ยอดแข้ง บางกอก เอฟซี : คุยกับ "ลิม่า" แฮตทริกฮีโร่ผู้เขี่ยบุรีรัมย์จนหลุดจอง "ทริปเปิลแชมป์"

ยอดแข้ง บางกอก เอฟซี : คุยกับ "ลิม่า" แฮตทริกฮีโร่ผู้เขี่ยบุรีรัมย์จนหลุดจอง "ทริปเปิลแชมป์"
ชยันธร ใจมูล

ดูดู้ ลิม่า กลายเป็นชื่อที่แฟนฟุตบอลไทยคุ้นหูภายในข้ามคืนหลังจากเจ้าตัวยิงแฮตทริกในเกมประวัติศาสตร์ ช่วยให้ บางกอก เอฟซี เอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ 5-4 ในช้าง เอฟเอ คัพ แบบสุดมัน สุดเร้าใจ

คิดไซด์โค้ง ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ดาวยิงแซมบ้าวัย 35 ปี รายนี้ และเขาจะเปิดเผยถึงที่มาของจังหวะที่พูดกันปากต่อปากว่า "เขากระชากหนีนักเตะหนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า"

ในวัยที่มากขนาดนี้มีเคล็ดลับอะไรซ่อนอยู่ และเขาคิดอย่างไรที่ทีมระดับไทยลีก 3 สามารถเอาชนะ "ทริปเปิลแชมป์ 2 สมัย" อย่าง บุรีรัมย์ ได้ ?

นี่คือบทสัมภาษณ์จากเขา อ่านทั้งหมดที่นี่

กว่าจะถึงเมืองไทย

ดูดู้ ลิม่า วัย 35 ปี เคยผ่านการค้าแข้งมาหลากหลายประเทศ เริ่มค้าแข้งในบราซิลกับทีมระดับภูมิภาคหลายสโมสร จนกระทั่งได้ย้ายออกมาค้าแข้งนอกประเทศครั้งแรกในปี 2016 กับ ไซง่อน เอฟซี หรือปัจจุบันคือ ฮานอย เอฟซี ใน วีลีก เวียดนาม

ช่วงเวลานั้นเขาได้ไปเล่นในหลากหลายสโมสร และหลายประเทศไล่ตั้งแต่ ไทย(อุดรธานี เอฟซี) ตุรกี, อียีปต์, จีน จนกระทั่งได้กลับมาเล่นที่เมืองไทยอีกครั้งในปี 2020 กับ นนทบุรี ยูไนเต็ด และนั่นคือจุดเริ่มต้นของตัวรุกรายนี้

PHOTO : BANGKOK FC

"จริง ๆ ฟุตบอลไทยไม่ใช่เรื่องใหม่ ผมเคยเล่นในไทยแล้วกับ อุดรธานี ในปี 2017 ก่อนจะกลับมาเล่นที่ไทยอีกครั้งในปี 2020 กับ นนทบุรี ยูไนเต็ด และก็ไปเล่นกับ หัวหิน จนกระทั่งมาอยู่กับ บางกอก เอฟซี ในตอนนี้" ลิม่า กล่าวเริ่ม

"ตอนที่ผมกลับมาเล่นรอบที่ 2 (ปี 2020) ผมคิดว่าฟุตบอลไทยกระดับขึ้นในแง่ของการเล่นนะ โค้ชในระดับไทยลีก 3 ก็ดูจะมีความรู้ที่พร้อมจะสอนนักเตะมาก ๆ พวกเขามีความเข้าใจเกมสูงทั้งในแง่ของการนำเข้าสิ่งใหม่ หรือการพัฒนารุปแบบการเล่นให้เหมาะสมกับนักเตะ"

"อย่างโค้ชของเราคือ โค้ชโดนัท (กฤษกร กระสายเงิน) และ "โค้ชโม" (มามาดู โฟฟาน่า) เป็นตัวอย่างที่ดีเลยล่ะ ทั้งคู่เป็นพาร์ทเนอร์ที่เยี่ยมมาก"
PHOTO : BANGKOK FC

"พวกเขามีคุณสมบัติดีนั่นคือมีทั้งความเป็นคนหนุ่ม, ความกระหาย พวกเขาเป็นโค้ชประเภทที่เติมความรู้ให้สดใหม่ เท่าทันโมเดิร์นฟุตบอลอยู่ตลอด ในการซ้อมคุณจะได้เห็นอะไรที่แปลกใหม่เสมอ ผ่านการเตรียมตัวในการซ้อมแต่ละครั้ง วิธีการแบบนี้ตอบโจทย์มากในฟุตบอลยุคปัจจุบัน มันไม่ได้ช่วยแค่ให้นักเตะคนใดคนหนึ่งเก่งขึ้นเท่านั้น แต่มันยังพัฒนาในแง่ภาพรวมของทีมด้วย"

"คุณปล่อยเวลาผ่านไปเปล่าๆ ไม่ได้เลยในฟุตบอลยุคนี้ เพราะมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มากมาย ซึ่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้แหละที่ทำให้คุณสามารถสร้างความแตกต่างในการแข่งขันได้" ลิม่า กล่าว

ในปีนี้ ลิม่า ระเบิดฟอร์มสุดยอดจนมีส่วนสำคัญพาทีมคว้าเเชมป์ไทยลีก 3 มาครองได้สำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้นการยิงแฮตทริกในเกม "ล้มยักษ์" ใส่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็กลายเป็นเวทีที่ให้ชื่อเขาติดปากแฟนบอลไทยในเวลานี้ โดยเฉพาะลูกยิ่งที่เขาโซโล่ผ่ากลางสนาม ลุยเดียวเข้ามาสังหารเป็นประตูยอดเยี่ยมที่สุดในเกมนี้

PHOTO : BANGKOK FC

ทีมงานคิดไซด์โค้ง ได้ถามเขาว่าอะไรคือเบื้องหลังที่ทำให้ "เก่งเล็ก" อย่างบางกอก สามารถพลิกล็อคเอาชนะ "เก่งใหญ่" อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ ? คำตอบแรกที่เขาบอกคือ ในเกมแบบนี้คุณต้องเริ่มจากการ "กล้าคิด" ก่อน

"ประการแรกเลยในเกมแบบนี้คุณต้องกล้าฝันที่จะเอาชนะ เมื่อคุณมีความกล้าพอ คุณก็สามารถฝันหรือทำอะไรแตกต่างได้ทั้งนั้น" ลิม่า กล่าวเริ่ม

"ตอนเราเริ่มเกมนี้ ผมคิดว่าเราทำได้ดีมาก ๆ เลยกับระดับของทีมเรา สิ่งที่ผมคิดคือนักเตะระดับไทยลีก 3 หรือไทยลีก 2 ถือเป็นนักเตะที่ดีเลยทีเดียว พวกเขาไม่ได้แย่หรือห่างชั้นจากนักเตะในไทยลีก 1 มากนัก"

"นักเตะเหล่านี้เพียงแค่ต้องการโอกาสให้ตัวเองได้โชว์ฝีเท้าในการเจอกับทีมใหญ่ ๆ จากลีกสูงสุดเท่านั้นเอง และเมื่อโอกาสนั้นมาถึงก็อย่างที่คุณได้เห็น(จากเกม ชนะบุรีรัรมย์) พวกแแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่ามีศักยภาพไม่น้อยกว่าใคร และพร้อมจะคู่แข่งได้เหมือนกัน"

PHOTO : BANGKOK FC

สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่หลายคนสังเกตในตัวของ ลิม่า คือในวัย 35 ปี ทำไมเขาจึงมีศักยภาพทางร่างกายที่เเข็งแกร่ง และเร็วมาก ๆ ชนิดที่สร้างปัญหาให้แนวรับบุรีรัมย์ได้ตลอด ... ความลับของเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก เขาแค่มีความเป็นมืออาชีพ แม้จะต้องเล่นในลีกระดับดิวิชั่น 3 ของประเทศ แต่ ลิม่า ก็ดูแลตัวเองอย่าง ทั้งในเรื่องการกิน และการออกกำลังกาย จนทำให้เขามีร่างกายที่ทั้งเเข็งแรงและรวดเร็วอย่างที่แสดงออกมา

"เอาจริง ๆ ผมคิดว่าอายุก็แค่ตัวเลขนั่นแหละ คุณจำดิโอโก้(หลุยส์ ซานโต้) ได้ไหม ? นั่นแหละตัวอย่างที่ชัดเจนมาก ๆ นักเตะอายุมากที่ฟอร์มสุดยอดอย่างเขาคือเหตุผลที่ทำให้ผมพยายามผลักดันตัวเองเสมอในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่"

"ผมพยายามกินอาหารคลีนเพื่อสุขภาพตลอด แล้วก็พยายามคุยกับโค้ชฟิตเนสชาวบราซิลที่ชื่อว่า โจนาธาน ซานตาน่า อยู่ตลอด เราพยายามวางแผนการกินและการออกกำลังกายแต่ละอาทิตย์ และพยายามทำให้สอดคล้องกับโปรแกรมการฝึกซ้อมของ บางกอก เอฟซี ที่วางไว้ ... ซึ่งนั่นคือรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผมทำ" ลิม่า กล่าวแบบนั้น ซึ่งมันจำเป็นมาก ๆ ในการดูแลสุขภาพตัวเองสำหรับนักเตะที่เล่นในสไตล์ทะลุทะลวงแบบเขา

PHOTO : BANGKOK FC

"เพราะการเป็นนักเตะสไตล์ที่ต้องพยายามเล่นแบบชิงชนะจังหวะและใช้ความเร็ว ... ผมคิดว่าตัวผมเองก็เป็นนักเตะที่มีความเร็วอยู่บ้าง ดังนั้นผมจึงพยายามใช้มันในจังหวะดี ๆ โอกาสสวย ๆ ...หากจะบอกว่าผมถนัดอะไรอีกนอกจากเรื่องของสปีดก็น่าจะเป็นเรื่องการเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีม การผ่านบอล การเปลี่ยนทิศทางการวิ่ง ... อ้อแน่นอนการจบสกอร์ด้วย" ลิม่า กล่าว

ในวัย 35 ปี ลิม่า เองยังมีฝันที่จะพา บางกอก เอฟซี ทำผลงานให้ได้ดีในระดับไทยลีก 2 จากการที่ทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จในปีนี้ และแน่นอนว่าถ้ามีโอกาส เขาก็อยากจะลงเล่นในศึกไทยลีก 1 ร่วมกับทีมด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามในตอนนี้ เป้าหมายของเขาคืออยู่กับปัจจุบัน ทำผลงานให้ดีที่สุด และช่วยพัฒนานักเตะไทยในทีมบางกอก เอฟซี ให้เเข็งแกร่งขึ้นไปพร้อม ๆ กัน

"เป้าหมายของผมตอนนี้มีแต่ต้องเป็นเเชมป์ ยิงประตูให้ได้เยอะ ทำแอสซิสต์ให้เพื่อนได้บ่อย ๆ และสุดท้ายผมอยากจะมีส่วนร่วมกับการยกระดับนักเตะไทยด้วย" ลิม่า กล่าวทิ้งท้าย

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ