การจับปูใส่กระด้งที่ทำให้ ชิน แท ยง อยากลาออกจาก อินโดนีเซีย
สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย (PSSI) ยืนยัน “ชิน แท ยง” จะคุมทีมชาติอินโดนีเซีย ครบทั้ง 3 ชุด ไล่ตั้งแต่ชุดใหญ่ , ยู-23 และ ยู-19 โดยเจ้าตัวให้เหตุผลคือการทำงานที่ต่อเนื่องของทุกๆ ชุด .... นี่คืองานที่หนักมากและแทบไม่เคยมีโค้ชระดับทีมชาติคนไหน ๆ บนโลกนี้ที่รับงานทีเดียวทั้ง 3 ชุด
หากมองแวบแรก มันอาจจะเหมือนการมีแพสชั่นล้นเหลือรับงาน 3 ชุดคุมนักเตะเกือบ 2 ร้อยคน ทว่าจริง ๆ แล้วนี่คือเรื่องที่เป็นปัญหาระหว่างกุนซือชาวเกาหลีใต้กับสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียมาโดยตลอด
เบื้องหลังของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ติดตามที่นี่ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
จับปูใส่กระด้งอย่างสุดความสามารถ
วงการฟุตบอลอินโดนีเซียนั้นมีปัญหาคาราคาซังมาตลอดนับตั้งแต่เข้ายุค 2010 พวกเขาเคยโดนฟีฟ่าแบนห้ามลงเล่นในรายการที่รับรองโดยฟีฟ่ามาแล้ว เพราะมีการเมืองแทรกแซงในวงการฟุตบอล
จากนั้นผลงานที่เคยโดดเด่นในระดับอาเซียนช่วงยุค 90s หรือ 2000s ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน อินโดนีเซีย กลายเป็นทีมที่ต้องดิ้นรนทุกครั้งในการแข่งขันอย่าง ซูซูกิ คัพ หรือ ซีเกมส์ ขณะที่สมาคมฟุตบอลของอินโดนีเซีย หรือ PSSI ก็ยังมีปัญหาไม่ลงรอยกันภายในอยู่ตลอดเวลา
"ชิน แท ยง จะต้องเจอกับงานที่ยากลำบากที่สุดเมื่อเขาถูก PSSI ขอให้เขาคุมทีมชาติเยาวชน ยู-20 ด้วย ไม่ใช่แค่ทีมชาติชุดใหญ่เท่านั้น" สื่อในอินโดนีเซีย อย่าง voi.id เผยข่าวลือที่สุดท้ายกลายเป็นความจริง
และนั่นทำให้ ชิน แท ยง ไม่พอใจกับการไม่แจ้งเรื่องนี้ให้เขาก่อนที่เขาจะรับงาน เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองจะได้คุมทีมชุดใหญ่เท่านั้น แต่สุดท้ายเขาก็ได้งานงอกเพิ่มมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
นอกจากนี้ในช่วงหลังปี 2019 ที่โควิดเริ่มระบาด ชิน แท ยัง ยังไม่ค่อยได้รับความช่วยเหลือจากสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียเท่าไรนัก ตัวของเขายืนยันว่าไม่ได้เร่งร้อนที่จะทำให้ทีม ๆ นี้ดีขึ้นในข้ามคืน แต่สิ่งที่เขาต้องการคือการสนับสนุนเขา และมอบในสิ่งที่เขาร้องขอมากกว่านี้
โดยมีครั้งหนึ่งที่ ชิน แท ยง ของบเพื่อพานักเตะทีมชาติอินโดนีเซียไปเก็บตัวที่เกาหลีใต้ เพื่อซักซ้อมกันอย่างจริงจังและหาเกมอุ่นเครื่องกับสโมสรใน เกาหลีใต้ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ แต่สิ่งที่ ชิน แท ยง ได้รับการตอบกลับคือการปฎิเสธ ซึ่งนั่นทำให้เขายั้วะพอสมควร เพราะทาง PSSI เรียกร้องสิ่งต่างจากตัวเขามากมาย และเขาก็มอบสิ่งที่ต้องการกลับไปเสมอ
"เดิมทีผมคิดว่าผมยินดีกับงานคุมทีมชาติอินโดนีเซียมาก ๆ เพราะผมรู้สึกว่าผมมีวิสัยทัศน์ตรงกับทาง PSSI เราต่างเชื่อว่าการพัฒนาทีมชาติต้องค่อยเป็นค่อยไป"
"ผมจะยกตัวอย่างก่อนที่เกาหลีใต้จะลงแข่งขันในฟุตบอลโลก 2002 เรามีแคมป์เก็บตัวและทดสอบนักเตะอย่างจริงจัง ได้ลงแข่งขันกับนักเตะที่เก่งกว่า แต่ที่อินโดนีเซียเราทำไม่ได้เลย สถานการณ์โควิด-19 ทำให้เราไม่มีเกมอุ่นเครื่องเลย”
“ดังนั้นถ้าเรามีแคมป์สำหรับฝึกซ้อมก็จะสามารถทำให้ร่างกายของนักเตะดีขึ้นได้ เราจะสามารถกำหนดการออกกำลังกายของพวกเขาได้ เราจะได้จัดการระบบการกินของผู้เล่นและได้มีโปรแกรมลงเตะกระชับมิตรตลอดทั้ง 6 สัปดาห์"
"ผมจะไม่ว่าเลยถ้าพวกเขาไม่ร้องขออะไรมากมายจากผม พวกเขาขอให้ผมพาทีมชุดยู-19 เข้ารอบรองชิงชนะเลิศในศึกชิงแชมป์เอเชียที่อุซเบกิสถานให้ได้ (การแข่งขันถูกเลื่อนไปจัดปี 2023) พวกเขาต้องการให้ผมพาทีมชาติชุดใหญ่คว้าแชมป์ซูซูกิ คัพ และพวกเขาก็อยากให้ผมพาทีมชุด ยู-20 เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศในฟุตบอลโลกยู-20 ในปี 2021 (ซึ่งอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ แต่ถูกเลื่อนไปแข่งปี 2023 แล้ว)"
นี่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ ชิน แท ยง ต้องเจอกับปัญหามากมายและความไม่เป็นมืออาชีพในแบบที่เขาคาดหวัง จริง ๆ แล้วยังมีเรื่องทีมงานสตาฟโค้ชที่ PSSI จัดให้ทำตัวไม่เชื่อกฎของเขา จน ชิน แท ยง ขอให้ PSSI เอาโค้ชพวกนั้นออกจากตำแหน่ง แต่สุดท้ายสตาฟคนนั้นกลับได้เลื่อนไปตำแหน่งที่สูงขึ้นแทน
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทำให้เราสามารถเข้าใจได้ว่าทำไม ชิน แท ยง ถึงเคยสัมภาษณ์ว่าการพา อินโดนีเซีย กลับมายิ่งใหญ่ ยังยากเสียยิ่งกว่าการที่เขาพาทีมชาติเกาหลีใต้เอาชนะ เยอรมัน ในฟุตบอลโลกปี 2018 เสียอีก (ชนะ 2-0)
รับงานแล้วต้องไปต่อ
แม้จะเจอปัญหามากมายขนาดนั้น แต่สิ่งเดียวที่ทำให้ ชิน แท ยง ยังคงอยู่กับ อินโดนีเซีย ในเวลานี้คือความเป็นมืออาชีพ และที่สำคัญที่สุดคือลูกทีมของเขาทุกคนที่เชื่อมั่นในตัวเขาอย่างมาก รับฟังสิ่งที่เขาสอน และยอมทำตามสิ่งที่เขาบอก … ชิน แท ยง อาจจะมีปัญหากับการรับมือกับคนเบื้องบน แต่กับลูกน้องของเขาทุกคน ตอนนี้เขาสามารถละลายพฤติกรรมจนรวมทีมเป็นหนึ่งได้แล้ว
เขานำเอาสไตล์การทำทีมที่ยืดหยุ่นเน้นการทำทีมแบบนัดต่อนัดแบบที่เขาถนัดมาใช้กับ อินโดนีเซีย เดิมทีนักเตะ อินโดนีเซีย นั้นมีจุดเด่นที่ความเร็วเท่านั้น ซึ่งมันไม่พอที่จะประสบความสำเร็จในฟุตบอลสมัยใหม่ เพราะไม่ว่าจะเจอกับใคร อินโดนีเซีย ก็จะอาศัยการวิ่งและความสามารถส่วนตัวของนักเตะเป็นหลักตลอด ครองบอลนาน ๆ เล่นวิธีเดิมตั้งแต่ต้นจนจบเกม ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาต้องผิดหวังกับสไตล์การเล่นแบบนี้
นับตั้งแต่ ชิน แท ยง เข้ามา อินโดนีเซีย ก็กลายเป็นทีมที่ใช้งานหลายระบบการเล่น นับตั้งแต่คัดฟุตบอลโลกจนถึง ซูซูกิ คัพ ครั้งนี้พวกเขาใช้แทคติกมมาแล้วถึง 4 แผน ทั้งกองหลัง 3 ตัว ทั้งระบบ 4-4-2, 4-3-3 และ 4-1-4-1 นอกจากนี้ยังมีนักเตะอายุน้อย ๆ ฝีเท้าดีมาก ๆ ซึ่งก็เป็นผลจากการที่เขาได้คุมเด็กพวกนี้แบบตกกระไดพลอยโจร มาตั้งแต่ปี 2019 นั่นเอง
เรียกได้ว่าถึงจะไม่พอใจแต่ความเป็นโค้ชในสายเลือดนั้นเข้มข้น เมื่อรับงานแล้วต้องใส่ให้สุด ทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มี ... ทว่าในขณะเดียวกันยิ่ง ชิน แท ยง แสดงให้เห็นว่าเขา "ยังไหว" กับการที่รับอยู่เมื่อไหร่ เขาก็มักจะได้งานเพิ่มขึ้นทุกครั้งไป และบางครั้งอะไรที่มันเกินตัว ก็กลายเป็นการบั่นทอนได้เช่นกัน มันเป็นแบบนี้แทบทุกอาชีพ ไม่เว้นแม้แต่อาชีพโค้ชฟุตบอล
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม : เบื้องหลังการทิ้งทีมอื่นไม่เห็นฝุ่นของยักษ์มาเลเซีย
ภารกิจสั่งลา
เดือนมิถุนายน ปี 2022 มีข่าวมาจากทาง อินโดนีเซีย ว่า ชิน แท ยง ขอลาออกจากตำแหน่ง โดยเรื่องนี้ถึงขึ้นมีการยืนยันจาก โมชาหมัด อิไรวัน (Mochamad Iriawan) ประธานของ PSS ที่บอกว่า ชิน แท ยง มีปัญหามาก ๆ กับการบริหารทีมชาติทั้ง 3 ชุดทั้ง ยู 19 ยู 23 และทีมชาติชุดใหญ่
"ผมคิดว่าเหตุผลมันน่าจะมาจากการที่เขาต้องง่วนกับการทำทีมถึง 3 ชุด แน่นอนเราไม่อยากเสียเขาไปเพราะเขาคือคนที่เก่งที่สุดที่เราเคยมี เราจึงพยายามจะแนะนำให้เขาคุมแค่ทีมชุดยู 19 ชุดเดียวเท่านั้น เพราะเราการแข่งขันฟุตบอลโลก ยู20 รออยู่ " โมชาหมัด กล่าว
แม้จะฟังดูเหมือนการลดงานให้ ชิน แท ยง เหลือแค่ชุดเดียว แต่จนเเล้วจนรอดการคุมทีม 3 ชุดของ ชิน แท ยง ก็ยังทำเดินต่อไป ส่วนเรื่องนี้หนักขนาดไหน ก็ลองคิดดูเอาแล้วกันว่าผู้ช่วยของ ชิน แท ยง ที่เป็นชาวเกาหลีใต้และทำงานกับเขามาตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 2018 ทั้ง 3 คนอย่าง คิม แฮ-วุน Kim Hae-woon (โค้ชประตู), คิม วู แจ Kim Woo-jae เป็นโค้ชด้านเทคนิค และ อี แจ-ฮง Lee Jae-hong ที่เป็นเทรนเนอร์ทางกายภาพ ก็ประกาศาออกไปในช่วงปี 2021 พร้อม ๆ กัน
ไม่ใช่ผู้ช่วยที่เบื่อ แต่ดูเหมือนว่าตัวเขาเองก็เกือบจะไม่ไหวเหมือนกัน โดยในปี 2022 สำนักข่าว World Today News ของ อินโดนีเซีย ก็ยังรายงานถึงเรื่องนี้ว่า ชิน แท ยง ต้องการเวลาพักผ่อนเพื่อคิดทบทวนหลายสิ่งหลายอย่างที่วุ่นวาย เขาอยู่กับทีมแทบทุกรุ่นอายุ จนที่สุดแล้วก็นำมาสู่การขอพักงานในช่วงสั้น ๆ เพื่อกลับไปทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นที่นี่ นับตั้งแต่เขาเข้ามาทำทีมในปี 2019
ขณะที่การแข่งขัน AFF2022 ที่ผ่านมาก็แว่ว ๆ ว่า ชิน แท ยง อยากจะขอลาออกจากตำแหน่งใน อินโดนีเซีย ทั้งหมดอีกครั้ง หลัง อินโดนีเซีย ตกรอบด้วยการแพ้ให้กับ เวียดนาม สกอร์รวม 0-2 แต่ที่สุดแล้วการเจรจาเกลี้ยกล่อมที่ไม่ว่าจะด้วยวิธ๊ไหน ๆ ของ PSSI ก็ตาม พวกเขาสามารถซื้อใจ ชิน แท ยง ได้อีกครั้ง
เพราะจากที่เคยจะลาออกทันทีหลังจาก ทัวร์นาเม้นต์จบ แต่จนเเล้วจนรอด PSSI ก็แถลงการณ์ว่า ชิน แท ยง จะคุมทีมชาติ อินโดนีเซีย ทุกชุดต่อไปจนกระทั่งจบปี 2023 โดยภารกิจของเขาคือการสารงานที่เริ่มไว้ด้วยตัวเองต่อให้จบนั่นคือ เอเชีย คัพ ยู20 ในวันที่ 1 มีนาคม รวมถึงศึก เอเชียน คัพ 2023 ที่เขาเป็นคนพาทีมเข้ารอบสุดท้ายได้ทั้งหมด ซึ่งมีการคาดกันว่าหลังจากจบภารกิจนี้ ชิน แท ยง จะพร้อมปล่อยทุกความวุ่นวายปานจับปูใส่กระด้ง
ไม่ว่าในรายการที่กล่าวมาข้างต้น ชิน แท ยง จะพา อินโดนีเซีย ไปถึงไหนก็ตม แต่ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่เขาเข้ามาทำงายภายใต้สภาวะที่มีปัญหาให้ต้องแก้ตลอด แต่ก็ยังทำ อินโดนีเซีย ขยับจากอันดับ 179 ขอโลกมาถึงอันดัที่ 151 ได้ แถมยังได้เข้าไปเล่นในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ ๆ แบบที่ทัพการูด้าไม่เคยสัมผัสมานาน นั่นก็สามารถบอกได้ในทางอ้อมว่ากุนซือชาวเกาหลีใต้คนนี้คือมืออาชีพ ที่รับงานแล้ว ลุยอย่างสุดความสามารถ ไม่ทิ้งงานกลางทางอย่างแท้จริง
แหล่งอ้างอิง :
https://football-tribe.com/asia/2020/06/20/shin-tae-yong-slams-the-pssi-in-interview/
https://voi.id/en/sports/1132/shin-tae-yongs-heavy-duty-in-the-indonesian-national-team
https://www.koreatimes.co.kr/www/sports/2021/10/613_251199.html
https://www.fourfourtwo.com/news/south-korea-have-a-one-cent-chance-against-germany-shin
ข่าวและบทความล่าสุด
RELATED BY AUTHOR