![](/assets/images/banner-top.png?v=84988eb0ee)
สืบจากอดีต: เวียดนามในมือ ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ จะแตกต่างจากยุค ฮังซอ ยังไง ?
![สืบจากอดีต: เวียดนามในมือ ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ จะแตกต่างจากยุค ฮังซอ ยังไง ?](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/02/331417708_1784101642006258_5358478994467330584_n.jpg)
ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ อดีตกุนซือทีมชาติญี่ปุ่น จะเป็นคนที่เข้ามารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของทีมชาติเวียดนามต่อจาก พัค ฮังซอ โค้ชชาวเกาหลีใต้
ซึ่งถือว่าดีกรีไม่เลวเลยสำหรับกุนซือเจ้าของฉายา “พ่อมดขาว” เมื่อเขาคือโค้ชคนแรกในประวัติศาสตร์ที่พาญี่ปุ่น เข้าถึงรอบน็อคเอาท์ในฟุตบอลโลกในฟุตบอลโลก 2002
ตอนนั้น ว่าที่กุนซือทีมชาติเวียดนามทำอย่างไร จนทำให้ “ซามูไรบลู” ชาติที่เพิ่งผ่านเข้าไปเล่นในเวิลด์คัพรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 2 ไปถึงจุดนั้น? ติดตามไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
พ่อมดขาวอินเจแปน
ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990s ญี่ปุ่น อาจจะเป็นเพียงชาติที่กำลังพัฒนาในโลกลูกหนัง เพราะ “ซามูไรบลู” เพิ่งจะผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เพียงครั้งเดียวในปี 1998 ทว่าสำหรับ ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส มองว่านี่แหละคือความท้าทายที่เขากำลังตามหา
อันที่จริงในตอนนั้น ทรุสซิเยร์ ก็ไม่ใช่โค้ชโนเนม หลังเคยผ่านงานการคุมทีมชาติในทวีปแอฟริกามามากมาย ไล่ตั้งแต่ ไอวอรี โคสต์, ไนจีเรีย, บูกินาฟาโซ รวมถึงแอฟริกาใต้ ในฟุตบอลโลก 1998
โค้ชเจ้าของฉายา “พ่อมดขาว” เข้ามารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของทีมชาติญี่ปุ่น ต่อจาก ทาเคชิ โอคาดะ ที่อำลาทีมไปหลังทัวร์นาเมนต์ที่ฝรั่งเศส และรู้สึกประทับใจในความสามารถของนักเตะญี่ปุ่น ตั้งแต่แรกเห็น แต่พวกเขายังขาดคุณสมบัติในการต่อสู้กับทีมระดับโลก นั่นคือความดุดัน
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/01/a7c83edaa15293fa0908157ca49ae8fc36f3e254.jpg)
เพราะแม้ว่าเจลีก ลีกอาชีพญี่ปุ่นจะพัฒนาขึ้นมาก และมีการเล่นที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และแทคติกที่ซับซ้อน แต่มันเกิดขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอนจนเกินไป และไร้ความดุดัน
“นักเตะดาวรุ่งญี่ปุ่นบางทีในเรื่องเทคนิค อาจจะดีกว่ายุโรปด้วยซ้ำ”ทรุสซิเยร์ กล่าวกับ New York Times
“ความท้าทายของผมคือเตรียมนักเตะเหล่านี้เพื่อฟุตบอลระดับโลก เพื่อเล่นกับทีมต่างชาติที่ดุดัน”
ทรุสซิเยร์ เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการซ้อม เขาเน้นพละกำลังและการเข้าปะทะจนบางครั้งมันแทบดูไม่ต่างจากการซ้อมรักบี้ แต่เขายืนยันว่ามันต้องทำแบบนี้ เพื่อต่อสู้ในระดับโลกได้
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/01/oq94g0qkgmaoa3tgazit.jpg)
“ในตอนนั้น ญี่ปุ่น มีสภาพร่างกายที่ค่อนข้างเปราะ มันจึงยากที่จะเล่นฟุตบอลในระดับที่ท้าทาย ผมจึงให้ความสนใจไปกับแทคติกในเกมรับ” ทรุสซิเยร์ กล่าวกับ Football Asian
“แต่ฟุตบอลไม่ใช่ยูโด คุณสามารถชนคู่แข่งออกไปได้ หากมีร่างกายที่แข็งแกร่ง และก็ยังตัดสินใจว่าจะบล็อคผู้เล่นหรือลูกบอล”
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2022/12/320280509_689317339336805_5828366262456691971_n.jpeg)
แม้ว่าในช่วงแรก มันอาจจะไม่เห็นผล หลังทรุสซิเยร์ พาญี่ปุ่นคว้าชัยได้เพียงแค่เกมเดียว จาก 10 นัดแรก แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ทั้งการไล่ถล่มทีมที่พวกเขาเคยแพ้ในฟุตบอลโลก จาไมกา 4-0 เสมอกับทีมยุโรปอย่าง สโลวาเกีย 1-1 และเอาชนะโบลิเวีย 2-0
ทว่า ยังมีอีกสิ่งที่ ทรุสซิเยร์ นำมาใช้
ไม่สนหน้าอินทร์ หน้าพรหม
ว่ากันว่ามีคำแนะนำสำหรับคนต่างชาติเวลาไปทำงานที่ญี่ปุ่นคือ ต้องพยายามจัดการปัญหาอย่างเงียบๆ ไม่ทำให้เพื่อนร่วมงานเสียหน้า และอย่าแสดงอารมณ์ทางสีหน้า สิ่งเหล่านี้คือ Wa หรือความกลมกลืน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่คนญี่ปุ่นยึดถือ
แต่สำหรับ ทรุสซิเยร์ เรียกได้ว่าแทบจะตรงกันข้าม เพราะเขาพร้อมจะวิจารณ์ทุกอย่างหากไม่ถูกต้อง ครั้งหนึ่งเขาเคยต่อว่า สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น หรือ JFA ซึ่งเป็นนายจ้างของเขา ว่าบริหารงานแบบ “มือสมัครเล่น” หรือแม้แต่ตะคอกผู้เล่นต่อหน้า ผู้เล่นในทีม
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/01/philippe-troussier-la-ai-tieu-su-hlv-moi-cua-dt-viet-nam_139638.jpg)
“มันเป็นไปไม่ได้เลยที่โค้ชญี่ปุ่นจะทำพฤติกรรมได้เหมือนผม” ทรุสซิเยร์ กล่าวกับ New York Times
“คนญี่ปุ่นจะต้องเคารพข้อตกลงทางสังคม แต่ผมไม่ได้รับอิทธิพลจากสิ่งนั้นในญี่ปุ่น มันเป็นข้อได้เปรียบมาก”
แม้ว่าพฤติกรรมดังกล่าว อาจจะทำให้เขาไม่เป็นที่รักสำหรับชาวญี่ปุ่นในช่วงแรก จนได้รับฉายาว่า “ปีศาจแดง” ทว่าผลงานในสนาม ก็ทำให้หลายคนมองข้าม ไม่ว่าจะเป็น การพาเยาวชนญี่ปุ่น ก้าวไปคว้าตำแหน่งรองแชมป์โลกในปี 1999 หรือพาทีมโอลิมปิก คว้าชัย 17 นัดรวด และยิงไปถึง 84 ประตู
นอกจากนี้ เขามักจะใช้ล่ามในการพูดคุยกับสมาคมฯ และสื่อ แต่เมื่อพูดกับผู้เล่น เขาจะใช้นักภาษาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ที่จะพูด ตะโกน ตะคอก ด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกับ ทรุสซิเยร์ เพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากที่สุด
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/01/1200-L-coupe-du-monde.jpg)
“ผมต้องการวัฒนธรรมของผม มันจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ผมต้องมีล่ามภาษาฝรั่งเศส” ทรุสซิเยร์อธิบาย
ขณะเดียวกัน เขายังสอนให้แข้งชาวญี่ปุ่นไม่เถรตรงจนเกินไป เพราะแม้ว่ามันจะเป็นนิสัยที่พวกเขาได้รับคำชื่นชม แต่ในเกมลูกหนังที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ มันอาจจะเป็นอุปสรรคขัดขวาง
“ในช่วงเวลานั้น เราพูดว่าเราโง่และซื่อเกินไป เวลาเราพูดถึงฟุตบอลญี่ปุ่นกฎของฟีฟ่าบอกว่าไม่ควรสัมผัสคู่ต่อสู้ที่มีบอล แต่ในยุโรป พวกเขาใช้ศอกกันโดยไม่สนใจอะไร แต่มันไม่เป็นแบบนั้นในญี่ปุ่น” กุนซือชาวฝรั่งเศสกล่าวกับ Football Asian
“ตอนที่ผมเตรียมทีมสำหรับฟุตบอลโลก ผมบอกผู้เล่นญี่ปุ่นให้ลืมกฎฟีฟ่าเวลาเจอทีมจากยุโรป กฎของฟีฟ่าทำให้คุณโง่ และคุณจะไม่ชนะ คู่ต่อสู้จะเหยียบเท้าเรา ตีเราดึงเสื้อเราและยั่วยุเรา เราต้องเตรียมตัวเพื่อสิ่งนั้น”
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/01/D9QZZtcVUAEtIJS.jpg)
ซึ่งมันก็ได้ผล เมื่อนับตั้งแต่ปี 2000 ญี่ปุ่นก็กลายเป็นทีมที่สามารถต่อกรกับทีมแถวหน้าของโลกได้ เพราะนอกจากแชมป์เอเชียนคัพ 2000 ทรุสซิเยร์ ยังพาซามูไรบลู เสมอกับทีมอย่าง บราซิล และอิตาลี รวมถึงคว้ารองแชมป์ คอนเฟดเดอเรชั่น 2001 ด้วยการพ่ายฝรั่งเศส แชมป์โลก 0-1
แต่ถึงอย่างนั้น ทรุสซิเยร์ ก็คิดว่ายังไม่พอ
ผลักดันไปต่างประเทศ
สิ่งหนึ่งที่ขัดอกขัดใจ ทรุสซิเยร์ มาโดยตลอด นับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมชาติญี่ปุ่นในปี 1998 คือผู้เล่นญี่ปุ่น ขาดประสบการณ์ในระดับนานาชาติ เนื่องจากผู้เล่นทีมชาติส่วนใหญ่ในยุคนั้น มักจะยังคงเล่นอยู่ในลีกบ้านเกิด
ด้วยความที่ในตอนนั้น นักเตะญี่ปุ่น ยังไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนักจากสโมสรยุโรป ทำให้ ทรุสซิเยร์ ใช้วิธีพาผู้เล่นไปแข่งนัดกระชับมิตรในต่างประเทศบ่อยๆ หรือแม้แต่ปล่อยให้นักเตะลงกลางทาง และให้พวกเขาหาวิธีกลับโรงแรมเอง
“คนญี่ปุ่น (ในตอนนั้น) รู้เรื่องราวโลกไม่มากพอ ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาที่จะมีประสบการณ์ของมนุษย์” ทรุสซิเยร์ กล่าวกับ New York Times
“พวกเขาต้องเดินไปทั่วลอนดอน หรือกินพิซซ่าที่อิตาลี สิ่งนี้จะช่วยทำลายพรมแดนทางสังคมและทำให้พวกเขามีวิธีใหม่ๆในการแสดงออก คุณจำเป็นต้องใช้พรสวรรค์ของมนุษยในสนามฟุตบอล เพื่อสื่อสารและตัดสินใจภายใต้ความกดดัน”
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/01/Tc9WALq6ZQ3MtSKFxeKFYi.jpg)
แต่ถึงอย่างนั้น โค้ชชาวฝรั่งเศส ก็ยังยืนว่าสิ่งที่ดีที่สุดในการพัฒนาทีมชาติ คือผลักดันนักเตะไปค้าแข้งในต่างประเทศให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“เมื่อคุณทำงานในต่างประเทศ คุณต้องฝึกซ้อมด้วยวิธีที่ต่างออกไป โค้ชที่ต่างออกไป คุณยังต้องเล่นในการแข่งขันที่ต่างจากเดิม คุณจะเจอปัญหามากมาย” เขากล่าวกับ J SELECT Magazine
ทำให้นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งในปี 1998 ทรุสซิเยร์ ก็พยายามเน้นย้ำและกระตุ้นให้ผู้เล่นของพวกเขาไปเล่นในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของกระแสนักเตะญี่ปุ่นในยุโรปในเวลาต่อมา
“การเปลี่ยนแปลงไม่ได้มาจากการฝึกสอน มันมาจากสโมสรยุโรปมองนักเตะเกาหลีและญี่ปุ่นอย่างไร ในช่วงเวลานั้น มีนักเตะญี่ปุ่นแค่คนเดียวเองมั้งที่เล่นในยุโรป แต่ตอนนี้มี 25-30 คนเลยทีเดียว” ทรุสซิเยร์ กล่าวกับ Football Asian เมื่อปี 2021
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/01/np_file_180233-scaled.jpeg)
“ทำไมญี่ปุ่นจึงพัฒนา เพราะว่าผู้เล่นของพวกเขาไปยุโรป ถ้าคุณถามผมว่าผมพัฒนาฟุตบอลญี่ปุ่นอย่างไร ผมสามารถพูดได้ว่า เป็นเพราะนักเตะ 20 คนของพวกเขาไปยุโรป มันไม่ใช่การพัฒนาจากนโยบายเชิงเทคนิคของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น”
“ถ้าคุณไปยุโรป คุณจะพัฒนาไปอีก คุณภาพของนักเตะญี่ปุ่นและเกาหลีในตอนนี้ 90 เปอร์เซ็นต์ มาจากการบุกยุโรป นั่นคือสิ่งเดียว”
และมันก็ส่งผลกระทบในเชิงบวก เมื่อทีมชาติญี่ปุ่นชุดฟุตบอลโลก 2002 ที่มีผู้เล่นค้าแข้งอยู่ในยุโรป 3 รายได้แก่ ฮิเดโตชิ นาคาตะ (ปาร์มา), จุนอิจิ อินาโมโต (อาร์เซนอล) และ ชินจิ โอโนะ (เฟเยนูร์ด) ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ทะลุเข้าถึงรอบน็อคเอาท์ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ผลงานดังกล่าวทำให้ ทรุสซิเยร์ ได้รับการยกย่องอย่างมากในญี่ปุ่น ทำให้แม้ว่าเขาจะอำลาทีมหลังเวิลด์คัพ 2002 แต่ก็เป็นคนที่แฟนบอลญี่ปุ่นรักใคร่ และเพิ่งจะได้รับเลือกเข้าไปอยู่ในหอเกียรติยศของ JFA เมื่อปี 2020
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/01/769c9355ff249385cc8c23adfdcb9256.jpg)
เช่นกันสำหรับ ทรุสซิเยร์ เขาก็มีประสบการณ์ที่ดีกับที่นี่ เพราะมันคือช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดของเขาในฐานะโค้ช เป็นสี่ปีแห่งความทรงจำ และยากจะลืมเลือน
“ผมชอบที่จะเรียนรู้ ไม่ใช่แค่ภาษา แต่เรียนรู้ว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างไร” ทรุสซิเยร์ กล่าวกับ J SELECT
“ผมรักญี่ปุ่น ผมรักคุณภาพของชีวิต ผมรักการบริการ ความใจดี ความปลอดภัย และทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขา มันคือประเทศที่สวยงามมากสำหรับสิ่งเหล่านั้น”
ก้าวเล็ก ๆ ที่เวียดนาม
จริง ๆ แล้ว ฟิลิปป์ ทรุสซิเย่ร์ เข้ามาคุมทีมเวียดนามชุดยู 19 ตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2019 แล้ว โดยเป้าหมายของการแต่งตั้ง ทรุสซิเยร์ ในเวลานั้นคือการพยายามจะทำให้ทีมชุดยู 19 มีนักเตะเยาวชนที่พร้อมขึ้นมาเป็นนักเตะชุดใหญ่สำหรับศึกฟุตบอลโลก 2026 ที่จะมีการเพิ่มจำนวนทีม และทวีปเอเชียจะได้โควต้าเป็น 8.5 ทีม จาก 4.5 ทีม
“เราคาดหวังว่าด้วยความรู้และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับฟุตบอลเอเชียในช่วงเวลาที่ทำงานในญี่ปุ่นของ ทรุสซิเยร์ จะช่วยฟุตบอลเวียดนามได้ เป้าหมายของเราคือการพัฒนานักเตะ U19 และ U18 เพื่อเป็นแกนหลักในการคว้าตั๋วไปบอลโลก 2026” Tran Quoc Tuan รองประธาน VFF กล่าว
โดยเด็กหน้าที่ของ ทรุสซิเยร์ คือการสร้างนักเตะที่เกิดในช่วงปี 2000-2003 เพื่อให้พวกเขาก้าวขึ้นไปพีกในช่วงก่อนฟุตบอลโลก 2026 พอดี โดยตลอดในช่วงเวลาที่เขาทำงานกับทีมชุดเล็กเขาก็ติดต่อกับ พัค ฮัง ซอ กุนซือเวียดนามคนก่อนอยู่ตลอด เพื่อให้มีการทำทีมไปทิศทางเดียวกัน และปลูกฝังทัศนคติความมุ่งมั่นของนักเตะให้พยายามก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง รวมถึงการปลูกฝังจิตสำนึกเพื่อให้นักเตะของพวกเขาไม่กลัวคู่แข่งที่ดีกว่า ... จะแพ้หรือชนะไม่รู้แต่ขอให้สู้ด้วยกลยุทธ์และหัวใจที่แข็งแกร่ง
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/02/777245a323.jpg)
โดยทีมชาติเวียดนามชุด AFF2022 นั้นมีนักเตะเวียดนามที่ผ่านการทำทีมชุดเยาวชนของ ทรุสซิเยร์ เพียงรายเดียวเท่านั้นคือ เหงียน ทันห์ บินห์ (Nguyễn Thanh Bình) หมายเลข 6 รายเดียวเท่านั้น
นั่นหมายความว่า เด็ก ๆ ที่กำลังรอขึ้นทีมชาติใหญ่หลังจากนี้ล้วนผ่านมือของ ทรุสซิเยร์ มาแล้ว นั่นเป็นที่มาว่าทำไม ทรุสซิเยร์ จึงได้รับตำแหน่งนี้ต่อจาก พัค ฮัง ซอ
หากจะถามถึงวิธีการเล่นที่เขาโปรดปราน สื่อเวียดนามเคยถาม "พ่อมดขาว" และได้คำตอบว่า
"ผมชอบที่จะทำฟุตบอลเกมรุก และเน้นให้นักเตะกล้าที่จะเสี่ยง ซึ่งผมมั่นใจว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ได้ เราอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ชัยชนะสำหรับการปฎิวัติฟุตบอลเวียดนาม แต่เราจะต้องค่อยเปลี่ยนรูปแบบการเล่นให้ได้ เราจะมีความกระตือรือร้น มีสมาธิ และฉวยโอกาสให้เก่งที่สุด ..."
![](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2023/02/philippe-troussier-563-080057.jpg)
"ฟุตบอลเกมรุกนี่แหละเป็นกระแสใหม่ของโลกฟุตบอลและผมก็ต้องการสร้างทีมของผมให้เป็นแบบนั้น"
ซึ่งวิธีการดังกล่าวของ ทรุสซิเย่ร์ นั้นสามารถเอาชนะใจสมาคมฟุตบอลเวียดนาม และพวกเขาก็เลื่อกจะซื้อปรัชญาเกมรุกที่เรียกว่าเป็น "ฟุตบอลสมัยใหม่" เพื่อพาทัพดาวทองยกระดับกันไปอีกก้าว
ที่เหลือต่อจากนี้ก็ต้องมารอดูว่า ทรุสซิเยร์ จะทำได้ดีแค่ไหน หากได้รับงานคุมทีมชาติเวียดนาม หลังก่อนหน้านี้เคยรับหน้าที่ประธานฝ่ายเทคนิค ของสมาคมฟุตบอลเวียดนาม รวมถึงโค้ชทีมชาติเวียดนาม U19 มาก่อน
หรือบางที นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์อีกครั้งก็เป็นได้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เป้าที่ไม่ได้ตั้งเล่น ๆ : ญี่ปุ่น จะทำอะไรต่อเพื่อแผนเป็นแชมป์โลกปี 2050 ?
ศิษย์-อาจารย์, เพื่อน, คู่แข่ง : ญี่ปุ่น-เยอรมัน ความสัมพันธ์ลึกซึ้งผ่านฟุตบอล
อาวุธลับที่หายไป : เพราะเหตุใดทีมชาติญี่ปุ่นยุคหลังจึงไม่มีจอมสังหารฟรีคิก?
แหล่งอ้างอิง
https://www.nytimes.com/2000/09/14/sports/IHT-french-coaching-style-stirs-japanese.html
https://www.jfa.jp/eng/about_jfa/hall_of_fame/member/Philippe_TROUSSIER.html
http://www.football-asian.com/news/articleView.html?idxno=34
MOST POPULAR
![ส.บอล เผยหลักเกณฑ์พิจารณาเลือก สงขลา จัดคิงส์คัพ ครั้งที่ 50](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2024/07/5555.jpg)
ส.บอล เผยหลักเกณฑ์พิจารณาเลือก สงขลา จัดคิงส์คัพ ครั้งที่ 50
![ชลบุรี ตั้ง ชาญณรงค์ กัปตันคนใหม่ ดัน ลูกชายโค้ชโม้ ขึ้นทีมชุดใหญ่](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2024/07/3.jpg)
ชลบุรี ตั้ง ชาญณรงค์ กัปตันคนใหม่ ดัน ลูกชายโค้ชโม้ ขึ้นทีมชุดใหญ่
![ครั้งหนึ่งที่ ‘อาแจ็กซ์’ ยอดทีมลีกดัตช์ ยังคุม ‘ซิฟโควิช’ กองหน้าป้ายแดง แบงค็อก ไม่อยู่!](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2024/07/450678666_1164495511433052_7793432500838497271_n.png)
ครั้งหนึ่งที่ ‘อาแจ็กซ์’ ยอดทีมลีกดัตช์ ยังคุม ‘ซิฟโควิช’ กองหน้าป้ายแดง แบงค็อก ไม่อยู่!
![สเปอร์ส ปิดดีลคว้า ยาง มิน-ฮยอก เด็กเทพเคลีกวัย 18 ปี](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2024/07/632.jpg)
สเปอร์ส ปิดดีลคว้า ยาง มิน-ฮยอก เด็กเทพเคลีกวัย 18 ปี
![ผู้บริหารดอร์ทมุนด์ จำทริปไทยไม่ลืม ซ้อนพี่วินไปสนามแข่งบีจี](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2024/07/33-3.jpg)
ผู้บริหารดอร์ทมุนด์ จำทริปไทยไม่ลืม ซ้อนพี่วินไปสนามแข่งบีจี
!['มาร์เซโล่ ยาโล่' อดีตเด็กปั้น เรอัล มาดริด สู่กำแพงแนวรับ ปราสาทสายฟ้า](https://digitalpress.fra1.cdn.digitaloceanspaces.com/b7uv0cn/2024/07/450945051_404639868735709_2851106175122578273_n.png)