เมื่อ ไบรท์ตัน โดน นอริช ซัด 18 ลูก เพราะนักเตะลาหยุดฉลองคริสต์มาส

เมื่อ ไบรท์ตัน โดน นอริช ซัด 18 ลูก เพราะนักเตะลาหยุดฉลองคริสต์มาส
วิสูตร ดำหริ

พรีเมียร์ลีกจะกลับมาทำการแข่งขันอีกครั้ง หลังจากพักเบรกไปกว่า 1 เดือน เพื่อหลีกทางให้ฟุตบอลโลก 2022 ประเดิมด้วยโปรแกรมนัดบ็อกซิ่งเดย์ หรือที่รู้จักกันในชื่อวันแกะกล่องของขวัญ ตรงกับวันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นเกมที่จัดต่อเนื่องมาช้านานจนเป็นประเพณีปฏิบัติไปแล้ว

ในขณะที่ลีกใหญ่ ๆ ในยุโรปอย่าง บุนเดสลีก้า, ลาลีก้า และกัลโช เซเรีย อา พักเบรกกันในช่วงคริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่ แต่สำหรับพรีเมียร์ลีก นอกจากจะไม่พักแล้ว พวกเขายังโหมเตะถี่กว่าเดิม 3 เกม ในเวลาห่างกัน 7 วัน ชนิดนักเตะแทบไม่ได้พักหายใจหายคอกันเลย

แต่มันก็กลายเป็นจุดขายสำคัญจนทำให้พรีเมียร์ลีกได้รับความนิยมไปทั่วโลก ในขณะที่แฟนบอลก็ได้กำไรไปเต็ม ๆ ที่ได้รับชมเกมแบบจุใจในวันหยุดยาว ซึ่งช่วงโปรแกรมหฤโหดนี้ก็จะเริ่มต้นด้วยเกมบ็อกซิ่งเดย์นั่นเอง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง : Soccer vs Football : เมื่อ อเมริกา ส่งคนล้างจานมาชนะทีมชาติอังกฤษในบอลโลก

Soccer vs Football : เมื่อ อเมริกา ส่งคนล้างจานมาชนะทีมชาติอังกฤษในบอลโลก | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
อังกฤษ เรียกฟุตบอลว่าฟุตบอล แต่ อเมริกัน เรียกมันว่าซ็อคเกอร์ เรื่องนี้เถียงกันไปก็ไม่จบแต่ที่แน่ ๆ คนอังกฤษ 99.99% คิดว่า ซ็อคเกอร์ ของ อเมริกัน คือของปลอมอย่างไม่ต้องสงสัย อังกฤษ เล่นฟุตบอลมาก่อน สร้างลีกอาชีพมาก่อน อเมริกา อยู่หลายสิบปี หรืออาจจะเป็นร้อยปี แต่เรื่องนี้มันเซอร์ไพรส์เสียยิ่งกว่าอะ…


สถิติที่ผ่านมาฟ้องว่า เกมบ็อกซิ่งเดย์เป็นเกมที่มีสกอร์เกิดขึ้นเยอะ ว่ากันว่านักเตะต้องการมอบของขวัญให้กับแฟนบอลในช่วงเทศกาลแห่งความสุข พวกเขาจึงเปิดเกมรุกใส่กันเต็มเหนี่ยวเพื่อยิงประตูฝ่ายตรงข้าม ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีการยิงกันถึง 18 ประตูในแมทช์เดียว แต่ที่น่าเหลือเชื่อกว่านั้นคือเป็นการยิงอยู่ข้างเดียว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 1940 ไบรท์ตัน ที่มีคิวบุกไปเยือน นอริช ซิตี้ ซึ่งอยู่ห่างออกไป 175 ไมล์ (280 กิโลเมตร) ชาร์ลี เว็บบ์ กุนซือของไบรท์ตัน ได้ออกเดินทางพร้อมกับนักเตะ 4 คน ในวันที่ 25 ธันวาคม โดยนัดนักเตะที่เหลือให้ไปเจอกันที่เมืองนอริชในวันรุ่งขึ้น (วันแข่ง)

แต่พอ เว็บบ์ และลูกทีมทั้ง 4 เดินทางไปถึงที่นั่น กลับไม่มีใครรออยู่ เนื่องจากตอนนั้นยังอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้การเดินทางสัญจรลำบาก อีกทั้งยังเป็นช่วงเทศกาลคริสต์มาส นักเตะที่เหลือของไบรท์ตันจึงขอลาหยุดเพื่ออยู่ฉลองกับครอบครัว แทนที่จะไปแข่งกับทีม

เท่ากับว่า ตอนนี้ไบรท์ตันไม่สามารถลงแข่งกับ นอริช ได้แล้ว เพราะมีนักเตะเหลืออยู่แค่ 4 คนเท่านั้น แต่ปัญหาคือฝ่ายจัดปฏิเสธที่จะยกเลิกการแข่งขัน เนื่องจากมีแฟนบอลนอริชควักเงินซื้อตั๋วเข้ามาชมเกมนี้แล้ว 1,500 ใบ ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เกมระหว่าง นอริช พบ ไบรท์ตัน ต้องเดินหน้าต่อไป

Photo : FourFourTwo

ปัญหาเลยมาตกอยู่กับ ไบรท์ตัน ที่ต้องหานักเตะเพิ่มอีก 7 คน ซึ่ง ชาร์ลี เว็บบ์ หมดหนทางถึงขนาดต้องให้เจ้าหน้าที่ทีมไปป่าวประกาศหาคนที่สนใจลงมาเล่นกับพวกเขา จากกลุ่มแฟนบอลของนอริชบนอัฒจันทร์ อีกทั้งยังต้องยืมนักเตะดาวรุ่งของ นอริช ซิตี้ และขอแรงนักเตะโบลตัน วันเดอร์เรอร์ส มาช่วยในเกมนี้อีกด้วย

รายชื่อนักเตะ 11 คนของไบรท์ตันในวันนั้น

- เอ บาร์แทรม : แฟนบอลลงมาเป็นผู้รักษาประตู

- รอย วัตต์ : แบ็คขวาที่เล่นกับทีมได้ 6 เกม

- เอฟ พินช์เบ็ค - แฟนบอลลงมาเล่นแบ็คซ้าย

- ชาร์ลี เชส : นักเตะจากโบลตัน

- จิมมี่ อิตเฮลล์ : ดาวรุ่งของทีมลงเล่นเป็นนัดแรก

- เดเร็ค ดาย : ดาวรุ่งที่ขอยืมมาจากนอริช

- ชาร์ลี ฮาร์มันน์ : ดาวรุ่งวัย 16 ที่น่าจับตามองของไบรท์ตัน

- เอส เบิร์ด : แฟนบอลลงมาเล่นกองกลาง

- ดับบิลเอ สเจซีย์ : แฟนบอลลงมาเล่นกองหน้า

- โจ วิลสัน นักเตะชุดใหญ่คนเดียวของไบรท์ตัน

- เอ สมิธ แฟนบอลลงมาเล่นปีกซ้าย

จะเห็นว่า ไบรท์ตัน มีเพียง โจ วิลสัน เป็นนักเตะชุดใหญ่คนเดียว แถมยังมีแฟนบอลที่เป็นอาสาสมัครลงมาเล่นถึง 5 คน ส่วนที่เหลือก็เป็นเพียงดาวรุ่งที่แทบไม่เคยมีประสบการณ์ พวกเขาจึงแพ้ต่อ นอริช ซิตี้ ที่ใช้นักเตะชุดใหญ่แบบฟูลทีม ไปแบบเละเทะชนิดหาทางกลับบ้านแทบไม่เจอ 18-0

นอริช รัวประตูนำห่างในครึ่งแรก 10-0 ก่อนจะมาบวกเพิ่มอีก 8 ประตูในครึ่งหลัง โดย เฟร็ด แช็ดวิค แข้งตัวเก่งของทีม เหมาซัดไปคนเดียว 6 ประตู และยังมีนักเตะอีกสามคนที่สามารถทำแฮททริคได้ เรียกได้ว่าเป็นชัยชนะที่ถล่มทลายครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ

Photo : FourFourTwo

ชาร์ลี ฮาร์มันน์ หนึ่งในนักเตะของทีมไบรท์ตันชุดนั้น กล่าวถึงเกมแมทช์นี้เมื่อปี 2001 ว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทีมแพ้เละแบบนี้ เพราะพวกเขาไม่ได้ลงเล่นแบบเอาจริงเอาจัง ซึ่งนั่นเป็นประสบการณ์ที่เขาจะไม่มีวันลืม

“มันตลกมาก ๆ แต่ ชาร์ลี เว็บบ์ หัวเราะไม่ออกเลย ตอนที่นักเตะอีก 7 คน ไม่ปรากฎตัวที่นั่น แต่แทนที่จะยกเลิกเกมไป แต่ เว็บบ์ ยืนยันว่าจะแข่งต่อ” ฮาร์มันน กล่าว

“ก่อนเกมวันนั้น เจ้าหน้าที่ทีมจึงต้องเดินทางไปรอบ ๆ สนาม เพื่อชักชวนแฟนบอลบนอัฒจันทร์ลงมาเล่น โดยแจ้งตำแหน่งที่ยังว่างให้ทุกคนรู้ สุดท้ายเราก็ได้ผู้เล่นครบ 11 คน แต่ผมคิดว่าเราจะทำได้ดีกว่านี้ หากเราใช้นักเตะดาวรุ่งทั้งหมด โดยมี โจ วิลสัน เป็นผู้นำทีม”

“ตอนนั้นนอริชได้เชิญนักเตะโบลตัน 2-3 คน มาชมเกมที่สนาม และมี 1 คน ลงมาเล่นกับเรา ผมไม่รู้จักว่าผู้รักษาประตูคือใคร แต่เขาช่างสิ้นหวังจริง ๆ เรารู้ว่าเราไม่มีโอกาสชนะ เราลงเล่นด้วยความคิดแบบนั้น เราจึงไม่ได้เล่นแบบเอาจริงเอาจัง แต่มันจะเป็นประสบการณ์ที่ผมจะไม่มีวันลืม”

แฟนบอลของ นอริช ซิตี้ ที่ แค์รโรว์ โร้ด ในวันนั้น คงได้สำลักความสุขกันถ้วนหน้า จากชัยชนะครั้งมโหฬารของทีมรัก ผิดกับฝั่งแฟนบอลไบรท์ตันที่ต้องพบกับวันแกะกล่องของขวัญที่แย่ที่สุดวันหนึ่งในชีวิต ซึ่งถือเป็นรสชาติในการเสพเกมลูกหนังที่ทุกคนต้องผ่านมาทั้งนั้น

แหล่งอ้างอิง : https://www.theguardian.com/football/2020/dec/23/the-most-eventful-football-matches-ever-played-on-christmas-day

#Thinkcurve #พรีเมียร์ลีก #PL #Boxingday #ฟุตบอลต่างประเทศ

ติดตามบทความและข่าวสารของ คิดไซด์โค้ง ทางช่องทางอื่น ๆ ได้ที่นี่

เว็บไซต์ : https://thinkcurve.co/Youtube : https://www.youtube.com/@thinkcurve-5

แชร์บทความนี้
ฟุตบอล, อนิเมะ, กาแฟ
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ