long-read

Lists

Thai League

buriram united

Thailand

ไทยลีก

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา

ทีมชาติไทย

Top

Popular

6 คน 6 ชาติ : ตามหาวันเดอร์คิดเอเชียที่สื่ออังกฤษจัดอันดับท็อป 60 ของโลกเมื่อปี 2019

ย้อนกลับไปปี 2019 The Guardian สื่อดังของอังกฤษ ได้คัดเลือกดาวรุ่งอายุไม่เกิน 18 ปี ที่น่าจับตามองของโลกทั้งหมด 60 คน นำโดย อันซู ฟาติ, เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า และยอสโก้ กวาร์ดิโอล ที่ปัจจุบันต่างเติบโตเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมไปแล้ว

ความน่าสนใจของลิสต์นี้คือมีชื่อของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และทีมชาติไทย ติดเข้ามาด้วย ซึ่งตอนนั้น “เจ้าแบงค์” มีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น และยังมีวันเดอร์คิดจากเอเชียติดเข้ามาอีก 5 คน

จากตอนนั้นถึงตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยไปกว่า 3 ปีแล้ว เด็กเทพทั้ง 6 จากเอเชีย เติบโตไปมากน้อยแค่ไหน ติดตามไปพร้อมกับเราได้ที่ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

โนอาห์ โบติช (ออสเตรเลีย)

เขาคือความหวังใหม่ของวงการลูกหนังออสเตรเลีย หลังเป็นกำลังสำคัญพาทีมเด็กซ็อคเกอร์รูส์ผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบสุดท้าย ที่ประเทศบราซิล เมื่อปี 2019

โนอาห์ โบติช เป็นผู้เล่นจากเอเชียที่โดดเด่นที่สุดก็ว่าได้ หลังซัลโวไปถึง 4 ประตูในทัวร์นาเมนต์นั้น จนไปเตะตาสโมสรในลีกชั้นนำของยุโรป ก่อนถูก ฮอฟเฟนไฮม์ จากศึกบุนเดสลีก้า ดึงเข้าไปร่วมทีมอคาเดมี่

“โนอาห์สร้างมาตรฐานการเล่นเอาไว้สูงและนำหน้าทุกคน เขาชอบแข่งขัน เขาอ่านเกมได้ดี โดยเฉพาะจังหวะเปลี่ยนเกมรับเป็นเกมรุก เขาอันตรายมาก ๆ” เทรเวอร์ มอร์แกน กุนซือทีมชาติออสเตรเลียชุด U-17 กล่าวถึงลูกทีมรายนี้

โนอาห์ โบติช ทำไป 7 ประตู กับทีม U-19 ของฮอฟเฟนไฮม์ แต่สุดท้ายก็จำใจต้องโบกมือลาทีมหลังจากผ่านไป 2 ปี เพราะได้รับโอกาสลงเล่นอย่างจำกัด ไหนจะผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก

สุดท้ายเขาตัดสินใจย้ายกลับมาค้าแข้งในบ้านเกิดกับ เวสเทิร์น ยูไนเต็ด ในปี 2021 โดย โบติช ลงเล่นกับทีมในเอลีกไปแล้ว 14 เกม ทำได้ 1 ประตู แน่นอนว่าเป้าหมายของดาวยิงวัย 21 รายนี้ คือการกลับไปค้าแข้งในยุโรปอีกครั้ง

“ผมจะไม่บอกว่ามันทำให้ผมกดดัน เพราะต่อให้ไม่มีลิสต์นี้ ผมก็จะพยายามเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าคนอื่นจะพูดถึงพูดอย่างไรก็ตาม” โบติช กล่าวถึงการติดลิสต์ของ The Guardian

จุน นิชิกาวะ (ญี่ปุ่น)

จอมทัพชาวญี่ปุ่นโด่งดังมาตั้งแต่เด็ก เขาได้เซ็นสัญญากับ เซเรโซ่ โอซาก้า ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบชั้นมัธยมปลาย หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในระดับบอลนักเรียน จนถูกยกให้เป็นเพชรเม็ดงามของวงการลูกหนังแดนอาทิตย์อุทัย

จุน นิชิกาวะ กลายเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ในฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี เมื่อปี 2019 เขาคือดาวเด่นของทัพซามูไรบลูจูเนียร์ชุดนั้น หลังพาทีมเข้าถึงรอบน็อคเอาท์ พร้อมทำไป 2 ประตู กับ 2 แอสซิสต์

ฟอร์มการเล่นอันเอกอุของ จุน นิชิกาวะ ถูกอกถูกใจสตาฟฟ์ของ บาร์เซโลนา เป็นอย่างมาก จนทีมดังจากลาลีก้าวางแผนดึงแข้งรายนี้เข้ามาร่วมทีม เหมือนกับเคสของ ทาเคฟุสะ คุโบะ ที่ดึงมาปลุกปั้นจนโด่งดัง แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วดีลนี้ไม่เกิดขึ้น

นิชิกาวะ ได้ประเดิมสนามในเกมเจลีกกับ เซเรโซ่ โอซาก้า ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น จนถึงตอนนี้เขาลงเล่นกับทีมดังของภูมิภาคคันไซไปแล้ว 31 เกม แต่ผลงานของเขาไม่เปรี้ยงอย่างที่คิด เพราะทำไปได้แค่ 1 ประตู

หนึ่งในเหตุผลที่ จุน นิชิกาวะ ทำผลงานได้ไม่ดีในสีเสื้อของ เซเรโซ่ เพราะเขามักถูกจับไปเล่นเป็นปีกขวา แทนที่จะเป็นตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ที่ตัวเขาถนัด จึงไม่สามารถรีดศักยภาพที่ดีที่สุดของตัวเองออกมาได้

นั่นทำให้ จุน นิชิกาวะ ถูกปล่อยไปเล่นกับ ซางัน โทสุ ในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยผลงานของเขากระเตื้องขึ้นตามลำดับ หลังทำไป 1 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ จาก 14 เกม และเขาจะเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองของเจลีกในฤดูกาลนี้

ลุคมัน ฮาคิม ชัมซูดิน (มาเลเซีย)

นี่คือดาวรุ่งที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในมาเลเซีย เขาสร้างชื่อจากรายการชิงแชมป์อาเซียนรุ่น U-16 ในปี 2018 ด้วยการคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์มาครอง จนได้รับความสนใจจากสโมสรในเจลีก แต่ดันเจอวิกฤตโควิด-19เสียก่อน เขาจึงไม่ได้ย้ายไปเล่นที่ญี่ปุ่น

แต่ด้วยฝีเท้าที่รุดหน้าเพื่อนร่วมรุ่นในประเทศ ลุคมัน ฮาคิม ชัมซูดิน ก็ได้รับโอกาสครั้งใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม หลังได้เซ็นสัญญาซบ เควี คอร์ไทรค์ สโมสรในลีกเบลเยี่ยมในปี 2020 ที่มี วินเซนต์ ตัน นักธุรกิจชาวมาเลเซียเป็นเจ้าของ ตั้งแต่อายุยังไม่ครบ 18 ปีด้วยซ้ำ กลายเป็นนักเตะมาเลเซียคนแรกในลีกสูงสุดของยุโรป

“ผมหวังว่าเขาจะพิสูจน์ความสามารถกับทีมได้อย่างไม่มีปัญหา เราควรภูมิใจที่เขากลายเป็นนักเตะมาเลเซียคนแรกที่ได้ลงเล่นในลีกสูงสุดของยุโรป กับหนึ่งในสโมสรชั้นนำของลีกเบลเยี่ยม” วินเซนต์ ตัน กล่าวถึงดาวรุ่งรายนี้

ลุคมัน ฮาคิม ชัมซูดิน ทำได้ดีมากในช่วงเริ่มต้นอย่างที่ วินเซนต์ ตัน หวังเอาไว้ เมื่อเขาสามารถทำประตูได้ในเกมปรีซีซั่น จนสร้างความประทับใจให้กับโค้ชของ คอร์ไทรค์ และได้รับโอกาสประเดิมสนามในเกมลีกเบลเยี่ยมกับ อันเดอร์เลชท์ หลังถูกส่งลงเล่นในช่วง 15 นาทีสุดท้าย

แต่หลังจากนั้นเขาก็ถูกส่งลงไปเล่นกับทีมสำรองเป็นส่วนใหญ่ กระทั่งกลับมาได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่อีกครั้งในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ดี สุดท้ายแล้ว เควี คอร์ไทรค์ ตัดสินใจส่งเขาไปเล่นกับ นาโรวิค ทีมในลีกดิวิชั่น 2 ของไอซ์แลนด์ ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล เพื่อโอกาสลงสนามต่อเนื่องของนักเตะ ซึ่งต้องรอดูกันว่าเขาจะแสดงผลงานออกมาได้หรือไม่

คาซานอฟ มูคริดดิน (ทาจิกิสถาน)

นายด่านอนาคตไกลจากทาจิกิสถาน ฉายแววความเป็นยอดผู้รักษาประตู ในฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี เมื่อปี 2018 หลังพาบ้านเกิดที่ถูกมองว่าเป็นทีมไม้ประดับ ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงแบบเหนือความคาดหมาย

คาซานอฟ มูคริดดิน คือคนสำคัญของทาจิกิสถานในรายการนี้ โดยเฉพาะเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย และรอบรองชนะเลิศ เขาสวมบทฮีโร่เซฟจุดโทษช่วยทีมผ่านด่าน เกาหลีเหนือ และ เกาหลีใต้ สองทีมแกร่งของเอเชีย

ขณะที่ในรอบชิงชนะเลิศนั้น มูคริดดิน ยังคงทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ประตูของ ทาจิกิสถาน ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ต้องเผชิญหน้ากับยอดทีมอย่าง ญี่ปุ่น และพลาดปล่อยบอลสู่ก้นตาข่ายไปเพียงประตูเดียวเท่านั้น

ฟอร์มของเขาในรายการนี้ ทำให้ชื่อของ คาซานอฟ มูคริดดิน อยู่ในลิสต์รายชื่อเป้าหมายของสโมสรในยุโรปและรัสเซีย แต่สุดท้ายเขาเลือกที่จะค้าแข้งในบ้านเกิดต่อไป กระทั่งในปี 2021 ได้ย้ายมาเล่นกับ เอฟซี อิสติกลอล สโมสรอันดับ 1 ของทาจิกิสถาน

มูคริดดิน ยึดมือหนึ่งของ เอฟซี อิสติกลอล ได้ทันที และพาทีมคว้าแชมป์ลีก 2 สมัยซ้อน โดยเฉพาะในฤดูกาลแรกนั้น เขาทำผลงานได้อย่างเหนี่ยวหนึบ เก็บคลีนชีตได้ถึง 12 จาก 14 เกมที่ลงเล่น และล่าสุดเขาก็ได้ลงเล่นกับทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว ด้วยวัยเพียง 20 ปี

ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (ไทย)

นับตั้งแต่ผลผลิตจากอคาเดมี่ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รายนี้ ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ เขาก็ได้สร้างสถิติขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นและยิงประตูได้ในเกมไทยลีก, นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ในเกม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก, นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นกับทีมชาติไทย และนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ในศึกชิงแชมป์เอเชียรุ่น U-23

ในวัย 15 ขวบ เด็กทั่วไปคงเล่นแค่ฟุตบอลระดับนักเรียน แต่สำหรับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา สามารถก้าวขึ้นมาเล่นฟุตบอลลีกอาชีพสูงสุดของเมืองไทยได้แล้ว เรียกได้ว่าเป็นเคสที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก และบ่งบอกถึงความพิเศษในตัวเด็กคนนี้เป็นอย่างดี

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชื่อของ “เจ้าแบงค์” จะเข้าไปอยู่ในลิสต์ดาวรุ่งที่ดีที่สุดในโลกของ The Guardian ในปี 2019 เพราะผลงานของเขานั้นเก่งเกินวัยจริง ๆ แถมยังข้นคลั่กไปด้วยประสบการณ์ เขาผ่านการลงเล่นในไทยลีกมาแล้ว 5 ฤดูกาล ด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น

นี่คือเหตุผลที่ เนวิน ชิดชอบ แม่ทัพใหญ่แห่งค่ายปราสาทสายฟ้า เชื่อมั่นในศักยภาพของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ถึงขนาดกล้าประกาศว่า “ศุภณัฏฐ์น่าจะเป็นเด็กไทยคนแรก ที่น่าจะเป็นความหวังของไทย ที่จะได้ไปเล่นพรีเมียร์ลีก”

ศุภณัฏฐ์ ได้ไปชิมลางการซ้อมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ มาแล้ว 2 รอบ โดยรอบหลังนั้นเขาทำผลงานเข้าตาโค้ชทีม U-23 ของสโมสร จนได้รับโอกาสอยู่ซ้อมกับทีมต่อ ก่อนจะเดินทางกลับไทยพร้อมกับสภาพร่างกายที่บึกบึนขึ้น เช่นเดียวกับฟอร์มการเล่นที่พัฒนาอย่างเห็นได้ชัด จนอดคิดไม่ได้ว่าไทยลีกเล็กสำหรับเขาไปแล้ว

ผลงานอันดีวันดีคืนของเจ้าแบงค์ ทำให้เว็บไซต์ดังอย่าง Transfermarkt ประเมินมูลค่าในตลาดของเขาไว้ 700,000 ยูโร (25 ล้านบาท) สูงที่สุดในบรรดานักเตะไทยในลีก และไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นเขาในยูนิฟอร์มของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นฤดูกาลสุดท้ายก็เป็นได้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ยาซูร์เบ็ค ยาโลลิดดินอฟ (อุซเบกิสถาน)

ด้วยวัยเพียง 16 ปี 80 วัน เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในลีกสูงสุดของอุซเบกิสถาน ก่อนที่ฤดูกาลถัดมา เขาจะสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของ บุนยอดกอร์ ทีมดังในบ้านเกิดได้ทันที พร้อมทำไป 2 ประตู

ยาซูร์เบ็ค ยาโลลิดดินอฟ เป็นกองกลางที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม เลี้ยงบอลคล่อง, จ่ายบอลแม่น, วิสัยทัศน์เยี่ยม และยิงไกลคม นั่นทำให้เขามีชื่อติดทีมชาติอุซเบกิสถานรุ่น U-23 ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปีเท่านั้น

ความสามารถของ ยาโลลิดดินอฟ โดดเด่นจน โลโคโมทีฟ มอสโกว สโมสรในลีกรัสเซีย ต้องยอมทุ่มเงิน 1 ล้านยูโร (36 ล้านบาท) เพื่อดึงเขาไปร่วมทีมในปี 2021 แต่โชคร้ายที่เขาย้ายไปตอนช่วงวิกฤตโควิด-19 จึงไม่มีโอกาสได้ลงสนามกับทีม

และล่าสุด ยาโลลิดดินอฟ ก็ขอยกเลิกสัญญากับ โลโคโมทีฟ มอสโกว เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมือง ระหว่าง รัสเซีย กับ ยูเครน และตัดสินใจย้ายไปเล่นในลีกคาซัคสถานกับ ไครัต อมาตี้ และลงสนามช่วยทีมไปแล้ว 7 เกมในฤดูกาล แต่ยังทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

ต้องจับตาดูว่า ยาซูร์เบ็ค ยาโลลิดดินอฟ จะสามารถเรียกฟอร์มเก่งเหมือนสมัยที่ก้าวขึ้นมาใหม่ ๆ ได้หรือไม่ เพราะถ้าเขาทำแบบนั้นได้ ก็มีโอกาสได้ย้ายไปเล่นในลีกระดับท็อปของยุโรป อย่างที่ The Guardian คาดหมายว่า เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ในอนาคต

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา : ไปเจออะไรมาที่ เลสเตอร์ ทำไมถึงเก่งเบอร์นั้น ?

เปิดกฎเวิร์คเพอร์มิตพรีเมียร์ลีก : ศุภณัฎฐ์ ไป เลสเตอร์ ได้จริงหรือ ?

ยุโรปไม่ไกลเกินฝัน : 5 ลีกทางเลือกที่แข้งไทยเล่นได้ไม่ต้องห่วงเรื่องเวิร์คเพอร์มิต

อ้างอิง : https://www.theguardian.com/football/ng-interactive/2019/oct/10/next-generation-2019-60-of-the-best-young-talents-in-world-football?fbclid=IwAR2bWZ6IOzH2Zw16YTjzDEjAQEfjX3yAe0vs0gGaazRK0lqjZUm_A0-JUY4

https://www.theinnersanctum.com.au/noah-botic-ready-for-the-big-time/

https://www.football-espana.net/2020/01/15/barcelona-hope-to-sign-japanese-teen-jun-nishikawa

https://www.bharian.com.my/sukan/bola/2020/08/718511/luqman-hakim-sah-milik-kv-kortrijk

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด