วิถีสึบาสะ และฟุตบอลคือจุดเปลี่ยนชีวิตของ "ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว"

วิถีสึบาสะ และฟุตบอลคือจุดเปลี่ยนชีวิตของ "ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว"
ชยันธร ใจมูล

ฟุตบอลคือเพื่อนและฟุตบอลให้ชีวิตใหม่คือธีมที่ปกคลุมมังงะเกี่ยวกับฟุตบอลตลอดกาลเบอร์ 1 ของโลกอย่าง กัปตันสึบาสะ มาโดยตลอดแม้เวลาจะผ่านไปกี่ภาคก็ตาม

ความฝัน ความเชื่อ และความหวังว่าชีวิตจะดีขึ้นโดยมีฟุตบอล กลายเป็นสารตั้งต้นของนักเตะหลาย ๆ คนในมังงะเรื่องนี้ และเช่นเดียวกันกับ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว นักเตะทีมชาติไทยจากสโมสรชลบุรี เอฟซี ที่ตอนนี้อายุ 22 ปี

เนื่องในโอกาสที่ “หนึ่ง” ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว จะเดินทางมาร่วมงานเปิดตัวสนามโครงการ DAIKIN Dream Stadium ที่ โรงเรียนชุมชนบ้านหัวกุญแจ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ในวันที่ 16 กันยายนนี้ และจะมีกิจกรรมเตะฟุตบอลกระชับมิตรเกมพิเศษแบบ 5 ต่อ 5 คละทีม กับตัวแทนจากทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมกับโครงการดีๆ ในครั้งนี้ คิดไซด์โค้งขอพาย้อนไปติตดามประวัติของ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว กันสักเล็กน้อย เรื่องราวของเขามีความเกี่ยวพันกับการ์ตูนกัปตันสึบาสะอย่างไร ติดตามที่นี่ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ถือเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดของวงการฟุตบอลไทย เท้าซ้ายและทักษะการครอบครองบอล หรือวิสัยทัศน์ในการมองเกมคือจุดเด่นของเขามาเสมอ ... ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่ใช่พรสวรรค์เพียงอย่างเดียว

บนโลกแห่งความจริงไม่มีนักเตะคนไหนที่ประสบความสำเร็จแล้วไม่เคยสู้กับความลำบาก พวกเขาล้วนใช้ความสามารถและเสียสละตัวเองอย่างมากตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเดินเข้ามาบนเส้นทางสายลูกหนัง

แตกต่างกันที่ "หนึ่ง" ถือเป็นนักเตะที่อาจจะต้องใช้ความพยายามมากยิ่งกว่าคนอื่น ๆ พอสมควร เพราะความลำบากของเขาไม่ใช่แค่ตอนเริ่มเล่นฟุตบอล แต่มันติดตัวเขามาตั้งแต่เขาลืมตาดูโลกเลย

เนื่องจากหนึ่งลืมตาดูโลกพร้อมกับโลกเลือดที่ติดต่อมาทางพันธุกรรม นั่นคือโรค "ธาลัสซิเมีย" (โรคโลหิตจางชนิดหนึ่งมีความรุนแรงหลายระดับตั้งแต่น้อย-มาก) ซึ่งโรคนี้ถ้าไม่สามารถเอาชนะได้ จะต้องอยู่กับมันไปทั้งชีวิตและมันจะสร้างปัญหามากมายในการใช้ชีวิตตามมา 

ในความโชคร้าย ชาญณรงค์ ยังมีโชคดีติดตัวมาบ้างเนื่องจากระดับที่เขาเป็นอยู่ในระดับของความรุนแรงน้อย มีโอกาสหายได้ แต่การจะหายได้เขาต้องทำตัวเองให้แข็งแรงเสมอ ออกกำลังกายบ่อย ๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งจะว่าไปสำหรับเด็กจากจังหวัดยโสธร นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะมีพร้อมกันทั้งหมดได้ง่าย ๆ 

หนึ่ง ต้องพยายามออกกำลังกายภายใต้ข้อจำกัดที่แตกต่างกับคนอื่น ธาลัสซิเมีย ทำให้เขาเหนื่อยง่ายกว่าเด็กทั่วไป แต่อย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้น ถ้าใจอยากจะเอาชนะ ปาฎิหาริย์เกิดขึ้นได้เสมอ 

หนึ่ง ออกกำลังกายแทบทุกประเภททั้งการวิ่ง ว่ายน้ำ แบดมินตัน และสุดท้ายเขาได้เจอเพื่อนแท้ที่อยู่กับเขามาตั้งแต่วันที่เริ่มจนวันเป็นผู้ชนะ นั่นคือเขาได้เจอกับ "ฟุตบอล"

ฟุตบอลทำให้เขากล้าหาญ ฟุตบอลทำให้เขามุ่งมัน และฟุตบอลทำให้เขามีความฝันตั้งแต่ยังเด็ก สิ่งเหล่านี้ยกระดับจิตใจเขาไปอีกขั้น ทำให้เขาไม่สนใจโรคที่ติดตัวมา เพราะที่เหลือข้างหน้าคือการพยายามทุ่มสุดตัวโดยไม่สนผลลัพธ์เท่านั้น จากนั้นจึงค่อยมาดูกันว่าเขาจะไปได้ไกลที่สุดเมื่อไหร่ 

"ผมไม่กลัว ผมว่ามันสนุกดี สำหรับฟุตบอล ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่มันต้องมีปะทะ ชนกัน เตะกันบ้างแต่เอาตรงๆ โดนเตะกับเป็น ธาลัสซีเมีย มันยังเทียบกันไม่ได้เลย ผมคิดอยู่เสมอว่า วันนี้ถ้าผมไม่มีฟุตบอล ผมคงต้องกินยารักษา โรคธาลัสซีเมียไปตลอดชีวิต" ชาญณรงค์ ว่าแบบนั้น 

แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เขาไม่ต้องใช้ยารักษาโรคธาลัสซีเมียไปตลอดชีวิต เพราะเขามียาเสริมที่ส่งผลต่อการรักษาได้ดีไม่แพ้กันนั่นคือฟุตบอล ภาพที่ทุกคนเห็นประจำคือหนึ่งจะต้องไปหาสนามฟุตบอลเล็กๆ แถวบ้าน และลงไปเล่นทุก ๆ วันด้วยความสนุก จากเด็กที่เคยเหนื่อยง่าย กลายเป็นคนที่สามารถเตะฟุตบอลได้ทั้งวัน 

ไม่ว่าสนามฟุตบอลในวันเริ่มต้นของเขาจะขรุขระหญ้าไม่สวยหรือไม่ได้มาตรฐาน แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะใจความที่แท้จริงมันเหมือนทุ่งหญ้าแห่งความฝัน ที่เขาใช้มันเป็นเหมือนกับผืนผ้า โดยใช้ฝีเท้าของเขาเป็นพู่กันในการขีดเขียนความสนุก ความสุข ความแข็งแรง และความฝันลงไปบนนั้น 

กาลเวลาผ่านไปเด็กน้อยจากยโสธร เดินทางมาเป็นนักเตะในอคาเดมี่ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด และสุดท้ายมาลงเอยกับ ชลบุรี เอฟซี ที่ที่ ๆ มีทุกอย่างพร้อมมอบให้เด็กที่มีฝันและความมุ่งมั่นที่จะเดินบนเส้นทางนี้ ชาญณรงค์ กลายเป็นนักเตะระดับ MVP ในการแข่งขันต่าง ๆ ของทีมอคาเดมี่ชลบุรีมาตั้งแต่อายุ 12 ปี และลากยาวมาจนถึงทุกวันนี้

“ผมอยากเล่นฟุตบอลแบบจริง ๆ จัง ๆ จึงเลือกไม่ต่อสัญญากับ เมืองทอง ยูไนเต็ด เพื่อไปอยู่กับ ชลบุรี”

“ที่ชลบุรีผมมีสมาธิกับการเล่นฟุตบอลอย่างเดียว เพราะอคาเดมีของชลบุรีอยู่ในป่า รอบข้างมีแต่ป่าอ้อยจึงไม่มีเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นนอกจากเตะฟุตบอล วันหยุดก็มีแค่วันเดียวคือวันอาทิตย์ แต่ก็เหมือนไม่ได้หยุดเพราะเวลามันหมดเร็วมาก”

พัฒนาการที่ก้าวกระโดดทำให้หนึ่งกลายเป็นกำลังสำคัญของสโมสร สร้างสถิติต่าง ๆ ส่วนตัวมากมายนับตั้งแต่วงการฟุตบอลไทยได้รู้จักเขา แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่พรสวรรค์แต่คือความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ ตัวของหนึ่งนั้นได้รับคำชมจาก วิทยา เลาหกุล มาโดยตลอดว่าเป็นเด็กที่น้อง ๆ ในอคาเดมี่ชลบุรี ควรเอาเป็นแบบอย่างเพราะทุ่มเทและมีสมาธิกับฟุตบอลได้ยอดเยี่ยมที่สุด เรียกได้ว่าหายใจเข้าออกเป็นฟุตบอลก็คงไม่ผิดนัก 

 “หนึ่งเขาอยู่ในสนามซ้อมนานที่สุด หลังจากการฝึกซ้อมเขายังซ้อมเพิ่มเติมเสมอ” โค้ชเฮง กล่าว 

“ผมบอกกับนักเตะในอคาเดมีว่าอยากให้ดูหนึ่งเป็นตัวอย่างของความมุ่งมั่น เขาต้องการพัฒนาตัวเองเสมอ เขาเหมือนคนน้ำไม่เต็มแก้ว” 

“เขาเป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลดี มีความเร็ว และมีวิสัยทัศน์ในการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมมาก นั่นคือความพิเศษของเขา”

ไม่ใช่แค่การพยายามฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเองกับทุก ๆ สิ่งที่เจอในแวดวงฟุตบอลไทยเท่านั้น หนึ่งยังเป็นนักเตะวัยทีนเอจไม่กี่คนที่ได้เล่นในระดับไทยลีกเป็นตัวหลักแล้ว แต่ก็ยังขวนขวายที่จะฝึกวิชาฟุตบอลต่อที่ประเทศ สเปน ซึ่งในช่วงเวลาราว ๆ 1 ปีนั้น หนึ่งอาจจะไม่ได้เล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่ แต่คำบอกเล่าของเอเย่นต์ที่พาไปนั้นคือเจ้าตัวได้รับความสนใจจากหลากหลายทีมมาก ๆ และ หนึ่ง เองก็พร้อมที่จะกลับมาเล่นในสเปนอีกครั้งในอนาคต

ณ ตอนนี้ในวัย 22 ปี ชาญณรงค์ ถือเป็น 1 ในตัวท็อปของวงการฟุตบอลไทย ทว่ายังมีอีกหลายสิ่งให้เขาต้องเรียนรู้เพื่อจะไปให้ได้ไกลกว่านี้ ทุกคนย่อมรู้ดีว่าโลกของฟุตบอลกว้างใหญ่เสมอ และรอให้นักเตะไทยเดินทางไปพิสูจน์และหาคำตอบของสิ่งนั้นด้วยตัวเอง ซึ่งจากทั้งหมดที่กล่าวมาไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมแฟนฟุตบอลไทยคาดหวังว่าสักวันหนึ่ง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว จะเป็นนักเตะไทยที่ไปอยู่ ณ จุดนั้น 

ท้ายที่สุดแล้วสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเมื่อคุณรักในสิ่งใดจริง ๆ พร้อมทั้งตั้งความฝันกับมันเอาไว้และพยายามเพื่อไปถึงจุดนั้น การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีมันจะเกิดขึ้นกับคุณเสมอ แม้ว่าที่สุดแล้วคุณอาจจะไปไม่ถึงจุดสูงสุด แต่มันก็ทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น เป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมขึ้นได้เช่นกัน .... โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ และยังมีเด็ก ๆ อีกหลายคนที่ต้องการโอกาส มีสนามฟุตบอลให้พวกเขาได้วาดฝันของตัวเองขึ้นมา

หากประเทศของเรามีสนามสาธารณะให้กับเด็ก ๆ ในประเทศนี้ได้ลงเล่น ในอนาคตเราอาจจะมีนักเตะอย่างชาญณรงค์เพิ่มขึ้นอีกมาก ... หรือไม่ก็อาจจะได้นักเตะที่เก่งยิ่งกว่าเขาเป็นนักเตะผู้แบกยุคสมัยของฟุตบอลไทยเลยก็เป็นได้ 

บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศชั้นนำระดับโลก ร่วมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง เตรียมเปิดตัวสนามในโครงการ DAIKIN Dream Stadium ที่ โรงเรียนชุมชนบ้านหัวกุญแจ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ในวันที่ 16 กันยายนนี้ โดยจะมี “หนึ่ง” ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว เดินทางมาร่วมงานเพื่อเตะฟุตบอลกระชับมิตรเกมพิเศษแบบ 5 ต่อ 5 คละทีม กับตัวแทนจากทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมกับโครงการดีๆ ในครั้งนี้ด้วย

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

MOST POPULAR

สนใจโฆษณาติดต่อ