DNA ดี ๆ มีอยู่จริง : 7 สโมสร ที่ใช้ “โค้ชคนใน” แล้วได้ผลลัพธ์คือความสำเร็จ

By ธนกรณ์ ปราโมกข์ชน

20 เม.ย. 2024 , 02:15น.

เป็นเรื่องที่น่าปวดใจสุด ๆ เมื่อต้องทนดูทีมรักทีมเก่าของตัวเองตกต่ำลงเรื่อย ๆ และเมื่อพวกเขาเริ่มมีประสบการณ์และความสามารถกับงานนอกสนามมากขึ้น แล้วใครล่ะจะอดใจไหว?

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอดีตนักเตะหลายคนได้กลับไปที่สโมสรเดิมของพวกเขาที่หล่อเลี้ยงพวกเขาในฐานะผู้เล่นเพื่อตอบแทนในสิ่งที่สโมสรมอบให้กับเขาในยามที่ยังเป็นนักเตะ พวกเขากลับมาเพื่อหวังฟื้นฟูและทำให้ทีมรักของตัวเองกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

ซึ่งอดีตนักเตะอย่าง มาริโอ้ ยูรอฟกี้ ของ “กิเลนผยอง” หรือ เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากประกาศรีไทร์จากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ มาริโอ้ ได้ไปเรียนโค้ชอย่างจริงจังและก็ได้เป็นโค้ชเยาวชนของ เมืองทอง ในรุ่น ยู-17 และยู-19 ปี เขาทำผลงานในฐานะโค้ชได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะได้รับโอกาสขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ มาจนถึง ปัจจุบัน

วันนี้ Think Curve - คิดไซด์โค้ง จะพาทุกท่านไปส่องกันว่าอดีตนักเตะคนใดที่กลับมายังสโมสรเก่าในฐานะกุนซือและเปลี่ยนแปลงสโมสรรักได้สำเร็จ ติดตามไปพร้อมกัน

ซีเนดีน ซีดาน  (เรอัล มาดริด)

ตำนานเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติฝรั่งเศสเคยค้าแข้งกับสโมสรดังทั่วยุโรปอย่าง บอร์กโดซ์, ยูเวนตุส และประสบความสำเร็จอย่างมากกับ เรอัล มาดริด โดยลงเล่นไปรวมทุกรายการมากถึง 239 เกม ซัดไป 49 ประตู พร้อมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย

หลังอำลาสโมสรเมื่อปี 2006 ซีดาน เริ่มจับงานโค้ชกับทีมสำรองของ มาดริด ในระหว่างปี 2014-2016 ก่อนจะถูกดันขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ในเวลาต่อมา และพา “ราชันชุดขาว” กวาดแชมป์ยุโรปได้ถึง 3 สมัยติดต่อกัน จากนั้น เขาก็อำลาทีมไปเมื่อปี 2018 และหวนกลับมายังถิ่น ซานติอาโก เบอร์นาบิว อีกครั้งในปี 2019

ภายใต้การคุมทีมของเขา มาดริดคว้าแชมป์ไปถึง 11 รายการ ได้แก่ แชมป์ลาลีกา 2 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัย, สแปนิช ซูเปอร์คัพ 2 สมัย, สโมสรโลก 2 สมัย และยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 2 สมัย

เป็นกุนซือราชันชุดขาวที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอันดับ 2 รองจาก มิเกล มูยอซ อดีตกุนซือในยุค 60 ที่คุมทีมได้ 14 แชมป์ จากการคุมทีม 15 ปี ส่วน ซีดาน ใช้เวลาเพียง 3 ปีครึ่ง แถมเขายังไม่เคยพาทีมแพ้ในนัดชิงชนะเลิศอีกด้วย

ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ (แอตเลติโก้ มาดริด)

ซิเมโอเน่ เป็นอีกหนึ่งในสุดยอดมิดฟิลด์ยุค 90 ซึ่งค้าแข้งให้กับสโมสรใหญ่ทั่วยุโรปอย่าง แอตเลติโก้ มารดริด, อินเตอร์ มิลาน และ ลาซิโอ ก่อนจะกลับไปแขวนสตั๊ดในอาร์เจนติน่าบ้านเกิดกับ ราซิง คลับ เมื่อปี 2006

ซิเมโอเน่ เริ่มต้นเส้นทางกุนซือกับทีมอดีตต้นสังกัดเก่าอย่าง ราซิง คลับ จากนั้น ตระเวนไปคุม เอสตูเดียนเตส, ริเวอร์เพลท, ซาน โรเลนโซ่, คาตาเนีย และ ราซิง คลับ อีกครั้ง ก่อนจะมารับงานใหญ่คุม แอตฯ มาดริด เมื่อปี 2011 จนถึงปัจจุบันพร้อมกับได้รับการบันทุกสถิติว่า เป็นกุนซือที่มีค่าเหนื่อยมากที่สุดในยุโรป

เขาพาทีมคว้าแชมป์ไปถึง 7 รายการ ลาลิกา ฤดูกาล 2013–14, 2020–21 โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2012–13 ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา ปี 2014 ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2011–12, 2017–18 และ ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ปี 2012, 2018

มิเกล อาร์เตต้า (อาร์เซนอล)

อดีตห้องเครื่องชาวสเปน เคยค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล นานถึง 5 ปี และยังได้รับเกียรติสวมปลอกแขนกัปตันทีม “ไอ้ปืนใหญ่” อีกด้วย โดย อาร์เตต้า พาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ถึง 2 สมัย ก่อนจะอำลาสนามไปเมื่อปี 2016

อาร์เตต้า เริ่มงานโค้ชด้วยการไปเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสเปนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และได้รับโอกาสครั้งใหญ่ในชีวิตด้วยการได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล เมื่อปี 2019

ปัจจุบัน อาร์เตต้า สร้างทีม “ปืนใหญ่” ให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งด้วยทีมพลังวัยรุ่น โดยเขาพาทีมรั้งจ่าฝูงมาอย่างยาวนานตั้งแต่เปิดฤดูกาลจนถึงตอนนี้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

อาร์เตต้า & อาร์เซน่อล: ตัวอย่างของการอดทนและให้เวลากับโค้ชที่ทีมไทยลีกควรพิจารณา | Think Curve - คิดไซด์โค้ง

Think Curve - คิดไซด์โค้ง อาร์เซน่อล ของ มิเกล อาร์เตต้า บินฉิวในพรีเมียร์ลีก ทุกคำชมตกไปถึงเฮ้ดโค้ชชาวสเปน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ปีเดียวแทบทุกคนยังบอกว่าเขามือไม่ถึงอยู่เลยด้วยซ้ำ

Think Curveชยันธร ใจมูล

ชาบี เอร์นานเดซ (บาร์เซโลน่า)

ตำนานกองกลางของทีม บาร์เซโลน่า เขาเคยคุม อัลซาดด์ ใน ศึกลีกกาตาร์ สตาร์ส ลีก ซึ่งเริ่มการคุมทีม อัลซาดด์ ช่วง พฤษภาคม 2019 และ ชาบี ได้นำ การเล่น ติกิ-ตาก้า ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นำมาใช้กับทีม บาร์ซ่า มาปรับใช้กับทีม อัลซาดด์ ด้วย

ชาบี กลับมาทำงานกับ บาร์ซ่า อีกครั้งในฐานะโค้ช ในปี 2021 และอย่างที่ทราบกันดีว่า ชาบี เป็นเด็กลูกหม้อจาก ศูนย์ฝึก ลามาเซียร์ ของ บาร์เซโลน่า เป็นตำนานกองกลางของทีม มีดีเอ็นเอเป็น บาร์เซโลน่า อย่างแท้จรืง มีความเข้าใจทีม มีแพชชั่นต่อสโมสรที่เต็มเปี่ยม สร้างบรรยากาศในทีมที่มีความสุข โดยเฉพาะหลังจบเกมที่คว้าชัยชนะมาได้ เป็นบรรยากาศที่อบอุ่น อบอวนไปด้วยความสุขของนักเตะ ทีมงาน ผู้จัดการทีม ส่งผลเป็นแรงบวกให้นักเตะ

ฮานซี่ ฟลิค (บาเยิร์น มิวนิค)

ฟลิค เป็นอดีตกองกลาง บาเยิร์นฯ ในระหว่างปี 1985-1990 ลงเล่นไปมากกว่า 100 เกม และคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ถึง 4 สมัย ก่อนจะแขวนสตั๊ดกับทีมเล็ก ๆ อย่าง วิคตอเรีย บามเมนทอล เมื่อปี 2000 และเริ่มทำงานหลังบ้านให้กับสโมสรต่าง ๆ

ฟลิค ประสบความสำเร็จอย่างมากในตำแหน่งผู้ช่วยของ โจอาคิม เลิฟ ผู้จัดการทีมชาติเยอรมัน หลังช่วยกันพา “อินทรีเหล็ก” คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2014 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และเจ้าตัวก็เข้ามาเป็นผู้ช่วยกุนซือ นิโก้ โควัช ที่ บาเยิร์นฯ เมื่อปี 2019 ก่อนจะถูกดันขึ้นมาแทน โควัช ในปีเดียวกัน เขาเป็นนักเตะเก่าของทีมที่ผันตัวมาทำงานเบื้องหลังในยุค 2000s และก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือถาวรของทีมเสือใต้ได้สำเร็จ

โค้ชวัย 57 ปี พา บาเยิร์นฯ ในยุคนี้กลับมาเป็นทีมอันแข็งแกร่งและประสบความสำเร็จอีกครั้ง เมื่อต้นปี 2021 พวกเขาคว้าแชมป์สโมสรโลกของฟีฟ่า ทำให้ทีมเสือใต้ทำสถิติกวาดหมด 6 แชมป์ที่ลงชิงชัย

นับตั้งแต่ ฟลิค เข้ามาสู่ตำแหน่งกุนซือ ทัพ “เสือใต้” ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงกลับมาสู่ลู่ทางอันรุ่งโรจน์อย่างช้า ๆ แฟนบอลเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างการบีบกดดันคู่แข่งแบบเข้มข้นกว่าเดิม สไตล์การครองบอลและการเล่นเกมรุกที่มีประสิทธิภาพ แนวรับดันสูงขึ้น และเชื่อกันว่าช่วงเวลาที่ทีมว่างเว้นจากโปรแกรมแข่งฟลิกและทีมงานต่างร่วมกันปรับปรุงทีมให้พร้อมสำหรับรายการใหญ่ในประเทศและระดับทวีป

มาซาทาดะ อิชิอิ (คาชิม่า แอนท์เลอร์ส)

กุนซือบุรีรัมย์คนปัจจุบันรายนี้ สมัยยังเป็นนักเตะเขาเคยเล่นให้กับสโมสร เอ็นทีที คันโต และ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส

ตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งอยู่กับ คาชิม่าฯ ในปี 1991 ถึง 1997 และทำผมงานได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ซึ่งเขามีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์สมัยเป็นผู้เล่น (แชมป์เจลีก 1996) , (แชมป์เอ็มเพอเรอร์ คัพ 1997) และ (แชมป์เจลีก คัพ 1997) และย้ายไปค้าแข้งกับ อวิสป้า ฟูกุโอกะ เป็นทีมสุดท้ายก่อนประกาศแขวนสตั๊ด เมื่อปี 1998

จากนั้นในระหว่างปี 2015-2017 เข้ามาคุมทีม คาชิม่า แอนท์เลอร์ส อดีตต้นสังกัดที่เคยค้าแข้งสมัยเป็นผู้เล่น จนพาทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์เจลีก 2016 และ แชมป์เจลีก คัพ 2015 โดยในฤดูกาล 2016 ก็คว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยมแห่งปีของศึก J1 ลีก ด้วย

มาร์เซโล่ กัลยาร์โด้ (ริเวอร์เพลท)

กุนซือทีมชาติอาร์เจนติน่ารายนี้เติบโตและประสบความสำเร็จอย่างมากในการเป็นทั้งนักเตะและเฮดโค้ชให้กับทีม ริเวอร์เพลท เขาเริ่มค้าแข้งกับทีมในปี 1992 และในปีถัดมาเขาก็คว้าแชมป์ลีกแรกกับทีมได้สำเร็จ

ในสมัยเป็นนั่งเตะเขาคว้าแชมป์กับ ริเวอร์เพลท ไปถึง 7 รายการ อาร์เจนติน่า ซูเปอร์ลีกา ในปี 1993, 1994, 1996, 1997, และ 2004 โคปาลิเบอร์ตาดอเรส ในปี 1996 และ ซูเปอร์โคปา ซูดาเมริกานา ปี 1997

และในฐานะกุนซือก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน เขาเข้ามาคุมทีมในปี 2014 และพาทีมคว้าแชมป์ไปถึง 14 ครั้ง อาร์เจนติน่า ซูเปอร์ลีกา ปี 2021 โคปา อาร์เจนติน่า ฤดูกาล 2015–16, 2016–17, 2018–19 ซูเปอร์ โคปา อาร์เจนติน่า 2017, 2019 Trofeo de Campeones de la Liga Profesional ปี 2021 โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ปี 2015 , 2019 โคปา ซูดาเมริกานา ปี 2014 รีโคปา ซูดาเมริกานา ปี 2015 , 2016 ,2019 ซูลูก้า แบง แชมเปี้ยนชิพ 2015 (การแข่งขันฟุตบอลข้ามทวีปประจําปีที่จัดขึ้นในญี่ปุ่นโดยแชมป์เจลีกและแชมป์โคปา ซูดาเมริกานา)

ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยพาทีมสร้างเรื่อเหลือจะเชื่อในศึกฟุตบอล โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส คัพ เมื่อ ริเวอร์เพลท สามารถคว้าชัยชนะได้ แม้ว่าทีมจะเหลือผู้เล่นทั้งหมดเพียงแค่ 11 คน ไม่มีตัวสำรอง และต้องให้ เอ็นโซ เปเรซ กองกลางจอมเก๋าที่มีอาการบาดเจ็บไปยืนเฝ้าเสาประตูก็ตาม

ในขณะนั้นมีผู้เล่นที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ถึง 20 คน และผู้เล่นอื่น ๆ มีอาการบาดเจ็บมากมาย ซึ่งรวมถึงผู้รักษาประตู 4 คนของสโมสรที่ไม่สามารถลงเล่นได้ทั้งหมดในเกมนี้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

คิดและทำแบบ “อันเก” : สาเหตุที่อดีตกุนซือ ‘มารินอส’ ถูกยกให้เป็นตัวแทน คล็อปป์

ไม่ต้องถึงกล้อง แค่ยืนมองยังเรื่องใหญ่ : เมื่อ บิเอลซ่า ส่งนักสืบไปดูคู่แข่งซ้อม

ผลงาน วิธีการ วิธีคิด : ทำไม อาร์เตต้า จึงถูกมองว่าเป็นร่างทรง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ?

แหล่งอ้างอิง

https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/club-legends-returned-managers-reigns-25498147

https://theathletic.com/news/river-plate-goalkeeper-midfielder-enzo-perez/TtHaiw5bFHn8/