สืบจากงานวิจัย : ทำไมเสื้อแข่งของ บุรีรัมย์ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ?

หลังจากเปิดขายได้ไม่นานก็มีข่าวออกมาว่าชุดแข่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2023-24 ขายหมดล็อตแรกเรียบร้อยแล้ว

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เป็นอีกครั้งที่ บุรีรัมย์ แสดงให้เห็นว่าเสื้อแข่งของพวกเขาเป็นที่ต้องการของแฟน ๆ เสมอ เรื่องดังกล่าวล้วนต้องมีเหตุผล และ Think Curve - คิดไซด์โค้ง ค้นข้อมูลจากงานวิจัยเพื่อหาคำตอบของคำถามนี้แบบที่ไม่คิดไปเอง

คำตอบของเรื่องนี้เป็นอย่างไร อ่านบทความเต็ม ๆ ที่นี่

สิ่งแรกคือ "คอนเซ็ปต์"

บุรีรัมย์ เป็นทีมที่มีแนวคิดการผลิตเสื้อฟุตบอลในแบบที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส ไม่ใช่แค่การใส่เชียร์ฟุตบอลเท่านั้น แต่สามารถใส่กับชุดลำลอง หรือชุดเที่ยวได้ ซึ่งเรื่องนี้ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรก็แสดงให้เห็นทุกครั้ง ไม่ว่าเขาจะออกงานไหน เราก็มักจะได้เห็นเขาสวมเสื้อของ บุรีรัมย์ เสมอ ตามโทนสีต่าง ๆ เช่นสีน้ำเงิน สีกรมท่า และสีดำ

นอกจากตัวประธานสโมสรแล้ว เราได้หลักฐานข้อนี้มาจากงายวิจัยที่ชื่อว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการซื้อผลิตภัณฑ์สโมสรฟุตบอล จากมหาวิทยาลัยนิด้า ที่มีการสืบค้นข้อมูลด้วยการวิจัยจากแฟนบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำนวน 400 คน ที่มีรายได้ตั้งแต่ไม่ถึง 10,000 บาทต่อเดือน จนไปถึงมากกว่า 30,0000 บาทต่อเดือน

โดยทั้ง 400 คนที่ทำแบบสำรวจกับทางวิจัยพบว่าทั้ง 100% เคยอุดหนุนสินค้าของสโมสร โดย 95% นั้นจะเลือกซื้อ "เสื้อแข่งของทีม" เป็นอันดับแรก

พวกเขายืนยันว่าด้วยความที่ชุดแข่งของบุรีรัมย์ สามารถใส่ได้ทุกวันในชีวิตประจำวัน ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะเลือกสนับสนุนสโมสรด้วยการซื้อชุดแข่ง

นอกจากนี้แฟนบอลของบุรีรัมย์ นั้นถือว่าเป็นแฟนคลับระดับเหนียวเเน่น ที่ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของทีม เมื่อมีสินค้าของสโมสรอย่างเสื้อแข่งออกมาวางจำหน่าย จะมีแฟนบอลถึง 69% ที่ซื้อโดยไม่ลังเล เพียงเพราะพวกเขาต้องการสนับสนุนสโมสร

ยิ่งไปกว่านั้นทุกครั้งที่เสื้อแข่งใหม่วางจำหน่าย 81% ของแฟนบอล บุรีรัมย์ นั้นเลือกที่จะซื้อทันทีเมื่อมีสินค้ารุ่นใหม่ของสโมสรจำหนาสบ และมีถึง 93.5% ที่ซื่อผ่านช่องทางของสโมสรโดยตรง(ร้านค้า)

โดยค่าเฉลี่ยที่แฟนบอล บุรีรัมย์ จะใช้จ่ายต่อคนสำหรับการอุดหนุนเสื้อแข่งสโมสรจะอยู่ที่คนละ 786 บาท โดยมีบางคนซื้อมากกว่านั้น เช่นซื้อชุดแข่งหรือสินค้าสโมสรถึง 5 ครั้งต่อ 1 เดือน โดยใช้เงินราว 10,000 บาทเลยทีเดียว

ไม่ใช่แค่แฟนบอล บุรีรัมย์ เท่านั้น เสื้อแข่งของทีม ยังสามารถขายให้กับคนที่ไม่ใช่แฟนบอลของทีมด้วย โดยมีผู้เข้าสำรวจในงานวิจัยอีก 200 คนที่ไม่ใช่แฟนบุรีรัมย์ แต่ก็ซื้อเสื้อของทีมด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างเช่น ซื้อเพราะสโมสรประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง, สโมสรเป็นที่รู้จักในวงกว้างระดับเอเชีย, ทีมเล่นได้สนุกน่าเชียร์, สโมสรมีอนาคตที่จะต่อยอดความยิ่งใหญ่ในอนาคตได้ หรือแม้กระทั่งการซื้อเพราะเชื่อในการบริหารงานของประธานสโมสรอย่าง เนวิน ชิดชอบ เลยทีเดียว

สิ่งสำคัญที่สุดที่สามารถโยงเข้ากับ คอนเซ็ปต์ ที่สโมสรวางไว้ให้เสื้อแข่งทุกปีได้คือ คนที่ไม่ใช่แฟนบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซื้อชุดแข่งของพวกเขาคือ สินค้ามีความเป็นแฟชั่น, เป็นเทรนด์ และมีความสวยงาม รวมถึงคุณภาพที่ดีอีกด้วย

เรียกไดว่าการทำให้เสื้อแข่งอยู่ในคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน ทำให้นอกจาก บุรีรัมย์ จะถึงแฟนบอลของตัวเองให้ควักกระเป๋าสนับสนุนสโมสรแล้ว พวกเขายังสามารถสร้างแรงจูงใจให้กับคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นแฟนฟุตบอลของทีมด้วยคอนเซ็ปต์ที่วางไว้อีกด้วย

ราคาจับต้องได้ เข้าถึงแฟนบอลง่าย

สืบเนื่องจากเรื่องของคอนเซ็ปต์สิ่งที่โหมให้แฟนบอลเข้ามาซื้อเสื้อแข่งของ บุรีรัมย์ คือเรื่องของราคา

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วางราคาชุดแข่งของพวกเขาสำหรับฤดูกาลปัจจุบันไว้ที่ตัวละ 740 บาทเท่านั้น พร้อมยังแถมแพ็คเกจดูฟุตบอลไทยลีก 1 เดือน (มูลค่า 59 บาท) ซึ่งถือว่าถูกมาก ๆ หากเทียบกับเสื้อบอลต่างประเทศ ที่จะอยู่ที่ราว ๆ 2,600 -3,000 บาท ครั้นจะให้เทียบกับเสื้อทีมฟุตบอลสโมสรในประเทศไทยด้วย ราคาของชุดแข่ง บุรีรัมย์ ก็ถูกเป็นลำดับต้น ๆ

ซึ่งเมื่อมองจากความสำเร็จของสโมสร กับราคาสินค้าที่วางจำหน่าย จึงทำให้คนซื้อรู้สึกว่าคุ้มค่าแก่การใช้ควักกระเป๋า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่อง "Brand Loyalty" หรือการสามารถทำให้สโมสรมีอิทธิพลระดับกลายเป็นวัฒนธรรม "ท้องถิ่นนิยม" ปัจจัยเหล่านี้รวม ๆ กันแล้วทำให้แฟนบอล หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ดูบอล สามารถควักเงินซื้อเสื้อแข่งของทีมได้ ซึ่งเรื่องนี้หากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ ก็น่าจะเห็นได้ว่าจะพบเห็นคนท้องถิ่นสวมใส่เสื้อของ บุรีรัมย์ แทบทุกช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กจนถึงวัยสูงอายุกันเลยทีเดียว

นอกจากคนท้องถิ่นแล้วแขกไปใครมาก็สามารถถูกการตลาดของ บุรีรัมย์ จัดการได้เช่นกัน เพราะด้วยความที่มีราคาไม่แแพงมาก บวกกับปัจจัยต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ทำให้เสื้อแข่งของทีมกลายเป็นของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวได้อีกด้วย เพราะถ้าซื้อกับสโตร์ของสโมสรจะมีราคาลดพิเศษให้อีก

ว่าด้วยเรื่องของทั้งการตลาด การวางคอนเซ็ปต์ และ คุณภาพของสินค้า ที่สำคัญที่สุดคือท้องถิ่นนิยมที่ทำให้แฟน ๆ สามารถซื้อได้ในทุก ๆ ปีแบบไม่ลังเลนั่นเอง