ทายาทธีรศิลป์? ปรเมศย์ อาจวิไล : ความหวังใหม่ ในแดนหน้าทีมชาติไทย

ทายาทธีรศิลป์? ปรเมศย์ อาจวิไล : ความหวังใหม่ ในแดนหน้าทีมชาติไทย
Korkit PS

ทีมชาติไทย เตรียมทำศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่จะพบกับทีมชาติเกาหลีใต้ ใน 2 เกมจากนี้ โผ 23 ผู้เล่นที่ มาซาทาดะ อิชิอิ ประกาศออกมา โดยเฉพาะตำแหน่งกองหน้า ในวันที่ไม่มีชื่อของ ธีรศิลป์ แดงดา อิชิอิ เลือก 3 ผู้เล่นอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ ปรเมศย์ อาจวิไล เข้าร่วมทีมชุดนี้

โดยเฉพาะรายของ ปรเมศย์ ที่ถือว่าเป็นการรีเทิร์นกลับมาเล่นทีมชาติไทยในรอบ 6 เดือน หลังเจ้าตัวมีชื่อครั้งสุดท้าย ในชุดที่ทำศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 เมื่อเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมา

และด้วยผลงานกับเมืองทอง ยูไนเต็ด สไตล์การเล่น ถูกพูดถึงว่ามีความละม้ายคล้ายคลึงกับ ธีรศิลป์ แดงดา รุ่นพี่และไอดอลของเจ้าตัว รวมไปถึง แฮร์รี่ เคน ดาวยิงกัปตันทีมชาติอังกฤษ แต่มีความคล้ายคลึง และมีจุดเด่นอย่างไร ติดตามได้ที่ คิดไซด์โค้ง

ยอดเพชฌฆาต

ในวันที่ระบบกองหน้าตัวเป้า เริ่มจะถูกกลืนไปเป็นปีกมากยิ่งขึ้น มันย่อมส่งผลถึงการตัดสินและการชี้ขาดผลการแข่งขันในสนาม ซึ่งในบางครั้งกองหน้าในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ยืนรอบอลแล้วยิงประตู

ยิ่งกับระบบการเล่นในปัจจุบัน ที่เน้นการครองบอลในแดงกลางมากขึ้น กองหน้าสไตล์รับจบ ยิ่งไร้บทบาทในสนาม และเป็นการทำให้กองหน้าในยุคปัจจุบัน ต้องมีมากกว่านั้น-ทั้งเรื่องของการหาช่อง การไปกับบอล การเล่นร่วมกัน การสร้างสรรค์โอกาส หรือบางครั้งต้องมีส่วนร่วมในการเล่นเกมรับ

แต่ก็ใช่ว่ากองหน้าสไตล์ตัวเป้ารับจบ จะหายไปหมด เพียงแต่ต้องปรับตัวเพื่อช่วยทีมทำประตูให้ได้และต้องสร้างสรรค์โอกาสกับเพื่อนร่วมทีมให้เป็น

กล้าปั้น!

เมื่อกองหน้าในปัจจุบัน จะมาคอยบอลรับจบไม่ได้ สิ่งสำคัญของกองหน้าในยุคปัจจุบัน คือการครองบอลและหาโอกาสสร้างเกมรุกให้คู่แข่งมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่ดี คือ แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ของ บาเยิร์น มิวนิค สำหรับ เคน เขาก้าวมาเป็นกองหน้าตัวความหวังได้นตั้งแต่สมัยอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ซึ่งเดิมทีเขาดูเป็นกองหน้าสไตล์อังกฤษคือการยืนรอบอลเพื่อรับจบ ทว่า เคน ก็ได้พัฒนาตัวเองให้มีบทบาทในการสร้างสรรค์เกมรุกมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ย้อนกลับไปในช่วงแรกๆ ของเขาในฐานะตัวหลักของทัพไก่เดือยทอง (2014/15) เจ้าตัวมีพัฒนาการในการสร้างสรรค์โอกาส แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ยังเป็นกองหน้าตัวรับจบอยู่ อย่างในฤดูกาล 2017/18 เคนยิงได้ 41 ประตูรวมทุกรายการ ซึ่งจุดนี้ยังสะท้อนบทบาทกองหน้าของเขาว่า "แต่ยิงได้เป็นพอ"

แต่ด้วยอาการบาดเจ็บ และการเข้ามาของ โจเซ่ มูรินโญ่ เคน ต้องปรับตัวในการเล่นครั้งสำคัญ คือการต้องพยายามวิ่งเพื่อสร้างสรรค์โอกาสให้มากกว่าบทบาทที่ตัวเขาเป็น

นั่นคือการที่ตัวเขาต้องเป็นตัวที่คอยพักบอลและสนับสนุนให้เพื่อนร่วมทีมในตอนนั้นอย่าง ซน ฮึง มิน ทำประตูและนั่นกลายเป็นการพัฒนาให้ตัวเขาเป็นกองหน้าที่มีความอันตรายมากกว่าการจบสกอร์ โดยเขามีส่วนร่วมกับประตูของสเปอร์ในฤดูกาล 2020/21 เขาทำไป 23 ประตูและทำ 14 แอสซิสต์ซึ่งถือว่าสูงมากๆ

ขณะที่ตัวเขากับบาเยิร์น เขาก็ยังมีบทบาทในการสร้างสรรค์เกมรุกโดยเฉพาะการจบสกอร์ ร่วมไปถึงการเล่นร่วมกับแนวรุกของทัพเสือใต้ และองค์ประกอบที่สอดคล้องกัน จึงไม่แปลกใจว่าผลงานตอนนี้ที่ 31 ประตู 7 แอสซิสต์ ส่งผลให้เขามีอิทธิพลสูงมากๆ ในถิ่นบาวาเรีย

ตัดภาพที่ไอดอลของ ฟร้องซ์ อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา นี่ก็ถือว่าเป็นกองหน้าอีกรายที่เริ่มต้นในฐานะตัวจบสกอร์มาก่อน หากวัดด้วยสถิติ เจ้าตัวมีสถิติการยิงประตูที่สูงอย่างต่อเนื่อง กระทั่งหลังจากการไปเล่นที่ อัลเมเรีย ทำให้มุ้ย ต้องปรับบทบาทจากการเป็นตัวจบสกอร์ ลงมาเป็นการที่เจ้าตัวต้องเข้ามาเล่นร่วม และสร้างสรรค์โอกาสมากขึ้น

ซึ่งตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุด คือฟอร์มการเล่นของมุ้ย กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ช่วยกันประสานงานกับ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ จนมีส่วนกับแชมป์ไทยลีก และผลงานใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ตลอด 2 ซีซั่นก่อนหน้า รวมไปถึง 2 แอสซิสต์ล่าสุด ในเกมที่ทีมชาติไทย เอาชนะ สิงคโปร์ ในเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกที่ผ่านมา

(ว่าที่)ทายาทธีรศิลป์?

หากพูดถึง ทายาท ธีรศิลป์ แดงดา คนต่อไป เราอาจมองถึง ศุภชัย และ ศุภณัฏฐ์ และอาจรวมไปถึงคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้อย่าง ธีระศักดิ์ เผยพิมาย แต่ในเคสของ ปรเมศย์ เอง เขาก็มีดีไม่แพ้ใคร

สิ่งแรกที่ชัดเจนคือเรื่องของการครองบอล ด้วยดีกรีเป็นแชมป์เดาะบอลระดับโลก เจ้าฟร้องซ์ได้เปรียบในส่วนนี้ รวมไปถึงจุดเปลี่ยนสำคัญอย่างอาการบาดเจ็บหนักในปี 2019 และการเข้ามาของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่ค่อยๆ ส่งเขาไปเล่น โดยยืนเป็นกองหน้าตัวต่ำ นั่นทำให้เขาเรียนรู้ที่จะเป็นตัวสนับสนุนกองหน้าต่างชาติของทีมทั้ง วิลเลี่ยน พ๊อพพ์ หรือ เฮนรี่ อานิเยร์

เอาเฉพาะสถิติ 3 ฤดูกาลหลังที่ก้าวมาเป็นตัวหลัก เขาค่อยๆ พัฒนาการเล่นร่วมกับทีม จากซีซั่น 2020/21 ที่ทำได้เพียงประตูเดียว เขามีส่วนร่วมต่อเนื่องจาก 3-6 และ 9 ประตูในฤดูกาลนี้ รวมไปถึงเวลานี้เขาทำไป 5 แอสซิสต์

ซึ่งหากด้วยจำนวนประตู เทียบกับ 3 คนที่ว่ามาอาจจะดูด้อย แต่สิ่งที่ฟร้องซ์มีประโยชน์และตรงกับจริตกองหน้ายุคใหม่ คือการลงมาช่วยสร้างสรรค์เกม และหาช่องต่อเนื่องให้กับแนวรุกของทีม

และสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เราอาจจะได้เห็น ปรเมศย์ ในอีกมุมมองหนึ่ง และนี่คือตัวเลือกแห่งอนาคต ของ กองหน้าทีมชาติไทยที่เราหลายคนกำลังเพียรตามหาว่า "หมดจากธีรศิลป์แล้ว ใครคือความหวังในแดนหน้าของทีมชาติไทย?"

อ้างอิง

แชร์บทความนี้
ขมิ้นน้อยบนหลังเสือ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ