‘ยศกร บูรพา’ : สไตรเกอร์ยุคดั้งเดิม ผู้ยิงประตูให้กับทีมชาติไทยทุกรายการที่ลงเล่น

By ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

21 พ.ย. 2024 , 04:25น.

ทีมชาติไทย ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ภายใต้การคุมทีมของ ‘โค้ชหระ’ อิสสระ ศรีทะโร เพิ่งจะปิดท้ายทัวร์นาเมนต์ เอเอฟซี ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม เอช ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการเก็บ 9 แต้มเต็ม ยิงไป 9 ประตู ไม่พลาดท่าเสียประตูให้กับคู่แข่งแม้แต่ลูกเดียว

แต่เกมนัดสุดท้ายเมื่อวานนี้ที่พบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ยู-23 ต้องยอมรับว่า เป็นงานที่ยากลำบากไม่น้อยสำหรับทัพช้างศึกจูเนียร์ ที่ทำได้แค่เฉือนชนะแบบหืดจับไปด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูชัยของดาวยิง วันเดอร์ คิดส์ วัยแค่ 18 ปีอย่าง ‘มิค’ ยศกร บูรพา อีกหนึ่งไพ่ตายที่ไว้ใจได้เสมอในแดนหน้า

หลังจากเสร็จภารกิจหนักชิ้นแรกไม่ทันไร งานชิ้นหนักชิ้นต่อไปของทีมชุดนี้ต้องเดินหน้าต่อทันที จากการประกาศรายชื่อขุนพลนักเตะทีมชาติไทยทั้ง 21 ราย ชุดลุยมหกรรม เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ณ เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน

ซึ่งตำแหน่งกองหน้าตัวความหวังนั้นมีแค่ ยศกร ที่แฟนบอลพอวางใจกับผลงานได้เพียงคนเดียว ส่วนดาวดังรายอื่นๆ นั้นหายเพียบ เพราะการแข่งขันรายการนี้ไม่ใช่โปรแกรมตามปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ สโมสรต่างๆ ในประเทศไทยล้วนมีเกมลีกต้องลงสนาม ยากที่จะปล่อยตัวหลักมาช่วยกรำศึกได้

สิ่งที่แฟนบอลสามารถจะคาดหวังได้จากตัวของ ยศกร นั้นคืออะไร? จุดเด่นด้านไหนที่ทำให้เขาแบกอายุเล่นข้ามรุ่นมาได้เรื่อยๆ ทุกทัวร์นาเมนต์ก่อนหน้านี้? บททดสอบครั้งนี้ของตัวเขาจะหนักหนาแค่ไหน? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ตัวจบสกอร์พันธุ์แท้

เป็นที่ทราบกันดีว่า ยศกร มีจุดเริ่มต้นจากการเล่นฟุตบอลนอกลีกกับ กองเรือรบ ยูไนเต็ด ก่อนจะมีส่วนช่วยทีมไต่เต้าขึ้นมาอยู่ใน ไทยลีก สาม ได้สำเร็จ จนถูกทาง ชลบุรี เอฟซี จีบไปร่วมทีม ก่อนจะปล่อยให้กับ สมุทรปราการ ซิตี้ ยืมตัวไปใช้งานเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ

ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นกับ มิก เป็นการก้าวกระโดดจากนักเตะดาวรุ่งโนเนม กลายมาเป็น วันเดอร์ คิดส์ ของวงการฟุตบอลลีกรองใน ไทยลีก สอง ด้วยระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี แล้วจากการเติบโตมาจากฟุตบอลลีกล่างในประเทศไทย ทำให้กระดูกฟุตบอลของเขานั้นโตเกินวัย เพราะถูกปล่อยให้เจอกับเกมการแข่งขันจริง

ยศกร เป็นนักเตะที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ระดับความสูงอยู่ที่ประมาณ 177-180 เซนติเมตร (ข้อมูลจากหลายแหล่งไม่ตรงกัน) ในวัยเพียงแค่ 18 ปี รูปร่างหนาตัน และเมื่อเทียบกับเด็กในช่วงวัยเดียวกันความแข็งแกร่งของเขานั้นเหนือกว่าชัดเจน

เขาไม่ใช่กองหน้าที่ครบเครื่องที่ทำได้ทุกอย่างเหมือนคนอื่นๆ ในยุคโมเดิร์นฟุตบอลนิยมกัน แต่มีจุดเด่นหลักๆ อยู่ที่จังหวะปะทะชนกับกองหลังเพื่อครองบอล รวมไปถึงการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมไว้ใจได้ ไม่ว่าจะเป็นการโหม่งหรือยิงทั้งเท้าซ้าย-ขวาในกรอบเขตโทษ รวมไปถึงเรื่องหัวจิตหัวใจที่แกร่งเกินวัย สามารถแบกอายุชนได้กับคู่ต่อสู้ที่โตกว่าได้สบายไม่มีกลัว

ซึ่งทาง โค้ช แมน-ธนา ชะนะบุตร ที่เคยร่วมงานกันกับ ยศกร ได้กล่าวถึงจุดเด่นของ ยศกร เอาไว้ว่า

“เรื่องของร่างกาย รูปร่าง พละกำลัง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมไปถึงการยิงบอลที่ดี คือ ข้อได้เปรียบของ มิก ที่เป็นกองหน้าที่ยิงบอลได้แรงและคม มีคุณภาพในการจบสกอร์ทั้งเท้าซ้าย-เท้าขวา หากซ้อมยิงประตู 10 ลูก ต้องเข้าประมาณ 7-8 ลูก ยิงได้ดีแบบว่ามาครบเลยทั้งทิศทางและน้ำหนักดีมาก ๆ”

“เหนือสิ่งอื่นใดคือ ร่างกายก็เเข็งแกร่งจริง ๆ เรียกได้ว่าร่างกายแบบเกินเด็กอายุ 17 ปีเลย ถ้าน้องเค้าดูแลร่างกายตัวเองดีๆ ผมไม่ห่วงเลยถ้าวัดกับผู้เล่นรุ่นเดียวกัน”

จากผลงานการทำไป 7 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ของเจ้าตัว ก็เป็นการเปิดประตูสู่ทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี มีชื่อติดไปลุยทัวร์นาเมนต์ที่ประเทศกัมพูชา เป็นใบเบิกทางชิ้นแรกของเจ้าตัวในการพิสูจน์ตัวเองว่า คู่ควรกับการติดธงหรือไม่?

การันตีประตูทุกรายการ

ยศกร ได้ลงประเดิมสนามเกมแรกในศึก ซีเกมส์ ในเกมที่เจอกับ ทีมชาติมาเลเซีย ในบทบาทตัวสำรอง แล้วเขาก็เป็นคนยิงประตูปิดกล่องให้ทีมเอาชนะไปได้ 2-0 ถือเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในนามทีมชาติ แล้วกลายเป็นการเปิดตัวที่น่าจดจำไม่น้อยสำหรับดาวรุ่งที่ไม่เคยมีประสบการณ์ลงเล่นทัวร์นาเมนต์ระดับชาติมาก่อน

เกมต่อมาในการเจอกับ สปป.ลาว เป็นเกมแรกที่เขาได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจาก โค้ชหระ ให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง แล้วก็โชว์ฟอร์มตอบแทนได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการเหมายิงคนเดียวสองประตู

ก่อนที่จะปิดท้ายทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวด้วยการเป็นฮีโร่ ลงมายิงประตูตีเสมอ 2-2 ในนัดชิงชนะเลิศกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย แต่น่าเสียดายที่พ่ายไปในช่วงต่อเวลาพิเศษด้วยสกอร์ 2-5 คว้าได้แค่เหรียญเงินกลับมาเป็นรางวัลปลอบใจ

อย่างไรก็ตามจากผลงานดังกล่าวส่งผลให้ มาโกโตะ เทกุระโมริ กุนซือชาวญี่ปุ่นของ ชลบุรี เอฟซี ตัดสินใจเก็บเขาไว้ใช้งานกับทีมในฤดูกาลนี้ ไม่ปล่อยออกไปให้ทีมอื่นๆ ยืมตัวเพื่อเก็บประสบการณ์ แล้วก็มีโอกาสลงเล่นในเกมลีกไปบ้างแล้ว

รายการระดับชาติครั้งต่อมาของ ยศกร เป็นทัวร์นาเมนต์ เอเอฟเอฟ ยู-23 แชมเปี้ยนชิพ ชิงแชมป์อาเซียน ที่จัดแข่งขันกันที่จังหวัดระยอง เขาถูกเรียกตัวไปเสริมแทนที่ผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บ

มิก ได้ลงเล่นเกมแรกในการเจอกับ เมียนม่าร์ ในฐานะตัวสำรอง แล้วก็สามารถเรียกจุดโทษให้กับทีมได้ แล้วรับหน้าที่เป็นคนสังหารเข้าไปเองเป็นประตูปิดกล่องให้ทีมเอาชนะไป 3-0 ก่อนที่จะจบรายการดังกล่าวด้วยการคว้าอันดับที่ 3

หลังจากนั้นเขาก็ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก โค้ชหระ เรียกมาติดทีมชาติในรายการ เอเอฟซี ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก แล้วก็ทำประตูได้ในเกมกับ ฟิลิปปินส์ ที่เป็นลูกปิดกล่อง พาทีมถล่มไป 5-0 และโหม่งประตูชัยในเกมกับ มาเลเซีย ช่วยทีมเฉือนชนะไป 1-0

นับว่าทุกทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา ไม่มีรายการใดเลยที่ทาง ยศกร เบิกสกอร์คู่แข่งไม่ได้ แต่ถ้านับกันจริงๆ แล้วทุกทีมที่เขายิงได้นั้นเป็นชาติในย่านอาเซียนทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องฝีเท้าและคุณภาพของผู้เล่น ทีมชาติไทย ยังคงเหนือกว่าคู่แข่งในย่านนี้อยู่เป็นส่วนใหญ่

ถึงแม้ว่าผลงานของจะกำลังเป็นไปได้ด้วยดี แต่ทางนายเก่าอย่าง โค้ชแมน เชื่อว่า ยศกร ยังต้องพัฒนาการเล่นในอีกหลายจุด ตามที่กล่าวไว้ว่า

"ก่อนหน้านี้ ยศกร เขาเล่นกองกลาง แล้วเขาจะชอบลงมาล้วงบอล แต่ด้วยความเเข็งแกร่ง ด้วยความที่เขาพลังเยอะ ถ้าเราได้ให้ประสบการณ์เขาในเรื่องการยืนตำแหน่งการเข้าทำ ถ้าเขามีการพัฒนาตรงนี้เขาจะครบเครื่องมาก

“สำหรับ ยศกร นั้นตอนนี้ที่ขาดจริง ๆ แค่การอ่านเกม อ่านจังหวะ เรื่องการเข้าเสาแรกเสาสอง จังหวะโฉบ จะต้องปรับกันต่อไป ในพื้นที่สุดท้าย"

แล้วในอีกไม่ช้าไม่นานบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของ ยศกร ก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในรายการที่มีชื่อว่า เอเชี่ยนเกมส์ ซึ่งคู่แข่งจะไม่ได้มาจากย่านอาเซียนเป็นส่วนใหญ่อีกแล้ว เรียกว่าไม่มีหมูให้เคี้ยวเลยสักราย

บททดสอบด่านหินที่สุด

ยศกร มีชื่อติดทีมชาติไทยชุดลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 เป็นหนึ่งในขุนพล 21 คนสุดท้ายในตำแหน่งกองหน้า ซึ่งเมื่อเทียบดีกรีกับผู้เล่นรายอื่นๆ ในตำแหน่งเดียวกันแล้ว คงไม่ผิดนักที่จะบอกว่าเขา คือ ตัวจบสกอร์เบอร์หนึ่งของทีมชุดนี้ เป็นคนที่ทีมต้องฝากความหวังไว้สูงสุดในแดนหน้า

แต่การที่ทีมชาติไทย ถูกจับไปอยู่ร่วมกลุ่ม อี กับคู่แข่งอย่าง เกาหลีใต้, บาห์เรน และ คูเวต นับว่าเป็นงานหนักสุดๆ ที่ต้องติดสองอันดับแรกเพื่อผ่านเข้ารอบต่อไปทันที หรือลุ้นเป็นอันดับสามที่ดีที่สุดเป็นหนทางสุดท้าย ซึ่งถ้ามองตามชื่อชั้นเราอาจถูกมองว่าเป็นทีมที่อ่อนชั้นที่สุดในกลุ่มด้วยซ้ำ

ยิ่งตัวผู้เล่นที่ถูกส่งมาให้ โค้ชหระ ใช้งานครั้งนี้เป็นเพียงแค่ ชุดบี หรือ ซีบวก ส่วนใหญ่ไม่ใช่ตัวหลักของสโมสร ที่จำเป็นต้องแข่งขันบอลลีก โอกาสที่จะทำผลงานให้ได้ตามความคาดหวังแฟนบอล ย่อมเป็นเรื่องยากมาก หากวัตถุดิบที่มีอยู่ในมือไม่ใช่เกรดที่ดีที่สุด

ซึ่งถ้าโฟกัสมาที่ตัวของ ยศกร นับว่าทัวร์นาเมนต์นี้ เป็นบททดสอบครั้งสำคัญที่สุดของเขาตั้งแต่เล่นทีมชาติมาหลายรายการ เพราะจะเป็นการได้ลงดวลกับชาติระดับท็อปของเอเชียเป็นครั้งแรก เพื่อวัดระดับฝีเท้าจริงๆ ของตัวเองว่าอยู่ในเกรดไหนกันแน่ อาจใช้สุภาษิตว่า ‘แพ้เป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร’ มาเปรียบเทียบกันได้ตรงๆ ใ้ห้เห็นภาพ

แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ มิก ต้องแบกอายุไปแข่งเจอกับนักเตะที่มีประสบการณ์มากกว่า ซึ่งทางกุนซือเก่าของเขาอย่าง ธนา เคยพูดถึงเรื่องนี้เอาไว้แล้วว่า

"ถ้า มิก ต้องถูกดันขึ้นไปเล่นกับรุ่นที่โตขึ้นหรือทีมชาติชุดใหญ่ ก็ต้องมาวัดกันที่การยืนระยะรักษามาตรฐานการเล่นอีกที ต้องมีการปรับวิธีการเล่นบางจุด ถ้าเค้าพร้อมปรับก็มีโอกาสไปได้ไกล"

"เขาคืออนาคตของทีมชาติไทยอย่างแน่นอน ถ้าเขาได้พัฒนาต่อเนื่องมีคนติวดี ๆ รู้จักพัฒนาการของน้องอย่างลึกซึ้ง ไม่ต้องรีบร้อนให้เขาทำอะไรเกินตัว  ปล่อยให้เล่นไปตามร่างกายตามประสบการณ์ของเขาไปเรื่อย ๆ ทีมชาติไทย จะมีกองหน้าดี ๆ เอาไว้ใช้งานไปนาน ๆ อย่างแน่นอน"

อย่างไรก็ตามแฟนบอลทัพช้างศึก ก็ควรจะเผื่อใจกับผลงานในรายการนี้ไว้สักหน่อย รวมไปถึงการวิจารณ์ฟอร์มส่วนตัวของ ยศกร ที่อาจออกมาเป็น บวก หรือ ลบ ก็เป็นไปได้ทั้งสองทาง แล้วมองไปถึงการพัฒนาทีมในอนาคตในวันที่ชาติของเรามีความพร้อมมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https://thinkcurve.co/yskr-buurphaa-diiyangaingthamaim-thnaa-aichngaantangaet-aayu-17/
https://thinkcurve.co/ekhys-nmaathangkhuu-thnaa-chiiwadkhwaamtaang-aetlngtawkh-ng-yskr-aela-thiirsakdi/

https://en.wikipedia.org/wiki/Football_at_the_2023_SEA_Games_%E2%80%93_Men%27s_tournament

https://en.wikipedia.org/wiki/2023_AFF_U-23_Championship

https://en.wikipedia.org/wiki/2024_AFC_U-23_Asian_Cup_qualification

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ประทุม ชูทอง : นักสู้มืออาชีพแห่งโลกบอลเดินสาย
เปิดใจ ‘เบ็ค-สมเกียรติ คุณมี’ : ทำไมตัวท็อป ‘ฟ็อกซ์ฮันท์’ ถึงเลือกเส้นทางบอลเดินสาย ?
‘ผักบุ้ง PBDS’ : หญิงแกร่งแห่งวงการฟุตบอลเดินสาย
‘ใหญ่ นิลวงษ์ ’: โค้ชจอมเลื่อนชั้นแห่ง T3 ที่คุมทีมเดินสายที่ชนะ 100%
สโมสร ‘แตงโม’ : ตำนานแชมป์เงินล้านบอลเดินสายสองปีติดทีมเดียวในประเทศไทย
ศราวุฒิ มาสุข : กับชีวิตใหม่ในเส้นทางฟุตบอลเดินสาย