เรื่องเล่าจาก ธีรเทพ : เล่นกับ เวียดนาม ในเกมเยือนนัดชิงต้องเจอกับอะไรบ้าง ?

แม้จะเป็นคู่ปรับคู่อาฆาตกันมานมนานในวงการฟุตบอลอาเซียนสำหรับ ไทย กับ เวียดนาม ที่เจอกันเมื่อไหร่ ก็เดือดเมื่อนั้น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าแปลกก็คือทั้งสองชาติกลับได้เจอกันในรอบชิงชนะเลิศแค่ครั้งเดียวเท่านั้น นั่นคือในรายการชิงแชมป์อาเซียนเมื่อปี 2008
แน่นอนว่าบรรยากาศในรอบชิงชนะเลิศนั้นไม่มีทางเหมือนกับเกมรอบเเบ่งกลุ่ม หรือรอบน็อคเอาต์อย่างแน่นอน และหนึ่งในคนที่เคยสัมผัสบรรยากาศแบบนั้นมาเเล้วคือ ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าดาวรุ่งในเวลานั้น ที่เพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดไปเมื่อช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา
เล่นกับเวียดนามในเกมเยือนนั้นเป็นเช่นไร ? สิ่งใดบางที่รอนักเตะไทยอยู่ “ลีซอ” พร้อมเปิดหมดเปลือกที่นี่
ยากตั้งแต่นอกสนาม
AFF เปรียบเสมือนเกมฟุตบอลโลกของชาวอาเซียน ดังนั้นเมื่อบรรยกาศนัดชิงชนะเลิศมาถึง หลายสิ่งรอบข้างก็จะเปลี่ยนไปอย่างมาก ธีรเทพ เล่าว่าตั้งแต่เดินทางจากสนามบิน จนกระทั่งถึงที่พัก จะได้เห็นผู้คนแสดงออกถึงความคลั่งไคล้
และถนนทุกสายมุ่งสู่สนามเหย้าของพวกเขา แน่นอนว่าบัตรมีกี่ใบก็ขายหมดเกลี้ยง แม้กระทั่งคนที่ไม่มีบัตรก็ยังเดินทางไปเพื่อเสี่ยงดวงที่หน้าสนามเลยด้วยซ้ำ
บรรยากาศดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่นักเตะทีมเยือนนั้นจะต้องกดดันอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่สำหรับ ธีรเทพ เขากลับมองต่างมุม เชื่อว่าในบรรยากาศที่คลั่งไคล้แบบนี้ นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะได้ลงสนามไปแสดงฝีมือแบบสุดความสามารถ และในเกมแบบนี้มันจะมีความสนุก และความเร้าใจมากกว่าเกมปกติอย่างแน่นอน ..

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ ลีซอ อยากจะเตือนนักเตะชุดปัจจุบันคือในบรรยากาศที่โดนปลุกเร้าจากแฟนบอล หากใครที่ไม่นิ่งพอ ไม่เตรียมใจมาดีพอ ก็อาจจะสร้างความผิดพลาดได้ ดังนั้นเรื่องจิตใจต้องเต็ม 100% อยู่เสมอ อยู่ในเกมของตัวเองให้ได้
“จากการเคยได้สัมผัสเกมนัดชิงเมื่อปี 2008 บรรยากาศดีมาก เราเห็นแฟนบอลเวียดนามตลอดทางไปสนามเยอะมาก” ลีซอ เริ่มเล่า
“แม้แต่ในสนาม พวกเขาคลั่งในเกมฟุตบอลและเมื่อเจอทีมชาติไทย ในนัดชิงด้วยและเล่นในบ้านเขา ส่วนตัวคิดว่าบรรยากาศแบบนี้มันน่าลงสนามไปเล่น เพราะมันสนุกและเร้าใจดี แต่มันก็อาจจะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เราผิดพลาดได้ หากไม่นิ่งมากพอ”
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

ในเกมที่เป็นเหมือนเกมชี้ชะตา ใครชนะก็เหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ไปเลย ส่วนใครแพ้ก็ต้องเจอกับกระแสลบต่าง ๆ มากมาย เกมนี้จึงเป็นเกมที่เดิมพันสูงอย่างที่สุด
ดังนั้นไม่ว่าจะกลยุทธ์แบบไหน จะสะอาดและสกปรก ลีซอ ยืนยันว่ามันจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ โดยสิ่งเดียวที่นักเตะไทยสามารถควบคุมได้ คือจิตใจของตัวเองเท่านั้น

“ผมเชื่อว่าพวกเขาต้องทำทุกอย่างแน่นอนทั้งในและนอกสนาม” ธีรเทพ กล่าว
“ อย่างนอกสนามแฟนบอล อาจจะมีการมาก่อกวนตามโรงแรม ขับรถบีบแตรตอนกลางคืน และวิธีต่างๆในการปั่นป่วนนักเตะไทย ซึ่งก็อยากให้น้องๆตั้งสติและอย่าไปหัวเสียกับอะไรพวกนี้”
เรื่องในสนามที่เลี่ยงไม่ได้
แน่นอนว่าในรายการนี้ไม่มี VAR ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามจะผ่านแล้ว ผ่านเลย ฟาวล์คือฟาวล์ ไม่ฟาวล์ ดังนั้นเรื่องสำคัญที่สุดที่ ลีซอ มองยังคงเป็นเรื่องการควบคุมอารมณ์ไม่ต่างกัน เพราะจะต้องมีเหตุการณ์การตัดสินที่ไม่ถูกใจเกิดขึ้นออย่างแน่นอน
“สภาพจิตใจของน้อง ๆ จะต้องโดนกดดันอย่างหนักแน่นอน เพราะในรายการนี้ไม่มี VAR มาช่วยในการตัดสินใจ ทุกคนก็ต้องพยายามควบคุมตัวเองให้ได้หากมีจังหวะค้านสายตา อยู่กับเกมของตัวเองอยู่ตลอดคือสิ่งสำคัญที่สุด”
“ทุกคนต้องมีสติและสมาธิให้อยู่ให้ได้ แต่ก็ใช่ว่าเราจะให้เขาทำอย่างเดียวก็ไม่ได้ เราก็ต้องมีเล่นหนักคืน แต่ต้องอยู่ในเกมและกติกา เราก็ต้องเล่นดุดัน ไม่ใช่ว่าพวกเขาเล่นได้ฝ่ายเดียว“ ธีรเทพ กล่าว

การเกาะอยู่กับแผนงานของตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองได้ซักซ้อมมา และรีดยศักยภาพในสถานการณ์จริง สิ่งเหล่านี้จะต้องเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันกับสภาพจิตใจที่พร้อมดวล ถ้าทั้งสองอย่างไปในทิศทางเดียวกัน ธีรเทพ เชื่อว่า ทีมชาติไทยชุดนี้จะสามารถผ่านไปเกมนี้ไปได้อย่างแน่นอน
“ต้องทำงานในสิ่งที่ซ้อมจากโค้ช ต้องพยายามเล่นให้ได้ในเกมจริง และการรับความกดดันต่างๆ ถ้าสามารถรับได้และนิ่งพอ มันก็ไม่มีปัญหาแน่นอน” ธีรเทพ แนะนำ
บทเรียนจากอดีต… เยือนก่อนดีกว่า
ในการเจอกันเมื่อนัดชิงปี 2008 นั้น เป็นทีมชาติไทยที่ได้เล่นในบ้านก่อน แต่กลับแพ้คาบ้านไป 1-2 ก่อนจะออกไปเยือนเวียดนามในเลกที่ 2 ที่สนามหมีดิงห์ สเตเดี้ยม และจบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 จนไทยต้องแพ้ไปด้วยสกอร์รวม 2-3
โดย ธีรเทพ มองว่าการเล่นเกมเยือนก่อนของทีมชาติไทยในครั้งนี้เป็นเรื่องดี เพราะกดดันเรื่องผลการแข่งขันในเกมแรกน้อยกว่า ซึ่งในสายตาของเขามองว่าแค่การเก็บผลเสมอได้ในเกมเยือนก็น่าจะทำให้ทีมชาติได้กุมความได้เปรียบมากพอที่จะเล่นในเกมเลกที่ 2 ในบ้านของตัวเอง

“รอบชิงที่เราไปเยือนก่อนในเกมแรก ผมมองว่ามันก็ดีกว่า เพราะการเจอกันในนัดชิงปี 2008 เราเล่นในบ้านเราก่อนและไปเล่นในบ้านเวียดนามนัดที่สอง มันเหมือนเป็นความกดดันว่าเล่นในบ้านก่อนเราต้องเอาชนะให้ได้ก่อน และถ้าทำไม่ได้ การไปเยือนนัดที่สองซึ่งมันจะชี้ผลได้แล้ว มันจะทำให้ทีมที่ไปเยือนเป็นรอง”
“ถ้าไม่ได้ผลการแข่งขันนัดแรกที่ดี เพราะฉะนั้นการเล่นในบ้านเขานัดแรกเรามีความได้เปรียบนิดนึงถ้าเราไม่แพ้ หรือไปทำประตุกลับมาได้”
“เกมเยือนถือเป็นงานที่ยากและยิ่งต้องไปเจอเวียดนาม แต่ก็หวังว่าน้องๆทุกคนจะทำได้ด้วยการบุกไปเสมอเวียดนามในบ้านกลับออกมาแบบมีสกอร์ 1-1 เพื่อเกมที่สองเราจะได้เล่นได้ง่ายขึ้น” ธีรเทพ กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ตัวตึงฝั่งเวียดนาม : ประโยคเด็ดของ พัค ฮัง ซอ กุนซือสายปั่นของทัพดาวทอง
AFF สไตล์ : การหวดยับเตะกันสบายส่งผลร้ายต่อทั้งระบบอย่างไร ?
กรณีศึกษาจากต่างประเทศ : ไทยควรจัดการกับแฟนบอลจุดพลุแฟร์ในสนามอย่างไร ?
ข่าวและบทความล่าสุด
RELATED BY AUTHOR

ทีมชาติไทยยู23 : ผลงานประทับใจที่เกิดจาก "ความห้าว" ของโค้ชและนักเตะ
MOST POPULAR

ทีมชาติไทยยู23 : ผลงานประทับใจที่เกิดจาก "ความห้าว" ของโค้ชและนักเตะ

คลิป เป๊ป กวาร์ดิโอลา โค้ชแมนฯ ซิตี้ เดินแบบในปี 1993 กลับมาเป็นไวรัล

ช้างศึกตัวจี๊ด : 5 อันดับนักเตะไทย U23 วิ่งเร็วสุดในโดฮา คัพ

อินโดนีเซีย เจอปัญหาการเมือง ยกเลิกพิธีจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก U20

โกลลีกกาน่า เลียนแบบหมอผี ปะแป้งหน้าขาวลงสนาม ก่อนโดนยิงไป 3-0
