เบื้องหลังแชมป์ของ วิสเซล โกเบ : เพราะลองเป็น "บาร์ซ่า" แห่งเจลีกแล้วไม่เวิร์ก

เบื้องหลังแชมป์ของ วิสเซล โกเบ : เพราะลองเป็น "บาร์ซ่า" แห่งเจลีกแล้วไม่เวิร์ก
ชยันธร ใจมูล

วิสเซล โกเบ คว้าเเชมป์เจลีกสมัยแรกได้สำเร็จ และที่น่าแปลกคือแต่ก่อนพวกเขาทุ่มเงินมากมาย คว้าสตาร์ดัง คว้าโค้ชเก่ง ๆ ทุ่มค่าเหนื่อยแบบไม่อั้นแต่กลับไม่เคยได้สักที

ปีนี้ วิสเซล โกเบ มีอะไรแตกต่างออกไป และความต่างนี้ทำให่พวกเขาได้แชมป์ เจลีก ได้อย่างไร ?

ติดตามที่นี่

บาร์ซ่า แห่งเจลีก

วิสเซิล โกเบ อาจจะเป็นแค่เพียงแค่สโมสรเล็กๆ ที่นอกญี่ปุ่นน้อยคนจะรู้จัก หากไม่ได้ Rakuten บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น (คล้ายกับ Amazon) เข้ามาเทคโอเวอร์ในช่วงปลายปี 2014 และพลิกโฉมทีมจากหน้ามือเป็นหลังมือ

เพราะนับตั้งแต่มีเจ้าของใหม่ โกเบ ที่ก่อนหน้านี้เป็นแค่เพียงทีมไม้ประดับ ก็ยกระดับขึ้นมาเป็นทีมน่าจับตามองของลีก ด้วยนโยบายทุ่มไม่อั้น โดยเฉพาะหลังปี 2016 ที่ Rakuten บริษัทแม่ของพวกเขา ได้เป็นสปอนเซอร์คาดอกของ บาร์เซโลนา ทีมดังในลาลีกา

พวกเขากลายเป็นเจ้าบุญทุ่มประจำเจลีก จากการคว้าตัวนักเตะชื่อดังระดับโลก มาอยู่กับทีมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ลูคัส โพดอลสกี กองหน้าแชมป์โลกชาวเยอรมัน ในปี 2017, ดาวิด บีญา และ โธมัส แฟร์มาเลน สองแข้งจากบาร์ซา ในปี 2019 หรือ โบยาน เคอร์ยิช ในปี 2021

แต่ที่ฮือฮาที่สุด คงจะเป็นการกระชากตัว อันเดรส อิเนียสตา ผู้ยิงประตูพาสเปนคว้าแชมป์โลกในปี 2010 และเพลย์เมกเกอร์ระดับปรมาจารย์ของบาร์ซา ในปี 2018 ที่พวกเขาต้องจ่ายค่าเหนื่อยสูงถึง 25 ล้านยูโรต่อปี ( ราว 900 ล้านบาท) หรือคิดเป็น 480,000 ยูโร ต่อสัปดาห์ (17 ล้านบาท)

และไม่ใช่แค่แข้งต่างชาติเท่านั้น พวกเขายังใช้เงินไปกับซูเปอร์สตาร์ในบ้านเกิด ที่ทำให้ โกเบ กลายเป็นแหล่งรวมแข้งอดีตทีมชาติญี่ปุ่น ทั้ง โฮตารุ ยามางูจิ, โกโตคุ ซาไก, ยูยะ โอซาโกะ, โยชิโนริ มูโต รวมถึง โทโมอากิ มาคิโนะ

เช่นกันกับโค้ช ที่นับตั้งแต่เปลี่ยนเจ้าของ โกเบ ยังได้กุนซือมากดีกรี มาคุมทีมอีกหลายครั้ง ไล่ตั้งแต่ เนลซินโญ บัปติสตา ที่เคยพาคาชิวา เรย์โซล คว้าแชมป์เจลีก, ฆวน มานูเอล ลิญโญ ที่ปรึกษา เป๊บ กวาดิโอลาร์ หรือ มิเกล แองเจล โลตินา ที่เคยคุมดังในลีกสเปน ทั้ง เรอัล โซเซียดัด, เอสปันยอล, เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา รวมถึง บีร์ยาเรอัล ... แต่ทั้งหมดก็ล้มเหลว ไม่เคยคว้าแชมป์ลีกได้เลย พร้อมทั้งโดนสื่อตราหน้าว่า "มีแต่ซูเปอร์สตาร์ แต่เล่นฟุตบอลแบบไร้ปรัชญา"

เปลี่ยนโค้ช เปลี่ยนอนาคต

อย่างไรก็ตามการนทุ่มเงินขนาดนั้นกลับล้มเหลวมาโดยตลอด จนกระทั่งมีการจ้างโค้ชที่โปรไฟล์ไม่ได้โด่งดังเหมือนในอดีตอย่าง ทาคายุกิ โยชิดะ ที่ดึงตัวมาจาก วี วาเรน นางาซากิ ซึ่งการมาของ โยชิดะ ก็เปลี่ยนแปลงทีมครั้งใหญ่ เพราะคนที่เขาเอาออกจากทีมเพื่อเปลี่ยนทิศทางการเล่นคือ อันเดรียส อิเนียสต้า

โดยบทความจาก Asahi ระบุว่า เทรนด์ของฟุตบอลเปลี่ยนไปการมาของ โยชิดะ เปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์โลกฟุตบอลจากเดิมที่ โกเบ ยุคเก่าพยายามจะเน้นไปที่การครอบครองบอล การดวลตัวต่อตัว การจ่ายบอลและการหมุนเวียนตำแหน่งการเล่นแบบที่ได้วางแผนกันไว้ เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นสไตล์ บาร์เซโลน่า เพื่อให้เข้าใจง่ายก็คงไม่ผิดนัก

สไตล์ของ โยชิดะ คือการเน้นไปที่เกมรับมากขึ้น การใช้พละกำลังมากขึ้น การเล่นที่รวดเร็วมากขึ้น และใช้ความดุดันมากขึ้น ดังนั้นเหล่าสตาร์สูงอายุจึงไม่สามารถเล่นในทีมของ โยชิดะ ได้ โดยในวันที่ อิเนียสต้า ประกาศลาทีมเขาให้สัมภาษณ์ว่า เขาอยากจะเเขวนสตั๊ดที่โกเบ แต่สิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นตามที่คาดหวัง และสื่อพยายามจะชี้ว่า "เพราะแท็คติกใหม่ที่ไม่สามารถใช้ อิเนียสต้า ได้"

ผลจากการเอานักเตะที่ไม่ตรงกับแท็คติกออก บอลของ โกเบ กลายเป็นทีมที่เล่นเพรสซิ่งเเดนบนได้มีประสิทธิภาพเข้มข้นที่สุดในเจลีกซีซั่นนี้ นอกจากนี้ประตูที่ โกเบ ได้ส่วนใหญ่ยังมาจากการเล่นฟุตบอลไดเร็กต์ กล่าวคือเมื่อคู่แข่งเปิดพื้นที่ด้านหลัง พวกเขาจะเล่นบอลยาวทันที แตกต่างจากทีมในเจลีกส่วนใหญ่จะขึ้นบอลผ่านกองหลัง กองกลาง ด้วยการต่อบอลเร็วเป็นทอด ๆ ลูกโยนยาวแบบวางยาวหลังแบ็คและไปที่มุมธง ใช้แบ็ค 2 ข้างขึ้นไปเล่นเกมรุกช่วยตัวริมเส้นถือเป็นจุดแข็งของโกเบที่สร้างประตูได้มากมายในซีซั่นนี้

analyticsfc.co.uk เว็บไซต์วิเคราะห์เรื่องแท็คติกสรุปแท็คติกของ โกเบ ในซีซั่นนี้ว่า "พวกเขาอาจจะไม่ใช่ทีมแชมป์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมี และยังห่างไกลจากคำนั้น แต่จุดเด่นของ โกเบ คือพวกเขาให้ความสำคัญเรื่องของพื้นฐานฟุตบอลมากที่สุดและเล่นในระบบที่สมเหตุสมผลสอดคล้องกับความสามารถนักเตะ พวกเขาหลีกหนีจากแบบเเผนนเดิม ๆ ของฟุตบอลญี่ปุ่นได้ดีมาก"

"พวกเขาเลือกที่จะเล่นด้านกว้างมากขึ้น เล่นเกมรุกมากขึ้น วิ่งมากขึ้น และโจมตีด้วยนักเตะเกมรุกมากขึ้น มันจึงทำให้ฟุตบอลไดเร็กต์ของพวกเขาอันตรายมาก ถ้าพวกเขาเสียบอลในเกมบุกพวกเขาจะวิ่งไล่เอาบอลกลับมาทันที และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม โกเบ จึงแย่งบอลในเเดนคู่แข่งได้มากถึง 610 ครั้ง ... ไม่มีแท็คติกไหนดีที่สุดในโลก แต่แท็คติกของโกเบ ตอบโจทย์กับนักเตะที่พวกเขามีอย่างที่สุด ... นั่นคือเหตุผลของเรื่องนี้"

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

สืบจาก มิโตมะ : ลีกเบลเยี่ยมเหมาะกับแข้งจากชาติที่ได้ "เวิร์ค เพอร์มิต" ยากอย่างไร ?

ศูนย์รวมซามูไรในยุโรป : เหตุใด แซงต์-ทรุยด็อง จึงมีนักเตะญี่ปุ่นมากมาย ?

ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ : กุนซือคนแรกในประวัติศาสตร์ที่พาญี่ปุ่นเข้าถึงรอบน็อคเอาท์ฟุตบอลโลก

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ