ดีจนต้องขยี้ตา : ทำไม แฮร์รี่ แม็คไกวร์ จึงกลายเป็นคนละคนเมื่อเล่นให้อังกฤษ ?
หากจะพูดถึงกองหลังสักคนที่มีฟอร์มอันยอดเยี่ยมสะดุดตาในฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย คงหนีไม่พ้น แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ของทีมชาติอังกฤษ ถึงแม้ว่าในนามของสโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟอร์มของเขาจะย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม แต่ฟอร์มของเขากับเสื้อสีขาวทีมชาติอังกฤษนั้นยอดเยี่ยมจนทุกคนพร้อมใจชมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน …
แล้วทำไมล่ะ ทำไมเขาถึงเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมกับทีมชาติตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2018, ยูโร 2020 จนทัวร์นาเม้นต์นี้ แต่กับเสื้อสีแดงแมนเชสเตอร์ฯเขากลับทำได้ไม่ดีเลยจริงๆ
Think Curve - คิดไซด์โค้ง จะพาทุกท่านมาพูดคุยถึงฟอร์มการเล่นของเขาที่หลายคนต่างสงสัยว่าใช่คนเดียวกันจริงๆเหรอ
ความล้มเหลวที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กลายเป็นนักเตะที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตลาดซื้อขายนักเตะประจำซัมเมอร์ปี 2019 หลังนักเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้ย้ายจาก สโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ที่มีกลุ่มคิงส์เพาเวอร์ บริษัทของชาวไทยเป็นเจ้าของ ไปสู่อ้อมกอดของปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกด้วยค่าตัวที่สูงถึง 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,982 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการทำลายสถิติโลกของกองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ย้ายจากทีม เซาธ์แธมป์ตัน ไปยังทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (2,795 ล้านบาท) เมื่อปี 2018
เขาเริ่มต้นการค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการแบกรับสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก ถือได้ว่าเป็นการแบกรับความกดดันที่สูงมากสำหรับนักเตะคนหนึ่ง เขากลายเป็นความหวังของแฟนๆปีศาจแดงในทันทีหลังจากย้ายเข้ามาอยู่ในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด ที่มีปัญหาในเกมรับอยู่ในขณะนั้น
จนกระทั่งผลงานของทีมเริ่มแย่ลงจนทำให้ กุนซือของทีมอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดนปลดจากตำแหน่ง และสโมสรก็ได้แต่งตั้ง ราล์ฟ รังนิก เข้ามาทำหน้าที่แทน ผลงานของ แม็คไกวร์ ก็ไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอลถึงฟอร์มการเล่นของเขา จนทำให้ รังนิก ต้องตัดสินใจดร็อปตัวเขาในบางเกม เนื่องจากการโชว์ผลงานได้อย่างไม่น่าพอใจกับค่าตัวระดับนี้ แถมยังถูกมองว่าไม่เหมาะสมที่ต้องมาสวมปลอกแขนกัปตันทีมของปีศาจแดง
กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สาเหตุที่ทำให้แม็คไกวร์ไม่สามารถแสดงศักยภาพของเขาออกมาได้ดี อาจเป็นเพราะการที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีผู้เล่นที่มีคุณสมบัติที่เหมาะกับการช่วยเหลือเขา เขาไม่สามารถจับคู่ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ เนื่องจาก ลินเดเลิฟ เขามักจะทำพลาดในจังหวะที่ง่ายแสนง่าย และหากพวกเขาทั้งคู่ทำพลาดจะไม่มีใครที่สามารถมาช่วยเหลือพวกเขาได้
ส่วน อีริค ไบยี่ ดูเหมือนจะสามารถจับคู่กับแม็คไกวร์ได้ แต่เนื่องจาก ไบยี่ มักมีอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง แฟนๆปีศาจแดงต่างยอมรับในตัวเขาและอยากให้เขาลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ไบยี่ เขามีเกมรับที่ยอดเยี่ยม มีพละกำลังและความเร็วมหาศาล เหตุผลเดียวที่ ไบยี่ ไม่สามารถแจ้งเกิดที่โรงละครแห่งนี้ได้เพราะอาการบาดเจ็บที่เข้ามารบกวนนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
และอีกสาเหตุที่อาจทำให้ แม็คไกวร์ ทำผลงานได้ไม่ดีกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ แมนเชสเตอร์ฯไม่มีกองกลางตัวรับที่ดีพอ ในหลายๆเกมพวกเขาสามารถครองบอลและครองสนามได้ก็จริง ซึ่ง เฟร็ด และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็พยายามแสดงศักยภาพและช่วยทีมอย่างเต็มที่แล้ว แต่ไม่พอสำหรับทีม เฟร็ดไม่มีแรง
พอที่จะทดแทนกองหลังเมื่อพวกเขาหลุดจากตำแหน่ง สกอตต์ ดูเหมือนจะชอบเกมรุกมากกว่าเกมรับ และนักเตะอย่าง บรูโน ก็เป็นนักเตะในแนวรุก เขาสามารถสร้างสรรค์โอกาสและประตูให้กับทีม แต่ไม่สามารถช่วยเหลือในเรื่องของเกมรับได้ดีพอ
และอย่างที่ทราบกันดีว่า อาวุธหลักของทีมปีศาจแดง คือ เกมเคาน์เตอร์ แอทแทค เวลาตัดบอลได้ พวกเขาจะสวนกลับเร็วอย่างรวดเร็ว การเข้าทำจะถ่ายบอลออกทางปีกซ้าย ปีกขวา จนไปถึงกองหน้าตัวจบสกอร์ หนึ่งเพลย์ ใช้เวลาส่งบอลไม่เกิน 10 ครั้ง ก็สามารถยิงประตูได้ เป็นทีมที่ใช้ความเร็วและการสวนกลับในการเข้าทำอย่างแท้จริง
จังหวะการเล่นของแมนยูฯนั้นค่อนข้างเร็ว แต่ด้วยสไตล์ของ แม็คไกวร์ ที่ชอบครองบอลหรือพาบอลขึ้นหน้าไปด้วยตัวเอง เขามักทำให้จังหวะของทีมช้าลง และดูเหมือนว่าจะทำให้ระบบของทีมพังลง อีกทั้งกองกลางของแมนยูฯ ไม่มีกองกลางตัวรับจ๋าๆที่คอยประคองเซ็นเตอร์แบ็คทั้งสองตัวและช่วยเหลือขนาดที่ถ้ากองหลังหลุดต่ำแหน่งขึ้นไปแล้วพวกเขาจะเข้ามาแทนตำแหน่งในเกมรับ
ในนามสโมสรของ แม็คไกวร์ แสดงข้อผิดพลาดต่างๆมากมาย การประกบตัวพลาดแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความผิดพลาดที่แฟนบอลสุดแสนจะเอือมระอา หนักถึงขั้นที่ว่าวิ่งชนเพื่อนร่วมทีม เล่นช้าในเกม ดึงบอลจนเสียจังหวะทำเสียระบบ โดนแตะลอดขา โดนพลิกหลอกแบบหลังหัก ผิดพลาดโดยตรงและทำให้ทีมเสียประตูหลายต่อหลายครั้ง ไม่มีอะไรที่คุ้มค่าตัวมหาศาล 80 ล้านปอนด์ ฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ และหลายคนยังจำกันได้ดีตอนซื้อเขามา แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ถูกคาดหวังให้มายกระดับเกมรับเช่นเดียวกับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ของลิเวอร์พูล แต่ถึงตอนนี้แฟนบอลต่างรู้กันดีว่ามันเทียบชั้นกันไม่ได้แม้แต่น้อย
เป็นเรื่องปกติที่เมื่อคุณเป็นนักเตะอาชีพและคุณเล่นพลาด ไม่แปลกที่จะโดนวิจารณ์จากสื่อและแฟนบอล แต่ในกรณีของ แมคไกวร์ มันกลายเป็นการล้อกันแบบไม่จบไม่สิ้น ไม่ว่าเขาจะทำอะไรในตอนนี้ ทุกสายตาจับจ้องมองมาที่เขาไปซะหมด ไม่ว่าจะเรื่องในหรือนอกสนาม ไม่ว่าจะพลาดน้อยพลาดมาก สื่อก็หยิบยกเรื่องราวของเขาเอามาพูดคุยกันราวกับเป็นเรื่องตลก
ตัวเขาที่ต้องแบกรับความคาดหวังของแฟนๆแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งในฐานะนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดและที่สำคัญในฐานะกัปตันทีม และเมื่อเขาทำพลาดสิ่งที่เขาต้องเจอคือการวิพากษ์วิจารณ์ในทางเสียๆหายๆมากมาย ถึงขนาด ฟิล โจนส์ กองหลังที่ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมายาวนานเป็นปี เมื่อเขาลงเล่นเพียงนัดเดียว ยังถูกชมมากกว่าการที่ แม็คไกวร์ ลงเล่นมาตลอดทั้งปี
ระหว่างสวมเสื้อสีขาว
หากลองย้อนกลับไปตอนที่เขาพา เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ หรือช่วงที่เขาพาทีมชาติอังกฤษไปถึงรอบรองชนะเลิศในฟุตบอลโลก 2018 ในตอนนั้นสื่ออังกฤษต่างชื่นชม แมคไกวร์ ชนิดที่ว่าเป็นหน้ามือหลังมือกับในตอนนี้ เพราะในฟุตบอลโลกครั้งนั้น แมคไกวร์ เล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยมสามารถตัดบอลได้อย่างเฉียบคม และทำประตูได้ถึง 3 ประตู เรียกได้ว่าทำดีจนคนทั้งประเทศแห่ชื่นชมเขาไม่ให้ได้พักได้ผ่อน
ซึ่งก่อนที่ แมนยูฯ จะได้ตัวเขาไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เป็นอีกทีมที่สนใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก แต่สุดท้าย เรือใบสีฟ้า ก็ไม่สามารถสู้ค่าตัวของเขาได้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยพูดถึงเรื่องราวในครั้งนั้นว่า
"นี่คือนักเตะท็อปคลาส เราอยากได้ตัวเขา แต่เราไม่สามารถสู้ราคาได้"
และปัจจัยสำคัญที่ทำให้กุนซือทีมชาติอังกฤษอย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต เลือกใช้งานแม็คไกวร์เป็นอันดับแรกเป็นเพราะฟอร์มที่โดดเด่นและสไตล์การเล่นที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ที่เขายังอยู่ที่ เลสเตอร์ ซิตี้
แม้เขาจะเป็นกองหลังแต่เขามีทักษะที่ยอดเยี่ยม เขามีร่างกายที่ใหญ่โตและแข็งแกร่ง ทำให้เขาสามารถเอาชนะการดวลลูกกลางอากาศกับคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย และเขาสามารถเอาชนะในการดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับผู้เล่นเกมรุกได้มากกว่าจะพลาด เขาเป็นเซ็นเตอร์แบ็คประเภทที่ชอบประกบตัวต่อตัวและรู้วิธีเข้าสกัดอย่างแม่นยำ และเขาสามารถจ่ายบอลจากกรอบเขตโทษตัวเองเข้าสู่แดนกลางได้เป็นอย่างดี
และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ เขาจะความเป็นผู้นำที่สูงขึ้น ด้วยสภาพแวดล้อมของทีม ทุกคนในทีมชาติอังกฤษต่างไว้ใจเขา เขากล้าที่จะสั่งกองหลังคนอื่นๆ
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาสามารถเล่นกับทีมชาติอังกฤษได้ดีอาจเพราะการมีกองหลังที่ยอดเยี่ยมอยู่รอบๆตัวเขาซึ่งสามารถจับคู่กับเขาได้ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค นักเตะอย่าง จอห์น สโตนส์, เบน ไวท์, ไทรอน มิงส์ และ คอเนอร์ โคอาดี และยังมีแบ็คคนอื่นๆที่โดดเด่นอย่าง ลุค ชอว์, รีส เจมส์, ทริปเปียร์ และ เบน ชิลเวลล์ กองหลังชุดนี้สามารถช่วยให้การเล่นของ แม็กไกวร์ ง่ายขึ้น
นอกจากกองหลังที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังมีกองกลางตัวรับอีกมากมายที่มีความสามารถ พกวเขาเป็นกลางรับประเภทที่คอยประคองและทดแทนในตำแหน่งเขาได้ในเวลาที่เขาตัดสินใจพาบอลขึ้นหน้าด้วยตัวเอง อย่างเฮนเดอร์สัน, ดีแคลน ไรซ์, และคาลวิน ฟิลลิปส์ พวกเขามีความสามารถที่โดดเด่นในเกมรับ
และจังหวะเกมของทีมชาติอังกฤษ พวกเขามีจังหวะเกมที่ช้าเมื่อเทียบกับแมนยูฯ พวกเขามักครองบอล และรอให้แบ็คทั้งสองฝั่งเติมขึ้นมาเพื่อเพิ่มจำนวนผู้เล่นในเกมรุก หรือครองบอลระหว่างกองกลางและกองหลังเพื่อรอให้ทีมฝั่งตรงข้ามดันสูงขึ้นมา เพื่อเปิดพื้นที่ในแดนคู่แข่งให้โล่งมากขึ้น และในจังหวะนั้นพวกเขาจะไม่รอช้าในการทำเกมรุกเข้าใส่คู่แข่ง
และที่สำคัญพวกเขาใช้มิดฟิล์ดในสไตล์การเล่นแบบ “บ็อกซ์ทูบ็อกซ์” ที่จะทำหน้าที่ตั้งแต่การป้องกันการทำประตูที่กรอบเขตโทษของฝั่งตัวเองและคอยวิ่งเติมเกมไปทำประตูที่ฝั่งตรงข้าม พวกเขามักจะยืนอยู่ด้านหน้าระหว่างเซ็นเตอร์แบ็คทั้งสองตัวเพียงเล็กน้อยในขณะตั้งรับเพื่อชะลอเกมบุกของฝั่งตรงข้าม และในขณะทำเกมรุกพวกเขาจะยืนอยู่ระหว่างเซ็นเตอร์ทั้งสองตัวเพื่อคอยประคองและช่วยเหลือในการลำเลียงบอลขึ้นมายังแดนหน้าอย่าง ดีแคลน ไรซ์ ที่เขามักจะพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่เพื่อนร่วมทีมสามารถจ่ายบอลได้ง่าย และจุดนี้ทำให้ แม็คไกวร์ สามารถเล่นในสไตล์ของตัวเองได้มากขึ้น จนเขาสามารถโชว์ศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ เพราะมิดฟิล์ดประเภทนี้คอยช่วยเหลือเขาอยู่เสมอ
บรรยากาศที่แตกต่าง
ในขณะที่เขาเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การเล่นของเขาในแต่ละครั้งในทุกๆจังหวะถูกจ้องมองรอความผิดพลาดเพื่อที่จะนำไปวิจารณ์ต่างๆนานา บรรยากาศของแฟนบอล เพื่อนร่วมทีม ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับทีมชาติอังกฤษ
อีริค ไบยี่ ถึงขั้นเคยออกมาเรียกร้องให้ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือผีแดงในตอนนั้น ว่าให้มองข้ามแม็คไกวร์ไปบ้าง เขาไม่ได้มีฟอร์มการเล่นที่ดีอะไรขนาดนั้น
สื่อของอังกฤษอย่าง เดอะ เทเลกราฟ รายงานว่า ไบยี่ ได้มีการถาม โซลชา แบบเปิดเผยเกี่ยวกับการเลือกผู้เล่น โดยกล่าวว่า “ทำไมถึงส่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ลงสนามเป็นตัวจริง ทั้งที่ไม่ฟิตสมบูรณ์”
รอย คีน ถึงกับเคยให้สัมภาษณ์ว่า “นี่คือความอับอายของยูไนเต็ด”
ริโอ เฟอร์ดินาน พูดเกี่ยวกับสถิติของแม็คไกวร์ว่า “เขามีสถิติในเกมรับที่แย่เหลือเกิน”
และสุดท้าย ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท เคยให้สัมภาษณ์ผ่าน Ziggo Sport ว่า
“เขาสามารถทำบางสิ่งบางอย่างได้ แต่ถ้าเขามีค่าตัวมากขนาดนั้น เวอร์จิล ฟาน ไดค์ คงมีค่าตัว 300 ล้านปอนด์แล้ว”
“นักเตะอย่างแม็คไกวร์สามารถหาได้ตามลีกสมัครเล่น”
“มันอาจจะดูงี่เง่า แต่ผมคิดแบบนั้นจริง ๆ”
การให้สัมภาษณ์เหล่านี้เป็นการวิจารณ์ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่หนักหนาสาหัสเหลือเกิน
เรื่องบางเรื่องที่พูดถึงเขาก็เลยเถิดเกินความจริงไปมาก เช่น มีคลิปการเล่นลิงชิงบอลในแคมป์เก็บตัวทีมชาติอังกฤษที่ แมคไกวร์ ดันไปครองบอลไว้กับตัวมากถึง 3 จังหวะ เรื่องนี้กลายเป็นความตลกโปกฮาในโซเชียลมีเดีย ยิ่งมีกระแสที่ว่าเขาฟอร์มตกและไม่ควรติดทีมชาติ คลิปนี้จึงถูกแชร์และนำเสนอไปทั่วโลกภายอย่างรวดเร็ว
แต่ไทโรน มิงส์ กองหลังทีมชาติอังกฤษได้ออกมาแก้ต่างให้กับ แมคไกวร์ เกี่ยวกับคลิปที่กำลังเป็นไวรัลว่า
“เราผ่านบอลไป 45 ครั้ง และ แมคไกวร์ ก็หยุดบอล ผมเข้าใจสถานการณ์ตอนนั้นเพราะมันเป็นการหยุดเพื่อให้คนที่เป็นลิงได้พักหายใจ”
“จริง ๆ แล้ว แมคไกวร์ แค่หยุดในจังหวะที่พอดิบพอดีเท่านั้น อีกสักพักเขาก็พูดว่า พอแล้ว เดี๋ยวเราค่อยเริ่มใหม่ ดังนั้นผมจึงยืนยันว่าความเห็นแง่ลบที่เกิดขึ้นจากหลาย ๆ ฝ่ายนั้นเกิดจากความไม่เข้าใจในบริบททั้งหมดของวิดีโอที่พวกเขาได้เห็น”
และไม่ว่าในสโมสรฟอร์มจะย่ำแย่แค่ไหนก็ตามถึงขั้นส่งผลต่อเสียงโห่ในตอนที่สวมเสื้อทีมชาติอังกฤษ แต่โค้ชและเพื่อนร่วมทีมของเขาในทีมชาติอังกฤษยังไว้ใจ และบอกเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือ ปราการเหล็กสุดแกร่งและเขาไม่เหมือนกับตอนอยู่แมนยูฯแม้แต่น้อย
มีสถิติมากมายที่บ่งบอกว่า แม็คไกวร์ ยอดเยี่ยมเพียงใดในสีเสื้ออังกฤษ 42 นัดที่ลงเล่นในนามทีมชาติอังกฤษ แพ้เพียง 8 นัด คลีนชีต 23 นัด เสียแค่ 26 ประตู ยิงไปแล้ว 7 ประตู โดนใบแดงกับสโมสร 5 ใบ กับทีมชาติเพียงแค่ 1 ใบ อีก แม็คไกวร์ ยังเป็นเป็นกองหลังทีมชาติอังกฤษที่ทำประตูมากที่สุดตลอดกาล
ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 เขาลงเล่น 4 นัดเสียเพียง 1 ประตู สถิติเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำว่าเขาคือส่วนสำคัญและฟันเฟืองที่พาอังกฤษจบด้วยรองแชมป์ยูโร 2020 และพาอังกฤษจบอันดับ 4 ในฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา ด้วยฟอร์มการเล่นที่เข้าใกล้คำว่า “สมบูรณ์แบบ” ในตำแหน่ง เซ็นเตอร์แบ็ค ลูกกลางอากาศที่แข็งแกร่งการยืนตำแหน่งที่สุดยอด และได้รับการปกป้องและสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมชาติทุกคน
ทันทีที่เสียงโห่ดังขึ้นกัปตันทีมชาติในขณะนั้นอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ออกมาปกป้อง แม็คไกวร์ ทันที
“ผมไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับแม็คไกวร์ เขาเป็นคนสำคัญของประเทศชาติมาโดยตลอด ถ้าหากไม่มีเขาพวกเราไม่สามารถไปถึงตำแหน่งนั้นได้ในสองทัวร์นาเมนต์หลังสุด ผมบอกได้เลยนะ ว่าผมรู้สึกโชคดีที่เห็นเขาในห้องแต่งตัวร่วมกับเรา และพวกเราทุกคนต่างรู้สึกแบบนี้”
หรือแม้แต่กัปตันทีมในปัจจุบันอย่าง แฮร์รี่ เคน
“พวกเราทำงานกันอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมารวมถึงแม็คไกวร์ เขาเป็นนักเตะที่เล่นให้กับเราอย่างยอดเยี่ยมและสร้างความทรงจำที่ยอดเยี่ยมกับพวกเรา เขาไม่สมควรได้รับเสียงโห่แบบนี้”
แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ กล่าวชมเขาว่า
“ในความคิดของผม แฮร์รี่ แม็คไกวร์ คือกองหลังที่ดีที่สุด เขาคือผู้เล่นคนสำคัญของเรา ผลงานของเขามันไร้ข้อกังขา เขาเล่นในตำแหน่งกองหลังได้ดีเหลือเกิน”
และ ดีแคลน ไรซ์ กองกลางตัวรับของทีมชาติอังกฤษ พูดถึงแม็คไกวร์ว่า
“แม็คไกวร์คือผู้เล่นคนสำคัญ ทุกครั้งที่สวมเสื้อทีมชาติอังกฤษเขามักโชว์ฟอร์มที่น่าทึ่งให้เห็นเสมอ”
และนี่คือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ในนามทีมชาติอังกฤษ ทั้งเพื่อนและผู้จัดการทีมสุดแสนจะไว้ใจเขา ไม่ว่ากระแสวิจารณ์ทั้งโลกจะถาโถมใส่เขาในนามของสโมสรมากเพียงใด แต่ในนามของทีมชาติอังกฤษทุกคนพร้อมที่จะออกมาปกป้องและหนุนหลังเขาเสมอ
ความผิดพลาดที่นับครั้งได้ในเสื้อสีขาวสิงโตคำราม ไม่ใช่ความผิดพลาดสองครั้ง คือครั้งแล้ว ครั้งเล่า แบบที่แมนเชสเตอร์ฯ เขาเล่นให้ทีมชาติอังกฤษไม่เคยเหมือนที่ยูไนเต็ด เขามั่นใจกว่า เขารู้ว่าทุกคนที่นั่นเชื่อมั่นในตัวเขา
เขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อสวมเสื้อของสิงโตคำราม ไม่ต้องมีความกดดันจากค่าตัว 80 ล้านปอนด์ให้แบกรับ ไม่ต้องมีแรงกดดันมหาศาลเมื่อสัมผัสบอลในแต่ละครั้ง และนี่อาจเป็นเหตุผลที่ทุกคนต่างบอกว่า แม็คไกวร์เล่นทีมชาติได้ดีกว่าที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไม่เคยคว้าแชมป์ร่วมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหรือทีมชาติอังกฤษได้เลย และดูเหมือนว่าเขาจะสามารถคว้าแชมป์กับทีมชาติอังกฤษได้ก่อนจะคว้าแชมป์กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสียอีก
แหล่งอ้างอิง
https://ng.opera.news/ng/en/sports/56bfa0f785ef362202f8847de9ff3bea
https://www.coachesvoice.com/cv/england-world-cup-qatar-2022-tactics-preview-southgate/
https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/man-utd-solskjaer-bailly-maguire-25299493
https://sport.trueid.net/detail/YzbmmQ0jnVp1
https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/maguire-man-utd-criticism-vandervaart-28147518
https://theathletic.com/3634871/2022/10/19/harry-maguire-possible-england-replacements/
ข่าวและบทความล่าสุด
RELATED BY AUTHOR