ทีมเริ่มเปลี่ยน : เหตุผลที่อาจทำให้ ‘ศุภณัฏฐ์’ แย่งตัวจริงใน ‘โอเอช ลูเวิน’ ยากกว่าเดิม ?

By ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

22 พ.ย. 2024 , 03:41น.

หลังจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสร ‘โอเอช ลูเวิน’ ลงข่าวอัพเดทความพร้อมล่าสุดเรื่องตัวผู้เล่นของทีม ซึ่งภายในเนื้อข่าวมีการยืนยันอย่างชัดเจนว่า ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา แนวรุกดาวรุ่งวัย 21 ปี ที่ยืมตัวไปจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ได้มีส่วนร่วมกับต้นสังกัดในเกมเหย้ากับ สตองดาร์ด ลีแอช ลงเตะไปเมื่อช่วงดึกคืนวันเสาร์เวลา 23.15 น. แล้วลงเอยด้วยการพ่ายคาบ้าน 1-2 เพราะอาการบาดเจ็บแฮมสตริง

อย่างที่ทราบกันดีว่า แบงค์ กว่าจะไปลงเอยกับต้นสังกัดใหม่ได้ ต้องเดินทางกลับมายังประเทศไทย เพื่อจัดการเอกสารการทำงานให้เรียบร้อยเป็นเวลาหลายสัปดาห์ แล้วพอจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นได้ลงประเดิมสนามเกมแรกกับ เกนท์ ก็เป็นการลงเล่นในทีมยู-23

ต่อให้เขาจะทำได้ 1 แอสซิสต์ ด้วยการไขว้จ่ายอย่างสวยงามให้กับเพื่อนร่วมทีม แสดงให้เห็นถึงเซ้นส์บอลที่ไม่ธรรมดาในการเล่นบนลีกยุโรปครั้งแรก แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็มีอาการบาดเจ็บแฮมสตริง จนต้องใช้เวลาพักฟื้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะดีลนี้มีระยะเวลาให้พิสูจน์ตัวเองแค่ 1 ปีเท่านั้น

ยิ่งสถานการณ์ของ ลูเวิน ในตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ รั้งอยู่อันดับที่ 13 ของตารางคะแนน เก็บไปเพียง 9 แต้ม จากการลงเล่นทั้งหมด 8 นัด ส่งผลให้เก้าอี้กุนซือของ มาร์ก บรีส์ กุนซือมากประสบการณ์สั่นคลอนอยู่ไม่น้อย ซึ่งน่าจะส่งผลต่อการเสี่ยงส่งนักเตะใหม่อย่าง แบงค์ ลงประเดิมสนามแน่นอน

ความยาก-ง่ายของ ศุภณัฏฐ์ ในการเอาชนะใจ บรีส์ เพื่อโอกาสได้ลงสนามเป็นตัวจริงต้องคำนวณจากปัจจัยใดบ้าง? ข้อผิดพลาดสำคัญที่ทำให้เขาต้องตามหลังคนอื่นอยู่คืออะไร? การเลือกใช้ผู้เล่นของกุนซือมีใครบ้างที่เขาต้องแข่งโดยตรง? ร่วมวิเคราะห์หาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

จุดเริ่มต้นหลังคนอื่นๆ

ชัดเจนอยู่แล้วว่าประธานสโมสร ปราสาทสายฟ้า อย่าง เนวิน ชิดชอบ มีเป้าหมายปลายทางที่แน่นอนสำหรับผู้เล่นไทยที่มีศักยภาพภายในทีม ด้วยการผลักดันเหล่านักเตะนั้นออกไปค้าแข้งยังต่างแดน ซึ่งเป้าหมายของแต่ละคนต้องพิจารณาตามความเหมาะสมเป็นรายๆ ไป

อย่างไรก็ตามเคสของ ศุภณัฏฐ์ มีเพียงการกำหนดคร่าวๆ ไว้เท่านั้นว่า การออกไปเล่นลีกยุโรป คือ เป้าหมายที่ตั้งธงเอาไว้ เพียงแต่ไม่มีการฟันธงว่าจะลงเอยกับสโมสรใดกันแน่ระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ประเทศอังกฤษ หรือ โอเอช ลูเวิน สโมสรที่อยู่ในลีกสูงสุดประเทศเบลเยี่ยม

เป็นที่ทราบกันดีว่า ลุงเน มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ซึ่งเป็นผู้บริหารชาวไทยที่อยู่เบิ้องหลังโดยตรงกับเงินทุนของทั้งสองสโมสรที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งตัวของ คุณต๊อบ ก็ชื่นชอบฝีเท้าของ แบงค์ มาตั้งแต่สมัยเป็น วันเดอร์ คิดส์ อายุไม่ถึง 20 ปี แล้วต้องการดึงตัวไปอยู่กับ สุนัขจิ้งจอก ตามที่เคยกล่าวไว้ว่า

"ผมพยายามหาทางอยู่ ศุภณัฏฐ์ เป็นนักเตะที่มีความสามารถและอยากให้เซ็นสัญญากับเลสเตอร์ให้ได้ แต่ด้วยกระบวนการหลายๆ อย่างมันไม่ง่ายขนาดนั้น จึงอยากให้มาร่วมซ้อม เพื่อให้โค้ชคนใหม่และทีมงานได้เห็นก่อน ไม่ปิดโอกาสอื่นๆ ถ้าหากว่าเวิร์กเพอร์มิตมีปัญหา ตอนนี้ก็ได้ส่ง ศุภณัฏฐ์ ไปซ้อมกับโอเอช ลูเวิน กำลังดูว่าหนทางไหนเหมาะสมที่สุด อยากให้อดใจรอสักนิด"

"ทุกคนชื่นชอบ เป็นเด็กที่มีความสามารถจริงๆ แต่ต้องดูหลายๆ ด้านด้วย เราไม่อยากให้เด็กย้ายมาแล้วไม่ได้ลงสนาม มันจะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและหลายๆ ด้าน"

สุดท้ายแล้ว แบงค์ ก็ไปลงเอยกับ โอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยี่ยม ซึ่งมีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่สวมใส่หมายเลข 19 ระยะเวลาสัญญายืมตัวยาว 1 ปี และหากอ้างอิงจากคำพูดของ ลุงเน หากยกเลิกสัญญาในระยะเวลา 6 เดือน มีกรณีเดียว คือ ศุภณัฏฐ์ จะย้ายไปเล่นให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้

อย่างไรก็ตามด้วยการไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอนตอนแรกว่าจะไปอยู่กับทีมใดกันแน่ ส่งผลให้ ศุภณัฏฐ์ เสียเวลาเปล่าไปกับการจัดการเอกสารเพื่อไป ลูเวิน และเดินทางไปร่วมทีมช้ากว่าเพื่อนๆ คนอื่นในทีม ซึ่งถ้าวิเคราะห์กันตามตรงจากมุมมองของกุนซืออย่าง บรีส์ ย่อมมอง่า แบงค์ ตามหลังผู้เล่นคนอื่นๆ ด้านความพร้อม

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเข้าใจแท็คติก, สภาพร่างกาย และ ภาษา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงเรื่องของการปรับตัว แล้วนักเตะก็ออกมายอมรับตามตรงแล้วว่า ภาษาที่ใช้สื่อสารเป็นปัญหาของเขาไม่น้อย เนื่องจากที่เบลเยี่ยมไม่ได้ใช้ ‘ภาษาอังกฤษ’ เป็นหลัก

แนวทางของโค้ช

มาร์ก บรีส์ ค่อนข้างจะเป็นกุนซือที่มีความ ‘ขบถ’ อยู่ในแนวคิดการทำทีมไม่น้อย แม้ว่าจะโดนเสียงวิจารณ์ต่อผลงานที่ไม่ค่อยดีในช่วงเปิดซีซั่น ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยสะทกสะท้านเท่าไหร่ พร้อมกับมีแผนสองในการแก้ไขสถานการณ์เอาไว้ในหัวล่วงหน้า

แผนการเล่นที่เขาชื่นชอบใช้งานเป็นประจำจะมีแค่ 3 ฟอร์เมชั่นหลักๆ คือ 4-2-3-1, 4-3-3 และล่าสุด 3-4-2-1 ที่ทำให้ ลูเวิน ไม่แพ้ทีมใดในลีกมาแล้ว 3 นัดติดต่อกัน ก่อนจะมาเขื่อนแตกเกมล่าสุดสดๆ ร้อนๆ ซึ่งเชื่อว่าเขาคงจะยึดแผนนี้ต่อไปจากความพร้อมของตัวผู้เล่นที่มีอยู่ บวกกับสถานการณ์ของทีมที่กำลังเป็นอยู่

แนวรุกสามคนที่ บรีส์ เลือกใช้งานเป็นหลักในช่วงสี่เกมหลังในตำแหน่งตัวริมเส้นสองฝั่ง มีแค่ตัวหน้าเดิมๆ 3 คน ประกอบไปด้วย จอน ดากูร์ ทอร์สเตนสัน, โซฟียาน คียิน และ ยูสเซฟ มาซิซ คอยสนับสนุนหน้าเป้าตัวหลักอย่าง โจนาธาน เบราต์ บรูนส์

ซึ่งวิเคราะห์ได้ไม่ยากว่า บรีส์ มักจะให้ผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และมีสิทธิพิเศษในการเลือกใช้งานก่อนคนอื่นๆ ตามที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า

"ผมมีแนวทางการบริหารจัดการทีมที่ต่างออกไป ทีมตัวจริงจะมีสิทธิ์ในการพูดคุยปรึกษากันเอง หากผู้เล่นคนไหนทำผลงานได้ดี เขาก็จะได้รับสิทธิพิเศษในการสั่งการผู้เล่นคนอื่นๆ”

"ผมเป็นคนที่มีเหตุมีผล ไม่ใช่โค้ชแนวขายความสำเร็จแบบรวดเร็วแล้วออกไปเคลมผลงานตามหน้าสื่อ บางสิ่งที่ผมตัดสินใจทำลงไปมันอาจทำให้แฟนบอลประหลาดใจ แต่ผมไม่ยึดติดกับการใช้นักเตะคนไหนแบบถาวร"

"มันเป็นเรื่องยากที่ทีมของเราจะทาบชั้นสโมสรอื่นๆ ที่เหนือกว่าพวกเราได้แบบทันที แต่เราต้องพยายามลดช่องว่างเหล่านั้นลงมา ด้วยการใช้ จิตวิทยา, แท็คติก และ สภาพความฟิตของนักเตะ"

จากประโยคที่กล่าวมาข้างต้น บรีส์ เป็นโค้ชที่ยึดผลงานในสนามของนักเตะเป็นเกณฑ์ หมายความว่า หากใครชนะใจของเขาจนเป็นตัวจริงได้แล้ว และสามารถทำผลงานได้ตามมาตรฐานแบบต่อเนื่อง โอกาสที่จะอยู่ในสายตาของเขาก็จะมากเป็นพิเศษ ดังนั้นในเคสของ แบงค์ คงต้องเริ่มจากเอาชนะใจกุนซือเป็นด่านแรก

ผลงานของคู่แข่ง

ถ้าวัดกันจากฟอร์มตอนนี้แล้ว จอน ดากูร์ ทอร์สเตนสัน และ ยูสเซฟ มาซิซ ที่แต่ละคนต่างยิงไปแล้ว 2 ประตูในซีซั่นนี้ โดยมี คียีน, นาธาเนียล โอโปกู (1 ประตู), โคน็อง เอ็นดรี และ นาชอน เอ็นซ็องกี้ เป็นตัวสอดแทรก

ส่วนผลงานของ แบงค์ มีเพียงการได้รับคำชมจากกุนซือทีมยู-23 อย่าง เอ็ดดี้ ฟานเฮเมล ในเกมที่เจ้าตัวลงสนามในเกมกับ เกนท์ แล้วทำไป 1 แอสซิสต์ เอาไว้ว่า

"ก่อนอื่นผมไม่ค่อยชอบพูดถึงนักเตะแต่ละคน เพราะเราเล่นกันเป็นทีมมากกว่า ถ้าเราพูดถึงแต่แบงค์คนเดียว เราอาจกำลังสร้างผลกระทบให้กับผู้เล่นคนอื่น"⁣

"แต่หากผมถูกถามเจาะจงลงไปเกี่ยวกับเกมของเขา ผมคงต้องบอกว่า แม้ว่าเขาจะมาอยู่เบลเยียมแค่ไม่กี่วัน แต่เขาก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีศักยภาพ เขามีความเร็ว ความสามารถเฉพาะตัว และการคุกคามคู่ต่อสู้ เขาเป็นนักเตะที่ดี ผมยินดีที่ได้ร่วมงานกับเขา"

ถ้ามองกันตามหน้าเสื่อแล้ว ศุภณัฏฐ์ ยังต้องทำงานหนักอีกพอสมควร เพราะเริ่มต้นจากจุดสตาร์ทช้ากว่าผู้เล่นรายอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่ง แถมสภาพร่างกายก็ยังไม่พร้อมเต็มร้อย มีอาการบาดเจ็บรบกวน และต้องใช้เวลาในการปรับตัวเพิ่มเติม พอบวกเข้ากับช่วงเวลาเอาชนะใจ บรีส์ กุนซือใหญ่ของทีมที่มีจำกัดเพียง 1 ปี

ทุกองค์ประกอบล้วนชี้ไปในทางเดียวกันว่า งานนี้หนักแน่ ซึ่งแฟนบอลชาวไทย คงทำอะไรไปไม่ได้มากกว่าส่งกำลังใจไปร่วมสนับสนุนร่วมเชียร์ จนกว่าจะได้เห็น แบงค์ ลงประเดิมสนามในลีกยุโรปกับ โอเอช ลูเวิน ชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะกลายเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับนักเตะสัญชาติไทยแท้ๆ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https://www.dailynews.co.th/news/2553877/

https://thinkcurve.co/kh-nefirm-suphnatth-ecchbaehmstring-t-ngphakhlaaysapdaah/

https://thinkcurve.co/okhchluuewin-u23-chuu-suphnatth-sakyphaaphsuung-hlangthamae-schisttangaetekmaerk/

https://thinkcurve.co/echkhcchaakphlngaan-opraifltawruk-ohl-t-nnii-suphnatth-miio-kaasaidelnaekhaihn/

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

คอนเฟิร์ม ศุภณัฏฐ์ เจ็บแฮมสตริง ต้องพักหลายสัปดาห์