วิเคราะห์ ‘สยาม แย็ปป์’ กับความท้าทายครั้งใหม่ หากได้ย้ายไป ‘บุรีรัมย์’

วิเคราะห์ ‘สยาม แย็ปป์’ กับความท้าทายครั้งใหม่ หากได้ย้ายไป ‘บุรีรัมย์’
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

หลังจากกระแสข่าวลือว่า สยาม แย็ปป์ ดาวเตะลูกครึ่ง ไทย-อังกฤษ จากสโมสร โปลิศ เทโร เอฟซี กำลังจะย้ายไปเผชิญความท้าทายใหม่ในการเป็นขุนพลของสโมสร ‘ปราสาทสายฟ้า’ แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการออกมาจากทั้งสองฝ่าย

อย่างไรก็ตามในเมื่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เริ่มขยับเข้าสู่ตลาดซื้อ-ขายนักเตะในเลกที่สอง พร้อมกับเตรียมปล่อยตัวผู้เล่นบางรายที่ไม่ผ่านเกณฑ์ในเลกแรกออกไปจากทีม โอกาสที่ดีลนี้จะเกิดขึ้น ‘จริง’ ย่อมมีความเป็นไปได้

ซึ่งข้อมูลจากทาง ‘เจ-วรปัฐ อรุณภักดี’ คอนเฟิร์มไปแล้วว่า ดีลนี้พูดได้เลยว่า ‘Official’ ไปเรียบร้อยแล้ว นักเตะมีการตรวจร่างกายและเซ็นสัญญากันไปล่วงหน้า รอแค่การไปซ้อมกับทีมและรอเปิดตัวในวันที่จะพบกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด

สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้สำหรับ สยาม และว่าที่ต้นสังกัดใหม่ บุรีรัมย์ จะเป็นเช่นไร? ฝ่ายไหนจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ความก้าวหน้าในอาชีพ

พื้นฐานฟุตบอลของ สยาม ถือว่าถูกฝึกปรือมาอย่างเข้มข้น จากอะคาเดมี่ของ ครูไซโร่ สโมสรชื่อดังในลีกบราซิล การปูเส้นทางต่างๆ ของเขาอย่างเป็นแบบแผนตั้งแต่อายุ 12-13 ปี ทำให้เจ้าตัวไม่ได้มองว่า อาชีพการเป็นนักเตะของเขาต้องอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่กลับมองไกลถึงการค้าแข้งในยุโรป

PHOTO : Siam Yapp

ด้วยคอนเนคชั่นต่างๆ จากโค้ชในอะคาเดมี่ ทำให้ สยาม มีโอกาสได้ไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรดังๆ ในประเทศโปรตุเกส อาทิ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และ เอสโตริล ซึ่งฝีเท้าของเขาผ่านเกณฑ์การทดสอบสบายๆ เพียงแต่ติดปัญหาเรื่องการเซ็นสัญญาอาชีพ ต้องรอจากอายุ 14 เป็น 16 พอถึงเวลา EU ก็เปลี่ยนกฎไปเป็น 18 ปี ส่งผลให้ความหวังในการลุยยุโรปของเขานั้นกลายเป็นหมัน

“แค่ 2-3 เดือนก่อนผมจะอายุครบ 16 ปีเต็ม ปัญหาเรื่องการเมืองและการเปลี่ยนแปลงกับสมาชิกใน EU เกิดขึ้นแบบที่ผมไม่ทันตั้งตัว นั่นก็คือ Brexit ซึ่งสืบเนื่องมาจาก ประเทศอังกฤษ ต้องการแยกตัวออกจากการเป็นชาติสมาชิกในกลุ่ม EU”
“กลายเป็นว่าหากผมต้องการเซ็นสัญญาอาชีพในยุโรป ผมต้องรอไปอีกสองปีเพื่ออายุครบ 18 ปีตามเกณฑ์ที่ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่าเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์”

อย่างไรก็ตาม สยาม มีโอกาสเข้าร่วมแคมเปญ บาเยิร์น มิวนิค เวิลด์ สควอด ชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี พร้อมกับมาสร้างชื่อในการเล่นบนเวที ไทย ลีก กับสโมร โปลิศ เทโร ภายใต้การทำทีมของ ‘โค้ชอ้น-รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค’ ซึ่งประตูที่แฟนบอลไทยจำได้ดีคงหนีไม่พ้นลูกที่กระชากเดี่ยวเข้าไปยิง ชลบุรี เอฟซี ในเลกแรก

ประตูสร้างชื่อของ สยาม แย็ปป์ ในเลกแรก

โอกาสของ สยาม กับต้นสังกัด ได้ลงเล่นเป็นทั้งตัวจริงและตัวสำรองสลับกันไปตามความเหมาะสม แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ของสโมสรที่ไม่มีความชัดเจนในหลายๆ เรื่องจากการบริหาร ย่อมทำให้ผู้เล่นภายในทีมมองถึงการหาต้นสังกัดใหม่ แน่นอนว่า เขาย่อมเป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกัน

การย้ายไปอยู่กับสโมสรที่เพียบพร้อมด้าน การเงิน, สิ่งอำนวยความสะดวก และแนวทางการฝึกฟุตบอลที่เป็นแบบแผน ย่อมทำให้ สยาม อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นกว่าที่เคยผ่านพบมาในเส้นทางการค้าแข้งในไทย แล้วในวัยเพียงแค่ 19 ปี ต้องนอมรับว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของเจ้าตัวไม่น้อย

PHOTO : Siam Yapp

แม้ว่าผลงานของเขาที่ผ่านมาอาจยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก แต่ถ้ามองแค่เรื่องของสไตล์การเล่นที่มีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็ว, เบสิคฟุตบอล และ จังหวะการลากเลื้อยกินตัวที่ยอดเยี่ยม บวกกับเรื่องของตำแหน่งตัวรุกริมเส้นด้านซ้ายที่เขาถนัด โอกาสที่ สยาม จะเป็นตัวแทนของ ‘เช็ค-สุภโชค สารชาติ’ ที่ย้ายไปอยู่กับสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร บนเวที เจ ลีก ย่อมเทียบกันได้แบบกลายๆ

ซึ่งหากว่า สยาม ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดใหม่ ความท้าทายที่เขาฝันไว้ในการย้ายออกไปเล่นในลีกต่างประเทศที่มีความเข้มข้นมากขึ้น ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินความเป็นไปได้ เพราะตัวอย่างนั้นมีให้เห็นกันมาแล้ว จากกการที่ ‘แบงค์-ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา’ ย้ายไปเล่นให้กับ โอเอช ลูเวิน ในลีกสูงสุดประเทศเบลเยี่ยม

เพิ่มฐานแฟนบอล

ต้องยอมรับกันตามตรงว่านักฟุตบอลทุกวันนี้ หากจะมีการย้ายทีมไปสู่สโมสรใหญ่ ผู้บริหารย่อมต้องคำนึงถึงเรื่องของการตลาดไว้ล่วงหน้า เพื่อวางแผนการขายเสื้อ, เพิ่มฐานแฟนคลับ และ การทำคลิปตามสื่อโซเชี่ยลต่างๆ ออกมาเป็นรายได้ต่อๆ ไป

แน่นอนว่า บุรีรัมย์ นั้นมีองค์ประกอบที่จะผลักดัน สยาม ให้กลายเป็นสตาร์คนใหม่ของทีมได้ไม่ยาก เนื่องจากหน้าตาและรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาเอาการของเจ้าตัว ซึ่งย่อมส่งผลต่อปัจจัยที่ทำให้แฟนบอลหันมาติดตามทีมเพิ่มมากขึ้นไปอีก จากฐานแฟนคลับส่วนตัวของดาวเตะรายนี้

PHOTO : Buriram United

อย่างไรก็ตาม สยาม ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยว่า ‘มีดีพอ’ ที่จะทำให้สโมสรผลักดันเขาขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงกว่าเดิม แม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจ ทักษะฝีเท้าที่ไม่ธรรมดา และ ภาพลักษณ์ทางการตลาดที่ขายได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ สุดท้ายแล้วสิ่งที่เป็นตัวตัดสินสำคัญที่สุด ย่อมหนีไม่พ้นผลงานในสนามหลังจากนี้ เพราะก่อนหน้านี้มีดาวเตะลูกครึ่งหลายราย เอาชื่อมาทิ้งเป็นตัวอย่างให้เห็นกันมาแล้วในถิ่น ‘ธันเดอร์ โดม’

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : 

https://thinkcurve.co/syaam-aeypp-phuuthuukeluue-kaihphidhwangcchaakyuorp-thiikamhndchataakh-ngtawe-ngdwyfiiethaa/

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ