วานโฟเระ โคฟุ เก่งแค่ไหน มีอะไรที่ บุรีรัมย์ ต้องระวัง ?
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมที่จะลงทำศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 ด้วยการบุกไปเยือน วานโฟเระ โคฟุ ของญี่ปุ่น ในค่ำคืนวันพุธที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ แม้ว่าเจ้าบ้านอาจจะไม่ได้เป็นทีมที่คุ้นหูสำหรับแฟนบอลชาวไทย แต่ก็เป็นทีมที่ประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะการมาจากลีกชั้นนำของเอเชียอย่างเจลีก
ด้วยเหตุนี้ Think Curve - คิดไซด์โค้ง จึงขอไปรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้น ว่าเป็นทีมแบบไหน และมีอะไรที่ปราสาทสายฟ้าต้องระวังบ้าง
ติดตามได้ที่นี่
สโมสรจากเจ2
วานโฟเระ โคฟุ อาจจะไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูแฟนบอลชาวไทย ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอันที่จริงพวกเขาไม่ได้เป็นทีมชั้นนำ แถมยังวนเวียนอยู่กับการเลื่อนชั้นตกชั้นระหว่างเจ1 และเจ2 เป็นส่วนใหญ่
พวกเขาผ่านเข้ามาเล่นในรายการนี้ด้วยตำแหน่งแชมป์เอ็มเพอรเรอร์คัพ ฟุตบอลถ้วยใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีอายุกว่า 100 ปี ด้วยการหักด่าน เอาชนะ ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ในการดวลจุดโทษอย่างเซอร์ไพร์ส
ยิ่งกว่านั้นในตอนที่ วานโฟเระ คว้าแชมป์ถ้วยจักรพรรดิ พวกเขามีสถานะเป็นเพียงทีมอันดับ 18 ในเจ2 ลีก หรือเรียกง่ายๆ ว่ากลุ่มดิ้นรนหนีตกชั้น
และหากจะให้คำจำกัดความพวกเขา “ทีมเล็กเจลีก” น่าจะตรงกับ วานโฟเระ มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น เจไอที รีไซเคิล อิงค์ สเตเดียม รังเหย้าของพวกเขาจุผู้ชมได้มากที่สุดแค่ 17,000 คน
หรือการที่สโมสรยังมีแฟนบอลเฉลี่ยที่ไม่สูงนัก คือราว 10,000 คนเศษ ตอนเล่นเจ 1 และร่วงมาเหลือเพียง 4,930 คนในเจ2 เมื่อฤดูกาล 2022 หรือน้อยกว่า บุรีรัมย์ ถึง 4 เท่าตัว เมื่อเทียบกับไทยลีกฤดูกาล 2022-2023 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขา คืออันดับ 13 ในเจ1 ที่เคยทำได้ 2 ปีติดต่อกันในฤดูกาล 2013 และ 2014 ขณะที่ผลงานในฟุตบอลถ้วย นอกจากแชมป์เอ็มเพอร์เรอร์สคัพ วานโฟเระ ไม่เคยเข้าชิงชนะเลิศ ในรายการไหนอีกเลย หรือแม้แต่รอบชิงชนะเลิศ ก็ยังไม่เคยไปถึง
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้การผ่านเข้ามาเล่นใน เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ที่ทำให้ประสบการณ์ในรายการนี้เป็นรองแชมป์ไทยลีกจากไทยอย่างสุดกู่
แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็เป็นทีมที่ประมาทไม่ได้
ดาวยิงอันตราย
แม้ว่า วานโฟเระ จะมีสถานะเป็นเพียงทีมในลีกรอง แต่ก็ประมาทไม่ได้ เนื่องจากเจลีก ขึ้นชื่อในเรื่องมาตรฐานของทีม ทำให้ทีมจากเจ1 และเจ2 โดยรวมแล้วมีระดับที่ไม่ต่างกันมากนัก โดยเฉพาะทีมที่เคยไปเล่นในเจลีก
ยิ่งไปกว่านั้น สโมสรจากจังหวัดยามานิชิ ยังเป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรุกดุดันของลีก ยังยิงไปแล้ว 51 ประตูจาก 37 นัด ที่การันตีได้ว่าหนึ่งเกมพวกเขาจะต้องมีสกอร์แน่ๆ
แน่นอนว่ากุญแจสำคัญในแนวรุก ก็จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ปีเตอร์ อูทากา อดีตดาวซัลโวเจ1 ลีก ฤดูกาล 2016 ชาวไนจีเรีย ที่ยิงไป 11 ประตู จาก 36 นัดในลีก
จุดเด่นของเขาก็คือความเร็ว ที่แม้จะลดน้อยถอยลงไปบ้างตามอายุ แต่ก็ยังเร็วกว่ามาตรฐานของนักเตะทั่วไป ที่หลายครั้งการทำประตูของเขามักจะมาจากการสปีดหนีคู่แข่งเข้าไปผลิตสกอร์
ขณะเดียวกัน ดาวยิงวัย 39 ปีรายนี้ ยังจมูกไว มักจะอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ บวกกับประสบการณ์ที่โชกโชน ผ่านการค้าแข้งมาแล้วทั่วโลก ทั้งลีกเดนมาร์ก จีน และลีกสูงสุดของญี่ปุ่นอยู่หลายฤดูกาล น่าจะทำให้เขาเป็นตัวอันตรายที่ต้องจับตายให้ได้
เช่นเดียวกันกับ คริสเตียโน กองหน้าชาวบราซิลที่ย้ายมาพร้อมกัน เพราะแม้ว่าเขาจะยิงประตูให้ วานโฟเระ ไปเพียงแค่ 2 ลูก แต่เทคนิคเหลือร้ายสไตล์บราซิล น่าจะสร้างความปวดหัวให้คู่แข่งไม่น้อย
อย่างไรก็ดี ที่มองข้ามไม่ได้เลย ก็คือ โยชิยูกิ ชิโนดะ กุนซือวัย 52 ปี ที่เพิ่งเข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2023 ที่สามารถพา วานโฟเระ จากอันดับ 18 ของเจ2 เมื่อฤดูกาลก่อน ขึ้นมาอยู่ในโซนเพลย์ออฟเลื่อนชั้นในฤดูกาลนี้
โดยผลงานล่าสุดของทีมคือรั้งอันดับ 6 ในเจ 2 จากการคว้าชัย 16 เกม เสมอ 8 เกม และแพ้ไป 13 เกม รวมถึงพังตาข่ายคู่แข่งไปได้ถึง 51 ประตู แต่ก็เสียมากถึง 44 ประตู
สำหรับ ชิโนดะ เขามักจะใช้แผน 4-2-3-1 โดยวางปีเตอร์ อูทากา เป็นหน้าเป้า สลับกับคริสเตียโน โดยมี คาสึชิ มิตสึชิระ เป็นหน้าต่ำ คอยสอดแทรกเข้าไปทำประตู แต่ก็อาจจะปรับเปลี่ยนในเกมสโมสรเอเชีย ที่การโรเตชั่นคือสิ่งจำเป็น
อย่างไรก็ดี ข้อเสียเปรียบเดียวของ วานโฟเระ ก็คือการที่พวกเขาไม่สามารถ เจไอที รีไซเคิล อิงค์ สเตเดียม รังเหย้าในจังหวัดยามานิชิ ลงเล่นใน ACL ได้ เนื่องจากไม่ผ่านเกณฑ์ของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี
ทำให้ วานโฟเระ จำเป็นต้องไปเช่าสนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ห่างจากสนามเดิมกว่า 120 กิโลเมตร แถมตัวสนามยังมีความจุมากกว่า 68,000 คน ที่ทำให้แฟนบอลของพวกเขาที่มีเพียงราว 5,000-10,000 คน หากเข้ามาชมเกม อาจจะดูโหรงเหรงไปสักนิด
“วานโฟเระ โคฟุ คว้าแชมป์เอ็มเพอร์เรอร์สคัพครั้งที่ 102 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และฤดูกาล 2023 นี้ เราวางแผนที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก การแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย” ซาโตรุ ทาคุมะ ประธานสโมสรกล่าว
“และในฐานะสโมสรของจังหวัดยามานาชิ ซึ่งเป็นตัวแทนของญี่ปุ่น เราจึงจะเล่นเกมเหย้าในรอบแบ่งกลุ่ม ในสนามกีฬาแห่งชาติ เราจึงได้สมัครกับเจลีกเพื่องานนี้”
ก็ต้องมารอดูว่า บุรีรัมย์ จะทำได้ดีแค่ไหน กับการบุกไปเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ รวมเป็นกำลังใจให้ตัวแทนจากไทยพร้อมกันในวันที่ 4 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 17:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เป็นต้นไป
แหล่งอ้างอิง
https://soccerhihyo.futabanet.jp/articles/-/100508?page=1
https://web.gekisaka.jp/news/acl/detail/?385278-385278-fl
https://www.soccer-king.jp/news/japan/acl/20230330/1752941.html