อดีตเคยแรง : 11 แข้งระดับโลกที่เคยมาแข่งขันศึก คิงส์ คัพ

อดีตเคยแรง : 11 แข้งระดับโลกที่เคยมาแข่งขันศึก คิงส์ คัพ
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

การแข่งขันศึกชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 49 กำลังจะระเบิดความมันขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยครั้งนี้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เลือกสังเวียนฟาดแข้งเป็น สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ซึ่งจะแข่งขันกันในวันที่ 7-10 กันยายน

ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ มีการเชิญชาติเข้ามาร่วมทำการแข่งขันอีก 3 ชาติ ประกอบไปด้วย อินเดีย (อันดับโลก 101), อิรัก (อันดับโลก 67) และ เลบานอน (อันดับโลก 99) ได้ทำการแบ่งสายเป็นที่เรียบร้อยแล้วในเกมแรก ออกมาเป็น ไทย ปะทะกับ เลบานอน และ อิรัก ไปตัดกับ อินเดีย

ความจริงแล้วรายการนี้ถือเป็นทัวร์นาเมนต์เชิดหน้าชูตาวงการฟุตบอลบ้านเราในอดีต เคยมีการเชิญชาติชั้นนำของโลกมาปะทะกับทัพ ‘ช้างศึก’ ไม่ว่าจะเป็น โรมาเนีย, สโลวาเกีย, โปแลนด์ และ บราซิล แต่ด้วยการบริหารจัดการความพร้อม รวมไปถึงงบประมาณอันจำกัดจำเขี่ย ชาติที่สามารถเชิญมาแข่งขันได้ในปัจจุบัน เลยจำต้องลดระดับมาอย่างที่เห็น

โดยความยิ่งใหญ่ของรายการนี้ ถึงขนาดเคยมีนักเตะที่ฝีเท้าระดับเอกอุของโลก เคยแวะเวียนมาโชว์ศักยภาพให้แฟนบอลไทยได้เห็นกันต่อตามาแล้วมากมาย แล้วนี่คือ 11 รายชื่อของผู้เล่นตัวท็อปที่ทางทีมงาน Think Curve - คิดไซด์โค้ง รวบรวมมาให้เป็นการระลึกถึงวันเก่าๆ

PHOTO : Eurosport

ปีเตอร์ ชไมเคิล (Peter Schmeichel) - ทีมชาติเดนมาร์ก

ผู้รักษาประตูเจ้าของฉายา ‘ยักษ์เดนส์’ มาร่วมทำการแข่งขันบนเวที คิงส์ คัพ ครั้งที่ 19 ซึ่งเป็นช่วงที่แดนโคนมกำลังฟอร์มทีมเพื่อสู้ศึก โอลิมปิก เกมส์ นายทวารรายนี้มีอายุแค่ 25 ปีในเวลานั้น ยังค้าแข้งอยู่กับสโมสร บรอนด์บี้ ในบ้านเกิด จากนั้น ชไมเคิล ก็สร้างตำนานพาทีมคว้าแชมป์ยูโรปี 1992 และทริปเปิ้ลแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 1999 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดหลังจากเขาคว้าแชมป์ที่ประเทศไทย

ไฮไลท์การเล่นของ สคริเนียร์

มิลาน สคริเนียร์ (Milan Skriniar) - ทีมชาติสโลวาเกีย

เซนเตอร์แบ็คตัวแกร่งวัย 28 ปี เป็นนักเตะที่ขันแนวรับให้กับ อินเตอร์ มิลาน สโมสรชั้นนำในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มากว่า 5 ฤดูกาล พาต้นสังกัดเป็นทั้งแชมป์ลีกและบอลถ้วยในประเทศ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในฤดูกาลนี้ สคริเนียร์ เดินทางมาโชว์ฝีเท้ายังประเทศไทยในปี 2018 แล้วพาทีมเป็นแชมป์ คิงส์ คัพ ครั้งที่ 46 ด้วยเการเฉือนชนะเจ้าภาพ 3-2 แบบสุดมัน

PHOTO : ITVX

มาร์ติน สเคอร์เทล (Martin Skrtel) - ทีมชาติสโลวาเกีย

คู่หูของ สคริเนียร์ ในการคุมแนวรับ จนพาทีมคว้าแชมป์ คิงส์ คัพ ครั้งที่ 46 ไปครองได้สำเร็จ แนวรับรายนี้เคยโด่งดังอย่างมากในการค้าแข้งให้กับ ลิเวอร์พูล ทีมชั้นนำแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อยู่โยงกับสโมสรตั้งแต่ปี 2008 ก่อนแยกทางกันไปในปี 2016 พาทัพ หงส์แดง เป็นแชมป์บอลลีกคัพ 1 สมัย ปัจจุบันในวัย 38 ปี สเคอร์เทล ค้าแข้งอยู่กับสโมสร รอซต็อกโน

PHOTO : Meczyki

คามิล กลิค (Kamil Glik) - ทีมชาติโปแลนด์

ปราการหลังรายนี้มาโชว์ฝีเท้าบนเวที คิงส์ คัพ ครั้งที่ 40 ในปี 2010 พาทีมจบในตำแหน่งรองแชมป์ ด้วยวัยเพียงแค่ 22 ปี ยังค้าแข้งอยู่ในบ้านเกิดไม่ม่ชื่อเสียงมากนัก หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายออกไปสร้างชื่อกับหลายสโมสรในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อาทิ ปาแลร์โม่ และ โตริโน่ กลายเป็นตัวหลักให้กับทีมชาติ ย้ายไปเล่นในฝรั่งเศสกับ โมนาโก ก็พาทีมเป็นแชมป์ลีก 1 สมัย ในฤดูกาล 2016/17 ปัจจุบัน กลิค ในวัย 35 ปี ค้าแข้งอยู่กับสโมสร คราโคเวีย ในลีกบ้านเกิด ติดธงรับใช้ชาติไปแล้วกว่า 100 นัด

PHOTO : Sportreviews

มาร์กอส คาฟู (Marcos Cafu) - ทีมชาติบราซิล

แบ็คขวาดีกรีแชมป์โลก 2 สมัย เคยมาโชว์ฝีเท้าบนเวที คิงส์ คัพ ครั้งที่ 31 ปี 2000 เป็นเกมเดียวในรายการที่แซมบ้าจัดเต็มในการดวลกับเจ้าภาพ ทีมชาติไทย ซึ่งส่งชุดดรีมทีมลงไปดวลแข้ง ปรากฎว่า ทัพช้างศึก พ่ายไปขาดลอย 0-7 แต่เกมที่เหลือพวกเขาส่งเยาวชน ชุดยู-17 ลงทำการแข่งขัน ส่งผลให้จบแค่ที่สามในครั้งนั้น

PHOTO : Twitter

ไบรอัน เลาดรู๊ป (Brian Laudrup) - ทีมชาติเดนมาร์ก

แนวรุกสาระพัดประโยชน์ ที่เล่นได้ทัังตำแหน่งกลางรุก, ปีกตัวริมเส้น และ กองหน้าตัวเป้า ประสบการณ์ค้าแข้งของเขานั้นโชกโชน ด้วยการเล่นให้กับหลายสโมสรดังในยุโรป อาทิ บาเยิร์น มิวนิค, เรนเจอร์ส, เอซี มิลาน, ฟิออเรนติน่า และ เชลซี พาต้นสังกัดวาดแชมป์ทั้งในประเทศและระดับทวีป ตอนนั้นเขาอยู่ในชุดปรี โอลิมปิก แดนโคนม ที่มาโชว์ฝีเท้าในศึก คิงส์ คัพ ครั้งที่ 19 ปี 1988 ยิงไป 1 ประตู ก่อนจะพาบ้านเกิดเป็นแชมป์ยูโรปี 1992 ในเวลาต่อมา

PHOTO : Footballretro

ไมเคิล เลาดรู๊ป (Michael Laudrup) - ทีมชาติเดนมาร์ก

กองกลางพรสวรรค์ ที่พาทีมชาติของเขาเป็ยแชมป์ คิงส์ คัพ ครั้งที่ 19 ในปี 1988 ผ่านการค้าแข้งกับหลายสโมสรชื่อดังในยุโรป อาทิ ลาซิโอ, ยูเวนตุส, บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด แถมยังเคยแวะเวียนมาเล่นในศึก เจลีก กับสโมสร วิสเซล โกเบ ช่วงปลายของการค้าแข้ง เขาคว้าทุกแชมป์ในการเล่นให้กับ เจ้าบุญทุ่ม ประสบความสำเร็จระดับสโมสรถึงจุดสูงสุด น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวที่ไม่ได้แชมป์ยูโร 1992 กับบ้านเกิด เพราะเจ้าตัวปฏิเสธเข้าแคมป์ทีมชาติแบบเร่งด่วน เนื่องจากมองว่าเขาอยู่ในช่วงพักร้อน

PHOTO : Fourfourtwo

โรแบร์โต้ คาร์ลอส (Roberto Carlos) - ทีมชาติบราซิล

แบ็คซ้ายตีนระเบิด ที่ประสบความสำเร็จในการค้าแข้งมากที่สุดคนหนึ่งบนโลก เป็นแชมป์ยุโรป 3 สมัย และ แชมป์ลีก 4 สมัย กับสโมสร เรอัล มาดริด ทีมดังในศึก ลาลีก้า สเปน รวมไปถึงการคว้าแชมป์โลก 1 สมัยในปี 2002 กับทีมชาติบราซิล เคยมีชื่อเข้าชิงรางวัล บัลลงก์ ดอร์ ในปี 2002 คาร์ลอส มาโชว์ฝีเท้าบนเวที คิงส์ คัพ ครั้งที่ 31 ปี 2000 พาทีมถล่มทัพ ช้างศึก ชุดดรีมทีม ขาดลอย 7-0

PHOTO : Conemebol

โรนัลดินโญ่ (Ronaldinho) - ทีมชาติบราซิล

แนวรุกพรสวรรค์สูงเจ้าของฉายา ‘เหยินน้อย’เคยมาโชว์ฝีเท้าบนเวที คิงส์ คัพ 2 สมัย ในครั้งที่ 30 ปี 1999 ที่พาทีมบราซิล ยู-20 ไปถึงตำแหน่งแชมป์ และครั้งที่ 31 ที่ลงเล่นเจอกับ ช้างศึก ชุดดรีมทีม ครั้งที่ 31 ปี 2000 เขาคือหนึ่งในนักเตะที่เก่งกาจที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมาในช่วงพีคของการค้าแข้ง พาอดีตต้นสังกัดอย่าง บาร์เซโลน่า กลับมาครองความยิ่งใหญ่ ด้วยการเป็นแชมป์ลีกและแชมป์ยุโรป จนได้รับรางวัล บัลลงก์ ดอร์ มาครอง 1 สมัยในปี 2005 จากผลงานดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาก็มีส่วนช่วยพา บราซิล เป็นแชมป์โลกมาแล้วในปี 2002

PHOTO : Pantip

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (Robert Lewandowski) - ทีมชาติโปแลนด์

หนึ่งในนักเตะตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าที่ฝีเท้าดีที่สุดในยุคนี้ เขาเคยมาโชว์ฝีเท้าในศึก คิงส์ คัพ ครั้งที่ 40 ในปี 2010 แถมคว้ารางวัลดาวซัลโวไปครองได้จากการยิงไป 2 ประตู น่าเสียดายที่ทีมชาติของเขาจบแค่ตำแหน่งรองแชมป์เท่านั้น แต่เส้นทางการค้าแข้งของเขาต่อมาเป็นกราฟขาขึ้นเพียงอย่างเดียว เลวานดอฟสกี้ ย้ายไปอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก่อนพาต้นสังกัดหักปากกาเซียนเป็นแชมป์ลีกเหนือ บาเยิร์น มิวนิค หลังจากนั้นก็ย้ายข้ามฟากไปอยู่กับ เสือใต้ พาทีมเป็นแชมป์ทั้งในประเทศและแชมป์ยุโรป ล่าสุดข้ามประเทศมาเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า เมื่อฤดูกาลก่อน แล้วก็พาทีมเป็นแชมป์ลาลีก้า พร้อมกับคว้ารางวัลดาวซัลโวไปครองจากการยิงไป 23 ประตู

PHOTO : ESPN

ริวัลโด้ (Rivaldo) - ทีมชาติบราซิล

เพลย์เมคเกอร์ซ้ายสั่งตายจากแดนแซมบ้า เพิ่งจะคว้ารางวัล บัลลงก์ ดอร์ มาครองในปี 1999 ก่อนจะมาโชว์ศักยภาพให้เห็นว่านักเตะที่ดีที่สุดในโลกเวลานั้นเป็นอย่างไร บนเวที คิงส์ คัพ ครั้งที่ 31 ปี 2000 ลงเล่นแค่นัดเดียว แต่ยิงไป 2 ประตูใส่ ทีมชาติไทยชุดดรีมทีม ก่อนจะพาบ้านเกิดเถลิงตำแหน่งแชมป์โลกในปี 2002 ส่วนความสำเร็จในระดับสโมสรก็ไม่น้อยหน้า หลังพาทาง บาร์เซโลน่า และ เอซี มิลาน เป็นแชมป์ลีกและแชมป์ยุโรป

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https://www.facebook.com/changsuek/photos/a.1214314241966613/2458210024243689/?type=3&locale=th_TH

https://pantip.com/topic/39959099

https://en.wikipedia.org/wiki/King%27s_Cup_(Thailand)

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

สู้จนได้ดี : ‘จิรวัฒน์ วังทะพันธุ์’ จอมหนึบจากขอนแก่น สู่ขุนพลทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรก

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ