ติอาโก้ ซิลวา : แนวรับบราซิลที่คงยังยืนหยัดในเวทีระดับโลก แม้วัยใกล้ 40 ปี
อายุใช้งานจริงๆของนักฟุตบอลจะอยู่ที่ประมาณ 10-20 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพร่างกายของแต่ละคน แต่ก็มีผู้เล่นไม่กี่คน ที่อายุ 35 ขึ้นไปแล้วยังได้เป็นตัวหลัก ทั้งในทีมชาติและสโมสร
ติอาโก้ ซิลวาคือหนึ่งในนั้น กองหลังวัย 38 ปี เป็นตัวหลักและคนสำคัญของทั้งเชลซีและทีมชาติบราซิล ที่กำลังไล่ล่าแชมป์โลกสมัยที่ 6 ในเวิลด์คัพ 2022 ที่กาตาร์
อย่างไรก็ดี เขาเกือบมาไม่ถึงจุดนี้ และเกือบจะต้องเลิกเล่นฟุตบอลด้วยซ้ำ เกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น ติดตามเรื่องราวของแนวรับหัวใจเหล็กได้ที่นี่ “Think Curve - คิดไซด์โค้ง เขียนให้อ่าน”
เกือบต้องทิ้งความฝัน
ติอาโก ซิลวา ถือเป็นนักเตะที่สร้างชื่อขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เพราะตอนอายุ 20 เขาก็ได้ย้ายมาเล่นในยุโรป แม้ว่าจะเป็นทีมสำรองของ เอฟซี ปอร์โต ในลีกรองของโปรตุเกสก็ตาม
แต่การย้ายมายุโรปครั้งนี้ กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาเกือบเลิกเล่นฟุตบอล เพราะในปี 2005 ตอนที่ถูกปล่อยให้ ดินาโม มอสโก ยืมตัวไปใช้งาน แพทย์ของทีมรู้สึกประหลาดใจกับสภาพร่างกายของเขาที่เหนื่อยง่ายผิดปกติ
ทีมงานถึงจึงจัดการเอาเขาเข้าตรวจร่างกายอย่างละเอียด และพบว่าแนวรับวัย 21 ปีในตอนนั้น เป็นโรคร้ายนั่นคือ วัณโรค
“สภาพอากาศที่รัสเซียมันแย่มากๆ ผมมาถึงและเริ่มล้มป่วย ต้องใช้เวลารักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 6 เดือน แทบจะเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ” ติอาโก้ ซิลวา ย้อนความเล่าให้ฟังกับกัตเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต
“หมอบอกว่าผมเป็นวัณโรคมาแล้ว 6 เดือน ถ้ามาช้ากว่านี้อีกสองอาทิตย์ จะไม่มีทางรักษาได้ และผมอาจจะตายไปแล้วก็ได้” ซิลวาเล่าให้ฟังเพิ่มเติม
ซิลวา ถูกแพทย์จับแยกตัวและรักษาลำพัง เขาได้รับการเสนอจากแพทย์ให้ตัดชิ้นเนื้อบางส่วนออกไปเพื่อรักษาโรค แต่นั่นก็ทำให้เขาต้องเลิกเล่นฟุตบอล ทำให้ ซิลวา ตัดสินใจที่จะปฏิเสธด้วยวิธีนี้ไป
นั่นเป็นเพราะเขายังไม่อยากยอมแพ้ เขาอยากจะเล่นฟุตบอลต่อไป จึงเลือกวิธีรักษาแบบค่อยเป็นค่อยไป แม้มันอาจจะใช้เวลานานกว่า แต่เขาก็เต็มใจ แค่เพียงให้เขาได้อยู่กับฟุตบอลซึ่งเป็นสิ่งที่เขารักต่อไป
ซิลวา ต้องหัดเดินใหม่ตั้งแต่ต้น เขาใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าจะกลับมาวิ่งเบาๆ ได้ แต่ในที่สุดความพยายามของเขาก็มาบรรลุผล เขากลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง และได้ย้ายกลับมาเล่นกับ ฟลูมิเนนเซ่ ในลีกบ้านเกิดที่บราซิล
และที่ฟลูมิเนนเซ่ ก็ทำให้เขาได้แจ้งเกิดอีกครั้ง แม้จะเป็นกองหลังที่รูปร่างไม่ใหญ่มาก แต่ด้วยวิธีการเล่นที่ดุดัน ถึงลูกถึงคน มีความเร็วและมีความแม่นยำในการสกัดจนได้รับฉายาว่า “สัตว์ประหลาด” ทำให้เขาเป็นหนึ่งในกองหลังที่โดดเด่นขึ้นมาในลีกบราซิล
ก่อนที่จากนั้นไม่นาน เขาจะได้ไล่ตามความฝันอีกครั้ง
เรียนรู้จากตำนาน
ปี 2009 ซิลวาได้โอกาสกลับมาเล่นในยุโรปอีกครั้งกับสโมสรใหญ่อย่าง เอซี มิลาน และคราวนี้เขาได้อยู่ร่วมทีมและเรียนรู้วิชากับสองกองหลังระดับโลก อย่าง เปาโล มัลดินี่ และ อเลสซันโดร เนสต้า และได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดภายใต้การคุมทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ
ถึงแม้ในช่วงครึ่งซีซั่นแรก ติอาโก้ ซิลวาจะยังลงเล่นให้ เอซี มิลานไม่ได้ เพราะโควตาในการส่งชื่อผู้เล่นนอกทวีปของ เอซี มิลาน นั้นเต็ม แต่อันเชล็อตติ ดูแลซิลวาอย่างใกล้ชิด ให้ลงซ้อมร่วมกับทีมทุกวัน และพาไปดูเกมด้วยแทบจะทุกเกม แม้แต่เกมเยือน เขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะทำให้ซิลวากลายเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกให้ได้
“ติอาโก้ สิ่งที่คุณต้องเรียนรู้เป็นอย่างแรกคือ ภาษาอิตาเลียนและผมจะพาคุณไปดูทีมเราเล่นทุกเกม เพื่อที่คุณจะได้ศึกษาวิธีการเล่นของมัลดินี่”
ติอาโก้ บอกว่านี่คือสิ่งที่อันเช่ล็อตติบอกกับเขาเมื่อครั้งสมัย เอซี มิลาน
“ในตอนนั้นมัลดินี่ อายุ 40 และยังคงสามารถเล่นได้ดีในระดับสูง เปาโล อาจจะไม่รู้เลยว่า อันเชล็อตติ พูดแบบนั้นกับผม และผมใช้เวลาในช่วงหกเดือนแรกของผมที่เอซี มิลาน นั่งดูศึกษาวิธีการเล่นและร่วมซ้อมกับหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์” ซิลวา กล่าวเพิ่มเติม
หลังจากเรียนรู้อย่างเต็มที่จากตำนาน ติอาโก้ ซิลวา ก็ค่อย ๆ ปรับตัวกับฟุตบอลอิตาเลียนและเริ่มฉายแววกลายเป็นหนึ่งในกองหลังที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งของโลก
มันเป็นช่วงเวลาที่พอดีที่ เปาโล มัลดินี่ กำลังอยู่ในช่วงสุดท้ายของอาชีพค้าแข้ง และได้ซิลวาก้าวขึ้นมาสานต่อ เขายืนตำแหน่งได้อย่างแข็งแกร่งและไร้ที่ติ ลงเล่นคู่กับอเลสซันโดร เนสต้า ได้อย่างเข้าขาและรู้ใจ จนพาทีมคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ได้สำเร็จ
“ติอาโก้ มีคาแรคเตอร์ที่คล้าย ๆ บาเรซี่ เวลาที่มีพวกเขาอยู่ในสนามพวกคุณจะรู้สึกปลอดภัย” คำชมจาก เปาโล มัลดินี่
ปี 2012 เขาถึงเวลาต้องโยกย้ายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คือการย้ายทีมครั้งสำคัญ นั่นคือการย้ายไปร่วมทัพ เศรษฐีหน้าใหม่ อย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ทุ่มเงินมากถึง 42 ล้านยูโร ที่ทำให้เขากลายเป็นกองหลังที่แพงที่สุดในโลกในตอนนั้น
ที่ปารีส ติอาโก้ เป็นกัปตันและเป็นคนสำคัญของทีม เขายังคงความดุดันไว้ แต่ที่เพิ่มมากขึ้นคือ ความนิ่งและความเก๋าประสบการณ์ กลายเป็นผู้บัญชาการในเกมรับอย่างเต็มตัว สั่งการในเกมรับได้อย่างเด็ดขาด และพาเปแอสเชคว้าแชมป์มากมายใน 8 ปีกับเปแอสเช
“ติอาโก้ ชี้ทางให้ผม เขาคือกองหลังที่ดีที่สุดในโลก แม้กระทั่งทุกวันนี้ และตัวของผมเองก็ไปถึงจุดพีกของตัวเองได้ด้วยคำแนะนำจากเขาเช่นกัน ผมคิดว่าเขามีอิทธิพลต่อผมมากจริง ๆ” มาร์ควินญอส คู่หูกองหลังที่เปแอสเช กล่าวชื่นชม
ปี 2020 เขาหมดสัญญากับปารีส หลายคนคิดว่าในวัย 36 ปี เขาคงอยู่ในช่วงท้ายของการค้าแข้ง และคงย้ายไปเป็นอะไหล่ของทีมอื่น เว้นแต่ตัวเขาเองที่ไม่ได้คิดเช่นนั้น
อยากจะเล่นไปจนถึง 40
แม้จะอายุ 36 แต่ต้องยอมรับว่า ซิลวา ก็ยังคงเนื้อหอม ก่อนที่ เชลซี จะเป็นทีมที่ได้ลายเซ็นเขาไปครอบครองด้วยสัญญาหนึ่งปี บวกออปชั่นต่อสัญญาอีกหนึ่งปี
แต่ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาไม่ได้เข้ามาประคองรุ่นน้องเท่านั้น แต่กลายเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับของเชลซี และลงเล่นให้ทีมไปเกือบ 100 นัดตลอด 3 ฤดูกาลหลังสุด พร้อมร่วมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้เมื่อปี 2021
ซิลวา ยังคงมีความมุ่งมั่นและทะเยอทะยานที่จะลงเล่นอยู่เสมอ และตั้งใจว่าจะเล่นฟุตบอลไปจนกว่าจะอายุ 40 และนั่นคือหนึ่งในเหตุผลให้ที่ทำให้เขาเลือกมาอยู่กับเชลซี
“ผมเลือกมาอยู่ที่นี่เพราะมีความปรารถนาที่จะลงเล่นและเก็บชัยชนะ เพื่อเติมเต็มเกียรติประวัติของผมด้วยถ้วยรางวัลเพิ่มมากขึ้นไปอีก” ซิลวากล่าว ตอนเซ็นสัญญากับเชลซี
ปัจจุบัน ในวัย 38 ปี อดีตกองหลังมิลาน ยังตงยืนระยะเป็นตัวหลักให้กับทั้งทีมชาติและสโมสร ไม่ว่าจะเล่นด้วยระบบ เซ็นเตอร์แบ็ค 2 หรือ 3 คน เขายังทำได้ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม โดยเฉพาะในฟุตบอลโลก 2022 ที่เขาเป็นกัปตันทีมและลงเล่นเป็นตัวจริงเกือบทุกนัด
และเคล็ดลับที่ทำให้เขายังคงสามารถลงเล่นในระดับสูงได้คือ จิตใจที่มุ่งมั่นและความมีวินัย เขามักจะเดินทางมาถึงสนามซ้อมเป็นคนแรกๆ และใช้เวลาในห้องฟิตเนสนานกว่ารุ่นน้องเพื่อพูดคุยและหาวิธีการที่เหมาะที่สุดในการดูแลร่างกายของเขากับทีมแพทย์
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่ ซิลวา ได้ศึกษาศาสตร์การเล่นได้อย่างยาวนานจาก เปาโล มัลดินี่ อย่างใกล้ชิดในช่วงสุดท้ายของการค้าแข้งของอดีตแนวรับอิตาลี เขาเรียนรู้วิธีการดูแลตัวเองในวัยใกล้ 40 ปี หนึ่งในอดีตกองหลังที่ดีที่สุดในโลก และไม่มีการเรียนรู้ไหนที่จะดีไปกว่านี้อีกแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงสภาพจิตใจ เพราะตัวเขาก็เคยป่วยจนเกือบตาย และต้องเลิกเล่นมาแล้ว และตอนนี้เมื่อเขามีโอกาสอยู่ เขาก็แค่อยากจะทำสิ่งที่ตัวเองรักให้นานที่สุดตราบเท่าที่ร่างกายยังไหว
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมกองหลังที่อายุมากอย่างเขา ยังคงเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นคนที่ทุกคนเชื่อใจได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็น นักเตะ โค้ช หรือแม้กระทั่งแฟนบอล เพราะคุณภาพคือตัวตัดสินไม่ใช่อายุ
แหล่งอ้างอิง
https://www.rossoneriblog.com/2011/05/31/baresi-and-maldini-praise-exceptional-thiago-silva/
https://www.thesun.co.uk/sport/football/6616880/chelsea-thiago-silva-tuberculosis-wife-career/
https://theathletic.com/2021586/2020/08/28/thiago-silva-chelsea-move-contract/