ทีมยอดเยี่ยมไทยลีก ประจำฤดูกาล 2023/2024

By admin

7 ก.ย. 2024 , 06:27น.

ฟุตบอลรีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2023/24 สิ้นสุดเป็นที่เรียบแล้ว โดยบทสรุป เป็นทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ผงาดแชมป์ลีก 3 สมัยต่อกัน และเป็นแชมป์สมัยที่ 9 นับแต่เทคโอเวอร์จาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในปี 2010 

ด้านรองแชมป์ของฤดูกาลนี้ ได้แก่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ออกซองได้สวยจนจบแชมป์เลกแรก ทว่าช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลพวกเขาพลาดท่าทำแต้มหลุดมือจนต้องชวดแชมป์อย่างน่าเสียดาย

ตลอดทั้งฤดูกาล มีผู้เล่นหลายคน ที่ทำผลงานได้อย่างน่าสนใจ และเป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่องตลอด 10 เดือน 480 เกม ของฤดูกาล 2023/24 Think Curve - คิดไซด์โค้ง จึงขอเสนอ ‘ทีมยอดเยี่ยม’ ของไทยลีก ฤดูกาล 2023/24 ของเราว่าจะมีใครกันบ้างติดตามได้ที่นี่

ผู้รักษาประตู : ปฏิวัติ คำไหม (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

ลงเล่น 26 นัด 13 คลีนชีท

ชั่วโมงนี้ หากพูดถึงผู้รักษาประตูฝีมือดี และฟอร์มโดดเด่นในไทยลีก ฤดูกาล 2023/24 คงหนีไม่พ้น นายทวารจากสมุทรปราการ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 แทนที่ของ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด

ด้วยจุดเด่นจากออกบอลด้วยเท้า ฝีมือในการเซฟประตู เจ้าไมค์ แสดงให้เห็นว่า เขาคือ ‘ยอดนายทวารฝีมือดี’ อีกราย เมื่อเก็บไปได้ถึง 13 คลีนชีท จากการลงสนาม 26 นัด ซึ่งทำได้มากที่สุดในไทยลีก 2023/24 เคียงคู่กับ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ผู้รักษาประตูจอมเก๋าของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

จึงไม่แปลกที่ ปฏิวัติ จะก้าวไปเป็นมือหนึ่งทีมชาติไทย ใน พ.ศ. นี้และมีส่วนให้ แข้งเทพ ก้าวมาเบียดลุ้นแชมป์กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้อย่างสูสี ในปีนี้!

แบ็กขวา : ทริสตอง โด (เมืองทอง ยูไนเต็ด)

ลงเล่น 26 นัด ยิง 2 ประตู 3 แอสซิสต์

จากที่จะไม่มีทีมลงเล่น แต่ดาวเตะลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส เสมือนถูกชุบชีวิตใหม่ ภายใต้บ้านหลังเดิมที่ธันเดอร์โดม

ด้วยเป็นแบ็กประเภท ‘วิ่งสุด-ลงสุด’ ทริสตอง โด จึงเป็นตัวเลือกแรกๆ ในตำแหน่งแบ็กขวาในถิ่นกิเลนผยอง และรอบนี้ เขาเพิ่มเติมด้วยทักษะการเปิดบอลที่แม่นยำขึ้น เจ้าตัวจองสัมปทานฝั่งขวาอย่างถาวรในถิ่นกิเลนผยอง และช่วยยกระดับเกมรุกที่มีผู้เล่นอายุน้อย ได้อย่างน่ากลัว จากผลงาน 2 ประตู 3 แอสซิสต์ ในปีนี้

และผลงานอันดับ 5 ในลีก พ่วงเข้าชิง รีโว่ คัพ ในรอบ 7 ปี เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ทริสตอง โด ยังเป็น ‘ของจริง!’

เซนเตอร์แบ็ก : ดิออน คูลส์ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ลงเล่น 28 นัด ยิง 2 ประตู 2 แอสซิสต์

ด้วยประสบการณ์ในระดับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กองหลังกัปตันทีมชาติมาเลเซีย กับไทยลีก จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากสำหรับเขา กับการยืนเป็นกำแพงเกมรับคู่กับ พรรษา เหมวิบูลย์ ในปีนี้ 

ทำให้ บุรีรัมย์ เป็นอีกหนึ่งทีมที่เสียประตูน้อยเป็นอันดับต้นๆ ในลีก ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า การมีเขาในสนาม ทำให้เกมรับของบุรีรัมย์ แข็งแกร่งขึ้น 

และเขามีบทบาทสำคัญในการพาทัพปราสาทสายฟ้า คว้าแชมป์ไทยลีกได้เป็นสมัยที่ 9 ด้วยการยืนเป็นปราการหลังคนสำคัญที่มีโอกาสลงสนามถึง 28 นัด จาก 30 นัดในไทยลีกฤดูกาลนี้

เซนเตอร์แบ็ก : เอเวอร์ตัน กอนซาเวส (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

ลงเล่น 28 นัด ยิง 5 ประตู แอสซิสต์ 1 ครั้ง

ปราการหลังชาวบราซิเลียน ยังคงรักษามาตรฐาน และเป็นหัวใจหลักในเกมรับของพลพรรคแข้งเทพ

โดยในฤดูกาลนี้ เขาดักตัดบอลได้ถึง 48 ครั้ง มากที่สุดในไทยลีกฤดูกาล 2023/24 และเป็นส่วนหนึ่งที่ทีมให้ ทรู แบงค็อกฯ เสียประตู น้อยที่สุดในลีกฤดูกาลนี้ด้วย

แถมในเกมรุก เขาก็มีส่วนร่วมไม่ใช่น้อย เมื่อยิงไปถึง 5 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ทัพแข้งเทพ จบฤดูกาลด้วยการเป็นรองแชมป์ไทยลีก รวมถึงได้เข้าชิงเอฟเอ คัพ อีกด้วย

แบ็กซ้าย : ธีราทร บุญมาทัน (แบ็คซ้าย)

ลงเล่น 27 นัด ยิง 2 ประตู แอสซิสต์ 12 ครั้ง

แม้ว่าจะถูกลงมาเล่นแดนกลางอยู่บ่อยครั้ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เซนส์แบ็กซ้ายในตัวของ ธีราทร ยังคงไว้ใจได้เสมอ แม้จะอายุถึง 34 ปีแล้วในฤดูกาลนี้

ทีเด็ดของเขาอย่างการสร้างโอกาสให้เพื่อนยังคงเฉียบคมชนิดหาตัวจับยาก เมื่อเป็นคนเปิดทางให้เพื่อนทำประตูไปถึง 12 แอสซิสต์ ยิงเอง 2 ประตู และยังสร้างโอกาสตลอดทั้งฤดูกาลไปถึง 84 ครั้ง ขึ้นแท่นเป็น ‘จอมแอสซิสต์’ ในไทยลีกปีนี้ และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพาทัพปราสาทสายฟ้าคว้าแชมป์ลีกมาครองได้อีกสมัย

กองกลางตัวรับ : อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ (ลำพูน วอริเออร์)

ลงเล่น 30 นัด ยิง 9 ประตู

ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว อัครพงศ์ เพิ่งกลับมาจากปลดประจำการ และลงเล่นให้ทีมในระดับไทยลีก 3 อยู่เลย แต่มาบัดนี้ ภาพเล่านั้นเป็นอดีตไปแล้ว หากเทียบกับฟอร์มการเล่นที่ปีนี้เรียกได้ว่า ‘ตีทะเบียนแจ้งเกิด’ ได้เลย

แข้งผลผลิตจาก ปทุมคงคา รับบทบาทเป็นตัวรับและสามารถเปลี่ยนโหมดเป็นจอมทัพได้อย่างไหลลื่น โดยมีส่วนกับการทำประตูถึง 9 ลูกในซีซั่นนี้

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา จึงไม่แปลกใจว่า มาซาทาดะ อิชิอิ จะเรียกแข้งวัย 28 ปี ติดธงไตรรงค์หนแรกในชีวิต!

ปีกขวา : เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)

ลงเล่น 27 นัด ยิง 8 ประตู แอสซิสต์ 5 ครั้ง

นี่คืออีกแข้ง ที่ถูกชุบชีวิตใหม่ใต้ชายคา ธันเดอร์โดม สเตเดียม เจริญศักดิ์ โชว์ฟอร์มอย่างโดดเด่นในซีซั่นนี้ ด้วยผลงาน 8 ประตู กับ 5 แอสซิสต์

ด้วยต้นทุนที่เจ้าตัวมีความเร็ว และการเล่นร่วมที่เฉียบคม ทั้งหมดเป็นส่วนผสมที่ชูรสให้เกมรุกของเมืองทอง จัดจ้าน และอันตราย จนสามารถพาทีมจบอันดับ 5 ของตารางได้สำเร็จ

และด้วยฟอร์มแบบนี้ บางที ไทยลีก อาจจะเล็กเกินไปสำหรับ เท่ และมีข่าวว่า ปลายทางต่อไปของปีกรายนี้ อาจจะไปถึง ‘เจลีก’! 

ปีกซ้าย : วิลเลียน พ๊อพพ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)

ลงเล่น 23 นัด ยิง 17 ประตู แอสซิสต์ 4 ครั้ง

ลองคิดเล่นๆ ว่า หากกิเลนผยองในปีนี้ ไม่มีวิลเลียน พ๊อพพ์ พวกเขา อาจจะมาไม่ถึงอันดับ 5 ของตาราง!

เพราะฤดูกาลนี้เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมสำหรับ พ๊อพพ์ ไม่ว่าจะด้านการถล่มประตู หรือ การมีส่วนร่วมกับทีม

เมื่อทำรวมทั้งประตูและแอสซิสต์ไปถึง 21 ประตู แถมมีส่วนสำคัญอย่างมากในเกมรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลรีโว่ คัพ ที่เอาชนะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไป 2-0 พาทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ

กองกลางตัวรุก : ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ลงเล่น 29 นัด ยิง 21 ประตู แอสซิสต์ 7 ครั้ง

21 ประตู ดาวซัลโวไทยลีก 2 สมัย เป็นสิ่งที่นิยามผลงานของ ศุภชัย ได้เป็นอย่างดีแบบ ‘ไร้ข้อกังขา’

นอกจากการถล่มประตูที่เป็นเครื่องหมายการค้า การสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม เจ้าอาร์ม ทำได้ดีไม่แพ้กัน จากผลงาน 7 แอสซิสต์ ทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับประตู (ยิง+แอสซิสต์) มากที่สุดในไทยลีกฤดูกาลนี้ที่จำนวน 28 ประตู

และในวัย 25 ปี เขายังมีเวลาสร้างประวัติศาสตร์แห่งนี้กับทัพปราสาทสายฟ้าได้อีกยาว หรือบางที การออกไปเล่นต่างประเทศ อาจจะถึงเวลาของ ศุภชัย แล้ว?

กองหน้า : กิลเยร์เม บิสโซลี (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ลงเล่น 15 นัด ยิง 16 ประตู แอสซิสต์ 5 ครั้ง

หากจะบอกว่า ดีลซื้อขายแข้งคนไหนที่ดีที่สุดในไทยลีก ฤดูกาลนี้ กิลเยร์เม บิสโซลี คือคำตอบที่ใช่!

เพราะ 15 เกมในเลกที่สอง บิสโซลี โชว์ฟอร์มถล่มประตูแบบไม่แคร์ผู้มาก่อน ด้วยจำนวนถึง 16 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ จึงไม่แปลกใจว่า เขาคนนี้กำลังจะเป็นความหวังใหม่ ไม่แพ้กับ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต้

น่าจับตามองอย่างใกล้ชิดว่าฤดูกาลหน้าจะยังสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีแบบนี้ต่อไปได้หรือไม่

กองหน้า : วิลเลน โมต้า (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

ลงเล่น 30 นัด ยิง 20 ประตู แอสซิสต์ 6 ครั้ง

หาก เอเวอร์ตัน คือเสาหลักในแนวรับ วิลเลน โมต้า ก็ไม่ต่างอะไรกับคำว่า “เดอะแบก” ในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้

ด้วยผลงาน 20 ประตู และ 6 แอสซิสต์ รวมถึงสร้างสรรค์จังหวะต่างๆ ในแนวรุกในกับทัพแข้งเทพ ส่งผลให้ทีมมาได้ไกลในเวทีฟุตบอลเอเชีย รวมไปถึงการเบียดลุ้นแชมป์กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ผ่านมา

ความจี๊ดจ๊าดที่เป็นเครื่องหมายทางการค้า กลายเป็นทีเด็ดทีขาด ซึ่งส่งให้เจ้าตัวคว้ารองดาวซัลโวไทยลีก ปีนี้ได้สำเร็จ

และนี่คือ ทีมยอดเยี่ยม ในดวงใจของเราชาว Think Curve - คิดไซด์โค้ง แล้วแฟนบอลคิดเห็นอย่างไร ลองมาแลกเปลี่ยนกันได้เลย!