ตระกูลเกลเซอร์ ประกาศพร้อมขายทีม แมนฯ ยูไนเต็ด หลังเป็นเจ้าของมา 17 ปี
แฟนบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องพบกับสองข่าวใหญ่ถึง 2 เรื่องในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา นอกจากสโมสรจะทำการยกเลิกสัญญากับ คริสเตียโน โรนัลโด้ แล้ว ตระกูลเกลเซอร์ ยังแถลงผ่านสโมสรด้วยว่า พวกเขาได้เริ่มต้นกระบวนการขาย แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว
ตระกูลเกลเซอร์ เข้ามาเทคโอเวอร์ปีศาจแดงตั้งแต่ปี 2005 ด้วยเงิน 790 ล้านปอนด์ แต่ก็ถูกแฟนบอลของทีมต่อต้านมาตลอด เพราะพวกเขาไม่ได้ลงทุนพัฒนาในด้านกีฬาอย่างที่ควรจะเป็น จนผลงานของสโมสรตกต่ำและร้างราจากความสำเร็จ ที่สำคัญยังถูกมองว่าให้ความสำคัญกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มากกว่า
นั่นคือเหตุผลที่แฟนบอลยูไนเต็ดหลายพันคน รวมตัวกันเดินทางประท้วง ตระกูลเกลเซอร์ ก่อนลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกนัดสำคัญกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ดังนั้นข่าวการประกาศขายทีมแบบไม่ทันตั้งตัว น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกใจใครหลายคน
“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เริ่มต้นกระบวนการเสาะหาตัวเลือกทางยุทธศาสตร์อื่น ๆ ให้กับสโมสร กระบวนการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความเติบโตของสโมสรในอนาคต โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือคว้าโอกาสทั้งในสนามและด้านธุรกิจ” แถลงการณ์ของสโมสร
“ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ บอร์ดบริหารจะพิจารณาทุกยุทธศาสตร์ทางเลือก ประกอบด้วย ผู้ลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาในสโมสร, ขายสโมสร หรือการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท”
“หนึ่งในนั้นคือการประเมินความคิดในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับสโมสร ไม่ว่าจะเป็น การปรับปรุงสนามและโครงสร้างพื้นฐาน, ขยายเครือข่ายทางธุรกิจของสโมสรไปในระดับโลก เพื่อประโยชน์ในระยะยาวของทั้งทีมชาย, ทีมหญิง และทีมอคาเดมี่ รวมถึงนำประโยชน์มาให้กับแฟนบอลและผู้ถือหุ้นของสโมสร”
ย้อนกลับไปปี 2010 ตระกูลเกลเซอร์ ได้ขายหุ้นของสโมสร 10% ผ่านตลาดหลักทรัพย์มาแล้ว ส่วนการดำเนินการขาย แมนฯ ยูไนเต็ด ในครั้งนี้ พวกเขาได้ว่าจ้างบริษัท The Raine Group เข้ามาเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในกระบวนการนี้ ซึ่ง The Raine Group ก็คือบริษัทที่ดำเนินการขายสโมสรเชลซีให้กับ ท็อดด์ โบห์ลี นั่นแหละ
หลังจากข่าวนี้ถูกประกาศออกไป ราคาหุ้นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็พุ่งจาก 14.94 ไปเป็น 16 ดอลล่าร์สหรัฐฯทันที ท่ามกลางการคาดหมายว่า ตระกูลเกลเซอร์ คงตั้งราคาขายสโมสรไว้สูงลิ่ว ซึ่งก่อนหน้านี้ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเกาะอังกฤษ เคยแสดงความสนใจ แต่ก็ถูก ตระเกลเซอร์ ปฏิเสธกลับมา
แหล่งอ้างอิง : https://www.bbc.com/sport/football/63723992?at_medium=RSS&at_campaign=KARANGA