‘ใหญ่ นิลวงษ์ ’: โค้ชจอมเลื่อนชั้นแห่ง T3 ที่คุมทีมเดินสายที่ชนะ 100%
ชีวิตที่ผกผันของ โค้ชใหญ่ - นิลวงษ์ อดีตดาวเตะชื่อดังในไทยลีก ซึ่งหันมาจับงานด้านการคุมทีมหลังจากแขวนสตั๊ด เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน
ใหญ่ คือคนที่พา ดรากอน ปทุมวัน กาญจนบุรี คว้าตั๋วใบสุดท้าย เลื่อนชั้นจาก ไทยลีก 3 ขึ้นมาเล่นในไทยลีก 2 ได้สำเร็จ
ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก คือ ใหญ่ ไปโผล่รับงานคุมทีม PBDS FC ในรายการบอลเดินสาย Kool Supporter Footballkub สนาม Area69 แล้วพาทีมเป็นแชมป์มีสถิติสุดโหดชนะ 7 นัดรวด ไม่แพ้ให้กับทีมใดเลย
ทีมงาน Think Curve - คิดไซด์โค้ง ได้มีโอกาสต่อสายไปหา โค้ชใหญ่ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับทุกประเด็นตั้งแต่จุดเริ่มแรกในการผันตัวมาเป็นโค้ช, ช่วงเวลากับอดีตต้นสังกัด, สาเหตุในการแยกทางที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน และ ความแตกต่างระหว่างบอลอาชีพกับบอลเดินสาย ซึ่งรับรองได้เลยว่า เข้มข้นถึงใจแบบสุดๆ
ประตูสู่การเป็นโค้ช
ประสบการณ์ในการค้าแข้งเป็นนักเตะอาชีพของ ใหญ่ ถือว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วมากมาย อยู่กับสโมสรอย่าง ราชนาวี ระยอง, การท่าเรือไทย, บีอีซี เทโร ศาสน, ราบุรี มิตรผล เอฟซี และ ประจวบ เอฟซี เป็นต้น
ซึ่งในช่วงที่อยู่กับ ต่อพิฆาต ในปี 2018 นี้เอง เจ้าตัวก็ตระหนักคิดถึงช่วงเวลาหลังจากแขวนสตั๊ด ว่าควรจะไปทำอะไรต่อไปดี แล้วเลือกที่จะเดินต่อในสายงานฟุตบอลด้วยการเป็นโค้ช จึงเลือกสมัครเข้าอบรมตั้งแต่ จี-ไลเซนส์ ตั้งแต่ยังไม่เลิกเล่น
“ผมเริ่มเรียนโค้ชตั้งแต่ช่วง 2017-2018 เรียน จี แล้วก็ต่อ ซี เลยในปีเดียวกัน แล้วก็เพิ่งจบ บี ไลเซนส์ ในปี 2022 "
“ความรู้ที่เราเรียนตอนนี้อัพเดตตามเทรนด์ฟุตบอลปัจจุบัน มีการเพิ่มเติมเนื้อหาให้ทันสมัย ไม่ได้ใช้ตำรายุคก่อนแล้วยึดแบบเดิมๆ ตายตัว หลักสูตรพัฒนาตามกระแสของฟุตบอลในเวลานั้นๆ”
แล้วจากการวางแผนเรื่องเส้นทางหลังการค้าแข้งเอาไว้ล่วงหน้า ก็เป็นส่วนหนึ่งที่นำพาตัวของ ใหญ่ เข้ามาสู่วงการโค้ชบอลไทย ซึ่งสโมสรอาชีพล่าสุดของเขาที่ได้คุมทัพ คือ ดรากอน ปทุมวัน เอฟซี นั่นเอง
จุดเริ่มต้นกับ ดรากอน ปทุมวัน เอฟซี
วันแรกที่มารับงานกับ ดีพี กาญจนบุรี ถือว่าเป็นช่วงที่สโมสรกำลังอยู่ในช่วงระส่ำระสาย เพราะรั้งอยู่อันดับที่ 9 ของตารางจาก 12 ทีม ภารกิจของ ใหญ่ เป็นการก่อร่างสร้างทีมขึ้นมาใหม่ เริ่มต้นกันใหม่ สร้างทีมจากซากปรักหักพัง ในสภาพที่สปิริตของทีมขาดหายไป
ช่วงแรกๆ นั้นสโมสรแทบไม่มีคนติดตามเข้ามาเชียร์ เนื่องจากผลงานช่วงต้นนั้นไม่เข้าตา ก่อนที่เขาจะสามารถเรียกศรัทธาของแฟนบอลกลับมาได้ จากฟอร์มการเล่นที่พัฒนาขึ้นตามลำดับ พอฟอร์มดีก็กลายเป็นหน้าเป็นตาของสโมสรตามวัฏจักรฟุตบอล
แน่นอนว่าสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากในวงการฟุตบอลบ้านเรา คือ คนที่จ่ายเงินลงทุนทำทีม ย่อมอยากมีส่วนร่วมในแนวทางการบริหารทุกภาคส่วน น้อยมากที่จะให้สิทธิ์ขาดโค้ชในการทำทีมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งทางตัวของ ใหญ่ ก็พยายามยืดหยุ่นในการทำงาน หาทางรอมชอมมาได้ด้วยดีตลอดเพราะตัวเขาเข้าใจในมุมของผู้ใหญ่
แต่หลังจากทีมได้เลื่อนชั้นอย่างเป็นทางการ ท่าทีของผู้บริหารก็เปลี่ยนแปลงไปตามที่ ใหญ่ เผยว่า
“สิ่งที่ผมรับไม่ได้ก็คือ เขาค่อนข้างมาเยอะ ไม่ปรึกษาเราเลย ไม่มานั่งคุยกัน บางเรื่องเขาตัดสินใจไปเองเลยโดยที่เราไม่รู้เรื่อง เหมือนเขาค่อนข้างอคติและมีความคิดด้านลบกับเราอยู่”
มูลเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ใหญ่ ยืนยันว่าไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน แต่ชนวนของท่าทีที่เปลี่ยนไปย่อมมีสาเหตุที่ทำให้รอยร้าวนั้นเกิดขึ้น ซึ่งมันมีที่มาจากเหตุการณ์หนึ่งที่เขาสัมผัสได้ชัดเจน
สาเหตุที่แยกทางกัน
มันมีเกมที่ ใหญ่ ต้องพาทีมไปเยือน เอ็มเอช นครศรี ซิติ้ ในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ที่เคยเป็นต้นสังกัดเก่า แล้วปรากฏว่า เกมดังกล่าวทีมแพ้กลับมา ผู้ใหญ่ในทีมเลยคิดไปว่า ผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่ตัวเขารับงานมาจากฝั่งตรงข้ามเพื่อให้ทีมแพ้ หลังจากนั้นความศรัทธาของเขากับผู้บริหารก็เริ่มสั่นคลอน
“หลังจากเกมที่เป็นประเด็นดังกล่าว ผู้บริหารทีม ก็เริ่มเอาคนนอกเข้ามา หลังจากเกมที่ชนะ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เอฟซี เพราะมันเหลืออีกเกมเดียว"
"ถ้าได้ผลการแข่งขันที่ต้องการจะมีโอกาสเลื่อนชั้นอัตโนมัติ เขาก็เอาทีมงานของใหม่เข้ามาเช็ครายละเอียดต่างๆ เหมือนจับตาเราว่ามีความผิดปกติอะไรไหม”
“ปรากฏว่าเกมนั้นเราต้องออกไปเยือนแม่กลองแล้วเราเสมอ ทีนี้พอ เอ็มเอช ชนะเขาได้เลื่อนชั้น ทีมเราต้องไปเล่นเพื่อชิงที่สามกับพัทยา ดอลฟินส์ จบเกมเขาก็เรียกผมไปคุยว่าเกิดอะไรขึ้น”
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ทีมงานที่เจ้าของทีม ก็ลงมาควบคุมเรื่องของการซ้อม เล่นแผนไหน เป็นการให้คำปรึกษาแกมบังคับ เพียงแต่เรายังมีหน้าที่คุมลูกทีมซ้อมเหมือนเดิม ใหญ่ เล่าว่าเขาเป็นแค่โค้ชหน้าฉากเท่านั้น
พอถึงเกมวันแข่งขันจริงเกมในครึ่งแรกที่เล่นตามแทคติกส์ของทีมงานจากเจ้าของทีม ผลออกมาที่สกอร์ตามหลัง 0-1 ครึ่งหลังทาง ใหญ่ เลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนไม่สนใจใบสั่งใดๆ อีกแล้ว ตามที่เปิดเผยว่า
“ครึ่งหลังผมไม่มองหน้าใครเลย ผมไม่ปรึกษาใครด้วย ผมสั่งเปลี่ยนระบบ เปลี่ยนตัวผู้เล่นเลยทันที ทีมสตาฟฟ์ที่ถูกส่งมาก็อยู่ด้วย แต่พูดอะไรไม่ได้ เพราะสิ่งที่เขาทำมามันใช้ไม่ได้ สกอร์รวมทีมตาอยู่ 0-2 แถมยังโดนอะเวย์โกล์มาอีก”
“หลังจากนั้นผลก็ออกมาแบบที่เห็น เด็กเล่นเป็นธรรมชาติมากขึ้นยิงประตูคืนได้ จากการเติมผู้เล่นแนวรุกลงไปเพิ่มเติม พอบอลเลื่อนชั้นทุกคนแฮปปี้ ผู้บริหารก็ไม่ได้พูดอะไร เหมือนทุกคนลืมเรื่องราวต่างๆ ไปชั่วครู่”
แต่แล้วมันก็มีสัญญาณบางอย่างจากเจ้าของทีม ก่อนที่ทั้งสองฝ่านจะแยกทางกัน จากคำพูดที่เปรยมาว่าแนวทางไม่ตรงกัน ทำให้ควบคุมยาก นำมาสู่ความขัดแย้งมากมาย
เริ่มจากในเรื่องของ ไลเซนส์ ที่ทีมใน ที2 ต้องใช้โค้ชระดับ เอ ไลเซนส์ คุมทีม ผู้บริหารก็มีการติดต่อกับโค้ชคนอื่นๆ แต่แจ้งตัวของ ใหญ่ ที่ถือแค่ บี ไลเซนส์ ว่า เอามาแขวนให้ตรงตามกฎ ซึ่งตัวเขาจะยังได้รับมอบหมายให้คุมทีมเหมือนเดิม ซึ่งใหญ่ก็รับรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะผลต่อการทำงานของเขาแน่
นอกจากนี้ ใหญ่ เผยเรื่องช็อคเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลาออกของเขาเอาไว้ว่า
“จริงๆ ผมคุยกับเด็กๆ ก่อนเกมกับ พัทยา ดอลฟินส์ เกมสุดท้ายแล้วว่า ผมจะออกก่อนเกม แต่ลูกทีมบอกว่า พี่อย่าเพิ่งไปไหน อยู่กันให้จบก่อน"
"พี่อย่าเพิ่งทิ้งความฝันของพวกผมที่จะได้เลื่อนชั้น แต่ละคนอยากสร้างโปรไฟล์ สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง พี่อย่าเพิ่งทิ้งความฝันพวกเราที่ทำงานด้วยกันมาทั้งปี มันคือเป้าหมายนี้ไม่ใช่เหรอ”
“ทุกคนเห็นทุกคนรู้แต่อยู่ในจุดที่ไม่สามารถพูดอะไรได้ เลยมีการเรียกประชุมเฉพาะผมกับลูกทีมก่อนเกมชี้ชะตาว่า มาลุยกัน พอเปลี่ยนแทคติกส์ทุกคนก็เลยทำตามแบบไม่มีข้อสงสัยใดๆ”
“ครึ่งแรกที่ตามหลัง 0-1 แฟนบอลถึงขนาดตะโกนด่าว่า พวกมึงเล่นอะไรกัน ผมเลยไปบอกเด็กว่าครึ่งหลังจะเปลี่ยนแทคติกส์ พร้อมพูดประโยคนึงว่า มึงลงไปเล่นให้ประทับใจคนดู ลงไปเล่นให้เขารู้ว่ามึงสู้ ถึงมึงแพ้เขาก็ยืนปรบมือให้มึง อย่าออกไปเล่นให้แฟนบอลด่า ให้เขาดูสนุก เลยกลายเป็นการปลุกพวกมันให้กลับมาได้”
จากนั้นก็มีหลายความเห็นที่ไม่ตรงกันทั้งเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ หรือเรื่องการทำทีม และหลายๆ อย่าง ใหญ่ รู้ได้โดยสัญชาติญาณว่าเป็นการบีบเขาออก ไม่ให้มีบทบาทกับทีมอีกต่อไป เหมือนรอเวลาให้เขาทนไม่ไหวแล้วลาออกเอง ซึ่งเขาก็ต้องชั่งน้ำหนักว่าจะเสี่ยงอยู่ต่อ หรือ จะไปเลยตอนนี้ดีกว่ากัน
กลายเป็นว่าพอแจ้งกับเจ้าของทีมไปก็เป็นไปตามหน้าข่าวที่ปรากฎออกมา ไม่มีการรั้ง ถามไถ่เหตุผล หรือแสดงความเป็นห่วงใดๆ พร้อมตอบกลับมาแค่ว่า “ขอให้โชคดี”
อย่างไรก็ตาม ใหญ่ ยืนยันว่า ทีมงานที่ถูกใบสั่งจากผู้บริหารทีม ที่มีหน้าที่มาควบคุมการทำงานของเขา ต่างฝ่ายต่างไม่มีปัญหาต่อกัน เข้าใจหัวอกซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี เพียงแต่ต่างคนต่างมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่างกันไป คนในวงการฟุตบอลไทยเป็นพี่เป็นน้องกันหมด เข้าใจวัฒนธรรมบอลไทยดี ให้เกียรติกันอยู่เสมอ
การรับงานคุมทีมบอลเดินสาย
แม้ว่าแผนงานในอาชีพโค้ชของ ใหญ่ จะตั้งเป้าเอาไว้ในการคัมแบ็คไปการคุมสโมสรอาชีพ รวมไปถึงการอบรมขั้นต่อไปในระดับ เอ ไลเซนส์ แต่ในเมื่อมีงานเสริมอย่างการคุมทีมบอลเดินสายเข้ามา ข้อเสนอดังกล่าวนั้นก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจยากจะปฏิเสธได้ลง
ใหญ่ เริ่มต้นจากการโพสต์โปรไฟล์การทำงานของตัวเอง ลงไปในเฟสบุ๊คแล้วระบุว่าว่างงานอยู่ แล้วทางเจ้าของทีม PBDS FC ก็มีการส่งข้อความเข้ามาในกล่องอินบ็อค ให้มาช่วยสอนเด็กๆ หน่อย ตัวเขามองว่ากำลังว่างพอดี ขาดรายได้ เลยเลือกที่จะมารับจ็อบตรงนี้ พอคุยรายละเอียดกันลงตัวก็ตกลงรับงาน
“ผมมองว่ามันไม่ได้เป็นการลดเกรดตัวเองนะ ถ้าเป็นมุมมองขของคนทำงาน มันเป็นความท้าทายด้วยซ้ำ เหมือนคุณไปทำบอลอาชีพมา พอมาทำบอลเดินสาย กึ๋น ของคุณจะมีแค่ไหน ความสามารถของคุณจะมีแค่ไหน”
“การทำให้เด็กที่ไม่เคยเล่นบอลอาชีพมาก่อน พัฒนาความสามารถให้เก่งขึ้นมาได้ ผมว่ามันเป็นเรื่องท้าทายนะ ตัวบอลอาชีพมีฝีเท้าดีอยู่แล้ว แค่ใส่แทคติกส์ลงไปก็พอ ต่างกับบอลเดินสายที่เด็กบางคนมันยังไม่เป็นงาน แค่เล่นได้ในระดับหนึ่ง มันน่าสนใจที่จะสร้างพวกเขาให้เก่งขึ้นมา”
เรื่องของรายได้ถ้าเทียบกันตรงๆ เผลอๆ อาจรับมากกว่าคุมทีมบอลสโมสรอาชีพ ระดับดิวิชั่นล่างๆ ด้วยซ้ำ คำนวนดูแบบละเอียดจริงๆ แล้ว มากกว่าตอนทำทีม ดรากอน ปทุมวัน เสียอีก มันดูเป็นเรื่องตลกร้ายไม่น้อย ที่ออกจากบอลอาชีพมาทำบอลเดินสาย แล้วปรากฏว่าได้เงินมากกว่า
แต่มันก็ต้องแลกมากับการเติบโตในหน้าที่การงาน ทำบอลเดินสายก็ต้องอยู่ในส่วนนีแค่นั้นไม่มีความก้าวหน้า แต่ถ้าเป็นบอลอาชีพมีโอกาสที่จะได้รับงานคุมสโมสรที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หากทำผลงานได้ดี ส่วนตัวเชื่อว่ารายได้นั้นมากกว่าโค้ชทำบอลระดับที 3 แน่ๆ นั่นคือ ปัจจัยที่ทำให้สองโลกลูกหนังในไทยต่างกัน
วิธีการต่างๆ ในการคุมทีมอาจเป็นคนละศาสตร์กัน เพียงแต่เรื่องของแทคติกส์บางอย่าง ใหญ่ ยืนยันว่า สามารถนำมาปรับใช้ร่วมกันได้ มันเป็นเรื่องที่โค้ชอย่างเขาต้องปรับตัว ซึ่งสิ่งที่เขาร่ำเรียนมาก็ไม่ได้มีการสอนศาสตร์ฟุตบอลสายนี้
อย่างไรก็ตามบอลเดินสายยังเป็นเวทีสำหรับนักเตะและโค้ชที่ตกงาน หรือมีข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ในด้านรายได้ และการมีเวลาไปทำงานหลัก ซึ่งเวทีนี้จึงมีนักเตะหลาย ๆ คนที่เลือกจะเอาดีทางการเดินสาย มากกว่าที่จะไปเตะในระดับลีกของประเทศ ซึ่งหลัก ๆ ก็คือเรื่องรายได้ที่แทบจะไม่ต่างกัน หนำซ้ำบอลเดินสายอาจจะได้มากกว่าด้วยซ้ำ
“ส่วนตัวผมมองว่ามีเยอะนะ ถ้าเทียบกันในระดับที 3 หรือลีกรองๆ แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง พวกเขาเลยไม่ก้าวไปบอลอาชีพ บางทีเงินเดือนมันน้อยที 3 เงินเดือนมันไม่สามารถเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัวได้ บางคนได้ 9 พัน หมื่นนึง หมื่นสองเอง แค่กินข้าวสามมื้อก็หมดแล้ว”
“นักเตะเก่งกว่ามีเยอะ แต่เรื่องเงินมันสำคัญ ดีกรีเยาวชนทีมชาติที 3 จ้างกันเต็มที่ หมื่นห้าถึงสองหมื่น แต่นักบอลเดินสายเนี่ย พวกเขาทำงานหลักได้ เตะบอลเดินสายเป็นรายได้เสริม รับเงินสองทางยังไงก็ได้มากกว่า”
ท้ายที่สุดแล้วพอสอบถามตัวของ ใหญ่ ว่า หากมีข้อเสนอบอลอาชีพเข้ามาจะเลือกกลับไปทำเลยทันทีหรือไม่? ทีมงานได้รับคำตอบกลับมาว่า
“ตอนนี้เราก็ทำรอข้อเสนอ แต่ถ้าข้อเสนอมาแล้วมันไม่ลงตัว ไม่ได้ทำให้เราพัฒนาขึ้น ก็ทำตรงนี้ต่อไปดีกว่า”
“เราต้องดูรายละเอียดของแต่ละทีมที่ยื่นมาว่า เจ้าของทีมอยากทำทีมเลื่อนชั้นหรือเปล่า เพราะถ้าประคองแค่ให้อยู่รอดก็ไม่มีอะไรท้าทาย อยู่ตรงนี้ได้เงินเยอะกว่า เราเคยทำทีมเลื่อนชั้นมาแล้วก็อยากคัดเกรดทำทีมที่มีเป้าหมายแบบเดียวกัน ถ้ามีข้อเสนอแบบนั้นระดับที 3 ถึงได้เงินน้อยกว่าก็จะกลับไป”
สถานการณ์ตอนนี้ ใหญ่ แอบแย้มๆ ว่า มีผู้ใหญ่บางสโมสร สอบถามอนาคตของตัวเขาเข้ามาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปตามเวลาที่แต่ละทีมเริ่มขยับเดินหน้ากันอย่างเต็มตัว
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เทพนิยายภูธร : ‘สโมสร ดอนมูล’ ตำนานทีมระดับตำบลผู้พิชิตแชมป์ เอฟเอ คัพ
เมื่อครั้งหนึ่ง “อิชิอิ” เคยทำงานในโรงอาหาร หลังคว้ารองแชมป์สโมสรโลก
คล้ายตรงไหนบ้าง? : ศุภณัฏฐ์ นักเตะเงา โลซาโน่ ในสายตาสื่อต่างประเทศ
เวียดนามกร้าวก่อนซีเกมส์ : "4 ปีก่อน ทรุสซิเย่ร์ ก็เคยพาทีมเวียดนามยู 19 เอาชนะไทยมาแล้ว
เก่งในสนามไม่พอ : สาเหตุใด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงครองความยิ่งใหญ่ได้แบบยั่งยืน ?
บุรีรัมย์ ยังห่างแค่ไหน ? 10 สถิติไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้
คุณสมบัติอะไรที่ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ ?
ข่าวและบทความล่าสุด
RELATED BY AUTHOR