ยูฟ่าไลเซ่นส์ ของ มิก้า ดียังไง ? "เมื่อ อันเก้ เกือบไม่ได้คุม เซลติก เพราะขาดสิ่งนี้"
ยูฟ่าไลเซนส์ หรือ ใบอนุญาตทำงานโค้ชในยุโรป กลับมาได้รับความสนใจจากแฟนบอลชาวไทยอีกครั้ง เมื่อ มิก้า ชูนวลศรี กองหลังของ ลำพูน วอริเออร์ส กลายเป็นคนไทยคนแรกที่จบหลักสูตรระดับ “เอ-ไลเซนส์” ของยูฟ่า
โค้ชยุโรปแทบ 100% ล้วนถือไลเซนส์ของยูฟ่าทั้งนั้น เพราะสามารถเข้าถึงการอบรมได้โดยตรง ผิดกับโค้ชนอกทวีปยุโรปที่จะถือไลเซนส์ขององค์กรลูกหนังในทวีปของตัวเองเสียมากกว่า ทำให้พวกเขาขาดคุณสมบัติคุมสโมสรในยุโรป
อย่างที่เป็นข่าวดังก็เคสของ อันเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือชาวออสเตรเลีย ที่เกือบพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต ตอนได้รับข้อเสนอจาก เซลติก เมื่อปี 2021 เพียงเพราะว่าไม่ได้จบหลักสูตรโปรไลเซนส์ของยูฟ่า
ยูฟ่าไลเซนส์ สำคัญอย่างไรต่อชีวิตโค้ชคนหนึ่ง ? มันช่วยต่อยอดให้เขาก้าวไปสู่ระดับสูงสุดในอาชีพได้อย่างไร ? Think Curve - คิดไซด์โค้ง นำคำตอบมาเสิร์ฟให้แล้ว
ใบเบิกทางคุมทีมในยุโรป
นับตั้งแต่ปี 1998 เป็นต้นมา สหพันธ์ลูกหนังยุโรป (ยูฟ่า) ได้วางมาตรฐานสำหรับโค้ชในลีกยุโรป ด้วยการบังคับให้ทุกคนต้องจบหลักสูตรไลเซนส์ของยูฟ่า ไม่อย่างนั้นก็จะหมดสิทธิ์รับงานคุมทีมโดยเด็ดขาด
ยูฟ่าไลเซนส์ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้
1) ซี-ไลเซนส์ : การเรียนรู้งานโค้ชในชั้นปฐมบท ใช้เวลาอบรม 60 ชั่วโมง เป็นสตาฟฟ์โค้ชในทีมได้
2) บี-ไลเซนส์ : จบหลักสูตรชั้น ซี-ไลเซนส์ และมีประสบการณ์งานโค้ชอย่างน้อย 6 เดือน ใช้เวลาอบรม 120 ชั่วโมง คุมทีมลีกสมัครเล่น, ทีม U16 และเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมระดับอาชีพได้
3) เอ-ไลเซนส์ : จบหลักสูตรชั้น บี-ไลเซนส์ และมีประสบการณ์คุมทีมฟุตบอล 11 คน อย่างน้อย 1 ปี ใช้เวลาอบรม 180 ชั่วโมง คุมทีมชาติ, ทีมดิวิชั่น 2, ทีม U18 และทีมสำรองของสโมสรอาชีพได้
4) โปร-ไลเซนส์ : จบหลักสูตรชั้น เอ-ไลเซนส์ และมีประสบการณ์คุมทีมเยาวชน, ทีมสมัครเล่น หรือ เป็นผู้ช่วยโค้ชทีมอาชีพ อย่างน้อย 1 ปี ใช้เวลาอบรม 360 ชั่วโมง สามารถคุมทีมได้ทุกลีกในยุโรป รวมถึงศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูโรป้า ลีก ที่บังคับให้โค้ชต้องจบโปรไลเซนส์เท่านั้น
จะเห็นว่า ยูฟ่า แบ่งระดับของไลเซนส์ไว้อย่างชัดเจน ยิ่งคุณจบหลักสูตรสูงเท่าไร โอกาสคุมทีมในยุโรปของคุณก็จะยิ่งเปิดกว้างมากขึ้น และยิ่งถ้าคุณต้องการก้าวไปถึงการแข่งขันในระดับสูงสุด คุณก็ต้องพยายามจบหลักสูตรโปรไลเซนส์ให้ได้ เพราะมันคือใบเบิกทางที่จะพาคุณไปถึงจุดนั้น
อย่างในกรณีของ มิก้า ชูนวลศรี ที่ผ่านการอบรมในระดับ เอ-ไลเซนส์ เขาก็สามารถรับงานคุมทีมชาติทั่วโลกได้แล้ว แต่หากเขาต้องการคุมสโมสรในยุโรป ตอนนี้เขาจะยังคุมได้แค่ทีมระดับดิวิชั่น 2, ทีม U18 และทีมสำรองของสโมสรในลีกสูงสุด
“ภูมิใจมากครับ เพราะ เอ-ไลเซนส์ ยากมากกว่าจะได้ แต่ละปีรับคนเข้าอบรมเพียง 30-40 คนเท่านั้น เมื่อผ่านการอบรมจึงรู้สึกดีใจมากเพราะเป็นการทำงานหนักมาตลอด 12 เดือน ได้เรียนรู้ฟุตบอลเยอะมาก เป็นความรู้ที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย” ดาวเตะลูกครึ่งไทย-เวลส์ เปิดใจ
แต่ใช่ว่าโค้ชนอกยุโรปส่วนใหญ่จะทำแบบ มิก้า ได้ เพราะการเดินทางไปอบรมในยุโรปใช้งบประมาณสูง พวกเขาจึงเลือกอบรมหลักสูตรกับสหพันธ์ลูกหนังในทวีปของตัวเอง นอกจากจะสะดวกสบายแล้วยังประหยัดงบในกระเป๋า ที่สำคัญมันเพียงพอต่อการคุมสโมสรอาชีพในบ้านเกิดแล้ว
จุดนี้เองที่กลายมาเป็นอุปสรรคให้กับโค้ชฝีมือดีที่ทำผลงานเข้าตาสโมสรในยุโรป ในเมื่อเขาไม่ได้ถือยูฟ่าไลเซนส์ เขาก็ไม่มีสิทธิ์ตอบรับข้อเสนอจากยุโรปได้ เหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับ อันเก้ ปอสเตโคกลู อดีตเจ้านายของ ธีราทร บุญมาทัน ที่สร้างชื่อจากการพา โยโกฮามา เอฟ มารินอส คว้าแชมป์เจลีก จนไปเข้าตาบอร์ดบริหารของเซลติก
อันเก้เกือบไม่ได้คุมเซลติก
อันเก้ ปอสเตโคกลู ได้รับการติดต่อจาก เซลติก ในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในลีกญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นโค้ชชาวออสเตรเลียคนแรกในท็อปลีกของยุโรป หากมีการเซ็นสัญญาเกิดขึ้น
แต่เรื่องราวไม่ได้ง่ายดายแบบนั้น เมื่อความจริงปรากฎในภายหลังว่า โปรไลเซนส์ของ อันเก้ ได้มาจากการอบรมกับสมาคมฟุตบอลออสเตรเลีย และตัวเขาก็ไม่เคยถือยูฟ่าไลเซนส์เลย เขาจึงไม่มีใบผ่านทางที่จะเข้าไปทำงานในยุโรป
อย่างไรก็ดี มันยังพอจะมีช่องทางที่ช่วยให้ อังเก้ รับงานคุมทีมเซลติกได้คือ สโมสรต้องส่งเรื่องถึงยูฟ่าเพื่อขอหนังสือรับรองเป็นกรณีพิเศษ เพราะหลักสูตร “โปรไลเซนส์” ของออสเตรเลียก็เทียบได้กับหลักสูตร “เอ-ไลเซนส์” ของยูฟ่า
และเมื่อ อันเก้ เข้ามารับงานคุมทีมแล้ว เซลติก ก็จะส่งเขาเรียนหลักสูตรโปรไลเซนส์ของ ยูฟ่า พร้อมกันไปด้วย เหมือนกับตอนที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เข้ามารับงานคุมเรนเจอร์ส ตอนนั้นเขาถือยูฟ่าไลเซนส์ในระดับเอเท่านั้น แต่ก็ใช้วิธีนี้จนได้รับสิทธิยกเว้นจากยูฟ่า ก่อนต่อมาเขาจะสามารถจบหลักสูตรโปรไลเซนส์อย่างที่กฏกำหนดไว้ได้
“ปอสเตโคกลูไม่ได้ถือยูฟ่าโปรไลเซนส์ ได้มีการยื่นเรื่องขอหนังสือรับรองคุณสมบัติแล้ว ซึ่งกระบวนการนี้อาจใช้เวลาพิจารณาหลายสัปดาห์ และเรายังไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเวลานี้” โฆษกของยูฟ่า กล่าว
สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ยูฟ่า ออกหนังสือรับรองให้กับ อันเก้ เป็นกรณีพิเศษ เขาก็ได้เซ็นสัญญาคุมทีมเซลติกอย่างที่ตั้งใจไว้ โดยสโมสรได้ออกแถลงการณ์ว่า “อันเก้ ได้รับหนังสือรับรองพิเศษจากยูฟ่าแล้ว จากการที่เขาถือโปรไลเซนส์ที่ออกโดยสมาคมฟุตบอลออสเตรเลีย และเขาจะเริ่มงานทันทีที่เดินทางมาถึงกลาสโกว์”
อันเก้ ไม่ทำให้ความพยายามของ เซลติก ต้องสูญเปล่า หลังพาทีมกวาด 5 แชมป์ใน 2 ฤดูกาล แบ่งเป็น แชมป์ลีกสก็อตแลนด์ 2 สมัย, แชมป์สก็อตติช คัพ 1 สมัย และแชมป์ลีกคัพ 2 สมัย ด้วยสไตล์ฟุตบอลเกมรุกที่น่าตื่นตื่นใจ จนล่าสุดเขากำลังจะได้ไปคุมทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอย่าง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ แล้ว
กระแสต่อต้านจากแฟนสเปอร์ส
ทว่าคุณสมบัติของ อันเก้ ก็ไม่วายถูกยกมาเป็นประเด็นอีกครั้ง เพราะแฟนบอลไก่เดือยทองบางส่วนออกโรงต่อต้านแบบดุเดือด โดยมองว่าโค้ชชาวออสเตรเลียไม่ดีพอสำหรับสโมสร พร้อมยกประเด็นที่ อันเก้ ไม่จบยูฟ่าโปรไลเซนส์ขึ้นมาโจมตี
เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่า อันเก้ ผ่านหลักสูตรดังกล่าวเลย ซึ่งต่างจากเคสของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ยูฟ่าประกาศยืนยันว่าผ่านหลักสูตรโปรไลเซนส์แล้ว ในระหว่างที่เขาอยู่ในตำแหน่งกุนซือของเรนเจอร์ส
มันเลยพลอยทำให้แฟนบอลของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ไม่เชื่อในฝีมือของ อันเก้ ไปด้วย แม้ว่าเขาจะมีถ้วยแชมป์ลีกญี่ปุ่นและสก็อตแลนด์เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จ แต่พวกเขามองว่ามาตรฐานของสองลีกนั้นยังห่างไกลจากพรีเมียร์ลีก
อย่างไรก็ดี มันมีอีกทฤษฎีที่น่าสนใจ จากข้อมูลของ อาร์ชี่ เฟรเซอร์ อดีตประธานเอลีก ที่ระบุว่า อันเก้ เป็นโค้ช 1 ใน 2 คนที่ผ่านหลักสูตรอบรมโปรไลเซนส์จากยูฟ่า ตั้งแต่สมัยคุมสโมสรในออสเตรเลียเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าเขาได้ต่ออายุไลเซนส์นั้นเป็นแบบของสหพันธ์ลูกหนังเอเชียหรือไม่
“อันเก้เป็นโค้ช 1 ใน 2 คนในออสเตรเลีย ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรยูฟ่าโปรไลเซนส์ในตอนนั้น ผมยังจำตอนคุยกับ ฮัน แบร์เกอร์ เลขาธิการฟีฟ่า ถึงการยกระดับมาตรฐานโค้ชในเอลีกได้อยู่เลย” เฟรเซอร์ กล่าว
“แต่ผมไม่แน่ใจว่า เขา (อันเก้) ไปต่ออายุไลเซนส์เป็นแบบของสหพันธ์ลูกหนังเอเชีย ตอนที่เขารับงานคุมทีมชาติออสเตรเลียหรือเปล่า”
หากเป็นไปอย่างที่ อาร์ชี่ เฟรเซอร์ บอก มันก็มีความเป็นไปได้ที่ อันเก้ ได้ไปเปลี่ยนโปรไลเซนส์ที่ถืออยู่ให้กลับไปเป็นของยูฟ่าตามเดิม ซึ่งก็เข้าล็อคกับประเด็นที่เขาไม่มีข่าวจบโปรไลเซนส์จากยูฟ่า ในระหว่างรั้งบังเหียน เซลติก ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
เพราะถ้ามีปัญหาเรื่องนี้จริง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ คงไม่เสียเวลาไปเจรจาทาบทามเขาตั้งแต่แรก และจากรายงานล่าสุดของสื่อในเกาะอังกฤษก็มีแนวโน้มว่า อันเก้ ปอสเตโคกลู จะได้รับการแต่งตั้งเป็นนายใหญ่คนใหม่ของไก่เดือยทองในเร็ว ๆ นี้
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เทพนิยายภูธร : ‘สโมสร ดอนมูล’ ตำนานทีมระดับตำบลผู้พิชิตแชมป์ เอฟเอ คัพ
เมื่อครั้งหนึ่ง “อิชิอิ” เคยทำงานในโรงอาหาร หลังคว้ารองแชมป์สโมสรโลก
คล้ายตรงไหนบ้าง? : ศุภณัฏฐ์ นักเตะเงา โลซาโน่ ในสายตาสื่อต่างประเทศ
เวียดนามกร้าวก่อนซีเกมส์ : "4 ปีก่อน ทรุสซิเย่ร์ ก็เคยพาทีมเวียดนามยู 19 เอาชนะไทยมาแล้ว
เก่งในสนามไม่พอ : สาเหตุใด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงครองความยิ่งใหญ่ได้แบบยั่งยืน ?
บุรีรัมย์ ยังห่างแค่ไหน ? 10 สถิติไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้
แหล่งอ้างอิง :
https://www.dailystar.co.uk/sport/football/celtic-apply-uefa-ange-postecoglou-24240363
https://www.thescottishsun.co.uk/sport/football/7234210/celtic-postecoglou-pro-licence-uefa/
ข่าวและบทความล่าสุด
RELATED BY AUTHOR
นักวิเคราะห์อาร์เซนอล เทียบความต่าง โค้ชไทย-โค้ชนอก ในการพัฒนาเยาวชน
MOST POPULAR
คณะวินัยฯปรับบางกอก จุดแฟร์ฉลองแชมป์ไทยลีก 3
คณะวินัยฯ แบนเปาอนุสรณ์ 1 สัปดาห์ เซ่นพิษเกมบียู-ลำพูน
นที-ชัยฤกษ์ ควงคู่ ผตส.-VAR เกมหนีตายไทยลีก ประจวบ-ลำพูน
นักวิเคราะห์อาร์เซนอล เทียบความต่าง โค้ชไทย-โค้ชนอก ในการพัฒนาเยาวชน
นักแสดง GMMTV โดนลูกหลงทัวร์อินโด เพราะชื่อเหมือน ‘เปาโค้ช’
