สู่แนวรับซูเปอร์สตาร์ : เกาหลีฯ ปั้น ‘คิม มิน-แจ’ ให้เป็นแข้งชั้นยอดได้ยังไง ?

By ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

20 เม.ย. 2024 , 01:50น.

หากกล่าวถึงผลงานของ นาโปลี ทีมจ่าฝูงในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในปัจจุบัน ต้องยอมรับกันตามตรงว่า ฟอร์มของพวกเขานั้นแรงดีไม่มีแผ่ว ตั้งแต่ต้นจนจบ และกลายเป็นแชมป์ กัลโช เซเรีย อา ไปแล้ว

เกมรุกของทัพ อัซซูร่า มีดาวดังอย่าง ควิช่า ควาลัตสเคเลีย และ วิคเตอร์ โฮซิมเฮน คอยล่าประตูในแดนหน้า ส่งผลให้ทีมยิงไปแล้วมากถึง 77 ลูก มากที่สุดในลีก แต่นั่นไม่ใช่เพียงปัจจัยเดียวที่จะทำให้ทีมประสบความสำเร็จ

แน่นอนว่าการเสีย คาลิดู คูลิบาลี่ เซนเตอร์แบ็คคนเก่งทีมชาติเซเนกัล ออกไปให้กับ เชลซี ย่อมสร้างความกังวลให้กับเหล่าแฟนบอล เพราะแนวรับรายนี้ยืนเป็นตัวหลักให้กับทีมมาอย่างนาวนาน ฟอร์มการเล่นมีมาตรฐานคงเส้นคงวา ถึงขนาดในช่วงพีค ออเรลิโอ ดิ ลอเรนติส ประธานสโมสร ตั้งค่าตัวไว้แตะหลักร้อยล้านยูโร

ฟอร์ม คิม มิน-แจ สมัยค้าแข้งในเกาหลีใต้กับ ชุนบุค

การตัดสินใจของ ลูเชียโน่ สปัลเล็ตติ เทรนเนอร์มากฝีมือ ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการลูกหนังมาเป็นสิบๆ ปี ที่เฟ้นหาตัวแทนของ คูลิบาลี่ แล้วเซอร์ไพรส์คนแฟนบอลด้วยการไปคว้าตัว คิม มิน-แจ เซนเตอร์แบ็คทีมชาติเกาหลีใต้ มาจาก เฟเนบาห์เช่ ด้วยค่าตัวราว 18.05 ล้านยูโร ทำให้ใครต่อใครต่างกังวลเรื่องคุณภาพฝีเท้าว่า อาจไม่ดีพอ เมื่อเทียบกับมาตรฐานของ คูลิบาลี่ ที่ตั้งไว้เป็นเกณฑ์

ยิ่งไปกว่านั้นตราบาปเรื่องการต่อต้าน นักเตะเกาหลีใต้ ของแฟนบอลอิตาลี นั้นมีอคติมาตั้งแต่ศึกฟุตบอลโลกปี 2002 เนื่องจากโดน อาห์น จุง-ฮวาน กองหน้าที่ค้าแข้งอยู่กับ เปรูจา โหม่งประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษในระบบ โกลเด้น โกล จนทีมต้องตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย

กลายเป็นประเด็นความแค้นฝังหุ่น ลุกลามไปใหญ่โตถึงขนาดที่ อาห์น ไม่สามารถกลับไปค้าแข้งในแดนรองเท้าบู๊ทได้ แถมทำให้ไม่มีนักเตะสัญชาติเกาหลีใต้ ย้ายไปค้าแข้งในลีกอาชีพอิตาลีนับเป็นสิบๆ ปี

อย่างไรก็ตามเมื่อผ่านการแข่งขันบอลลีกฤดูกาลนี้ ไปแล้วกว่าครึ่งทาง คิม มิน-แจ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเขาในการขันเกมรับให้กับต้นสังกัดใหม่ แบบแทบไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวนาน ด้วยการเล่นที่แข็งแกร่งครบเครื่อง จนทำให้ทีมเสียประตูไปเพียงแค่ 16 ลูก นับเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดในลีก ได้ใจแฟนบอล นาโปลี ไปแบบเต็มๆ

กว่าที่ เกาหลีใต้ จะสร้างเซนเตอร์แบ็คที่แข็งแกร่งอย่าง มิน-แจ ขึ้นมาได้ พวกเขาต้องใส่ใจรายละเอียดเรื่องใดบ้าง? จนสามารถปั้นแนวรับรายนี้ให้โด่งดังในวงการลูกหนัง แล้วเป็นที่พูดถึงไปทั่วในตอนนี้ ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

โภชนาการ

หากมองจากภายนอก คิม มิน-แจ ถือว่าเป็นนักเตะที่มีรูปร่างสูงใหญ่ผิดกับชาวเอเชียทั่วไป เนื่องจากมีส่วนสูงถึง 190 เซนติเมตร เทียบชั้นได้กับผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังในยุโรปได้สบายๆ ไม่ได้เป็นรองในเรื่องของการเล่นลูกกลางอากาศเหมือนเดิมๆ อีกต่อไป

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Whoscored ให้คะแนนเฉลี่ย มิน-แจ สูงถึง 7.14 ในการเล่นบนเวที กัลโช่ เซเรีย อา ไปทั้งหมด 35 นัด ยิ่งไปกว่านั้นบนเวทีที่เข้มข้นขึ้นไปอีกระดับอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รายการชิงแชมป์ระดับทวีป ลงสนามไป 9 นัด มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 7.20

มิน-แจ ถูกวิเคราะห์ว่าเป็นเซนเตอร์แบ็ค ที่มีข้อดีในเรื่องของ การจ่ายบอลสำเร็จถึง 90 เปอร์เซ็นต์, การอ่านเกมเพื่อตัดบอล, การเข้าสกัดที่แม่นยำ และ มีสมาธิกับเกมสูงมาก โดยข้อเสียเด่นๆ ไม่มีเลยสักข้อเดียว

จากผลงานของเขาในระดับอาชีพที่ผ่านมา ในการพาทัพ ชอนบุก ฮุนได มอร์เตอร์ คว้าแชมป์ เค-ลีก 2 สมัย และแชมป์ระดับชาติในศึก เอเชี่ยน เกมส์ ปี 2018 ซึ่งคว้าเหรียญทองมาได้สำเร็จ บวกกับสไตล์การเล่นและรูปร่าง จึงถูกสื่อตั้งฉายาให้ว่า “สัตว์ประหลาด”

พ่อ-แม่ของเขาเป็นนักกีฬาเช่นกัน ดังนั้นการถ่ายทอดยีนส์เด่นในเรื่องศักยภาพของร่างกายที่แข็งแกร่ง ย่อมถูกส่งผ่านมาให้กับเขาแน่นอน ตามที่เขาเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า

“ผมคิดว่าผมได้รับการถ่ายทอด ร่างกายที่แข็งแกร่งมาจากพ่อและความเร็วมาจากแม่”

“เอาจริงๆ ผมชอบฉายานั้นนะ เพราะมันอธิบายสรุปว่าข้อดีของผมในการเป็นกองหลังนั้นมีอะไรบ้าง”

ซึ่งการจะเสริมให้มันดียิ่งขึ้นไปอีกต้องใส่ใจเรื่องโภชนาการ แน่นอนว่าการกินอาหารที่เป็นประโยชน์ เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย อาจไม่ใช่เรื่องที่ยากนักสำหรับเขา

เนื่องจากพ่อของเขาทำงานอยู่ในร้าน ซูชิ เมืองทงยอง ซึ่งเป็นถิ่นฐานบ้านเกิดของเขา ดังนั้นคงเดาได้ไม่ยากว่าอาหารหลักของ คิม มิน-แจ ในวัยเด็ก นั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ''ปลา''

เรื่องนี้ยิ่งเข้าเค้ามากขึ้นไปอีก เมื่อมีสื่อท้องถิ่นในเมืองเนเปิ้ลส์ มีการจับภาพเขาและภรรยา ใช้เวลาว่างหลังจบเกมการแข่งขันช่วงสุดสัปดาห์ ด้วยการไปทานข้าวในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง

แน่นอนว่า ซอน เฮือง-มิน เพื่อนร่วมทีมชาติของเขาในศึก เอเชี่ยน เกมส์ ปี 2018 ที่เป็นนักเตะคนสำคัญของสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมชั้นนำในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ถูกสร้างมาด้วยหลักโภชนาการเช่นกัน

เพราะพ่อของ ซอน มีความเชื่อว่า การกินนมจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการเรื่องการเติบโตของร่างกาย และเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ ดังนั้นอาหารหลักของดาวยิงรายนี้ คือ นมราดข้าว คล้ายกับอาหารเช้าของชาวต่างชาติที่มีร่างกายสูงใหญ่ซึ่งทาน ซีเรียลราดนม เป็นประจำ

การปลูกฝังทัศนคติและความมุ่งมั่น

ฐานะครอบครัวของ คิม มิน-แจ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ยึดอาชีพหาเช้ากินค่ำแบบคนทั่วไป ทำให้ตัวเขาต้องพุ่งเป้าเรื่องการหารายได้มาจุนเจือครอบครัวให้ได้ในอนาคตด้วยการเป็น นักฟุตบอลบอลอาชีพ ซึ่งมันก็ไม่ใช่ความฝันที่จะไปถึงได้ง่ายๆ ลำบากถึงขนาดรองเท้าฟุตบอล ยังต้องรับช่วงต่อมาจากคนอื่นที่ไม่ใช้แล้ว

แม้ว่าเขาจะถูกเรียกติดทีมชาติอายุต่ำกว่า 17 ปี ตั้งแต่ปี 2012 แต่ในเมื่อบ้านเกิดของเขาอยู่ภาคใต้ เมืองทงยอง มันเป็นเรื่องที่ลำบากเอามากๆ ที่จะเดินทางไปเข้าแคมป์ในเมือง พาจู ที่อยู่ทางเหนือสุด ตรงข้ามกันแบบคนละทิศคนละทาง ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางนานเอามากๆ

ยิ่งไปกว่านั้นพ่อของเขา จำเป็นต้องเข้ากะทำงานแบบขาดไม่ได้ รายได้ก็มีจำกัดจนต้องใช้อย่างประหยัด แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาที่ขัดขวางอนาคตอันสดใสของลูกชาย เขาจึงตัดสินใจแก้ไขด้วยการพา คิม มิน-แจ ติดไปกับรถบรรทุกขนส่งปลาของทางร้าน ที่ต้องออกเดินทางไปในเส้นทางเดียวกันแล้วเป็นทางผ่าน

“รถบรรทุกคันนั้นมันใหญ่มากจริงๆ มันต้องหนักราว 15-20 ตันได้เลย มีแท้งค์น้ำใหญ่อยู่ด้านหลัง เพื่อช่วยในเรื่องของความสดใหม่ของปลา เรื่องที่ผมเสียใจเพียงอย่างเดียว คือ พ่อของผมไม่สามารถอยู่ด้วยได้ เนื่องจากต้องไปส่งปลาที่เมืองอื่นต่อทันที”

“ครั้งนั้นผมถูกเรียกตัวติดทีมชาติครั้งแรก ผมยังเด็กมากแล้วก็รู้สึกอายหน่อยๆ ที่ต้องเดินทางมาแคมป์ด้วยวิธีการนั้น ทั้งที่คนอื่นๆ มาด้วยรถปกติกัน”

“อย่างไรก็ตามผมมองว่า มันเป็นเรื่องราวดีๆ ในชีวิตผม ที่มีช่วงเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับพ่อ มันเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ แล้วช่วยสร้างให้ผมเป็นแบบที่ทุกคนเห็นในทุกวันนี้”

ก่อนที่ คิม มิน-แจ จะมีร่างกายที่แข็งแกร่งได้แบบทุกวันนี้ จนสามารถต่อกรกับผู้เล่นในยุโรปได้แบบสมน้ำสมเนื้อ ไม่ใช่เขาหวังพึ่งแค่ยีนส์เด่นที่ได้รับการถ่ายทอดจากพ่อ และ อาหารการกินที่เป็นประโยชน์ แต่ตัวของเขาก็พยายามหาทางพัฒนาศักยภาพที่ดีแล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

หลังจากที่เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยที่ ยอนเซ ขณะนั้นความสูงของเขาอยู่ที่ 188 เซนติเมตร ได้เปรียบเหนือนักฟุตบอลคนอื่นๆ อยู่พอสมควรด้่านรูปร่าง

แต่พอเอาเข้าจริงแล้วเขาก็พบว่า ตัวเองยังมีข้อด้อยในเรื่องของความแข็งแกร่งในจังหวะเข้าปะทะ เวลาต้องชนกับคู่แข่งตรงๆ แลัวตัดสินผู้ชนะกันที่ความแข็งแรง เนื่องจากน้ำหนักของเขานั้นแค่ 78 กิโลกรัมเท่านั้น

คิม มิน-แจ ศึกษาในระดับวิทยาลัยในสาขาที่เขามองว่าเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น การกีฬา, สันทนาการ และ การพัฒนาร่างกาย ซึ่งเขาก็ใช้ความรู้ตรงนี้ไปเข้ายิมฝึกซ้อมเพิ่มเติมในช่วงเย็น ขนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ เพิ่มกล้ามเนื้อจนหนักขึ้นอีก 10 กิโลกรัมได้สำเร็จ

เขามีการสักข้อความภาษาอังกฤษว่า “Never stop dreaming, Time won’t wait for you.” ซึ่งแปลความหมายออกมาได้ว่า ไม่เคยหยุดฝัน, เวลาไม่เคยคอยใคร ไว้ที่แขนซ้าย และ “Carpe Diem” วลีภาษาละตินไว้ตรงหน้าอก ซึ่งแปลความหมายออกมาได้ว่า อย่ามัวรีรอ, รีบฉกฉวยวันเวลา และ อยากทำอะไรให้รีบทำ

รอยสักเหล่านั้นเปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจตัวเอง ให้ตัวเขาไม่หยุดพยายาม พัฒนาฝีเท้าให้ดีกว่าเดิม ด้วยการแข่งขันกับเวลาที่ไม่เคยหยุดเดิน จนกว่าจะไปถึงเป้าหมายที่ตัวเองฝันไว้ให้ได้

โดยความมุ่งมั่นเหล่านั้น ก็แสดงออกมาให้แฟนบอล นาโปลี ได้เห็นอย่างชัดเจนด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในสนาม ซึ่งเจ้าตัวก็กล่าวถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า

“มันเป็นโอกาสครั้งใหญ่สำหรับผมและผมเลือกที่จะย้ายมาเผชิญหน้ากับมัน แล้วเลือกหยุดเส้นทางการค้าแข้งในตุรกีไว้แค่นั้น”

“ข้อเสนอที่ยื่นเข้ามาให้ผมในช่วงซัมเมอร์จากสโมร นาโปลี นั้นดีที่สุดแล้ว และผมไม่เสียเวลาลังเลแม้แต่น้อยที่จะตอบรับมันทันที”

คิม มิน-แจ ถูกยกย่องให้เป็นกองหลังระดับท็อปของโลกไปแล้ว

“แต่เอาจริงๆ แล้วผมไม่ได้เตรียมใจเอาไว้ก่อนเลยว่าต้องเจอกับความคาดหวังที่เพิ่มมากขึ้นแบบงงๆ ในตอนนี้ หลังจากทีมของเราขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม”

“เป้าหมายของพวกเราทุกคนคือการจารึกประวัติศาสตร์เดิมขึ้นมาอีกครั้ง ผลงานการการชนะรวด 12 เกมติด บ่งบอกว่าเรากำลังไปได้สวย”

“ผมรู้ว่าผู้คนในเมืองนี้รอคอยแชมป์ลีกมานานกว่า 30 ปี และผมมั่นใจว่าในตอนจบฤดูกาล เราจะคว้า สคูเด็ตโต้ มาครองได้อย่างแน่นอน หากเรายังเล่นได้แบบนี้ต่อไป”

การถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับดาวรุ่ง

แม้ว่า คิม มิน-แจ จะกลายเป็นหนึ่งในฮีโร่ของประชาชนชาว เกาหลีใต้ ไปแล้ว จากผลงานในเส้นทางการค้าแข้งที่ผ่านมาของเขา ที่เคยคว้าแชมป์ เค ลีก 2 สมัย, แชมป์เอเชียน เกมส์ ปี 2018 รวมไปถึงได้ลงโชว์ฝีเท้าบนเวทีฟุตบอลโลก

แต่เจ้าตัวได้รับการยกเว้นการเรียกตัวเข้ากรมทหารเพียงแค่ 21 เดือน แล้วต้องไปฝึกต่อให้ครบตามโปรแกรมที่กำหนดอีก 1 เดือน ซึ่งในช่วงนี้เขาก็ต้องบำเพ็ญประโยชน์ออนไลน์ ในการถ่ายทอดประสบการณ์ฟุตบอล เพื่อหวังจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ ตามที่เขาให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า

“ผมจะไปร่วมฝึกกับกองทัพในช่วงซัมเมอร์หน้า แต่ตอนนี้ผมกำลังทำสาธารณประโยชน์ออนไลน์ผ่านทางโปรแกรม ซูม”

“ผมจะให้คำแนะนำเหล่านักฟุตบอลดาวรุ่งของเกาหลีใต้ เล่าให้ฟังว่าช่วงที่ผมอายุเท่านั้นรู้สึกอย่างไร? แล้วผมมาถึงตรงจุดนี้ได้ยังไง?”

“ผมพยายามถ่ายทอดประสบการณ์เหล่านั้นให้ได้มากที่สุดในช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่เวลาแค่นั้นมันไม่เคยพอเลย ผมเลยต้องเพิ่มเป็นสัปดาห์ละสองครั้งสำหรับทุกๆ คน”

ทุกความใส่ใจในทุกปัจจัยตั้งแต่เรื่อง อาหาร, ทัศนคติ และ การบอกเล่าประสบการณ์อันเป็นประโยชน์ เพื่อส่งต่อองค์ความรู้ต่างๆ ให้กับ นักเตะรุ่นต่อไป ล้วนเป็นแนวทางที่ เกาหลีใต้ สร้างนักฟุตบอลของเขา ออกมาป้อนเข้าสู่ตลาดโลก แล้วประสบความสำเร็จแบบที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน

หากบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับ วงการฟุตบอลไทยทุกคน ใส่ใจทุกรายละเอียด มุ่งเป้าไปที่การพัฒนา นักเตะไทย ให้ก้าวออกไปสร้างชื่อเสียงในระดับสากลได้จริงๆ คงต้องลองมองย้อนกลับมาดูตัวอย่างแบบนี้กันบ้างว่า การจะสร้างนักเตะระดับสตาร์สักหนึ่งคน ต้องใส่ใจในรายละเอียดกันขนาดไหน

แต่ถ้าตัวนักเตะอาชีพในบ้านเราเองยังไร้วินัย ทานอาหารตามใจปาก กินเหล้า สูบบุหรี่ ซ้อมแบบผ่านๆ รับเงินเดือนสูงๆ รอแค่แข่งให้ผ่านกันไปแต่ละสัปดาห์ ถ้าผลงานของทีมยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลต่อกันไปแบบนี้ บอกเลยว่า ยาก ที่ความฝันจะเป็นจริง

ไม่ว่าจะเป็นการเล่นบอลโลกรอบสุดท้าย หรือ เห็นนักเตะไทยลงเล่นใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป เนื่องจาก ความเป็นมืออาชีพ มันยังไม่ถึงระดับเดียวกันกับชาติต้นแบบในทวีปของเรา ที่พวกเขาทำให้เห็นภาพแบบชัดๆ กันไปแล้ว ด้วยการลงเล่นบอลโลกแบบขาประจำ และ ส่งออกนักเตะไปลีกชั้นนำแบบไม่ขาดสาย

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

‘มิคเคลสัน’ : อนาคตแบ็คขวาทีมชาติไทยดีกรีสโมสรยุโรป

5 นักเตะไทยที่มีโอกาสไปเล่นในอังกฤษ หลังไร้กฎเวิร์คเพอร์มิต

ถ้า FA ไม่แก้กฎใหม่ : ยากแค่ไหนที่ ศุภณัฏฐ์ จะได้เวิร์คเพอร์มิต ?

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https://www.transfermarkt.com/min-jae-kim/profil/spieler/503482

https://en.wikipedia.org/wiki/Kim_Min-jae_(footballer)

https://cultofcalcio.com/kim-min-jae-on-napoli-transfer-scudetto-dream-role-model-and-italian/

https://themomentum.co/gameon-sonheungmin/

https://www.whoscored.com/Players/370912/Show/Kim-Min-Jae

https://www.newsdirectory3.com/naples-star-kim-min-jae-the-local-media-is-interested-in-eating-sushi-with-his-wife-2/

https://www.donga.com/en/article/all/20170810/1022501/1