วิ่งตรงไหนก็เจอบอล : เมื่อ สุภโชค “เข้าระบบ” นักเตะญี่ปุ่นอาจต้องแย่งตำแหน่งกันเอง
ผลงานการซัลโว 2 ประตูของ สุภโชค สารชาติ ให้กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ในเกมที่เอาชนะ กัมบะ โอซาก้า ไป 4-0 ถือเป็นผลงานระดับที่ดีที่สุดของเขาเลยก็ว่าได้
2 ประตูที่ยิงได้มาจากทั้งนอกกรอบเขตโทษ และ ในกรอบเขตโทษ แต่เหนือสิ่งอื่นใด สุภโชค ไม่ได้เด่นแค่การยิงประตูเท่านั้น เเต่เขากลายเป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบการเล่นเกมรุกของ คอนซาโดเล ซัปโปโร ไปเรียบร้อยเเล้ว
เช็ค - โอกาชิวะ
เกมนี้ สุภโชค ได้ถูกส่งลงเล่นในตำแหน่งตัวรุก ในระบบการเล่น 3-4-2-1 หน้าที่ของเขาคือเป็นตัวรุกอยู่หลังกองหน้าตัวเป้า (สึโยชิ โอกาชิวะ) โดยตัวของ สุภโชค ยืนอยู่ฝั่งซ้าย และมี โยชิอากิ โคามาอิ อยู่ทางซ้าย
นี่อาจจะเป็นตำแหน่งที่เขาเล่นอยู่ประจำ แต่วันนี้มันมีความพิเศษแตกต่างจากหลาย ๆ เกมที่ผ่านมา
เดินทีแม้จะมีสกอร์ให้เห็นตลอด สุภโชค มักจะมีส่วนร่วมในแบบคนที่ “โผล่มายิง” กล่าวคือเขาอาจจะไม่มีส่วนต่อเกม หรือเป็นคนสำคัญในการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกมากนัก แต่ในระยะหลัง ๆ สุภโชค ทำได้ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะในเกมนี้ที่เรียกว่าเขาเป็นหัวหอกคนสำคัญในการเปลี่ยนรับเป็นรุกของทีมเลยก็ว่าได้
ทุกครั้งที่ทีมตัดบอลได้ สุภโชค จะเริ่มยังพื้นที่อันตรายของตัวเองทันที นั่นคือการพุ่งไปตรงกลางขึ้นมาเป็นกองหน้าตัวเป้าแทนที่ของ โอกาชิวะ ที่มักจะถอยลงมาเป็นตัวพักและพาบอล
และในช่วงที่ โอกาชิวะ ยืนอยู่ในตำแหน่งสูงที่สุด สุภโชค ก็จะเป็นตัวประคองบริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นระยะทำการของเขา พื้้นที่ที่สุภโชค ยิง หรือแอสซิสต์ได้ มักจะมาจากส่วนนี้ทั้งหมด
เกมนี้การเล่นร่วมกับ โอกาชิวะ ของ สุภโชค ต้องบอกว่าลงตัวที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
พวกเขาเล่นกันในแบบสลับกันขึ้นลงอย่างมีจังหวะจะโคน การชิ่งสั้นแบบจังหวะเดียว รวมถึงการยืนตำแหน่งเพื่อรอบอลจากเพื่อน ถือว่าสอดรับกันได้ดีมาก ๆ ทำให้เกมรุกของ คอนซาโดเล ลื่นไหลจนยิงได้ถึง 4 ประตู และสามารถคว้าชัยชนะครั้งแรกในรอบ 10 เกมลีกหลังสุดของพวกเขาได้สำเร็จ
ตัวเปล่า..แต่เปี่ยมพิษสง
สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นไดัชัดอีกอย่างของ สุภโชค ในเวลานี้คือ การเล่นเกมรุกแบบตัวเปล่า หลายคนอาจจะเคยชินกับภาพที่เขาบุกตะลุย เลี้ยงบอลฝ่าวงล้อมคู่แข่งเมื่อครั้งอดีต
แต่ตอนนี้ สุภโชค อยู่ในสถานะ “ไปตัวเปล่า” ได้อย่างเก่งกาจ ดูได้จากลูกแรกในจังหวะที่ทีมโดนบุก สุภโชค ยังลงไปช่วยไล่บอลในเเดนกลางอยู่เลย แต่เมื่อทีมตัดบอลได้เเละเปิดเกมรุก เขาก็ใช้เวลาเพียงอึดใจเดียว พาตัวเองไปอยู่บริเวณเยื้องริมเส้นฝั่งซ้ายในแบบที่่คู่แข่งไม่ทันระวัง เพราะมัวแต่ประกบตัวที่มีบอล
เมื่อ สุภโชค ว่างเพื่อนร่วมทีมก็รู้งานป้ายเข้าเหลี่ยมถนัดง่าย ๆ จากนั้น สุภโชค ก็ยิงโค้ง ๆ ในแบบที่เขาทำได้ดีมาตลอด จนเป็นประตู 1-0
ขณะที่ประตูที่ 2 ก็ไม่ต่างกัน สุภโชค สลับตำแหน่งกับ โอกาชิวะ เขาเข้ามายืนในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า แบบที่ค่อย ๆ ขยับเข้าจุดอันตราย จนกระทั่งได้ตั้งเท้าซ้ำเข้าไปง่าย ๆ จากจังหวะที่เพื่อนร่วมทีมสร้างเกมรุกเข้ามาให้
สุภโชค เล่นตัวเปล่าเก่งขึ้นจริง ๆ ในตอนนี้ เขาไม่จำเป็นต้องใช้เเรงเลี้ยงกระชากฝ่านนักเตะคนอื่น ๆ ให้เปลืองแรง แต่ใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น เมื่อเป็นแบบนั้น เขาก็จะมีเเรงไว้วิ่งหาช่อง หาพื้นที่สวย ๆ ให้เขาได้มีจังหวะยิงประตุแบบนี้
แฟนบอลของ ซัปโปโร ทวิตหลังเกมถึงสไตล์การเล่นของ สุภโชค ว่า “ตอนเรามี ชนาธิป เขาช่วยเราในเรื่องของการสร้างสรรค์และจังหวะที่วูบวาบ แต่ สุภโชค ในตอนนี้มีคุณสมบัติการชี้ขาดเกมที่ดีเยี่ยมจริง ๆ”
นอกจากนี้จังหวะการเล่นของ สุภโชค กับ โอกาชิวะ ยังได้รับคำชมจากแฟน ๆ เป็นจำนวนมากในคอมเมนต์หลังเกม โดยแฟนบอลส่วนหนึ่งบอกว่าต่อให้ โอกาชิวะ จะไม่สามารถทำประตุได้ แต่เขาคือคนสำคัญที่ทำให้ สุภโชค มีพื้นที่ และเปิดโอกาสให้ได้ง้างเท้าเพื่อซัดประตุ
“แต่ก่อนเราต้องเลือกว่า โอกาชิวะ หรือ อาซาโนะ จะเป็นตัวยืนของทีม แต่ตอนนี้ในส่วนของเกมรุกผมว่าเราต้องเพิ่มชื่อ สุภโชค ในฐานะตัวหลักแล้ว” แฟนบอลคนหนึ่งในทวิตเตอร์ว่าแบบนั้น
หลังเกม สุภโชค ก็ให้สัมภาษณ์ในการถ่ายทอดสดว่า
“ลูกแรกที่ยิงได้เป็นลูกที่ถนัดอยู่แล้ว ผมก็เลยลองยิงดู ดีใจมาก ๆ ที่มันเข้า ส่วนลูกที่สองขอบคุณโอกาชิวะมาก ๆ ที่เข้ามาถูกจังหวะแล้วก็ยิงให้ผมได้มีจังหวะเข้าซ้ำ … ตอนนี้พวกเรารวมใจกัน ช่วยกันสู้จนได้ 3 แต้มสำคัญ นี่คือจุดเปลี่ยนที่ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ทำให่ชัยชนะครั้งนี้เกิดขึ้น”
ส่วนมติของแฟน ๆ ในโลกโซเชี่ยลวันนี้ ถ้าจะให้แปลคงยาวเหยียดแน่นอน แต่เอาเป็นว่าทุก ๆ คอมเมนต์ที่พูดถึง สุภโชค ล้วนเป็นคำชมและคำยกย่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการของยกคุณภาพในการเล่นเกมรุกที่สร้างความแตกต่างได้ และพวกเขาหลายคนก็เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ สุภโชค ควรจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ในแนวรุก และให้นักเตะท้องถิ่นในทีมต้องแย่งตำแหน่งกันในอีก 2 พื้นที่ที่เหลือ