ตำแหน่งเปลี่ยนโลก : เมื่อ ปิร์โล่ เปิดตำนาน “Regista” ในฟุตบอลโลก 2006 | คิดไซด์โค้ง
ในฟุตบอลโลกทุกครั้ง ต่างมีจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอล
ในฟุตบอลโลก 2006 ก็เช่นกัน นอกจาก อิตาลี จะเป็นแชมป์แล้ว ในฟุตบอลโลกครั้งนี้โลกยังได้เห็นนักเตะที่ให้กำเนิด “ตำแหน่งใหม่” ขึ้นมา 1 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งนี้ชื่อว่า “เรจิสต้า” ที่จะยืนอยู่เป็นกองกลางตัวสุดท้ายก่อนถึงกองหลัง
เรจิสต้า อยู่ในตำแหน่งของสนามที่จำเป็นต้องอาศัยการเข้าปะทะ ทว่าวิธีเล่นกลับแตกต่างสิ้นเชิง และเรื่องทั้งหมดนี้จะถูกเล่าด้วยความยอดเยี่ยมของ เรจิสต้า คนแรกที่ทั่วโลกได้เห็นพร้อมกันกับ “อันเดรีย ปิร์โล่”
ติดตามที่ คิดไซด์โค้ง
อยู่หน้ากองหลังแต่ไม่ต้องปะทะ ?
ในปี 2006 ก่อนฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่เยอรมัน อิตาลี ไม่ใช่ตัวเต็งเเละไม่เคยอยู่ในสายตาของสื่อเลยว่าจะก้าวขึ้นไปคว้าเเชมป์โลกได้ เพราะผู้เล่นชุดนั้นไม่ได้มีสตาร์เป็นตัวชูโรงให้ทีมน่าสนใจมากนัก บวกกับปัญหาคดีล็อคผลการแข่งขันภายในประเทศ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สื่อหลายๆสำนักคิดว่าจะส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของทีมเเน่นอน เเต่กลับกลายเป็นส่งผลดี มันทำให้ทุกคนร่วมเเรงร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ช่วยกันเล่น ช่วยกันวิ่ง จนสามารถก้าวขึ้นไปเป็นเเชมป์ได้ในที่สุด เเละมีชายคนหนึ่งที่คอยปิดทองหลังพระ ควบคุมจังหวะการเล่นของทีมได้อย่างเนียนตา นั้นก็คือ อันเดรีย ปิร์โล่ นั้นเอง
ปิร์โล่ คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมอันดับ 3 ของทัวร์นาเมนต์เป็นรองเเค่ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ กับ ซีเนอดีน ซีดาน ที่คว้าอันดับสองเเละหนึ่งไปตามลำดับ ซึ่งนี่เเหละคือจุดกำเนิดของตำเเหน่งปิร์โล่ หรือ ที่คนอิตาลีเรียกกันว่าตำเเหน่ง Regista (เรจิสต้า) ให้ชาวโลกได้เห็น
“อันเดรีย ปิร์โล่ คือหนึ่งในกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในโลก เขาเปลี่ยนคำนิยามของตำเเหน่งหมายเลข 6 ไปเลย เมื่อก่อนกองกลางตัวรับทำหน้าที่เเค่ไล่บอล เข้าปะทะ เเย่งบอล เเต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเเล้ว กองกลางตัวรับต้องเล่นกับลูกบอลได้ดีพอๆกับ ตำเเหน่งหมายเลข 10” พาทริค วิเอร่า กล่าวชื่นชมอดีตลูกทีมสมัยค้าเเข้งกับนิวยอร์ก ซิตี้ เอฟซี และบอกว่ามันส่งผลถึงนักบอลรุ่นใหม่ๆ
“เมื่อก่อนไม่ค่อยมีเด็กคนไหนอยากเล่นในตำเเหน่งนี้หรอก มีเเต่คนอยากเล่นเป็น เพลย์เมคเกอร์ ไม่ก็กองหน้า เเต่ อันเดรีย ปิร์โล่ ทำให้เด็กรุ่นใหม่หันมาสนใจตำเเหน่งนี้กันมากขึ้น” วิเอร่า กล่าวเพิ่มเติม
เเละคนที่เห็นความสามารถของ อันเดรีย ปิร์โล่ ว่าสามารถเล่นตำเเหน่งนี้ได้ คือ คาร์โล มัซโซเน่ อดีตเฮดโค้ชของเบรสชา
จากเบอร์ 10 สู่ เบอร์ 6
ย้อนกลับไปในปี 2001 ตอนนั้น อันเดรีย ปิร์โล่ ยังเป็นดาวรุ่ง เเละถูกส่งตัวไปเล่นกับเบรสชาเเบบยืมตัว ด้วยความที่ตำเเหน่งเดิมของเจ้าตัวตอนนั้นคือตำเเหน่งเพลย์เมคเกอร์หรือหมายเลข 10 เเต่ในทีมดันมีเพลย์เมคเกอร์ระดับตำนานอย่าง โรเเบร์โต บาจโจ้ อยู่เเล้ว ทำให้ คาร์โล มัซโซเน่ เฮดโค้ชของเบรสชาในขณะนั้น ต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้สองคนนี้ลงเล่นพร้อมกันให้ได้ เพราะเสียดายฝีเท้าของปิร์โล่ จึงลองจับปิร์โล่ ถอยลงไปเล่นในตำเเหน่งกองกลางตัวรับ หรือ ตำเเหน่งหมายเลข 6
“ปิร์โล่คือนักเตะที่ดี เเต่เขาปล่อยศักยภาพออกมาได้ไม่เต็มที่เมื่อต้องเล่นในตำเเหน่งหมายเลข 10 เขาต้องการพื้นที่เเละเวลามากกว่านี้ในการจะสร้างสรรค์อะไรบางอย่างให้กับทีม ผมเลยลองถอยให้เขามาเล่นตำเเหน่งหมายเลข 6 ดู เพื่อที่จะให้เขามีเวลามากขึ้น” มัซโซเน่ เล่าให้ฟังผ่านทาง ตุ๊ตโต้ สปอร์ต สื่อกีฬาของอิตาลี
“เเละหลังจากนั้นมา เขาชนะทุกสิ่งในตำเเหน่งนั้นเเละกลายเป็นตำนาน” มัซโซเน่ เล่าอย่างภาคภูมิใจ
สิ่งที่ คาร์โล มัซโซเน่ ทำเเล้วเห็นผลชัดเจนที่สุดน่าจะเป็นเกมระหว่าง ยูเวนตุส - เบรสชา ในช่วงเดือนเมษายน ปี 2001 เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 85 ยูเวนตุสนำอยู่ 1 - 0 อันเดรีย ปิร์โล่ เก็บบอลได้ที่กลางสนาม ก่อนที่จะวางบอลยาวข้ามนักเตะยูเวนตุสไปทั้งแผงไปให้ โรเเบร์โต้ บาจโจ้ ล็อกหลบ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ยิงประตูตีเสมอเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นการประสานงานที่ คาร์โล มัซโซเน่ วาดฝันเอาไว้ เเละกลายเป็นต้นกำเนิดของตำเเหน่ง เรจิสต้า
Regista
Regista (เรจิสต้า) ในภาษาอิตาเลียนแปลว่า "ผู้กำกับ" ซึ่งพอเอามาใช้กับฟุตบอลมันก็คือผู้กำกับบนสนามหญ้าของทีม เป็นคนกำหนดจังหวะการเล่นของทีม ถ้าพูดให้เห็นภาพก็คือ คนที่ทำหน้าที่คอยสร้างสรรค์เกมรุกหรือเพลย์เมคเกอร์ของทีมนั้นเเหละ เพียงเเค่ถอยลงมาต่ำเพื่อให้หลุดพ้นจากการประกบติดหนึบของกองหลังฝ่ายตรงข้าม มีเวลาในการเล่นกับลูกบอลมากขึ้น
ตำเเหน่งการยืน จะยืนต่ำลงมาอยู่ข้างหน้าแผงกองหลังเหมือนกองกลางตัวรับ เเต่วิธีการทำงานจะต่างกันออกไป กองกลางตัวรับส่วนใหญ่จะทำหน้าที่คอยวิ่งไล่บอล เข้าปะทะ เเย่งบอล เน้นเล่นเกมรับเป็นส่วนใหญ่ เเต่ เรจิสต้า ไม่ได้เน้นทำหน้าที่เล่นเกมรับเป็นหลัก เเต่เป็นคนที่จะคอยกำกับจังหวะการเล่นของทีม เป็นศูนย์กลางการออกบอลของทีม จะเล่นช้า เล่นเร็ว จะวางบอลสั้น บอลยาว ขึ้นอยู่กับเขาหมด
เปรียบเสมือนควอเตอร์เเบคของทีม จุดเด่นที่สำคัญของตำเเหน่งนี้คือวิสัยทัศน์ ความเข้าใจเกมเเละการจ่ายบอล เเต่ข้อเสียคือจะเล่นเกมรับไม่ค่อยดี ไม่ได้มีมายด์เซ็ตสำหรับการเล่นเกมรับเท่าไหร่
หลังจาการเปลี่ยนตำเเหน่งที่เบรสชา ทำให้ถึงเวลาที่ อันเดรีย ปิร์โล่ กลับมาเล่นให้ต้นสังกัดอย่าง เอซี มิลาน คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือของทีมในเวลานั้นจึงออกเเบบเเท็คติกมาให้ อันเดรีย ปิร์โล่ ทำหน้าที่ได้เต็มศักยภาพ โดยการที่เอาผึ้งงานอย่าง เจนนาโร่ กัตตูโซ่ กับ คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ มายืนขนาบข้างปิร์โล่ ในระบบ 4-3-2-1 คอยทำหน้าที่ในการเล่นเกมรับเเทน อันเดรีย ปิร์โล่ กลายเป็นเเท็คติกที่ลงตัวปิร์โล่ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเเล้วร่วมกันคว้าเเชมป์มากมายก่อนจะไปเฉิดฉายในฟุตบอลโลก 2006
การเฉิดฉายในฟุตบอลโลก 2006 ของ อันเดรีย ปิร์โล่ ทำให้ผู้คนค้นพบวิธีการเล่นเเบบใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับนักเตะตำเเหน่งหมายเลข 10 อีกต่อไป เเละไปโฟกัสที่ระบบสามกองกลางเพื่อซัพพอร์ทการเล่นของ เรจิสต้า ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ก่อให้เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการฟุตบอลในเเง่ของเเท็คติก จาก 4-4-2 มาสู่ 4-3-3 หรือระบบสามกองกลางนั้นเอง
ที่มิลานเเละในทีมชาติอิตาลี ปิร์โล่ มี เจนนาโร่ กัตตูโซ่ คอยจัดการให้ พอย้ายไปยูเวนตุสก็มีผึ้งงานอย่าง อาร์ตูโร่ วิดัล กับ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ้
ที่บาร์เซโลน่ายุคทองของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า ใช้ ชาบี เออร์นันเดซ เป็น เรจิสต้า โดยมี เซอร์จิโอ บุสเกตส์ คอยทำหน้าที่ในเกมรับเเละมี อิเนียสต้า คอยช่วยอีกคนในการขึ้นเกมรุก
ที่ลิเวอร์พูลยุคของ ราฟาเอล เบนิเตซ ใช้ ชาบี อลอนโซ่ เป็น เรจิสต้า โดยมี มาสเคราโน่ คอยทำหน้าที่หลักในเกมรับอยู่ข้างๆ เเละมีสตีเว่น เจอรร์ราด คอยซัพพอร์ทเกมรุกในเเดนบน
ครั้งหนึ่งที่เเมน ยูไนเต็ด เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ตั้งใจซื้อ ไมเคิล คาร์ริค มา เพื่อหวังจะให้เล่นเป็น เรจิสต้า เเบบที่ อันเดรีย ปิร์โล่ ทำ เเต่ คาร์ริคไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้ อาจจะเพราะว่าไม่มีคู่หูในเเดนกลางที่พร้อมจะถวายชีวิตเล่นเกมรับเเทนเขา
นาโปลียุคของซาร์รี่ มี จอร์จินโญ่ ทำหน้าที่เป็น เรจิสต้า โดยมี อัลลัน มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียน ซัพพอร์ทในเกมรับ เเละมาเร็ค ฮัมซิค ในการขึ้นเกมรุก
ในปัจจุบันที่เชลซีมี จอร์จินโญ่ ทำหน้าที่เป็น เรจิสต้า โดยมี เอ็นโกโล่ กองเต้ วิ่งไล่บอลในเกมรับอยู่ข้างๆเราจะเห็นได้ชัดเลยว่า เกมไหนที่ไม่มี กองเต้ ฟอร์มของจอร์จินโญ่ก็จะดร็อปลงไป ไม่เนียนตาเท่าเดิม
เพราะฉะนั้นแปลว่าคู่มือในการใช้งาน เรจิสต้า ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดคือการหากองกลางอีกคนที่พร้อมทำหน้าที่ในเกมรับได้อย่างเต็มที่มายืนข้างๆเขา เเล้ว เรจิสต้า จะร่ายเวทมนตร์ออกมาเอง
แหล่งอ้างอิง
https://www.thescore.com/chlg/news/1415841
https://football-italia.net/mazzone-invented-playmaker-pirlo/
https://www.reuters.com/article/uk-soccer-euro-italy-pirlo-idUKBRE85P09220120626
https://www.youtube.com/watch?v=IoyjjlTipEE
https://www.coachesvoice.com/cv/what-is-a-regista-explained-jorginho-andrea-pirlo/