สู่ตัวท็อป : การเกิดใหม่ของ อัลมิร่อน ที่ยืนยันว่า "งานจะดี ต้องทำมันด้วยความสุข"
9 เกมหลังยิงไป 8 ประตู ช่วยให้นิวคาสเซิลขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก และกลายเป็นนักเตะตัวรุกที่มีสถิติเอาชนะการดวลตัวต่อตัวกับกองหลังมากที่สุดในลีก ... นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ มิเกล อัลมิร่อน นักเตะชาวปารากวัยของ นิวคาสเซิล ณ เวลานี้
ผลงานอันยอดเยี่ยมนั้นมีเบื้องหลัง ... อัลมิร่อน เคยเป็นนักเตะที่อ่อนแอ เอาแน่เอานอนไม่ได้ และไม่สามารถฝากผีฝากไข้ได้มาก่อน แต่ทำไมถึงตอนนี้เขากลับท็อปฟอร์มราวกับหนังคนละม้วน เรื่องนี้มีคำตอบ ติดตามพร้อมกับคิดไซด์โค้งได้ที่นี่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : “นิว เเคร์โรลล์” จริงดิ : หาต้นเหตุทำไม ดาร์วิน นูนเญซ มักยิงง่าย ๆ ไม่เข้า ?
ได้โค้ชดีนักเตะก็ดีตาม
เมื่อ นิวคาสเซิล เปลี่ยนแปลงเจ้าของทีมในช่วงเริ่มฤดูกาล 2021-22 กลุ่มผู้บริหารใหม่จากซาอุดิอาระเบีย ตัดสินใจเลือกโค้ชที่ไม่เคยคว้าเเชมป์เลยแม้แต่รายการเดียวอย่าง เอ็ดดี้ ฮาว เข้ามาคุมทีม ... แรกเริ่มนั้น ฮาว คือเลือกที่ถูกตั้งคำถาม แต่เมื่อถึงตอนนี้ผลงานของ นิวคาเซิล ได้บอกทุกอย่างเเล้ว ... แต่เรื่องราวการเปลี่ยนแปลงนักเตะอย่าง อัลมิร่อน คือสิ่งที่ควรถูกพูดถึงอย่างยิ่ง
ก่อนที่ ฮาว จะมาถึง อัลมิร่อน ลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกไป 117 เกม ทำได้เพียงแค่ 10 ประตู เเละหากเฉลี่ยเป็นนาทีนั้น เขาจะยิง 1 ประตูได้ในทุก ๆ 10 เกม ... นี่คือสถิติที่แย่มากหากวัดในแง่ผลลัพท์ของนักเตะตัวรุก
แต่ในความเป็นจริงคือ อัลมิร่อน เป็นนักเตะที่เกิดมาเพื่อเล่นเกมรุกโดยธรรมชาติ อย่างน้อย ๆ เอ็ดดี้ ฮาว ก็ยืนยันเรื่องนั้น โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาชอบ อัลมิร่อน ตั้งแต่สมัยที่ยังคุมทีม บอร์นมัธ แล้ว เพราะเป็นนักเตะทีมีความเร็ว และเคลื่อนที่ตอนไม่มีฟุตบอลได้ดี ดังนั้นในวันที่ ฮาว เข้ามาคุมทีม นิวคาสเซิล เขาประกาศผ่านสื่อทันทีว่า
"ผมต้องการอะไรมากกว่านี้สำหรับนักเตะอย่าง อัลมิร่อน" ก่อนที่เขาจะเริ่มเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างของสโมสรแห่งนี้
เหตุผลที่เขาพูดแบบนั้นอาจจะเป็นเพราะช่วงที่ สตีฟ บรูซ คุมทีม นิวคาสเซิล อัลมิร่อน กลายเป็นนักเตะที่ไม่มีตำแหน่งตายตัว เดี๋ยวไปเล่นวิงแบ็ค เดี๋ยวไปเล่นกองกลาง บางครั้งก็ไปยืนเป็นกองหน้า
มันทำให้เขาไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วเขาควรจะรับผิดชอบหน้าที่ไหนกันแน่ เพราะตำแหน่งของเขาถูกเปลี่ยนเป็นประจำ หลายครั้งเขาต้องใช้พลังกับเกมรับมากเป็นพิเศษตามวิธีการของ บรูซ ซึ่งการใช้แรงในการเล่นเกมรับที่มากจนเกินไปก็ทำให้ พลังในการเล่นเกมรุกของเขาถดถอยไปตามระเบียบ
สิ่งที่ ฮาว เปลี่ยนคือการทำความรู้จักกับ อัลมิร่อน ให้ลึกยิ่งกว่าเดิม สื่อสายข้อมูลอย่าง The Athletic ได้ขยายความว่า ฮาว พยายามเปิดดูคลิปวีดีโอของ อัลมิร่อน สมัยที่เล่นให้กับ แอตแลนต้า ยูไนเต็ด ที่ เขาซัดไป 22 ประตู และทำไปอีก 22 แอสซิสต์ เพื่อดูว่า อัลมิร่อน เล่นตรงไหน เล่นอย่างไร และถนัดการโจมตีแบบไหนมากที่สุด
ฮาว ไม่ได้แค่พยามจะเรียนรู้วิธีเล่นของ อัลมิร่อน เท่านั้น เขายังสั่งให้ อัลมิร่อน ดูวีดีโอการเล่นของเพื่อนร่วมทีมที่เขาต้องประสานงานด้วยมากที่สุดอย่าง บรูโน่ กิมาไรส์ กองกลางจอมทัพ และ คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คขวาจอมบุก ... เมื่อรู้เขารู้เรา พัฒนาการของ อัลมิร่อน จึงเริ่มยกระดับตั้งแต่จุดนั้น
เล่นให้สนุก แล้วทุกอย่างจะตามมาเอง
อัลมิร่อน ถูก ฮาว เปลี่ยนให้มาเล่นเกมรุกโดยตรง เป็นตัวหลักในการสร้างสรรค์เกมของทีม ดังนั้นวิธีการเล่นของเขาจึงเปลี่ยนไปมาก จากคนที่ชอบผ่านบอลออกด้านกว้าง และเป็นปีกที่เอาแต่ยืนชิดเส้น กลายเป็นคนที่ต้องขยับมาใกล้กับกองหน้าตัวเป้าอย่าง คัลลัม วิลสัน และต้องแอบเข้าไปในเขตโทษเพื่อลุ้นยิงประตูอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อ อัลมิร่อน ขยับตำแหน่งและเปลี่ยนวิธีการเล่น กลายเป็นว่าในซีซั่นนี้เขาได้รับบอลในตอนที่เขาอยู่เขตโทษคู่แข่งถึง 5.1 ครั้งต่อเกม ต่างกันกับฤดูกาล 2021-22 ที่ อัลมิร่อน จะได้บอลเมื่ออยู่ในเขตโทษเฉลี่ยเพียง 2.1 ครั้งต่อเกมเท่านั้น
และหากวัดจากการได้บอลในพื้นที่สุดท้าย ซึ่งเป็นพื้นที่อันตรายต่อเกมรับฝั่งตรงข้าม อัลมิร่อน ได้รับบอลเพิ่มขึ้นมากกว่าฤดูกาลที่ผ่านมาเกือบ 20% (2021-22 ได้ 40% / 2022-23 ได้ 59%)
ส่วนในพื้นที่สุดท้าย ซีซั่นนี้ อัลมิร่อน มีโอกาสยิงแบบได้ลุ้นประตู (xG) อยู่ทีเกมละ 4.3 ครั้งโดยเฉลี่ย มากกว่าปีที่เเล้วถึง 2 เท่า
เมื่อหาตำแหน่งที่ใช่ให้ตัวเองได้ เข้าใจวิธีการเล่นของเพื่อนร่วมทีมรอบข้าง ทีนี้ก็เป็นเรื่องของสภาพจิตใจแล้ว ... เรื่องนี้ก็มีเบื้องหลังเช่นกัน
ในช่วงพรีซีซั่นที่ผ่านมา นิวคาสเซิล พานักเตะยกทีมไปเข้าเเคมป์เก็บตัวในประเทศโปรตุเกส โดย อัลมิร่อน บอกว่าแคมป์ดังกล่าวทำให้เขาสนิทใจกับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น เข้าใจกันและกัน และนั่นทำให้เขารู้สึกสนุกที่ได้ลงสนาม
"เราทุกคนได้รวมตัวกันและสานสัมพันธ์กันให้ดีขึ้น นี่คือเรื่องที่ดีมาก ๆ ผมคิดว่าทีมของเรากำลังต้องการสิ่งนี้แหละ เราจบซีซั่นที่เเล้วด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม และเรามีพรีซีซั่นที่สุดยอดไม่ต่างกัน เราคือกลุ่มผู้เล่นที่พร้อมฉายแสง เราเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้บรรยากาศที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เราเคยได้สัมผัส" อัลมิร่อน กล่าว
เหนือสิ่งอื่นใดคือ อัลมิร่อน ไม่ลืมจะพูดถึง เอ็ดดี้ ฮาว ที่เชื่อมั่นในตัวเขาและพยายามอย่างมากจะถึงศักยภาพของเขาออกมาใช้ให้เต็มที่ และความมั่นใจของโค้ชก็ทำให้เขามีความสุขแบบคูณสอง ยิ่งไปกว่านั้นคือเขารู้สึกทะเยอทะยานมากกว่าที่เคยเป็นมา
"เหนือสิ่งอื่นใดเลยคือผมรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เหตุผลก็เพราะผู้จัดการทีมแสดงความเชื่อมั่นกับตัวผมมากขึ้นเช่นกัน ผมได้เล่นที่ที่ถนัด(ตัวรุกฝั่งขวา) ผมรู้สึกคล่องตัวและสดชื่นที่ได้เล่นในพื้นที่ตรงนี้" อัลมิร่อน กล่าว ก่อนเสริมถึงมุมมองที่มีต่อตัวเองว่า
"ส่วนตัวผมคิดว่าผมก้าวหน้าขึ้นนะจากปีที่ผ่าน ๆ มา ผมตั้งเป้าไว้ว่าอยากจะยิงประตูและแอสซิสต์ให้มากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นหน้าที่ของผมตอนนี้คือทำงานหนักในการฝึกซ้อมทุก ๆ วัน และผมมั่นใจจริง ๆ ว่าผมจะปรับปรุงจุดอ่อนเพิ่มเติมจุดแข็งของตัวเองได้ในสักวัน สิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันมันสำคัญมาก"
บทสัมภาษณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนฤดูกาล 2022-23 ยังไม่ได้เริ่มแข่งขันเลยด้วยซ้ำ ... แต่ดูเหมือน อัลมิร่อน จะรู้ว่าเขากำลังเดินมาบนเส้นทางที่ถูกต้องที่สุดในรอบหลายปี และมันยืนยันได้ด้วยสถิติต่าง ๆ ของเขาที่เกิดขึ้นในซีซั่นนี้และฟอร์มของเขาที่ทุกคนล้วนแต่ยกย่องว่าเขาได้กลายเป็นหนึ่งในตัวอันตรายที่สุดของพรีเมียร์ลีก ณ เวลานี้
เดิมที อัลมิร่อน เป็นนักเตะที่แฟน ๆ นิวคาสเซิล รักมากอยู่แล้วด้วยรอยยิ้มของเขาที่เป็นคนยิ้มง่ายและทำงานหนักเสมอ แต่ ณ ตอนนี้เขายิ้มด้วยความสุขจริงเสียที และเขาสามารถสร้างผลลัพท์ที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จากรอยยิ้มและความสุขของเขา
ว่ากันว่าจะเล่นฟุตบอลให้ดีก็ต้องเล่นให้สนุกและมีความสุขกับสิ่งที่ทำ เพราะเมื่อคุณมีความสนุก จินตนาการก็จะเกิด และเมื่อจินตนาการเกิด ความมหัศจรรย์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็จะตามมา ...
เหมือนกับสิ่งทีเกิดขึ้นกับ มิเกล อัลมิร่อน ในตอนนี้นั่นเอง คุณเห็นทั้ง 9 ประตูของเขาในซีซั่นนี้ไหมล่ะ ? มีแต่ประตูสวยงามหยดย้อย ทั้งในแง่การจบสกอร์และการเข้าทำเสมอ นั่นแสดงให้เห็นว่าเขามั่นใจขนาดไหน
https://www.forbes.com/sites/jamesnalton/2022/10/30/how-miguel-almiron-became-a-key-player-in-newcastle-united-new-build/?sh=5cd7590e6e7b
https://en.as.com/soccer/miguel-almiron-went-from-mls-to-being-a-dominant-player-in-europe-n/
https://talksport.com/football/1158394/miguel-almiron-jack-grealish-newcastle-man-city-eddie-howe/