เปิดใจ ‘เบ็ค-สมเกียรติ คุณมี’ : ทำไมตัวท็อป ‘ฟ็อกซ์ฮันท์’ ถึงเลือกเส้นทางบอลเดินสาย ?

เปิดใจ ‘เบ็ค-สมเกียรติ คุณมี’ : ทำไมตัวท็อป ‘ฟ็อกซ์ฮันท์’ ถึงเลือกเส้นทางบอลเดินสาย ?
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

แฟนฟุตบอลเดินสายและฟุตบอลไทยในช่วงหลัง คงได้เห็นชื่อของ ‘เบ็ค’ สมเกียรติ คุณมี ตามหน้าสื่อต่างๆ กันบ่อยครั้งมากขึ้น หลังเจ้าตัวไปแข่งขันในรายการบอลเดินสายชิงเงินรางวัลหลักล้านบาท แล้วโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนกลายเป็นกระแสขึ้นมา

น้อยคนนักที่จะทราบว่าเส้นทางฟุตบอลของ เบ็ค ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแบบที่หลายคนคาดเดา ช่วงชีวิตของเขาต้องเผชิญกับบททดสอบที่คาดไม่ถึงหลายต่อหลายครั้ง ทางเลือกที่คิดว่าทุกอย่างจะลงเอยแบบสวยๆ มีโอกาสพลิกล็อคเกิดเรื่องไม่คาดฝันได้ตลอด

คลิปสรุปเส้นทางแบบย่อของ เบ็ค

แม้ว่าดีกรีของเขาจะเป็นอดีตเด็กฝึกในอะคาเดมี่ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด รุ่นแรกในประเทศไทย คัดเลือกผ่านในโครงการ Fox Hunt ไปฝึกฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม แต่เป็นเรื่องแปลกไม่น้อยที่เจ้าตัวไม่เคยได้ลงเล่นบนเวที ไทยลีก เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ชีวิตการเป็นนักบอลอาชีพของเขาไม่ได้เด่นดังเท่าที่ควรจะเป็น แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้ เบ็ค มีโอกาสกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับสโมสร นครราชสีมา น้องใหม่ในศึก ไทยลีก สอง หลังเซ็นสัญญากันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อไม่นานมานี้

เรื่องราวการเป็นนักสู้ที่ไม่เคยย่อท้อของ เบ็ค ต้องผ่านเหตุการณ์สำคัญอะไรมาบ้าง? จุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาหันมาเล่นบอลเดินสายคืออะไร? ทำไมถึงมาลงเอยกับ สวาทแคท ไม่ใช่ MH นครศรี แบบที่สื่อหลายเจ้าเคยนำเสนอมาก่อนหน้านี้ ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ผูกพันเกมลูกหนังตั้งแต่ชื่อ

น้อยคนนักที่จะรู้ว่าที่มาของการตั้งชื่อจริงว่า สมเกียรติ ของเขานั้น มีที่มาจาก ‘คุณแแม่’ ซึ่งเป็นคนที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลเป็นทุนเดิม แล้วเป็นแฟนคลับของกองหน้าระดับตำนานทีมชาติไทย ‘ซิโก้’ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เลยพยายามตั้งชื่อลูกให้คล้ายคลึงกัน

อ่านบทความเกี่ยวกับ ซิโก้ กับการเล่นในแดนผู้ดีได้ที่นี่

ยิ่งไปกว่านั้นชื่อเล่นจริงๆ ของ สมเกียรติ นั้นไม่ใช่ เบ็ค หรือ เบ็คแฮม แบบที่ใครๆ หลายคนเข้าใจ แต่เขานั้นมีชื่อว่า ‘บอล’ ต่างหาก เพียงแต่ในช่วงวัยรุ่นโค้ชสังเกตุว่า ลูกทีมรายนี้ชอบทำทรงผมเลียนแบบ เดวิด เบ็คแฮม เลยเรียกแซวติดปากกันนับแต่นั้นมา

เขาเริ่มฝึกฟุตบอลตั้งแต่อายุแค่ 4-5 ขวบ กับโรงเรียนนันทนวรวิทย์ แถบจังหวัดนนทบุรี ก่อนจะไปเข้าอะคาเดมี่ ทริปเปิ้ล เจ แถมเขตมีนบุรีแบบจริงจังตอน 7-8 ขวบ ซึ่งเขาต้องใช้ชีวิตกินอยู่หลับนอนที่นั่นเลย เพื่อทุ่มเทให้กับการฝึกฝนศาสตร์ลูกหนังเต็มที่

พออายุได้ประมาณ 12 ปี สมเกียรติ ก็ได้ไปเข้าอะคาเดมี่ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด รุ่นแรก จนอายุได้ 15-16 ปี ก็ย้ายสังกัดไปอยู่กับสโมสร บีบีซียู ในช่วงเวลาที่โค้ชซิโก้ยังคุมทีมอยู่ แบกอายุซ้อมและเล่นกับเด็กอายุมากกว่าอย่างต่ำสามปี แล้วได้มีโอกาสลงโชว์ผลงานในศึก โค้ก คัพ อีกด้วย

ช่วงเวลานั้นการแข่งขันฟุตบอลนักเรียนอย่าง บอล 7 สี กำลังดัง แม่ของเขาเลยส่งตัวไปเรียนที่ สารวิทยา พอคัดติดก็มีโอกาสได้เล่นอยู่ที่นั่นประมาณ 1 ปี แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกับเขาครั้งแรกในช่วงปิดเทอม จนไม่น่าเชื่อว่าจากเส้นทางกลับบ้านแม่ กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี จะเลี้ยวพาเขาไปลงเอยถึงประเทศอังกฤษ

“ตอนนั้นปิดเทอมพอดี แม่ผมขับรถกะว่าจะพากลับอุบลบ้านแม่ ขับยาวมาจนจะเช้าแล้วเลยกะแวะพักที่จังหวัดศรีสะเกษ แล้วดันไปเห็นป้ายสโมสร เลสเตอร์ คัดนักเตะไปโครงการ Fox Hunt ทีนี้ดันมีสตั๊ดอยู่หลังรถพอดี แม่เห็นว่าเป็นทางผ่านเลยแวะให้ไปลองคัดดู”
PHOTO : Siamsport
“คัดไปคัดมาผมดันมีชื่อติด 22 คนสุดท้ายที่จังหวัดศรีสะเกษ ผมเลยไม่ได้กลับบ้านไปที่อุบลเลย ต้องนั่งรถกลับมากรุงเทพฯ เพื่อคัดตัวต่อในรอบต่อไป แล้วผมก็ผ่านการคัดเลือกได้ไปอยู่อังกฤษ 1 ปี”

ส่วนตัวแล้ว เบ็ค มองว่าความเจริญของฟุตบอลในแดนผู้ดีนั้นเหนือกว่าที่ไทยมาก จนไม่รู้ว่าจะอธิบายออกมาให้ละเอียดด้วยคำพูดอย่างไรดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโภชนาการ, การดูแลรักษาความสะอาดในพื้นที่ของสโมสร, ตารางการฝึกซ้อม หรือแม้แต่การดูแลรักษานักเตะที่มีอาการบาดเจ็บ เครื่องไม้ เครื่องมือ ล้วนล้ำหน้ากว่าที่เคยพบเคยเห็นมาทั้งชีวิตจริงๆ สตาฟฟ์ที่มีหน้าที่จัดการรับผิดชอบเรื่องต่างๆ มีทีมที่ทำงานกันหลายคน

ไฮไลท์การเล่นของเยาวชน Fox Hunt ในการดวลกับ สเปอร์ส

หากวัดกันเรื่องของความสามารถแล้ว เบ็ค สัมผัสด้วยตัวเองพร้อมตัดเกรดแล้วว่า นักเตะไทยช่วงอายุ 16-18 ปี สามารถสู้กับเด็กในอะคาเดมี่ประเทศอังกฤษได้สบายในเรื่องของความสามารถเฉพาะตัว แต่น่าเสียดายที่เป็นรองเรื่องของรูปร่าง ลักษณะทางกายภาพ และความเข้าใจด้านแท็คติก ซึ่งหลายครั้งที่ลงทีมเจอกันเด็กไทย ก็มีเกมที่เอาชนะเจ้าถิ่นได้อยู่

เลือดนักสู้ที่ไม่ต้องการเส้นสาย

น่าเสียดายไม่น้อยสำหรับ เบ็ค ในช่วงเวลาที่ไปฝึกฝนฟุตบอลอยู่ที่อังกฤษ แล้วเขากลับโชคร้ายเจออาการบาดเจ็บเข่าเล่นงาน จนต้องพักรักษาตัวยาวเสียเวลาไปกว่า 2 เดือน แต่ด้วยวิวัฒนาการของเครื่องไม้เครื่องมือกายภาพบำบัด ที่มีเครื่องเดินในสูญญากาศ บวกกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ต่างจากไทย เลยทำให้เขากลับมาฟิตสมบูรณ์ได้อีกครั้ง

PHOTO : Pantip

โปรแกรมการฝึกซ้อมในยิม มีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้ร่างกายของนักเตะในแดนผู้ดี มีความแข็งแกร่งและสภาพความฟิตที่อยู่ในเกณฑ์ตลอดเวลา แม้ว่าจะต้องใช้พื้นที่เดียวกันทั้งนักเตะทีมชุดใหญ่และเยาวชน แต่เจ้าหน้าที่มีการแบ่งตารางการใช้เครื่องชัดเจน

อย่างไรก็ตามนักเตะดาวรุ่ง ก็จะมีโอกาสได้คลุกคลีกับผู้เล่นชุดใหญ่บ้างในบางกิจกรรม ยกตัวอย่างเช่น แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, ริยาด มาห์เรซ หรือ เจมี่ วาร์ดี้ ที่บางครั้งก็สละเวลามาเล่นมินิเกม เทนนิส บอล กับน้องๆ ในทีมอยู่บ้าง หากอยู่ในช่วงเวลาและสถานที่ที่ลงตัวพอดี

ข้าวของเครื่องใช้อย่างชุดแข่งหรือรองเท้าสตั๊ด นักเตะในทีมเยาวชนของ สุนัขจิ้งจอก ก็มีโอกาสได้เลือกสั่งซื้อรุ่นที่ต้องการเดือนละสองคู่ โดยสามารถส่งรูปรุ่นที่ต้องการไปให้เจ้าหน้าที่สโมสร ซึ่งจะมีการสั่งซื้อพร้อมกับนักเตะในทีมชุดใหญ่ให้ แล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมดต้นสังกัดเป็นผู้ออกให้ ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว แถมยังมีเงินเดือนให้อีกด้วย

หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกฟุตบอลกับ เลสเตอร์ ที่ประเทศอังกฤษ ผลงานของ เบ็ค ถือว่าทำได้น่าประทับใจพอสมควร แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องมุ่งหน้ากลับมาค้าแข้งในประเทศไทย ซึ่งเจ้าตัวได้เผยความลับที่หลายคนไม่อยากจะเชื่อเอาไว้ว่า

PHOTO : Siamsport
“เอาจริงๆ แล้ว พี่ต๊อบ เจ้าของทีม เลสเตอร์ จะส่งตัวผมไปให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรืออีกสโมสรนึงที่เป็นพันธมิตรในไทยนี่แหละ แต่ผมบอกว่าผมขอไม่ไป ผมขอหาทีมเองดีกว่า ตอนนั้นจะให้ผมตัดสินใจไปเลยก็ไปได้ แต่ไม่รู้สิ...ตัวผมมันต้องการสู้ด้วยความสามารถของตัวเองมากกว่า ต่อให้ผมพูดเรื่องนี้ไปก็ไม่ค่อยมีคนอยากเชื่อเท่าไหร่ แต่มันคือเรื่องจริงแบบจริงๆ เลย”

พอกลับมาที่ไทย เบ็ค ก็ลองไปทดสอบฝีเท้ากับ ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด เพราะมีรุ่นพี่ที่รู้จักแนะนำมา ซึ่งเป็นสโมสรในระดับ ไทยลีก สอง แต่สเน่ห์ของทีมนี้ คือ มีแฟนบอลติดตามจำนวนมาก แล้วนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการ เนื่องจากการเล่นฟุตบอลของเขา หวังเพียงให้มีคนเข้ามาดู เข้ามาเชียร์ เท่านั้นก็เพียงพอ

นอกจากนี้ด้วย MOU ของ ร้อยเอ็ด กับสโมสร พนมเปญ ในประเทศกัมพูชา ที่มีการตกลงส่งนักเตะแลกเปลี่ยนสลับตัวไปค้าแข้งในแต่ละประเทศ เบ้ค เลยมีโอกาสไปสัมผัสการเล่นฟุตบอลในลีกสูงสุดที่นั่น แต่ก็ไม่ได้ประทับใจมากนัก

PHOTO : Cambodia Investment Review

ว่ากันตามจริงแล้วสโมสรฟุตบอลในกัมพูชา ก็มีเกรดไม่ต่างกับที่ไทย มีทั้ง ทีมใหญ่, ทีมกลาง และ ทีมเล็กๆ คุณภาพของสนามก็ต่างกันออกไป บางทีมสนามเหย้าแย่พอๆ กับ บอล อบต. บ้านเราด้วยซ้ำ นักเตะบางส่วนก็ขาดวินัย มีเรื่องของการหนีเที่ยว กินดื่มแบบเสรี ความเข้มข้นของฟุตบอลก็เทียบได้แค่ระดับ ไทยลีก สอง เท่านั้น

ก้าวแรกสู่วงการบอลเดินสาย

แม้ว่า เบ็ค จะอยู่กับสโมสรในลีกรอง แต่ฝีเท้าของเขาก็ดีพอจะมีชื่อติดทีมชาติชุดนักเรียนไทย รุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปี ก่อนจะแวะเวียนไปเล่นให้กับ อ่างทอง, นนทบุรี ยูไนเต็ด หรือ เอสทีเค เมืองนนท์ ซึ่งเป็นทีมในลีกระดับล่างทั้งหมด ซึ่งเจ้าตัวกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า

PHOTO : Siamsport

“ผมไม่ได้มองว่าโปรไฟล์ของผมนั้นดีหรือใหญ่กว่าคนอื่นๆ จะอยู่กับสโมสรไหนก็ได้ผมไม่ได้โฟกัสจุดนั้น ผมแค่อยากหาโอกาสค้นหาตัวเองไปเรื่อยๆ ใครซื้อตัวผมไปไหนผมก็ไป ขอแค่ได้สู้ด้วยความสามารถของตัวเองก็พอ”

เรื่องของการก้าวสู่เวทีของบอลเดินสาย เบ็ค พูดถึงจุดเริ่มต้นเอาไว้ว่า เขาแค่ไปแซวเพื่อนในเฟสสมัยเด็ก ที่รู้จักกันมานาน เห็นเพื่อนลงรูปไปเล่นบอลเดินสาย ได้แชมป์ ได้เงินรางวัลเยอะ แล้วมีการถ่ายรูปโชว์ความสำเร็จ เลยมีส่งข้อความไปแซวๆ ตามประสาแบบไม่ได้คิดอะไร

PHOTO : Siamsport

แล้วเพื่อนก็ตอบกลับมาแบบทีเล่นทีจริงว่า ถ้าว่างก็มาเล่นด้วยกันสิ ช่วงปิดลีกหรือมีเวลาว่างช่วงไหนก็มาลองเตะดู ซึ่งตอนนั้นต้นสังกัดของเขา คือ อ่างทอง เอฟซี โดยในช่วงเวลาที่ปิดฤดูกาล จะมีการจ่ายเงินเดือนสนับสนุนเพียงแค่ 30% เท่านั้น เจ้าตัวเลยต้องการหารายได้เสริมมาดูแลค่าใช้จ่ายจำเป็น

เบ็ค เล่าว่าแรกๆ ตัวของเขาไปเล่นขำๆ เล่นให้ฟรีด้วยซ้ำ แล้วพอผลงานเริ่มเข้าตาเจ้าของทีมก็มีค่าตัวให้ โดยเขาเล่นกับทีมละแวกบ้านเพื่อนแถว ดอนเมือง ที่มีชื่อทีมว่า ‘อินดี้ธรรม’ รายได้สตาร์ตแรกๆ ก็วันละ 500 บาท บวกกับค่าน้ำมันอีก 300 บาท รวมแล้วแค่ 800 บาท ก็มองว่าไปเตะช่วยเพื่อนเฉยๆ

PHOTO : Siamsport

ทีนี้พอไปแข่งแล้วเริ่มได้แชมป์ ก็มีการออกไปเตะไกลขึ้น ค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น ทีมอื่นๆ ในวงการบอลเดินสายเห็นฟอร์มมากขึ้น โปรไฟล์ของเขาก็กระจายไป จนมีหลายทีมติดต่อเข้ามาหา ด้วยการส่งข้อความมาถามทางเฟสบุ๊คส่วนตัว ค่าตัวของเขาก็เพิ่มมากขึ้น

ความจริงแล้ว เบ็ค มองว่าการแอบไปเตะบอลเดินสายของตัวเขานั้นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่ปัญหาเรื่องปากท้องและค่าใช้จ่ายมันรอกันไม่ได้ เลยต้องตัดสินใจหารายได้เสริมมาช่วยส่วนนี้ ตามที่กล่าวไว้ว่า

“ผมว่าการไปเตะบอลเดินสายของผมมันก็ผิดนะ เพราะผมไม่ได้บอกกับทางผู้ใหญ่ของสโมสร เขาก็กลัวเราเจ็บกลับมานั่นแหละ”

“แต่เอาจริงเงินเดือนแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ มันไม่พอไงพี่ ไหนจะ ค่ารถ ค่าบ้าน และค่ากินตัวเอง ค่าใช้จ่ายส่วนนี้มันรอไม่ได้ ถ้าเงินเดือนบางทีมันออกช้าหรือไม่ครอบคลุม แค่ค่าปรับบ้านก็ตกวันละ 500 บาทแล้ว ถ้าเกิดเราจ่ายช้าไม่ตรงวัน ถ้าเขาจ่ายเต็มร้อย ผมก็ไม่ไปเตะหรอก”

PHOTO: ส.คำมี FC.

“ผมไปเตะบอลเดินสาย เจ้าของทีมเขาดูแลดีก็จริง แต่มันระยะเวลาสั้นๆ 3-4 วัน ที่พักได้อยู่ระดับ 4-5 ดาว ส่วนตัวแล้วผมก็ชอบวงการบอลเดินสายนะ มันสบาย ถ้ามีชื่อเสียงหน่อย มีหลายทีมอยากได้ตัว ค่าตัวก็แพงขึ้น แถมยังได้อิสระในการใช้ชีวิตด้วย”

“ถ้านับเรื่องของรายได้เอาแค่ช่วงพีคๆ ของผมในบอลเดินสายเนี่ย ผมได้สองแสนบาทต่อเดือน อาทิตย์ถึงเตะรายการสองรายการ หลังจากผมไปเตะ PBDS มา แล้วก็มาลงเอยกับ ดาวเงิน49 จนผมมีรายรับสูงระดับนั้น ผมก็เตะให้กับ ดาวเงิน49 ยาวๆ ทีมเดียวเลย”

PHOTO: ส.คำมี FC.
“ตอนผมเตะบอลเดินสายช่วงปกติที่ยังไม่พีค รายรับเดือนๆ นึงก็ตกอยู่ 4-5 หมื่น ไปเทียบกับบอลอาชีพก็ใกล้เคียงกันนะ เพราะผมเคยรับสูงสุดกับบอลลีกที่ราวเดือนละ 6 หมื่น”

เหตุผลที่ สมเกียรติ กลับมาเซ็นสัญญาบอลอาชีพอีกครั้งในฤดูกาลนี้ เป็นเพราะว่าความรักในการเป็น ‘นักเตะอาชีพ’ เพียงอย่างเดียว ทั้งที่ความจริงแล้วตัวเขาจะฝังตัวถาวรในวงการบอลเดินสายเลยก็ได้ เพราะรายได้บางทีอาจรับมากกว่าด้วยซ้ำ

ยิ่งไปกว่านั้นเขาบอกให้สาเหตุเพิ่มเติมเกี่ยวกับ นักบอลอาชีพลีกล่างๆ ที่หันไปเตะบอลเดินสาย แม้ว่ามันจะไม่ถูกต้องเท่าไหร่ มันมาจากปัญหาเรื่องของปากท้องและค่าใช้จ่าย เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีความรู้ความสามารถจะไปทำธุรกิจหรือหารายได้เสริมทางอื่น

ต่อให้จะไปขายของ ขายเสื้อผ้า และ รองเท้า รายรับมันก็ไม่ได้มากพอขนาดนั้น ที่จะสามารถใช้ชีวิตให้อยู่รอดแบบไม่ลำบากได้ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีชื่อเสียงมากเท่ากับตัว ไทยลีก หรือตัวทีมชาติ ที่มีวิธีการหารายได้เสริมได้ง่ายกว่าจากหลายช่องทาง ถ้าเลือกได้นักบอลอาชีพทุกคน ไม่มีใครอยากไปเตะเดินสาย ถ้ามันไม่เข้าตาจนหรือจำเป็นจริงๆ

PHOTO: ส.คำมี FC.

วงการบอลเดินสายทุกวันนี้เปลี่ยนไปเยอะ ความรุนแรงลดน้อยลง ตัวดังๆ หรือหน้าเดิมๆ ในวงการรู้จักกันหมดแบบพี่น้อง แม้ว่าจะมีการเล่นหนักอยู่ประปราย แต่ทุกอย่างมันก็จบลงหลังเสียงนกหวีดเป่าจบการแข่งขัน ไม่มีเก็บมาคิดแค้นภายหลัง

ยิ่งไปกว่านั้นหากใครผลงานดี เบ็ค ก็เคยรับหน้าที่ไปเจรจาสู่ขอมาร่วมทีมอีกด้วย แค่ต้องไม่ล้ำเส้นกัน ถามให้แน่นอนว่าช่วงเวลานี้ เดือนนี้ มีทีมติดต่อให้ไปเล่นหรือยัง? ถ้าไม่มีการปิดดีลดึงตัวย้ายมาเล่นร่วมกัน ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

โลกของฟุตบอลเดินสาย มันก็คือการเล่น ‘กีฬาฟุตบอล’ เหมือนกัน ไม่ได้แตกต่างกับ ‘บอลอาชีพ’ ซึ่งสุดท้ายแล้วเป็นการหาเลี้ยงชีพของแต่ละคน สมเกียรติ มองว่า มันสามารถพัฒนาควบคู่ไปด้วยกันได้ จะได้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับคนที่มีใจรักในกีฬาชนิดนี้ เพียงแต่ผู้ใหญ่ในวงการต้องหันมาใส่ใจและทุ่มเทกับมันจริงๆ แค่นั้น

ดีลกับ ‘โคราช’ ที่จบลงแบบพลิกล็อค

หลังจาก เบ็ค สร้างชื่อกับวงการบอลเดินสาย จนเป็นกระแสแรงแล้วมีหลายทีมในวงการบอลอาชีพ หันมาจับตามอง พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้เขาพิจารณาย้ายมาร่วมทีม

ความเป็นจริงแล้วสโมสรที่ติดต่อเขามาไวที่สุด คือ ดรากอน ปทุมวัน กาญจนบุรี โดยทางผู้ใหญ่ของทีมยื่นข้อเสนอเข้ามาให้ แต่ต้องการให้เขาตัดสินใจตกลงแบบทันทีทันใด ซึ่งเจ้าตัวยังต้องการเวลาในการปรึกษาครอบครัวและคุณแม่ก่อน

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสโมสรที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาให้เขา รวมไปถึงทีมในลีกสูงสุดอย่าง โปลิศ เทโร ด้วยเช่นกัน ยังไม่นับรวม สมุทรปราการ ซิตี้, ขอนแก่น ยูไนเต็ด และอีกหลายๆ สโมสรที่เจ้าตัวยอมรับว่า ตอบกลับข้อความได้ไม่ทัน

PHOTO : Ballthai

แต่พอทาง MH นครศรี ติดต่อเข้ามาหา เบ็ค เลือกที่จะลงเอยกับสโมสรนี้ในตอนแรก เพราะตรงสเปคที่เขาต้องการ แฟนบอลเยอะ, แฟนคลับเยอะ และมีคนติดตามเชียร์ทีมเยอะ ครอบครัวก็เห็นด้วยมองว่าทุกอย่างลงตัวดี

ทั้งสองฝ่ายเจรจาตกปากรับคำ ผู้ใหญ่มีการซื้อใจเขาด้วยการโอนเงินค่าเซ็นสัญญามาให้ก่อน จนเขาเดินทางไปเซ็นสัญญาที่จังหวัดนครศรีธรรมราชไปแล้ว ขนของบางส่วนเข้าที่พักไปแล้วด้วย ก่อนจะกลับมาเคลียร์ธุระส่วนตัวบินกลับมายังกรุงเทพฯ แต่แล้วเหตุการณ์พลิกล็อคแบบไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

PHOTO : Ballthai

สองสามวันต่อมาประธานสโมสร MH นครศรี ทักเข้ามาหาถามว่า มีทีมยังสนใจในตัวเขาอยู่บ้างไหม? เพราะดูท่าแล้วสโมสรของเขา อาจไม่ผ่านเรื่องของ ‘คลับ ไลเซนซิ่ง’ ถ้าเลื่อนชั้นขึ้นไปตามระบบ งบประมาณการทำทีมอาจไม่พอ แบกรับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นไม่ไหว

ทางฝั่งผู้บริหารของ นครศรี ก็พยายามจะช่วยเขาหาทีมใหม่ให้ มีการเจรจาไปทางสโมสร พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด แต่ตัวเขาก็ปฏิเสธไปเพราะต้องการพยายามหาทีมด้วยตนเอง ค่อยๆ หาไปแบบไม่รีบร้อนจนกว่าจะเจอทีมที่ใช่ สุดท้ายข้อสรุปก็เป็นอย่างที่สื่อหลายเจ้าลงข่าว ทั้งสองฝ่ายตกลงยกเลิกสัญญากันด้วยดี

PHOTO : Swatcat ตะลุยไทยลีก

หลังจากนั้นก็มีข้อเสนอจากทาง นครราชสีมา ยื่นเข้ามาให้พิจารณา ซึ่งเป็นสโมสรที่ เบ็ค เกือบจะลงเอยด้วยมาแล้วหลายครั้งแต่ก็คลาดกันไปหมด ประกอบกับทีมยังขาดนักเตะในตำแหน่งที่เขาเล่นอยู่พอดี เบ็ค อยากไปร่วมทีมอยู่แล้ว ไม่ต้องไปผ่านขั้นตอนการทดสอบฝีเท้า การเจรจาทุกอย่างก็เลยลงตัว

โค้ชโจ-ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น ก็เคยเห็นฝีเท้าของเขาและชื่นชอบ ตั้งแต่สมัยเล่นอยู่ที่ อ่างทอง มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทาง เบ็ค ก็เปิดเผยว่าระหว่างคุยกันสองคนส่วนตัว โค้ชโจ ก็แอบมีลังเลเหมือนกัน ตามที่บอกว่า

“พี่เขาบอกผมว่า กูเอามึงมานี่คิดถูกหรือคิดผิดวะ เพราะคนอื่นเขาคัดตัวมาหมดเลย เพราะเห็นมาตั้งแต่สมัยก่อนก็นานแล้ว เห็นอีกทีก็มาเล่นบอลเดินสาย เสี่ยงอยู่เหมือนกันนะเนี่ย”

PHOTO : เด็กเก็บบอล
“แต่ตอนนี้ผมมาซ้อมทีม ค่อยๆ ปรับตัว ทุกอย่างก็เป็นไปในทิศทางที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายผมปรับอีกไม่เยอะ เพราะเคยฝึกเรื่องการหายใจมาอยู่แล้ว เหลือแค่การยืนระยะให้ได้ครบ 90 นาทีแค่นั้น”

“แฟนบอลโคราชมีพลัง พร้อมให้การสนับสนุนทีมอยู่ตลอดทุกทาง เดี๋ยวนี้ผมไปไหนแฟนบอลก็เริ่มรู้จักมากขึ้น เข้ามาพูดคุยทักทาย ชวนไปกินข้าวที่ร้านเขาบ้าง เดี๋ยวจะทำรูปมาให้ ซื้อของไปฝาก ผมก็เกรงใจมีปฏิเสธไปบ้าง แต่ความรู้สึกเหล่านั้นทำให้ผมหลงเสน่ห์จังหวัดนี้ไปแล้ว”

เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของ เบ็ค คือการตั้งเป้าเป็นตัวจริงของทีมให้ได้ เล่นได้ตามมาตรฐานเดิมที่เคยเล่นในศึก ไทยลีก สอง มาก่อนหน้านี้ เพราะเจ้าตัวห่างหายจากลีกระดับนี้มานานราว 5-6 ปี อยากพาทีมเลื่อนชั้นกลับไปสู่ลีกสูงสุดให้ได้

PHOTO : Nakhonratsima FC

อย่างน้อยปีนี้ไม่ได้เลื่อนชั้นอัตโนมัติ ก็ต้องพาทีมติดอันดับเข้าไปสู่รอบ เพลย์ ออฟ ซึ่งถ้าทีมเลื่อนชั้นสำเร็จ สัญญาของเขาก็จะมีเงื่อนไขขยายเพิ่มเติมจากเดิมที่เซ็นกัน 1 ปีจนจบฤดูกาลนี้ ยาวไปจนจบปีหน้าสิ้นสุดกันซีซั่นหน้า แล้วจะได้ทำความฝันให้เป็นจริงได้เล่นลีกสูงสุดในบ้านเกิดเป็นครั้งแรกเสียที

ส่วนน้องๆ นักฟุตบอลที่กำลังตามฝัน เบ็ค อยากให้มองเรื่องราวการต่อสู้ของเขา ที่ไม่เคยย่อท้อ พยายามอย่างสุดความสามารถจนกลับมาอยู่บนเส้นทางที่ควรจะเป็นได้อีกครั้งเป็นตัวอย่าง ขอแค่มีความตั้งใจจริง ไม่ล้มเลิกไประหว่างทาง อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : การสัมภาษณ์ออนไลน์

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สโมสร ‘แตงโม’ : ตำนานแชมป์เงินล้านบอลเดินสายสองปีติดทีมเดียวในประเทศไทย


ศราวุฒิ มาสุข : กับชีวิตใหม่ในเส้นทางฟุตบอลเดินสาย

เทพนิยายภูธร : ‘สโมสร ดอนมูล’ ตำนานทีมระดับตำบลผู้พิชิตแชมป์ เอฟเอ คัพ

เมื่อครั้งหนึ่ง “อิชิอิ” เคยทำงานในโรงอาหาร หลังคว้ารองแชมป์สโมสรโลก

คล้ายตรงไหนบ้าง? : ศุภณัฏฐ์ นักเตะเงา โลซาโน่ ในสายตาสื่อต่างประเทศ

เวียดนามกร้าวก่อนซีเกมส์ : "4 ปีก่อน ทรุสซิเย่ร์ ก็เคยพาทีมเวียดนามยู 19 เอาชนะไทยมาแล้ว

เก่งในสนามไม่พอ : สาเหตุใด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงครองความยิ่งใหญ่ได้แบบยั่งยืน ?

บุรีรัมย์ ยังห่างแค่ไหน ? 10 สถิติไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้

คุณสมบัติอะไรที่ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ ?

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ