่อนชั้นในบั้นปลาย แม้ว่าฤดูกาลนี้จะไม่มีการถ่ายทอดสด บรรยากาศแฟนบอลซบซาลงไปบ้าง แต่นักเตะภายในทีมก็มีความตั้งมั่นที่จะทำผลงานให้ดีที่สุด ตอบแทนแฟนบอลที่ยังเข้ามาเชียร์ในสนามทุกสัปดาห์
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : การสัมภาษณ์ส่วนตัว
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง