สื่อจีนมองเกมอุ่นเวียดนาม : ได้ดวลทีมเบอร์หนึ่งอาเซียน เตรียมพร้อมก่อนเจอไทย
ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กำลังจะเปิดฉากขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ เท่ากับว่า เกมฟีฟ่าเดย์เดือนตุลาคมจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่ทุกชาติได้ทดสอบทีม ทดลองนักเตะ และแท็คติคต่าง ๆ ที่จะใช้ในสนามจริง
แต่ละชาติจึงพยายามใช้โอกาสครั้งนี้อย่างคุ้มค่าที่สุด หนึ่งในนั้นคือ ทีมชาติจีน คู่แข่งร่วมกลุ่มของ ทีมชาติไทย ที่เลือก เวียดนาม เป็นคู่ต่อสู้ด่านสุดท้าย ก่อนมีคิวต้องบุกมาเยือนสนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 16 พฤศจิกายน
ล่าสุด Dongqiudi หนังสือพิมพ์จีน ได้วิเคราะห์เหตุผลที่ ทีมชาติจีน เลือก เวียดนาม เป็นคู่แข่งในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ออกเป็น 2 ข้อ ข้อแรกคือพวกเขาต้องการล้างตาทีมดาวทอง หลังแพ้มาในการเจอกันครั้งล่าสุดในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนไปทำศึกคัดบอลโลกหนนี้
"ความพ่ายแพ้ต่อ เวียดนาม ในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมฟุตบอลจีนเป็นอย่างมาก ทีมชาติจีนจึงต้องการล้างตากับเวียดนามอีกครั้ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้รับผลกระทบจากอดีต และพวกเขาก็ไม่กลัวคู่แข่งที่เคยสร้างความเจ็บปวดให้ด้วย " เนื้อหาในบทความของ Dongqiudi
ส่วนเหตุผลอีกข้อนั้น Dongqiudi มองว่า เวียดนามคือทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ เวลานี้ ดังนั้นการได้ประลองแข้งกับพวกเขา จะเป็นประโยชน์ต่อนักเตะชุดนี้มาก ๆ ที่จะได้สร้างความคุ้นเคยกับการรับมือฟุตบอลฉบับอาเซียน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนดวลกับทีมชาติไทย
"ทีมชาติจีนจำเป็นต้องเจอกับคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ และเมื่อพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัย เวียดนามคือคู่แข่งที่เหมาะสมที่สุดแล้ว พวกเขาคือทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะฉะนั้นเกมกับ เวียดนาม ถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดีก่อนเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก กับ ทีมชาติไทย" เนื้อหาในบทความของ Dongqiudi
จะเห็นว่า ทีมชาติจีน ให้ความสำคัญกับโปรแกรมฟีฟ่าเดย์เดือนตุลาคมมาก ๆ พวกเขาพยายามเตรียมความพร้อมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจาก เวียดนาม แล้ว จีน ยังวางคิวหวดกับ อุซเบกิซสถาน ที่เป็นทีมในภูมิภาคเดียวกับ ทาจิกิสถาน คู่แข่งร่วมกลุ่มอีกทีมในศึกคัดบอลโลกด้วย
นี่จึงถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายของ ทีมชาติไทย ที่พลาดโอกาสสุดท้ายที่จะได้ทดลองทีมแบบเต็มระบบ หลังตัดสินใจไม่หิ้วนักเตะชุดที่ดีที่สุดในไปอุ่นเครื่องที่ยุโรปกับ เอสโตเนีย และ จอร์เจีย เพราะเห็นแก่ประโยชน์ของสโมสรอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ต้องทำศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก จึงไม่เลือกนักเตะจาก 3 สโมสรนี้