ตัวร้ายของเรา พระเอกของเขา : เปิดเบื้องหลังของตัวตึงแห่งเวียดนาม เกว์ หง็อก ไห่
เกว๋ หง็อก ไห่ คือนักเตะเวียดนามที่ติดแบล็คลิสต์ในสายตาแฟนบอลไทย นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา
ทว่าจริง ๆ แล้วความโหดของเขานั้นมียิ่งกว่านั้นเยอะ ก่อนจะถูกขัดเกลา ช่วยเหลือ และสร้างความมั่นใจขึ้นมาใหม่จนทำให้เขากลายเป็น เซร์คิโอ รามอส แห่ง เวียดนาม ในสายตาแฟน ๆ ทัพดาวทอง
เรื่องราวเบื้องลึกก่อนกลายมาเป็นตัวตึงของ หง็อก ไห่ เกิดขึ้นได้อย่างไร ? ติดตามที่ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
ศิษย์เอก พัค ฮัง ซอ
เกว๋ หง็อก ไห่ คือนักเตะที่แฟนบอลไทยหมายหัวมากที่สุดในเวลานี้ และแน่นอนมันเกิดจากวิธีการเล่นของเขาที่พร้อมจะมีลูกตุกติกทุกเวลา มีโอกาสเมื่อไหร่ เกว๋ หง็อก ไห่ พร้อมจะสร้างคอนเท้นท์ทันที ถามว่าทำไมเป็นแบบนั้น ? ... แน่นอนว่ามันมีเหตุผลที่ซ่อนอยู่
เบื้องหลังการเป็นนักฟุตบอลของเขาคือเด็กที่เติบโตในครอบครัวชนชั้นล่างของเวียดนาม ที่พยายามทุกอย่างเพื่อหารายได้ ตัวของ หง็อก ไห่ มีพี่ชายที่ชื่อว่า เกว๋ หง็อก มาน ที่แก่กว่าเขา 3 ปี ซึ่งพี่ชายก็คือเบื้องหลังความสำเร็จของเขาก็คงไม่ผิดนัก เพราะพี่ชายนั้นต้องเลิกเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อยด้วยอาการบาดเจ็บ นั่นจึงเป็นที่มาของการ “ฝากฝังความฝัน” มาสู่ตัวน้องชายอย่าง หง็อก ไห่ ที่ต้องพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นนักเตะอาชีพ เพื่อยกระดับฐานะครอบครัวให้ได้
ตัวของ หง็อก ไห่ นั้นถือเป็นนักเตะที่ซึมซับช่วงเวลาที่ย่ำแย่ของทีมชาติเวียดนาม และได้สัมผัสบรรยากาศการเห็นทีมชาติไทยครองความยิ่งใหญ่ในอาเซียนโดยประสบการณ์ตรง
โดยตัวของ หง็อก ไห่ นั้นลงเล่นในวันที่ทีมชาติไทยบุกชนะ เวียดนาม 3-0 ที่ หมีดิงห์ สเตเดี้ยม ในเกมคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 ซึ่ง ณ เวลานั้นหากยังพอนึกจำบรรยากาศกันออก เชื่อว่าแฟนบอลไทยอาจจะยังไม่สามารถจดจำคาแร็คเตอร์ของ หง็อก ไห่ ได้เลยด้วยซ้ำ
เหตุผลง่าย ๆ ก็คือตอนนั้นเวียดนาม ยังมีความกลัวและความเกรงในการเจอกับทีมชาติไทย เรียกได้ว่าพวกเขาฝ่อตั้งแต่ก่อนลงสนามเเล้วด้วยซ้ำ ดังนั้นต่อให้ตั้งหน้าตั้งตาเล่นแรง ๆ ภาพมันก็ไม่ออกมาชัดเหมือนกับทุกวันนี้ ซึ่งตัวของ หง็อก ไห่ ก็ไม่ได้อยู่ในสารบัญฟุตบอลเวียดนามในแง่มุมของแฟนบอลไทยเลย
อย่างไรก็ตามความพ่ายแพ้แบบสู้ไม่ได้ ไล่เตะนักเตะไทยก็ยังไล่ไม่จนนั้นแหละที่เป็นหนึ่งในขุมพลังที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกฮึกเหิมขึ้นภายในใจ มาถึงวันที่ทีมชาติเวียดนามเปลี่ยนโค้ช จาก โทชิยะ มิอุระ มาเป็น เหงียน ฮู ทัง จนกระทั่งมาเจอจุดลงตัวกับกุนซือผู้ใส่ความเป็นนักสู้อย่าง พัค ฮัง ซอ นี่แหละที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนในการปลดปล่อยพลังความเดือดของ หง็อก ไห่ ออกมา
"โค้ช พัค สอนผมหนึ่งประโยคและผมจดจำมาถึงทุกวันนี้คือ เมื่อเราต้องลงสนามเราต้องใส่ให้สุดกำลัง เพราะคือทีมชาติเวียดนาม เราเป็นตัวแทนของประชาชนชั้นประเทศ เราต้องมีความรู้สึกกล้าหาญและภาคภูมิใจที่ได้รับหน้าที่อันมีเกียรตินี้ เมื่อคุณได้ลงสนามคุณต้องทุ่มทุกอย่างเพื่อบอกให้ทุกคนรู้ว่าคุณเหมาะสมที่จะได้รับโอกาสนั้น"
ทีนี้เราเชื่อว่าหลายคนเริ่มจะพอนึกภาพออกแล้ว การเข้ามาของ ฮัง ซอ เปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างในฟุตบอลเวียดนาม กล่าวคือพวกเขาได้รับการจุดไฟให้สู้ทุกจังหวะ ทำให้นักเตะของพวกเขามีหัวใจที่ใหญ่ เห็นช้างเป็นมด เจอใครก็ไม่กลัว เล่นตามเกมและวิธีของตัวเอง ซึ่งช่วงเวลาหลังจาก ฮัง ซอ เซ็ตระบบทุกอย่างให้กับทีมชาติเวียดนามลงตัว หง็อก ไห่ ก็กลายเป็นเหมือนขุนพลคู่ใจที่ ฮัง ซอ เรียกใช้บริการตลอด
เรื่องนี้มันก็มีผลในการเปลี่ยนแปลงมุมมองและวิธีการเล่นของ หง็อก ไห่ ไปตลอดกาล เขาเริ่มศึกษาวิธีการเล่นจากนักเตะในยุโรป และเขาก็ได้เจอกับสไตล์ที่ใช่และเหมาะสมนั่นคือวิธีการเล่นของ เซร์คิโอ รามอส ตำนานกองหลังทีมชาติสเปน และสโมสร เรอัล มาดริด ที่มีวิธีการเล่นถึงลูกถึงคน และเป็นนักเตะที่มีเล่ห์เหลี่ยมอยู่ในกระเป๋า จะเอาออกมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้
"รามอสคือไอดอลของผม เขาเล่นตำแหน่งเดียวกับผม เขาเป็นนักเตะชั้นนำทั้งในด้านความสามารถในการเป็นผู้นำ เทคนิคการป้องกัน การเคลื่อนที่ และการอ่านเกม นอกจากนี้ เขาโหม่งเก่ง ผมสามารถได้แรงบันดาลใจมากมายจากเขาได้" หง็อก ไห่ กล่าวในตอนนั้นที่เขามีอายุ 28 ปี ... นั่นแหละกำเนิดกองหลังจอมโหดก็เริ่มขึ้น
วีกรรมความโหด
จริง ๆ แล้ว หง็อกไห่ คือนักเตะเวียดนามที่มีฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา วิธีการเล่นที่เด็ดขาดของเขาเป็นที่พูดถึง ชนิดที่ว่าในช่วงที่โควต้าอาเซียนในไทยลีกเปิดขึ้นใหม่ ๆ ก็ยังมีสโมสรจากไทยลีกต้องการได้ตัวเขามาร่วมทีมเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามธรรมชาติของนักเตะเวียดนามนั้นไม่ค่อยมีใครนิยมมาค้าแข้งในประเทศไทยมากนัก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราไม่สามารถหาคำตอบที่แท้จริงในแง่ของภาพรวมได้ แต่ในมุมของ หง็อก ไห่ เขาเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะขุนพลคู่กายของ พัค ฮัง ซอ อีกทั้งยังเป็นกัปตันทีมชาติอีกด้วย คุณสมบัตินี้จะพูดให้เขาใจง่าย ๆ ก็คือเขาเป็นตัวท็อปของประเทศ ดังนั้นสโมสรในเวียดนามก็สู้ราคาเต็มที่เพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีมให้ และเป็นราคาที่มากกว่าสโมสรไทยจะให้เขาได้ ... สื่อเวียดนามนั้นลือกันว่าในช่วงที่ หง็อก ไห่ หมดสัญญากับทีม ซองลัมแหย่อัน ในปี 2019 สโมสรอย่าง เวียตเทล เคยให้เช็คเปล่ากับเขาเพื่อเขียนเงินเดือนที่ต้องการได้ตามใจเลยทีเดียว
กลับมาที่สไตล์ของ หง็อก ไห่ กันอีกครั้ง จริง ๆ แล้วตัวของเขานั้นก็มีความโหดอัมหิตซ่อนอยู่มานานโขแล้ว เพียงแต่เขาไม่ค่อยกล้าแสดงออกในเกมกับทีมชาติไทยมากนัก อาจจะเป็นเพราะมีความกลัวในจิตใจอยู่ หรือไม่ก็อาจจะเป็นเหตุผลของความเหนือชั้นกว่าของทีมชาติไทยในยุคนั้น
ซึ่งอันที่จิงแล้วในปี 2015 หง็อก ไห่ ก็สร้างตำนานหักขาเพื่อนร่วมอาชีพมาเเล้ว โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในศึกฟุตบอล วีลีก ฤดูกาล 2015 เวลานั้น เกว๋ หง็อก ไห่ ในวัย 21 ที่เล่นให้กับ ซองลัมแหย่อัน ลงสนามพบกับ ดานัง ในเกมนั้น หง็อก ไห่ ที่กำลังอยู่ในวัยพุ่งพล่านได้กระโดดเปิดปุ่ม 2 เท้าใส่นักเตะที่ชื่อว่า ตร่าน อันห์ โค แข้งของ ดานัง จนทำให้ ตร่าน อันห์ โค บาดเจ็บรุนแรงและต้องออกจากการแข่งขันทันที ส่วนทาง เกว๋ หง็อก ไห่ ก็ได้รับแค่ใบเหลืองเท่านั้น
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
เรื่องดังกล่าวมันดาร์กยิ่งกว่า เพราะหลังจาก หง็อกไห่ เข้าปะทะแบบนั้น อันห์ โค ก็ไม่สามารถกลับมาเล่นในระดับสูงได้อีกเลย เพียง 2 ปีจากวันที่โดนเสียบเขาต้องประกาศแขวนสตั๊ดเพราะเล่นฟุตบอลต่อไม่ไหว
เรื่องนี้เป็นประเด็นในวงการฟุตบอลเวียดนามอย่างมาก ถึงขั้นที่ว่าประชาชนเมืองดานังถึงกับออกมาเรียกร้องสิทธิเพื่อนักเตะของพวกเขา โดยเป็นการกดดันไปถึง สหพันธ์ฟุตบอลเวียดนามให้มาจัดการเรื่องนี้โดยตรง เพราะการเล่นของ หง็อก ไห่ มีเจตนาทำร้ายร่างกายคู่แข่ง ในที่สุดสหพันธ์ก็ทนความกดดันไม่ไหว จึงต้องลงโทษ แบน หง็อก ไห่ จากเกมอาชีพเป็นเวลา 6 เดือน และยังต้องออกค่ารักษาพยาบาลให้กับคู่กรณีเป็นเงินมากกว่า 1 ล้านบาทอีกด้วย
จริง ๆ แล้ว หง็อก ไห่ ถูกกดดันให้โดนแบนตลอดชีวิตเลยด้วยซ้ำ แต่คนในวงการฟุตบอลเวียดนามหลายคน โดยเฉพาะ ด้าน ด่วน เหงียน ดึ๊ก ประธานสโมสร ฮอง อันห์ ยา ลาย ก็เป็นคนที่ออกโรงปกป้องว่า หง็อก ไห่ ยังเป็นแค่ดาวรุ่งที่หลงทางเท่านั้น ภายใต้การเล่นที่รุนแรงของเขา มีคำว่าพรสวรรค์ซ่อนอยู่ หากตัดโอกาสของ หง็อก ไห่ จากฟุตบอลอาชีพ ก็เหมือนการตัดโอกาสความก้าวหน้าของทีมชาติเวียดนามไปด้วย ที่สุดเเล้ว ด้าน ด่วน เหงียน ดึ๊ก ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ช่วย หง็อก ไห่ จ่ายค่าปรับ และค่ารักษาให้กับคู่กรณี เพื่อทำให้ หง็อก ไห่ ได้โอกาสในฟุตบอลอาชีพอีกครั้ง
เห็นแบบนี้แล้วมันอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้ที่เขาได้มาเจอคนที่สอนให้เล่นหนักอย่างชาญฉลาดอย่าง พัค ฮังซอ .. จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องดีกับคู่ต่อสู้หรอก แต่มันดีต่อวิธีการเล่นของ หง็อก ไห่ มากกว่า เพราะหลังจากนั้นแนวทางการเล่นนอกเกมของเขามักจะมาในรูปแบบจอมเจ้าเล่ห์ หรือคนที่ยั่วประสาทมากกว่าการมาไล่เตะหักขาเพื่อนร่วมอาชีพอะไรแบบนั้น
ซึ่งหากคนไทยยังจำกันได้ หง็อก ไห่ ถือเป็นตัวตึงที่มีคดีแทบทุกรอบในการเจอกับไทย หรือแม้แต่เกมที่ไม่แข่งกับไทย เขาก็ยังสร้างคอนเท้นท์ได้ตลอด เช่นการแข่งขันคิง คัพส์ เมื่อปี 2019 ที่ บุรีรัมย์ เป็นเจ้าภาพ โดย เวียดนาม นั้นผ่านไทยเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศกับ กือราเซา โดยในเกมนั้นชิงต้องต่อเวลาไปจนถึงการดวลจุดโทษ ซึ่ง หง็อก ไห่ ที่รับหน้าที่สังหารก็ยิงประตูช่วยให้เวียดนามเป็นแชมป์ได้สำเร็จ แต่เหนือกว่าผลการแข่งขันคือหลังจากที่เขายิงเข้า เขาตั้งใจมองไปที่กองเชียร์ทีมชาติไทย และแสดงท่าทางยั่วยุ ประมาณว่า "ขออีก โห่มาอีก" ซึ่งนั่นถือเป็นปฐมบทที่ทำให้แฟนบอลไทยจำเขาขึ้นใจเลยก็ว่าได้
ไหนจะวีกรรมในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2020 หง็อก ไห่ ก็ยังสร้างโจทย์แบบไม่ลดละด้วยการเตะบอลอัดใส่ สุภโชค สารชาติ ที่เสียหลักล้มลงจากการถูกทำฟาวล์ เท่านั้นแหละ ชื่อ หง็อก ไห่ ก็ถือเป็นแบล็คลิสต์ของแฟนบอลไทยแบบที่ไม่เคยมีใครเป็นมาก่อน
นอกจากนี้ หง็อก ไห่ คนเดิมยังเป็นหัวหอกในการไล่หวดนักเตะไทยซึ่งทำให้ภาพจำของเขาชัดขึ้นเรื่อย ๆ ในระยะเวลาต่อมา โดยเฉพาะเมื่อเล่นร่วมกับ ดวน วาน เห่า ยิ่งถือว่าเป็นคอมโบเซ็ตที่แฟนบอลไทยเห็นหน้าก็รู้เเล้วว่าการเข้าบอลสุดโหดจะมาเยือน
คนไทยมองตัวร้าย เวียดนามมองพระเอก
ไม่ว่าเราคนไทยจะมองเขาคนนี้อย่างไร แต่ที่เวียดนาม หง็อก ไห่ คือประเอกโดยสมบูรณ์แบบ ชาวเวียดนามและสื่อเวียดนาม ต่างก็เรียกเขาในอีกชื่อว่า "ยอดกัปตัน" เพราะนอกจากจะเป็นคนที่ดุดันไม่เกรงใจใครเเล้ว ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เช่นการได้จุดโทษในช่วงท้ายเกม หง็อก ไห่ ถือเป็นคนที่ พัค ฮัง ซอ วางหน้าที่ไว้เป็นตัวหลักในสถานการณ์แบบนี้โดยเฉพาะ
ภาพของ หง็อก ไห่ เปรียบเสมือนพี่ใหญ่ของทีมชาติเวียดนาม เพราะกลุ่มนักเตะที่ถูกเรียกว่ายุคทอง 2018 ของพวกเขา ยังมีอายุแค่ 20 ต้น ๆ เท่านั้น ดังนั้นการมีพี่ใหญ่อย่าง หง็อก ไห่ จึงเหมือนเป็นการมีแม่ทัพในสนาม ยกตัวอย่างเช่นในเกมกับ เยเมน ในปี 2019 ที่ เวียดนาม ได้จุดโทษท้ายเกม โดยปกติแล้ว เหงียน กวง ไห่ จะเป็นคนรับผิดชอบ ทว่าในเกมนั้น หง็อก ไห่ คือคนที่ ฮัง ซอ เลือก และเขาก็จัดการเก็บงานได้อย่างไม่มีที่ติ ด้วยการวิ่งมายิงแปเล่นทางเเบบเยือกเย็น
หลังเกมนั้นสื่อเวียดนาม เขียนถึง หง็อกไห่ว่า "เขาโตขึ้นหลังจากได้สวมปลอกแขนกัปตัน ประตูนี้ตอกย้ำความเป็นนักเตะที่กล้าหาญของเขา และเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม หง็อก ไห่ ใน "เวอร์ชั่นผู้ใหญ่" จึงเป็นนักเตะที่คู่ควรกับตำแหน่งกัปตันทีมที่ได้รับมอบหมายจาก พัค ฮัง ซอ"
อย่างไรก็ตามหลังจบเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกที่เวียดนามไปถึงรอบ 10 ทีมสุดท้าย และต้องตกรอบด้วยการมีเพียง 4 คะแนน พัค ฮัง ซอ ก็ตัดสินใจเปลี่ยนกัปตันทีม ซึ่งให้เหตุผลว่าเป็นการเปลี่ยนเพื่อสร้างบรรยากาศใหม่ ๆ และให้โอกาสทีมที่กำลังจะเปลี่ยนไปสู่อีกยุคสมัย ซึ่งตัวของ หง็อก ไห่ ก็ยอมรับแต่โดยดี ก่อนที่จะปลอกแขนจะกลายเป็นของกัปตันคนใหม่อย่าง โด ฮุง ดุง ที่มีการยืนยันว่าเป็นนักเตะลูกรักอีกหนึ่งตนของ พัค ฮัง ซอ
แต่ที่สุดแล้วไม่ว่าจะมีปลอกแขนหรือไม่ หง็อก ไห่ ยังคงความห้าวเหมือนเดิม ก่อนเกมเลกที่ 2 จะมาถึงเขาเป็นคนให้สัมภาษณ์กับสื่อและปลุกใจเพื่อนร่วมทีมรวมถึงแฟนบอลทั้งประเทศว่า "เวียดนาม พร้อมแล้ว เราจะเดินลงสนามในเลกที่สองด้วยความมุ่งมันอย่างที่สุด เราจะอุทิศตนจนหยดสุดท้ายเพื่อชาวเวียดนามทุกได้ได้เห็นผลการแข่งขันที่ดีให้ได้"
"นี่คือเกมสุดท้ายในฐานะกุนซือทีมชาติเวียดนามของ พัค ฮัง ซอ ผมทำงานกับเขามา 5 ปี เรามีความสุขและผิดหวังมาก็ไม่น้อย ดังนั้นเป้าหมายเดียวที่เราคาดหวังจากเกมนี้คือการคว้าชัยชนะและเอาถ้วยเแชมป์กลับบ้านเพื่อประชาชนชาวเวียดนามทุกคน" เกว๋ หง็อก ไห่ กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Inverted Wing Back : ตำแหน่งที่ทำให้ ธีราทร เล่นกองกลางได้เนียนตา
นอนนาน เปลี่ยนตัวช้า ยั่วให้วุ่นวาย: ทำไมแทคติก “ถ่วงเวลา” ควรหายไปจากบอลอาเซียน ?
เรื่องเล่าจาก ธีรเทพ : เล่นกับ เวียดนาม ในเกมเยือนนัดชิงต้องเจอกับอะไรบ้าง ?
แหล่งอ้างอิง
https://laodong.vn/the-thao/que-ngoc-hai-xung-dang-la-thu-linh-cua-cac-chien-binh-sao-vang-652759.ldo
https://baonghean.vn/van-duc-lam-kho-que-ngoc-hai-trong-tran-dau-tap-cua-slna-post253026.html
https://tuoitre.vn/que-ngoc-hai-tra-loi-phong-van-fifa-tat-ca-nguoi-viet-nam-deu-mo-ve-world-cup-20210901160042304.htm
https://autopro.com.vn/cuoc-song-mo-uoc-cua-que-ngoc-hai-nha-pho-3-tang-tau-xe-porsche-bac-ty-cuoi-vo-hoa-khoi-20220604073651937.chn
https://thanhnien.vn/khat-vong-cua-que-ngoc-hai-post1440936.html