เจาะสไตล์ ฮาลันด์ : ทำไมยิงเข้าเหมือนเป็นของง่าย มีเทคนิคอะไรซ่อนอยู่ ?

เจาะสไตล์ ฮาลันด์  : ทำไมยิงเข้าเหมือนเป็นของง่าย มีเทคนิคอะไรซ่อนอยู่ ?
ชยันธร ใจมูล

39 ประตูใน 36 นัดทุกรายการของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ คือ ตัวเลขที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนนับแต่หมดยุค เเละดูเหมือนว่ายิ่งลงเล่นตัวเลขก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ

ในยุคที่เเท็คติกของฟุตบอลเปลี่ยนไป หลายๆทีมหันหลังให้กับกองหน้าตัวเป้าธรรมชาติ เเละหันไปใช้งานกองหน้ากึ่งปีก หรือ ฟอลส์ ไนน์ เสียมากกว่า

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กลายเป็นกองหน้าตัวเป้าธรรมชาติที่เหลือรอดในยุคนี้เเละกำลังทำผลงานได้ดี ยิงประตูเป็นว่าเล่นเเละค่อยๆไล่ทำลายทุกสถิติที่เคยมีมาในพรีเมียร์ลีก

เขานั้นมีทั้งความเเข็งเเกร่งเเละความเร็ว เเต่นั้นไม่ใช่เพียงเเค่สองสิ่งที่เขาเอามาใช้เพื่อเอาชนะกองหลัง มันยังมีเทคนิคเบื้องหลังอีกมากมายที่เขานำมาใช้เล่นงานเหล่าบรรดากองหลัง

เราจะพาไปดูกันว่า อะไรบ้าง คือ เทคนิคเบื้องหลังความสุดยอดในการทำประตูของเขา ติดตามได้ที่ Think - Curve คิดไซด์โค้ง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง : “นิว เเคร์โรลล์” จริงดิ : หาต้นเหตุทำไม ดาร์วิน นูนเญซ มักยิงง่าย ๆ ไม่เข้า ?

“นิว เเคร์โรลล์” จริงดิ : หาต้นเหตุทำไม ดาร์วิน นูนเญซ มักยิงง่าย ๆ ไม่เข้า ? | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
Think Curve - คิดไซด์โค้ง ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล จ่ายเงินจำนวนมหาศาลในการดึงตัว ดาร์วิน นูนเญซ มาจากเบนฟิก้า เพื่อทดเเทนการจากไปของ ซาดิโอ มาเน่

การเคลื่อนที่

มุมอับสายตาของกองหลัง

สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของ ฮาลันด์ คือ การเคลื่อนที่พุ่งไปข้างหน้า เพื่อหาช่องในการเข้าไปทำประตู เเละด้วยความเร็วเเละความเเข็งเเกร่งของเขา ทำให้สามารถเอาชนะกองหลังไปทำประตูได้บ่อยๆ  

เเต่มันไม่ใช่เพียงเเค่สองอย่างนี้เท่านั้น ที่ทำให้เขาสามารถเอาชนะกองหลังได้บ่อยๆ เเต่เป็นเทคนิคอีกอย่างหนึ่งที่ ฮาลันด์ ใช้ เเละทำออกมาได้ดี ก็คือ ก่อนที่จะทำการเคลื่อนที่ เขามักจะหลบไปอยู่มุมอับสายตาที่กองหลังไม่สามารถมองเห็นได้

เวลาลูกฟุตบอลอยู่ที่กองกลางฝ่ายตรงข้าม กองหลังส่วนมากจะใช้วิธีมองโฟกัสไปที่ลูกฟุตบอล เเต่ก็ยังให้กองหน้าของฝ่ายตรงข้ามอยู่ในสายตา เพื่อที่จะได้เห็นการเคลื่อนของพวกเขาเเละตามประกบได้

ฮาลันด์ มักจะฉวยโอกาสจากจังหวะตรงนี้ หลบไปอยู่ในมุมอับสายตาตรงกลางระหว่างกองหลังสองคน ทำให้หลุดพ้นจากสายตาของกองหลังในช่วงเวลาหนึ่ง เเละฉวยโอกาสในช่วงเวลานี้เล่นงานพื้นที่ว่างระหว่างกองหลังเสมอ … และถ้าเขาทำมันได้เมื่อไหร่ สิ่งที่เหลือก็มีแค่ผู้รักษาประตูและตาข่ายเท่านั้น

การวิ่งเป็นเส้นโค้ง

กับดักล้ำหน้า คือ อาวุธอย่างหนึ่งที่กองหลังเอามาใช้ต่อกรกับเหล่าบรรดากองหน้าเร็วๆ ที่ชอบเคลื่อนที่พุ่งไปข้างหน้า ทำให้กองหน้าต้องหาวิธีในการวิ่งไปข้างหน้าอย่างไร ไม่ให้โดนดักล้ำหน้า เลยเกิดเป็นวิธีการวิ่งเเบบรูปตัว L (การวิ่งเลี้ยงไลน์เพื่อเอาชนะกับกับล้ำหน้า) ขึ้นมา เพื่อรับมือกับ กับดักล้ำหน้า

ให้ลองนึกภาพตาม สมมุติว่าลูกฟุตบอลอยู่ที่กองกลาง เเละกำลังจะทำการส่งบอลไปข้างหน้า เเทนที่เหล่ากองหน้าจะออกตัวพุ่งไปข้างหน้าโดยตรงทันที พวกเขากลับวิ่งเลี้ยงไลน์ของตัวเองให้อยู่ในเเนวเดียวกับกองหลัง เเละพอบอลออกจากเท้าเพื่อน ค่อยเปลี่ยนทิศทาง พุ่งไปข้างหน้า เหมือนเป็นการวอร์มเครื่องรอไปก่อนในตัว

การทำเเบบนี้จะช่วยให้พวกเขายังอยู่ในไลน์เดียวกับกองหลังเเละไม่ล้ำหน้า เเละการวิ่งเปลี่ยนทิศทางด้วยความเร็ว คือ วิธีการสลัดตัวประกบที่ดีอย่างหนึ่งเเละมันเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ เอามาใช้ เเต่ตัว L ของเขานั้นจะพิเศษกว่าคนอื่นตรงที่ว่ามันเป็นเส้นโค้ง

Photo : Goal

เขาจะไม่วิ่งเป็นเส้นตรงในไลน์เดียวกับกองหลัง เเต่เขาจะวิ่งดร็อปต่ำลงมาอีกนิดหนึ่งเเล้วค่อยๆตีโค้งพุ่งไปข้างหน้า การวิ่งเเบบนี้มันจะทำให้ฮาลันด์ไม่ต้องเสียเวลากลับตัวในการจะพุ่งไปข้างหน้า เเละมันกลายเป็นสูตรสำเร็จของเขาในการสร้างพื้นที่ว่างหลังไลน์กองหลังให้กับตัวเองอีกด้วย

เพราะถ้าหากว่ากองหลังตามมาประกบเขาตอนที่เขากำลังถอยต่ำมาตีโค้ง มันจะเกิดพื้นที่ว่างข้างหลังไลน์กองหลังทันที นั้นเป็นจุดที่ ฮาลันด์เล็งไว้ เพื่อให้เพื่อนจ่ายบอลไปตรงนั้น เเละเขาจะได้ใช้ความเร็วในการเอาชนะกองหลังได้ เพราะเหล่ากองหลังที่หลงกลตามมาประกบจะมีทิศทางการวิ่งที่สวนทางกับลูกฟุตบอลเเละทำให้พวกเขาเสียเวลาในการกลับตัวรับมือกับความเร็วของฮาลันด์ ทำให้ส่วนใหญ่จะถูก ฮาลันด์ ใช้ความเร็วเเซงเข้าไปทำประตูได้  

การจบสกอร์

ครบเครื่อง ยิงได้ทั้งสองเท้า

ถ้าพูดถึงกองหน้าอย่างเเรกที่เราต้องให้ความสำคัญคงจะหนีไม่พ้นการจบสกอร์ เพราะมันคือหน้าที่ของพวกเขา เเละการจบสกอร์ได้ด้วยเท้าทั้งสองข้าง คือคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่กองหน้าระดับโลกควรจะมี

เพราะมันทำให้กองหลังนั้นอ่านจังหวะเข้าสกัดได้ลำบาก พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนที่ดักทางได้ก่อน เพราะไม่รู้ว่ากองหน้าเหล่านั้น จะยิงด้วยเท้าข้างไหนกันเเน่ ถ้าเคลื่อนที่ออกตัวไปก่อน อาจจะโดนหลอกเเล้วยิงด้วยเท้าอีกข้างก็เป็นไปได้

อย่างที่เราทราบกันดีว่า เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ถนัดเท้าซ้าย เเต่เขาสามารถจบสกอร์ได้ด้วยเท้าขวาเช่นเดียวกัน ถ้าย้อนกลับไปเปิดสถิติดูในฤดูกาลนี้ จาก 20 ประตู ที่ฮาลันด์ทำได้ เเบ่งเป็นการทำประตูด้วยเท้าซ้าย 13 ประตู เท้าขวา 4 ประตู เเละลูกโหม่ง อีก 3 ประตู  

Photo : Manchester Evening News

จะเห็นได้ชัดว่าส่วนใหญ่เขามักจะทำประตูด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดก็จริง เเต่การทำประตูด้วยเท้าขวาได้ถึง 5 ลูก มันทำให้เรามองข้ามไม่ได้เลย เพราะคำนวณออกมาคิดเป็น 25 % ของประตูทั้งหมดที่ทำได้

เเละอีก 3 ประตู จากลูกโหม่ง เป็นเครื่องยืนยันว่าเขาคือกองหน้าที่ครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งของโลก สามารถทำประตูได้จากทุกรูปแบบ

ลูกยิงสไตล์ฮาลันด์

ศาสตร์ฟุตบอลที่ถูกสอนกันมาเป็นร้อยๆปี วิธีการยิงที่ดีช่วยให้ลูกฟุตบอลพุ่งเร็วเเละเเรง คือ ในตอนที่สัมผัสลูกฟุตบอล ต้องสัมผัสที่ตรงกลางของลูกฟุตบอล เเละหลังจากที่ยิงลูกฟุตบอลออกไปแล้ว ควรจะปล่อยขาให้ ฟอลโลว์ ทรู (การปล่อยขาข้างที่ใช้ในการยิงประตูให้ไปในทิศทางเดียวกัน) ตามทิศทางไปด้วย

เเต่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ เขาไม่ได้ทำเเบบนั้น เวลาที่เขายิง เขามักจะสัมผัสลูกฟุตบอลบริเวณตรงกลางเเต่ค่อนไปทางข้างล่าง เเละหยุดเท้าข้างที่สัมผัสลูกฟุตบอลเอาไว้ไม่ให้ ฟอลโลว์ ทรู ไป

การยิงเเบบนี้จะทำลูกฟุตบอลเหมือนติดเเบ็คสปิน (หมุนกลับหลัง) เเละพุ่งขึ้นข้างบน ยากสำหรับผู้รักษาในการรับมือ เพราะว่า การซ้อมของผู้รักษาประตูส่วนใหญ่มักจะเป็นการซ้อมการทำงานของร่างกายจากข้างบนลงข้างล่าง มากกว่า ข้างล่างขึ้นข้างบน ทำให้เวลาเจอลูกยิงที่พุ่งขึ้นข้างบน ปฏิกิริยาร่างกายของพวกเขา จะไม่สามารถทำงานตอบสนองได้ทันที  


เเต่จุดอ่อนของวิธีการยิงเเบบนี้ คือ มันจะมีโอกาสข้ามคานได้ ถ้าหากว่าสัมผัสบอลใต้ลูกมากเกินไป หรือ ยิงจากระยะที่ไกลจากปากประตูเกินไป เพราะลูกฟุตบอลมันจะพุ่งขึ้นข้างบนด้วยความเร็ว

เเต่ถ้าดูจากสถิติการง้างเท้ายิงของ ฮาลันด์ เเล้ว ก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่เพราะส่วนใหญ่ระยะทำการของเขาจะอยู่ในกรอบเขตโทษเสียมากกว่า

ความเข้าใจเกม

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ นั้นถือว่าเป็นนักฟุตบอลที่มีความเข้าใจเกมสูงมาก การอ่านเกมเลยเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฮาลันด์มักจะนำหน้ากองหลังอยู่ก้าวหนึ่งเสมอ ถ้าเราสังเกตกันดีๆ บางเกม เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ นั้น มีบทบาทกับเกมน้อยมากเเต่อยู่ดีๆโผล่มายิงได้เฉย ๆ

โดยเจ้าตัวฝึกฝนเรื่องนี้มาโดยเฉพาะ ครั้งหนึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์หลังเกม แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ แมนฯ ซิตี้ เจอกับ ดอร์ทมุนด์ ว่า “เป้าหมายของผมคือการยิงให้ได้ 5 ประตู จากการสัมผัสบอล 5 ครั้ง”

แม้จะเป็นการตอบแบบยียวนที่มีคนแซวว่าเขาหายไปจากเกม แต่จริง ๆ แล้วเราได้เห็นวิธีการยืนตำแหน่งในกรอบเขตโทษ ที่ทำให้ ฮาลันด์ กลายเป็นกองหน้าจมูกไว อยู่ตรงไหนบอลก็มาหา แค่เอาเท้าแปะบอลเข้าง่าย ๆ อยู่บ่อย ๆ

กล่าวถึงเเม้เขาจะไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกม เเต่ สมาธิของเขายังอยู่กับเกมเสมอ เขามองเเละทำความเข้าใจเกมอยู่ตลอดเวลาเพื่อรอโอกาสสำคัญมาถึง

Photo : iNews

เราเลยได้เห็นลูกยิงประตูเเท็ปอินของเขาได้บ่อยๆ ที่ดูเผินๆเหมือนจะง่าย เเต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ เพราะถ้าไม่มีความเข้าใจเกมที่สูง ไม่สามารถพาตัวเองไปอยู่ในตำเเหน่งที่ดีเเบบนั้นได้อย่างเเน่นอน

จะเห็นได้ว่า ฮาลันด์ นั้นมีส่วนผสมของร่างกายที่สุดยอดมีทั้งความแข็งแกร่งและรวดเร็วในคน ๆ เดียว นอกจากนี้ยังมีความหิวกระหายขวนขวายหาความรู้และเทคนิคใหม่ ๆ มาเพิ่มเติมให้วิธีการเล่นของตัวเองหลากหลายจับทางยาก

ยังไม่จบแค่นั้นเรื่องทัศนคติความขยัน และการใช้ทักษะการอ่านเกม ก็ถือเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดีว่า เขาคือนักเตะที่มีพรสวรรค์ และมีพรแสวง ในเวลาเดียวกัน ซึ่งชัดเจนด้วยผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้เขากลายเป็นปีศาจจอมถล่มประตูในพรีเมียร์ลีก ณ เวลานี้



เเหล่งอ้างอิง

https://breakingthelines.com/player-analysis/player-analysis-erling-haaland/?fbclid=IwAR1y-w14cGxWxcNypab93soL0e8KU8qa1tK_kZozcSenmyPmrYLHhzuFonU

https://onenil.medium.com/erling-braut-h%C3%A5land-a-complete-analytical-breakdown-of-why-he-is-so-special-c068ae0b7539

https://www.sportsadda.com/football/features/erling-haaland-dortmund-goals-style-of-play?fbclid=IwAR1oKxLwL1BrYoQ3dMGhgXlnQw66PP-DiyrZdqUHdXeHxwe0-x5dJxa9Azo

https://www.transfermarkt.com/erling-haaland/profil/spieler/418560

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

MOST POPULAR

สนใจโฆษณาติดต่อ