ตัวเต็งลิ่วน็อกเอาท์-ชิงที่สามยังมันส์ : Recap MD6 Chang UCC
ฟุตบอลช้าง ยู แชมเปี้ยน คัพ ปี 2 เดินทางมาถึงนัดที่ 6 แล้วซึ่งเป็นนัดก่อนสุดท้าย และจะเริ่มเห็นแล้วว่าทีมใดบ้างที่จะได้ตั๋วเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
สถานการณ์ในตอนนี้ทีมที่อยู่หัวตารางก็ยังไม่สามารถการันตีว่าจะเข้ารอบไปได้เป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากคะแนนของทีมในแต่ละกลุ่มนั้นสามารถพลิกกันได้ตลอด ทุกทีมต้องเร่งฟอร์มขั้นสุดเพื่อเอาชนะและคว้าสามแต้มสำคัญเพื่อต่อโอกาสการเข้ารอบของตัวเอง คิดไซด์โค้ง วันนี้จะมาคุยกัน
เรามาเริ่มกันที่ เกมในกลุ่ม B ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เกมระหว่าง 'ลูกอาจารย์แม่' ม.รัตนบัณฑิต พบกับ ม.ราชภัฏธนบุรี โดยสถานการณ์ก่อนเกม รัตนบัณฑิต หากชนะเกมนี้ โอกาสเข้าสู่รอบน็อกเอาท์แทบจะเปิดกว้าง
11 ตัวจริงเกมนี้ ม.รัตนบัณฑิต โรเตชั่นผู้เล่นหลักหลายราย แต่ยังมีผู้เล่นที่อาจจะคุ้นชื่อและมีดีกรีลูกหนังอาชีพ ลงสนาม อาทิ กิตติพงศ์ เขตภารา และ จิตติพัฒน์ วะสูงเนิน ลงสนาม
ขณะที่ราชภัฏธนบุรี เกมนี้พวกเขาต้องการแต้มเพื่อโอกาสลุ้นอันดับสามที่ดีที่สุด ก็ยังจัดชุดเต็มลงสนาม นำโดย ชุติภาส แสนอิสสระ, กิตติธัช เจริญราช และ ภัทราวุธ น้อยพลทัน ลงทำเกม
รูปเกมทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสี และมีโอกาสกดดันจากลูกตั้งกันฝั่งละครั้ง ก่อนที่นาทีที่ 15 รัตนบัณฑิตใช้บอลยาวสวน กิตติพงษ์ เขตภารา ได้โอกาสชิพบอลข้ามผู้รักษาประตูจังหวะอรกแต่ชนคาน ก่อนเป็นทาง อำพล แก้วรองบน โหม่งซ้ำจ่อๆ เข้าประตูไป รัตนบัณฑิต นำ ราชภัฏธนบุรี 1-0
หลังเสียประตู ราชภัฏธนบุรี พยายามใช้เกมริมเส้นสวนกลับ แต่ก็โดนแนวรับ รัตนบัณฑิต ทำลายจังหวะ ขณะที่ รัตนบัณฑิต ก็มีจังหวะสวนกลับหลายทีแต่ยังปิดสกอร์ไม่ได้เพิ่ม แถมช่วงท้ายครึ่งแรกมีจังหวะวุ่นวายเล็กน้อยของทั้งสองทีม หมดครึ่งแรก รัตนบัณฑิต นำ ราชภัฏธนบุรี 1-0
ครึ่งหลังมา ราชภัฏธนบรี พยายามกดดันเข้าใส่ทางด้าน รัตนบัณฑิต หวังเอาประตูคืน แต่แนวรับฝั่ง รัตนบัณฑิต ยังอดทนเล่นเกมรับอุดไว้ได้
ท้ายเกมนาทีที่ 82 รัตนบัณฑิต มาได้ประตูปิดกล่อง 2-0 จากบอลสวนกลับให้มาง พีรภัทร์ ผาสุก ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเบียดแนวรับ ราชภัฏธนบุรี ก่อนจ่ายให้ เมธี สาระคำ ตัวสอง แท็ปอิน นิ่มๆ เข้าไป
และแม้ว่าจะโดนทิ้งห่าง 2 ประตู ฝั่งราชภัฏธนบุรี ยังไม่ยอมง่ายๆ และมีโอกาสกดดันแนวรับของ รัตนบัณฑิต อยู่ 2-3 จังหวะ แต่เปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ แถมช่วงท้ายเกม ราชภัฏธนบุรี หวิดจะเสียประตูที่ 3 จาก ปฏิพล โทแสง ในนาที 90+3 แต่ปิดไม่ลง จบเกม มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ชนะ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี 2-0 โอกาสเข้ารอบน็อกเอาท์สดใส
ขณะที่คู่แรกของกลุ่ม C ระหว่าง มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม ทีมอันดับสุดท้ายของตาราง พบกับ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ทีมรองจ่าฝูง ที่ สนามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เริ่มเตะเวลา 14.00 น.
ในเกมนี้ ฝั่งของ ม.กรุงเทพธนบุรีต้องการ 3 แต้มเท่านั้นเพื่อโอกาสในการเข้ารอบและเบียดแซงทางด้านของจุฬาฯ ที่มีคะแนนนำอยู่เพียง 2 คะแนน ถ้าหากชนะในนัดนี้ได้จะนำขึ้นเป็นจ่าฝูงก่อนทันที
11 ผู้เล่นคนแรกของ มหาวิทยาลัยราขภัฎจันทรเกษม นำมาโดย ปาฏิหาริย์ จันทร์พวง กัปตันทีม ธนดล บุญปัญญา, พาทิศ เนตรภักดี, จาตุรงค์ ปูลาดานัง, กีตภัทร บัวศรี, นิธิศ ลิ้มเกียรติกุล, ทักษ์ดนัย เจริญยิ่ง, พิพัฒน์ พุ่มเชื้อ เฝ้าเสา
ขณะที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เกมนี้ โค้ชจุก-อิทธิพล นนท์ศิริ โรเตชั่นผู้เล่นหลายตำแหน่ง 11 ตัวจริงนำมาโดย เฉลิมภัทร พลอยแหวนรัตนา นายประตูตัวเก่งสวมปลอกแขนกัปตีนทีม เอาท์ฟิลด์ที่น่าสนใจมีชื่อของ ปฏิภาณชัย โพธิ์เทพ แข้งชัยนาท ฮอร์นบิล, องศา สิงห์ทอง กองหน้าลูกชายของ อิศวะ สิงห์ทอง ลงสนาม
เริ่มครึ่งแรกในนาทีที่ 23 เป็นทางด้านของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะของ ปฏิภาณชัย โพธิ์เทพ ได้เลี้ยงบอลในกรอบเขตโทษและยิงด้วยเท้าซ้ายไปชนเสา ก่อนที่บอลจะมาเข้าทาง วิภู คชวงษ์ ได้ยิงด้วยเท้าขวาอย่างแรง บอลเข้าประตูไป
จากนั้นในนาที 35 มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มาเร่งเครื่องทำประตูที่สอง จากจังหวะผ่านบอลทะลุช่องให้ ตรีเพชร แอนิหน ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะผ่านบอลให้กับ วงศกร แสนฤาชา ได้แท็บอินเข้าไป เป็นประตู ออกนำของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี 2-0
ช่วงทดเวลาครึ่งแรก นาทีที่ 48 มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มาได้ประตูนำ 3-0 จากจังหวะที่ปฏิภาณชัย โพธิ์เทพ จ่ายบอลตามช่องให้ องศา สิงห์ทอง หลุดมาเดี่ยวๆ ดวลกับผู้รักษาประตู ก่อนจะแปบอลด้วยเท้าซ้าย บอลตุงตาข่ายเข้าประตูไป
จบครึ่งแรก มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ยังคุมเกมได้เหนือกว่า ออกนำ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม 3-0
เริ่มครึ่งเวลาหลังทั้งสองทีมก็ยังเปิดเกมรุกใส่กันอย่างไม่กลัวใคร โดยเป็นทางด้านของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ที่มีจังหวะรุกมากกว่า ในนาทีที่ 77 มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มาได้ประตูขึ้นนำ 4-0 จากจังหวะต่อบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนที่จะเป็น เจษฎากร น้อยศรี ผ่านบอลให้กับ พีรวุฒิ อินขาว ตัวสำรองที่ลงมา ได้ยิงจ่อๆเข้าประตูไป
นาทีที่ 83 มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มาได้ประตูปิดกล่องจากจังหวะเปิดบอลของเจตนิพัทธ์ วงษ์ยี่ เข้ามาให้กับ ผดุงเกียรติ อาจคิดการ ได้แท็บอินเข้าไป เป็นประตู มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ขึ้นนำ 5-0
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มาได้ประตูตีไข่แตก นาทีที่ 89 จากจังหวะยิงจุดโทษสองจังหวะ ก่อนที่จะเป็น ดลวิชญ์ ถนอมนุ่ม ตัวสำรอง ยิงกดบอลลูกเรียดเข้าประตูไป มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ไล่ตามมา 5-1
จบเกม 90 นาที มหาวิทยาลัยจันทรเกษม ต้านความแข็งแกร่งของ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ไม่ไหว โดนถล่ม ไป 1-5 ทำให้ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เก็บเพิ่มอีก 3 คะแนน นำขึ้นเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม C ชั่วคราว
มาดูอีกคู่ของกลุ่ม C ระหว่าง มหาวิทยาลัยมหิดล ทีมอันดับที่ 6 ของกลุ่ม พบกับ มหาวิทยาลัยปทุมธานี ทีมอันดับที่ 4 ของตาราง ที่สนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรัตนโกสินทร์ ที่เตะเวลา 14.00 น. เช่นเดียวกัน
ซึ่งก่อนเกมนี้ ทั้งสองทีมมี 7 คะแนนเท่ากันและก็ต้องการชัยชนะกันทั้งสองทีมขยับขึ้นไปเบียดกับที่ 3 ของตารางให้ได้ เพื่อมีลุ้นเป็นทีมอันดับที่ 3 ที่ดีที่สุด ในการคว้าตั๋วใบสุดท้ายของรอบ 8 ทีม
11 ผู้เล่นตัวจริงของมหาวิทยาลัยมหิดล นำมาโดย กฤษณะ เปรมชื่น กัปตันทีม พงศ์ปณต แก้ววิเชียร บัซซามีย์ เหล็มปาน และ นิพิฐพนธ์ วิเศษลา นำทัพ
ทางด้าน 11 คนแรกของมหาวิทยาลัยปทุมธานี นำทัพมาโดย ฐากูร อัมพันธ์ กัปตันทีม, สหภาพ สุวรรณกูล และ อาทิตย์ วงเวียน ลงสนาม
เริ่มเวลาครึ่งแรกทั้งสองทีมต่างเปิดเกมเร็วเข้าหากันหวังที่จะชิงทำประตูแรกเพื่อความได้เปรียบในเกมนี้ โดยในนาทีที่ 37 มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ลูกจุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลของ จิณณวัตร ปั้นคณาผล ผู้เล่นของมหาวิทยาลัยปทุมธานี ก่อนที่จะเป็นพงศ์ปณต แก้ววิเชียร เป็นคนรับหน้าที่ยิงจุดโทษ ก่อนจะยิงไปติดซุปเปอร์เซฟของ กฤษณะ เลือดสันเทียะ พลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที้ 39 จิณณวัตร ปั้นคณาผล จะมาโดนใบเหลืองครบ 2 ใบ เป็นใบแดง ถูกไล่ออกจากสนาม จากการฟาวล์อันตราย มหาวิทยาลัยปทุมธานี เหลือผู้เล่น 10 คน
ครบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมยังไม่สามารถทำอะไรกันได้ มหาวิทยาลัยมหิดล ยังเสมอกับ มหาวิทยาลัยปทุมธานี อยู่ 0-0
เริ่มครึ่งเวลาหลัง ทั้งสองทีมมีการแก้เกมเพื่อหาประตูแรกของเกมนี้ และต้องรอถึงช่วงท้ายเกมกันเลยทีเดียว เป็นทางด้านของมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 90 จากจังหวะลูกฟรีคิกที่เปิดมาในกรอบเขตโทษให้กับชนนธรรม ชุนดี ได้โหม่งเปลี่ยนทางมาเข้าทาง อาทิตย์ บัวงาม ได้ยิงจ่อๆ บอลเรียดเข้าประตู
และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 93 เป็นทางด้านของมหาวิทยาลัยปทุมธานี อาศัยจังหวะลูกยิงฟรีคิก เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนที่จะได้โหม่งเปลี่ยนทางให้กับ วิทยา สาเมาะ ได้วิ่งเข้ามายิงบอลเข้าประตูไป มหาวิทยาลัยปทุมธานี ตีเสมอ 1-1 ในช่วงนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน
จบเกมมหาวิทยาลัยมหิดล เสมอกับ มหาวิทยาลัยปทุมธานี 1-1 แบ่งกันไปคนละ 1 คะแนน ต้องบอกว่าเกมนี้น่าจะเป็นเกมที่ดราม่าที่สนุกมากเกมหนึ่ง เพราะสองประตูในเกมนี้ เกิดขึ้นในช่วงท้ายเกมทั้งหมด
ตัดภาพมาที่คู่บิ๊กแมตช์ของกลุ่ม A มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ทีมอันดับที่สองของตาราง เปิดบ้านพบกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทีมจ่าฝูงของกลุ่ม A ที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ก่อนเกมนี้ทั้งสองทีมต่างมี 15 คะแนนเท่ากัน ต้องการที่จะชนะ เพื่อที่จะได้รู้ว่าใครจะได้เป็นที่หนึ่งของกลุ่มและได้ตีตั๋วเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป
ฝั่งของ เกษมบัณฑิต จัดผู้เล่นดีกรีตัวไทยลีก 3 เต็มอัตราศึก ทั้ง นายประตู ชานนท์ อุ่นใจดี, กัปตันทีมเป็นทางด้านของ สนธยา โททำ สี่แดนหลังของทีม ธีรศักดิ์ คัชกรณ์ ศุภกฤต เพ็ชรพล ธีรโชติ แสนสุข นิติภูมิ สุวรรณศรี ครรชิตพล ไชยประเทศ อภิวัฒน์ ชูไพร ศตายุ ต้นอาจ อริยะ โทแก้ว ศูนย์หน้าเป็น ศุภวิชญ์ เอี้ยงกลับ
ด้านของ ธรรมศาสตร์ 11 ตัวจริงเกมนี้ ใช้ชุดหลักเช่นกัน เริ่มที่ ผู้รักษาประตู ใช้ ภูวดล พลสงคราม เฝ้าเสา สามแดนหลังเป็น สันติภาพ แย้มแสน สวมปลอกแขนกัปตันทีม, อาณาภัทร นาคงาม และ ธีร์กวิน จันทร์ศรี
ส่วนแดนกลาง ภูมิชนก แกมกล้า อัษฎาวุธ ช้างทอง กฤษณพล บุญชาลี ณัชชา พรมสมบูรณ์ ขณะที่ตัวรุกใช้ ศาสตรา รัตน์ลงเมือง ภัคพล ไหมหมาด และ พงนริศร์ อินกมล
เริ่มครึ่งเวลาแรกเป็นทางด้านของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ได้ครองบอลมากกว่า เน้นการเข้าทำแบบเปิดบอลยาวเข้ามากรอบเขตโทษ มีโอกาสทำประตูหลายครั้งแต่ยังไม่เป็นผล ส่วนทางด้านของมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตก็คอยอาศัยเกมโต้กลับและจังหวะฟรีคิกในการหาจังหวะยิงประตูแต่ก็ยังยิงไปติดเซฟของ ภูวดล พลสงคราม จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เสมออยู่กับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 0-0
เริ่มครึ่งหลังมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตหวังเร่งเครื่องขึ้นนำให้ได้ใน นาทีที่ 58 จากจังหวะทุ่มไกลเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนบอลจะหลุดมาถึง อภิวัฒน์ ชูไพร ได้ยิงโล่งๆลอดขาของ ภูวดล พลสงคราม แต่กองหลังของธรรมศาสตร์ ยังสามารถเคลียออกสุดเส้นไว้ได้ เป็นจังหวะที่เกือบขึ้นนำของมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
หลังจากนั้นมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ก็เปิดเกมรุกใส่อย่างหนักแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ เพราะยิงไปติดเซฟของ ภูวดล พลสงคราม และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ยังหาจังหวะสวนกลับเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีประตูเกิดขึ้น
จบเกม 90 นาที ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันได้ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เสมอกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1-1 โดยทั้งสองทีมต่างจับมือกันเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้
มาดูทางด้านของกลุ่ม C คู่ระหว่างมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พบกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
11 ตัวจริงของ มศว นำมาโดย ธนวัฒน์ จันทร์เพ็ง กัปตันทีม, ธีรภัทร ปัตชิต, อาณาจักร อุดมฤกษ์เสรีชัย ผู้รักษาประตูลงเฝ้าเสา โดยฝากความหวังเกมรุกที่ ภควัฒน์ สัพโส กับ วิชญา มนต์คาถา
ขณะที่ จุฬาฯ ได้ ปราชญ์ปรีชา เพ็ชร์ทอง กัปตันทีมที่ได้กลับมาช่วยทีมอีกครั้งในฐานะตัวจริง นายประตูยังเป็น ณภัทร สื่อมโนธรรม เซ็นเตอร์ยังเป็น ภรภัทร สิงหพันธ์ พร้อมด้วยผู้เล่นแนวรุกอย่าง วัชรพงษ์ วันทอง ภูบดี อ้อนชัยภูมิ วิญญวิศว์ ทุมคำปัญจรัส
รูปเกมครึ่งแรก เป็นฝั่งจุฬาฯ มีจังหวะได้กดดันหลายครั้ง ขณะที่ มศว พยายามตั้งเกมของตัวเองและค่อยๆ เล่นไปตามจังหวะเกมของตัวเองอยู่หลายครั้ง แต่ต้องยอมรับว่า ขุมกำลังของ จุฬาฯ เอง เล่นกันด้วยความเข้าใจ จนมาได้ประตูแรกจากบอลริมเส้นฝั่งขวาแล้วเป็น ภรภัทร สิงหพันธ์ แท็ปอินเข้าไป ในนาทีที่ 9
จากนั้นเกมเป็นฝั่งของ จุฬาฯ ที่พยายามกดดันและไล่บีบแนวรับ โดยเฉพาะเกมฝั่งซ้ายของ มศว อย่างต่อเนื่อง ทำให้ มศว แทบไม่มีโอกาสสวนกลับ แต่ก็เพิ่มสกอร์ไม่ได้ หมดครึ่งแรก จุฬาฯ นำ มศว 1-0
ครึ่งหลัง จุฬาฯ มีโอกาสได้ประตูหนีห่างหลายครั้งทั้งนาทีที่ 52 ที่แนวรุกของจุฬาฯ พยายามต่อบอลและได้จบ แต่ติดบล็อก ขณะที่ มศว ยังอดทนเล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม และมีโอกาสกดดันฝั่ง จุฬาฯ บ้างแต่ยังไม่คม
กระทั่งนาทีที่ 88 จุฬาฯ มาได้ประตูหนี มศว เป็น 2-0 จากจังหวะที่ วัชรพงษ์ วันทอง ยกบอลข้ามฟากให้ให้ วิญญวิศว์ ทุมคำปัญจรัส ในกรอบ ก่อนจ่ายให้ วรเดช บุญมาขจรกิจ ตัวสำรอง ซัดปืดกล่องเข้าไป
ท้ายเกม มศว พยายามหาจังหวะโยนบอลกดดันในพื้นที่ของ จุฬาฯ แต่ทำอะไรไม่ได้ จบเกม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชนะ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 2-0
ด้านผลคู่อื่นๆ ราชมงคลกรุงเทพ พ่าย ราชภัฏนครปฐม 0-1, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ชนะ ราชมงคลรัตนโกสินทร์ 1-0, ม.คริสเตียน แพ้ ม.ธนบุรี 0-2, ม.ศิลปากร แพ้ ธุรกิจบัณฑิตย์ 0-1, ราชมงคลธัญบุรี เสมอ พระจอมเกล้าพระนครเหนือ 1-1, เกษตรศาสตร์ ชนะ ม.ราชพฤกษ์ 3-0 และ ม.นอร์ทกรุงเทพ เสมอ ม.กีฬาแห่งชาติ 1-1
สถานการณ์หลังจบนัดที่ 6 กลุ่ม A เป็นทางด้าน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ควงทาง มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ตีตั๋วเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ตามคาด โดยเวลานี้มี 16 คะแนนเท่ากัน ซึ่งนัดสุดท้ายจะต้องวัดกันว่าใครจะจบแชมป์กลุ่ม ขณะที่อันดับ 3 ที่ดีที่สุด ยังต้องลุ้นกันระหว่าง ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ 12 คะแนน และ ม.ธนบุรี 10 คะแนน ซึ่งต้องลุ้นผลของสายอื่นด้วย
มาต่อกันที่กลุ่ม B เป็นทาง ม.รัตนบัณฑิต การันตีคว้าแชมป์กลุ่ม มี 18 คะแนนจาก 6 เกม ขณะที่ ม.นอร์ทกรุงเทพ มี 14 คะแนน จบรองแชมป์กลุ่มนี้ ซึ่งทั้งสองทีม การันตีเข้ารอบน็อกเอาท์แน่นอนแล้ว
ขณะที่อันดับ 3 ของกลุ่มนี้เป็นการลุ้นกันของ ม.ราชพฤกษ์ ที่ช่วงแรกเปิดหัวอย่างร้อนแรง ก่อนจะม่แผ่วปลายแบบเหลือเชื่อ โดยต้องวัดกับ ม.การกีฬาแห่งชาติ ม้ามืดในเกมนี้ โดย ม.ราชพฤกษ์ ต้องชนะให้ได้ เพื่อวัดลูกได้-เสียในกรณีที่แต้มเท่ากับกันอันดับ 3 ของกลุ่ม A
ด้าน กลุ่ม C เป็นกลุ่มเดียวที่ได้บทสรุปเกือบครบแล้ว โดยได้ 3 ทีมเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.กรุงเทพธนบุรี และ ม.กรุงเทพ โดย 3 ทีมนี้มีโอกาสจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มทั้งหมด ซึ่งนัดสุดท้าย จุฬาฯ จะเจอกับทางด้าน ม.กรุงเทพธนบุรี ขณะที่ ม.กรุงเทพ พบกับ ม.ปทุมธานี ซึ่งโควต้ารอบน็อกเอาท์ของสายนี้ไม่หนีไปไหนแน่นอน
และนี่คือทั้งหมดของเกมนัดที่ 6 ของศึกช้าง ยู แชมเปี้ยน คัพ ปี 2 ที่นอกจากแชมป์จะได้ถ้วยรางวัล แต่พวกเขาจะได้พบประสบการณ์ใหม่ๆ ระดับโลกที่เลสเตอร์ ซิตี้ อีกด้วย ฉะนั้นนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มยังคงน่าติดตาม และบทสรุปจะเป็นอย่างไรจากนี้ ต้องติดตาม!