โจนาธาร เข็มดี : เซนเตอร์พันธุ์ห้าวดาวดวงใหม่ทัพช้างศึก
หลังจากจบเกมอุ่นเครื่องในศึก โดฮา คัพ ซึ่งทาง ทีมชาติไทย ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ภายใต้ทำทีมของ “โค้ชหระ” อิสระ ศรีทะโร สามารถไล่ตามตีเสมอได้แบบสุดดราม่า 2-2 จากลูกโขกของ โจนาธาร เข็มดี เซนเตอร์แบ็คลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เชื่อว่า แฟนบอลทัพช้างศึกจูเนียร์ คงเห็นสัญญารณดีๆ มากมายในเกมนี้
ไฮไลต์เกมล่าสุดทีมชาติไทยU23 กับซาอุดิอาระเบีย ที่เสมอกันไป 2-2
ก่อนหน้านี้ โจนาธาร เคยมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการลงแข่งขันรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 แต่มีอาการปวดท้องตั้งแต่ตอนมาถึงแคมป์เก็บตัว จึงจำต้องถอนตัวออกไปอย่างน่าเสียดาย
มองดูจากโปรไฟล์คร่าวๆ ของ โจนาธาร ใครเห็นก็ต้องบอกว่าน่าสนใจ หากเทียบกันเซนเตอร์แบ็คทีมชาติไทยที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่วนสูงที่แตะหลัก 190 เซนติเมตร สามารถช่วยเรื่องการเล่นลูกกลางอากาศ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของทีมชาติไทย มาแทบทุกยุคทุกสมัยได้แน่นอน
พอรวมเข้ากับประสบการณ์ในการเล่นในลีกยุโรปอย่างเดนมาร์ก ด้วยวัยยังไม่ถึง 20 ปีดี ทีมชาติชุดยู-23 จึงเรียกใช้บริการของเขาบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นศึก ซีเกมส์ 2021 หรือ ชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ผ่านมา แต่ผลลัพธ์กลับไม่จบลงด้วยการเป็นแชมป์ได้ดั่งหวัง
ยิ่งไปกว่านั้นจุดเปลี่ยนสำคัญในช่วงปลายปีก่อน ที่ทาง โจนาธาร ถูกยกเลิกสัญญาจากต้นสังกัดในแดนโคนม เลยกลายเป็นว่า เส้นทางการค้าแข้งของเขาต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ในศึก ไทย ลีก ซึ่งเป็นถิ่นฐานบ้านเกิดของเขากับสโมสร ราชบุรี เอฟซี
ไฮไลต์ฟอร์ม โจนาธาร เข็มดี กับ โอเดนเซ่
การเล่นของเขาที่เต็มไปด้วยแพสชั่นเกินร้อย ความต้องการที่จะเป็นผู้ชนะทุกเกม เกิดเป็นประเด็นต่างๆ ให้แฟนบอลได้พูดถึงกันไม่ขาดปาก มีทั้งกลุ่มที่มองว่าเป็นผลดี และ กลุ่มที่มองว่ามันไม่สมควรเท่าไหร่ หากชี้วัดกันด้วยการดำเนินวิถีแบบไทยๆ
อย่างไรก็ตามหลังจาก โจนาธาร กลายเป็นฮีโร่ในเกมที่ผ่านมา ด้วยการโขกประตูให้ทีมรอดพ้นความพ่ายแพ้มาได้อย่างฉิวเฉียด แถมฟอร์มการเล่นในเกมดังกล่าวก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ชื่อของเขาคงถูกพูดถึงกันมากขึ้นแน่นอนในช่วงโปรแกรมแข่งขัน โดฮา คัพ แล้วอาจยาวไปจนถึงทัวร์นาเมนต์สำคัญอื่นๆ ที่รออยู่ในช่วงปีหน้า
ลงมาทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นกันดีกว่าว่า จอมห้าวรายนี้ ทำไมถึงมีประเด็นให้พูดถึงกันได้ตลอด ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกันกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
การค้าแข้งในยุโรป
โจนาธาร เป็นผู้เล่นลูกครึ่งที่มีคุณพ่อเป็นชาวเดนมาร์ก ส่วนคุณแม่เป็นคนไทย ใช้ชีวิตและเริ่มต้นฝึกฟุตบอลกับอะคาเดมี่ของ โอเดนเซ่ บีเค ทีมในศึกซูเปอร์ลีก ประเทศเดนมาร์ก
ชีวิตการค้าแข้งของเขา ต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองไม่ต่างจากนักเตะดาวรุ่งรายอื่นๆ ซึ่งต้องไต่เต้าจากการเล่นในลีกระดับเยาวชนตามระดับอายุ แล้วถ้าหากผลงานเข้าตาก็จะได้รับโอกาสพิจารณาให้ขึ้นไปสู่ทีมชุดใหญ่
ในเมื่อผลงานของ โจนาธาร มีพัฒนาการที่น่าประทับใจ ต้นสังกัดจึงมอบสัญญาให้กับเขสเป็นเวลาสองปีด้วยกัน หลังจากลงสนามในเกม ยู-19 บอยส์ ลีก รวมๆ ไปมากถึง 36 นัด ทำได้ 1 ประตู ซึ่งทาง ไมเคิ่ล เฮมมิงเซ่น ผู้จัดการทีมในเวลานั้น ก็ออกมาเอ่ยปากชมกองหลังรายนี้เอาไว้ว่า
“ทีมงานของเราเชื่อเสมอว่า โจนาธาร จะก้าวมาเป็นผู้เล่นระดับซูเปอร์ลีกได้ เพราะเขามีทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่งของร่างกาย ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการประสบความสำเร็จในการเล่นระดับสูง”
“ปีที่ผ่านมาเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของเขาจริงๆ ซึ่งผลงานในสนามก็พิสูจน์แล้วว่า ตอนนี้เขาพร้อมในการฝึกซ้อมและลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ได้แล้ว”
หลังจากการเจรจาเรื่องสัญญาต่างๆ ลุล่วงไปด้วยดี โจนาธาร ก็มีการโพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวว่า จากเด็กข้างถนนสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ซึ่งสื่อฟุตบอลต่างๆ ในไทย ก็เริ่มนำพูดถึงชื่อของ โจนาธาร กันมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นทาง ซัลบาดอร์ บาเรโร่ การ์เซีย ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี ก็ไปโพสต์ข้อความแสดงความยินดีกับการเซ็นสัญญาของ โจนาธาร กับ โอเดนเซ่ บีเค เหมือนเป็นการสร้างคอนแทคไว้กลายๆ เผื่อจีบมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมของเขา
ซึ่งทางตัว โจนาธาร ก็ได้ตอบกลับข้อความดังกล่าวด้วยอีโมจิ ธงชาติไทย ลูกฟุตบอล รูปมือสองข้างที่ทำลักษณะแสดงว่าพร้อม ปิดท้ายด้วยรูปหัวใจ เหมือนสื่อความหมายเป็นนัยๆ ว่า ถ้ามีการเรียกตัวไปติดทีมชาติไทย ตัวเขาก็ยินดีจะรับใช้ชาติแบบไร้ปัญหา
ต่อมา ซัลบาดอร์ ก็เดินเกมรุกด้วยการเอ่ยชม โจนาธาร ว่า
“ผมเคยได้ดูคลิปการไฮไลท์การเล่นของเขาเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่เขาเล่นให้กับชุดยู-19 ของ โอเดนเซ่ เขาเป็นกองหลังที่น่าสนใจมากๆ”
“โจนาธาร เป็นเซนเตอร์แบ็คที่ถนัดเท้าขวา มีร่างกายที่แข็งแกร่ง มีความดุดันในจังหวะเข้าปะทะ เอาชนะในการเข้าบอลแบบห้าสิบๆ ได้บ่อยครั้ง แถมยังแย่งโหม่งลูกกลางอากาศได้ดีอีกด้วย”
“นอกจากนั้นเขายังสามารถบิ้วท์อัพเกม แล้วช่วงชิงความได้เปรียบให้กับทีมได้ด้วยการผ่านบอลของเขา”
ไฮไลต์ฟอร์มของ โจนาธาร กับทัพช้างศึก
อย่างไรก็ตามแฟนบอลชาวไทย ต้องเจอกับอาการอกหักไปในรอบแรก เพราะทาง ซัลบาดอร์ ไม่สามารถเรียกตัว โจนาธาร มาติดทีมชุดอายุต่ำกว่า 19 ปีได้ในเวลานั้น เนื่องจากอายุเกินเกณฑ์ เพราะเจ้าตัวเกิดในปี 2002 แต่รายการต่างๆ นั้นในช่วงรุ้นดังกล่าว ต้องใช้นักเตะที่เกิดในปี 2003 เป็นต้นไป
หลังจากนั้นไม่นาน มาดามแป้ง-คุณ นวลพรรณ ล่ำซำ ก็ได้มีการติดต่อไปหา โจนาธาร อีกครั้ง เพื่อจีบให้มาช่วยทีมชาติไทย ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ในการลงเล่นรายการ ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ปี 2022 แล้วเจ้าตัวก็ตอบรับคำเชิญนั้น มาโชว์ฝีเท้าในนามนักเตะทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก
ผลงานส่วนตัวของ โจนาธาร รายการนั้น ถือว่าได้รับการพูดถึงจากแฟนบอลชาวไทย ที่เอ่ยปากชมกันอย่างล้นหลาม เนื่องจากชื่นชอบในการเล่นที่ดุดัน สกัดบอลในจังหวะอันตรายได้หลายครั้ง แล้วแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการเล่นลูกกลางอากาศ
อย่างไรก็ตามการกลับไปค้าแข้งในลีกเดนมาร์กของ โจนาธาร ไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่นัก เพราะถูกทางต้นสังกัด ปล่อยตัวให้ทาง เนียสท์เว็ด ยืมตัวไปใช้งาน ได้ลงสนามบ้างประปรายในเกมลีก รวมกับบอลถ้วยไป 14 นัด แต่ก็ถูกยกเลิกสัญญายืมตัวแบบไม่เปิดเผยสาเหตุ
แล้วมันก็ไม่จบแค่นั้น โจนาธาร ถูกทาง โอเดนเซ่ ยกเลิกสัญญาต่ออีกทอด จนกลายเป็นนักเตะไร้สังกัด แล้วเริ่มมีข่าวลือกันหนาหูในวงการสื่อฟุตบอลไทยว่า สโมสรยักษ์ใหญ่ใน ไทย ลีก มีการพิจารณาจะดึงตัวเขามาเล่นในแผ่นดินมาตุภูมิ
ประเด็นร้อนหลังย้ายมาอยู่ไทย
หลังจากลือกันอยู่นานเป็นเดือน สุดท้ายแล้วสโมสรที่กลายเป็นเสือปืนไว ได้ตัว โจนาธาร ไปร่วมทีมแบบฟรีๆ ไม่ต้องจ่ายค่าตัว แล้วหวยก็ไปออกที่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
ผลงานของ โจนาธาร กับต้นสังกัดใหม่ในประเทศไทย ราชันย์มังกร ลงเล่น รวมๆ ทุกรายการไปแล้ว 8 เกม กลายเป็นตัวหลักในแนวรับให้ทีมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แต่การเล่นที่ดุดันและการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นในสนามของเขา บางทีมมันก็ดูล้นจนเกินไป แล้วโดนตำหนิเรื่องพฤติกรรมการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้างเนืองๆ
ยกตัวอย่างเช่นประเด็นต่อเนื่องหลังจบเกมที่ ราชบุรี เอฟซี พ่ายให้กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด คาบ้านไป 0-1 ซึ่งเชื่อว่าอารมณ์ผู้เล่นในเกมวันนั้นคงยังค้างกันอยู่บ้าง เรื่องที่เขามีปัญหากับ นิติพงษ์ เสลานนท์ รวมไปถึงเรื่องการถอนตัวจากทีมชาติชุด AFF ซูซูกิ คัพ ที่เเข่งขันกันในปี 2021 ด้วย
จากประเด็นดังกล่าวมันตรงกับสิ่งที่ โค้ชโย่ง-วรวุฒิ ศรีมะฆะ เคยออกมาแสดงความเป็นห่วง โจนาธาร ที่เคยร่วมงานกันในสมัยที่กุมบังเหียน ทีมชาติไทย ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี แล้วพูดเตือนเป็นนัยๆ ไม่อยากให้กลับมาเล่น ไทย ลีก ในช่วงเวลาที่ยังไม่ใช่เอาไว้ว่า
“ที่ยังไม่อยากให้มาเพราะว่าอะไรรู้มั้ย? นิสัย โจนาธาร ยังไม่พร้อมสำหรับการเล่นในประเทศไทย”
“แต่ในเมื่อข้อเสนอในยุโรปมันไม่ได้ พอมีทาง ราชบุรี ยื่นไปให้พิจารณา เลยมาลงตัวกันในวันท้ายๆ ก่อนตลาดปิด”
“เมื่อตัวน้องตัดสินใจมาอยู่ ราชบุรี ก็โอเคนะ สนามซ้อมดี สนามแข่งดี ระบบการจัดการและโค้ชก็โอเค”
“โจนาธาร ก็โทรมาหาล่าสุดตอนเซ็นสัญญากับ ราชบุรี เสร็จ ก็ทักทาย สวัสดีครับโค้ช คุยกันนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็ขอตัวไปทานข้าว”
“แต่ผมก็ส่งแมสเสจกลับไปว่า ถ้าคุณมีปัญหาอะไรให้โทรกลับมาหาผมได้เลย”
“เราก็รู้อยู่แล้วว่า เดี๋ยวก็ต้องมีปัญหาตามมา แต่ก็เชื่อว่าประธานฟลุ๊คเขาจัดการได้อยู่แล้ว”
“ถ้า โจนาธาร ปรับตัวได้นะ รูปร่างน้องมันได้ ฝีเท้าได้ แต่สภาพแวดล้อมและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับน้อง ต้องพยายามทำความเข้าใจน้องหน่อย จะให้คนเราปรับตัวจากดำมาขาวเลยทันทีมันก็ไม่ได้”
“จังหวะที่ปรับจากดำมาเป็นเทาๆ เนี่ยสำคัญ ต้องช่วยๆ กันหน่อย แต่ตัวน้องเองก็ต้องเข้าใจคนอื่นๆ ด้วย สองฝ่ายต้องหาตัวปรับกันทั้งคู่”
ไฮไลต์ฟอร์มของ โจนาธาร กับ ราชบุรี เอฟซี
“ตอนนี้พอย้ายมาแล้วรู้สึก โจนาธาร จะมีเอเย่นต์เป็นคนไทย พอเป็นคนไทยน่าจะช่วยในการปรับตัวได้ดี”
“เอเย่นต์ต้องคอยบอกว่า ทำยังไงให้อยู่เมืองไทยได้ อยู่แล้วมีคนรัก อันไหนไม่ดีก็ตัดออกไป แต่เอเย่นต์ห้ามตามใจเด็ดขาด ถ้าตามใจเนี่ยเอาไม่อยู่เหมือนกันนะบอกไว้ก่อน”
ว่ากันตามตรงแล้วหากทาง โจนาธาร ลดระดับความห้าวของตัวเองลง มาอยู่ในระดับที่พอเหมาะพอดี ไม่มีจังหวะปัญหานอกเกมหรือหลังเกม เรื่องฝีเท้าของเขาไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วงเลยจริงๆ เพราะถ้าวัดกันที่อายุอานาม ยากที่ประเทศไทยจะมีกองหลังวัยแค่ 20 ปี แล้วแสดงศักยภาพออกมาในสนามได้เท่าเขา
แต่บางครั้งบางจังหวะ โจนาธาร ก็ชอบทำตัวให้เสี่ยงต่อการโดนคาดโทษแบบไม่จำเป็น เหมือนจังหวะการโวยผู้ตัดสินในครึ่งแรก ในเกมนัดล่าสุดที่เสมอกับ ซาอุดิอาระเบีย ไปแบบสุดมัน 2-2 ซึ่งถ้าไม่ใช่เกมอุ่นเครื่อง มีสิทธิ์ที่เจ้าตัวจะโดนใบเหลืองอยู่ไม่น้อย
ฟอร์มการเล่นที่น่าจับตามอง
หากแฟนบอลได้รับชมผลงานในสนามของ โจนาธาร แบบสดๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมลีก หรือ เกมในนามทีมชาติ จะเห็นความแตกต่างของเขากับนักเตะไทย เรื่องความเป็นผู้นำและการสั่งการแนวรับ ที่น้อยคนนักจะกล้าเอ่ยปากตะโกนใส่เพื่อน
การเล่นเกมรับของเขา ดูมีแรงกระตุ้นจากภายในตลอดเวลา กล้าเข้าปะทะแบบไม่กลัวเจ็บ กล้าชิงจังหวะสกัดในจังหวะแรก ไม่มีรีรอที่จะเข้าบอล ไม่ว่าจะลูกใช้เท้าหรือใช้หัว เหลือเพียงแค่เติมเรื่องประสบการณ์ให้ทุกจังหวะการเล่นมันลงตัวแบบพอเหมาะพอดีเท่านั้น
ไม่แปลกใจเลยที่ โจนาธาร จะมีแรงขับในการเล่นสูงเอามากๆ แล้วทำให้อารมณ์ร่วมของเขากับเกมพุ่งถึงขีดสุด เพราะต้องการจะเป็นผู้ชนะเหมือนที่เคยกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า
“ฟุตบอลมันต้องเป็นแบบนี้ การเล่นของผมมันเต็มไปด้วยเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก เพราะผมต้องการชนะในทุกๆ เกมที่ลงสนาม”
“ผมต้องการพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อทำให้แฟนบอลชาวไทยประทับใจ เพราะผมเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศมาลงแข่งในนามทีมชาติ”
“ผมหวังว่าวันหนึ่งผมจะได้ลงเล่นให้กับทีมชาติไทยชุดใหญ่ เพราะมันเป็นความฝันของผม ตั้งแต่ผมเกิดที่จังหวัดสุรินทร์ เตะฟุตบอลในโรงเรียน แล้วมีความฝันว่าอยากติดทีมชาติ”
“เป้าหมายของผม คือ การติดทีมชาติชุดใหญ่ แล้วทำให้แฟนบอลชาวไทยภาคภูมิใจ ยืนยันได้เลยว่า ทุกครั้งที่ผมลงเล่นให้กับทีมชาติผมมีความสุขมาก”
“เพราะว่ามีแฟนบอลที่ยอดเยี่ยมคอยให้การสนับสนุนพวกเรา รวมไปถึงบรรยากาศทุกอย่างในทีมก็ดีด้วยเช่นกัน สตาฟฟ์ โค้ช ผู้จัดการทีม เพื่อนร่วมทีม และ สื่อต่างๆ มันเป็นกำลังใจให้ผมได้ดีเอามากๆ”
เชื่อว่าแฟนๆ ก็อยากเห็นพัฒนาการด้านฝีเท้าและการควบคุมอารมณ์ของ โจนาธาร ให้เป็นไปในทิศทางบวก เพราะปฏิเสธได้ยากว่า แนวรับรายนี้ คือ อนาคตสำคัญของทีมชาติไทยในระยะยาว ที่ต้องหวังพึ่งศักยภาพของเขาในอนาคต
บทพิสูจน์ต่างๆ จะถาโถมเข้ามาให้ โจนาธาร ต้องเผชิญอีกนับไม่ถ้วนทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ซึ่งเขาก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อผ่านมันไปให้ได้ ซึ่งมั่นใจได้เลยว่า หากผลงานของเขายังคงรักษามาตรฐานการเล่นเกมรับได้เช่นนี้ต่อไป จะมีแฟนบอลไทยจำนวนไม่น้อย คอยหนุนหลังและให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ
บทความที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจ
ใจได้ สู้สนุก : 5 แข้งไทยยู 23 ฟอร์มเยี่ยมเกมดวล ซาอุดิอาระเบีย
โดฮา คัพ รายชื่อทีมชาติไทย แข่งวันไหน ? ไทยถ่ายช่องไหน ?
จากดาวรุ่ง T3 : ธีรศักดิ์ เผยพิมาย วันเดอร์คิดท่าเรือฯ ผู้แจ้งเกิดสำเร็จเพียง 1 เดียว
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
https://www.youtube.com/watch?v=3h4R5Y5JJrE
https://www.transfermarkt.com/jonathan-khemdee/leistungsdaten/spieler/656695
https://www.transfermarkt.com/ratchaburi-mitr-phol-fc/startseite/verein/35387/saison_id/2022
https://www.facebook.com/watch/?v=1891845251175586
ข่าวและบทความล่าสุด