โทชิยะ มิอุระ : โค้ชทีมชาติชุดยู 20 คนใหม่ เข้ม,เก่งแค่ไหนและปั้นใครมาบ้าง ?

โทชิยะ มิอุระ : โค้ชทีมชาติชุดยู 20 คนใหม่ เข้ม,เก่งแค่ไหนและปั้นใครมาบ้าง ?
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

การเปลี่ยนแปลงสดๆ ร้อนๆ ในทีมชาติไทยชุดเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งเป็นแผนการร่วมกันพัฒนาของ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยตัดสินใจแยกทางกับ มิลอส เวเลบิต ผู้ฝึกสอนชาวเซอร์เบีย แล้วติดต่อให้ โทชิยะ มิอุระ เทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่น วัย 59 ปีเข้ามาสานงานต่อแทน

แผนงานนี้เป็นการเตรียมการเพื่ออนาคต สำหรับการไปลุยศึกฟุตบอลโลก ยู-20 ในปี 2025 ซึ่งจะเริ่มเดินงานด้วยการเฟ้นหา ดาวรุ่งอายุ 17 ปี ที่มีฝีเท้าโดดเด่นที่สุด มากินอยู่และฝึกซ้อมในแคมป์แบบมืออาชีฟ เป็นระยะเวลายาว 3 ปีด้วยกัน

แน่นอนว่า ปราสาทสายฟ้า เป็นสโมสรในศึก ไทย ลีก ที่มีผลผลิตนักเตะดาวรุ่งไทยจากอะคาเดมี่ของพวกเขา ป้อนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง มีการดูแลแบบเป็นขั้นเป็นตอน แล้วใช้เป็นแกรหลักล่าความสำเร็จหลายราย อาทิ เช่นสองพี่น้อง สุภโชค สารชาติ และ ศุภณัฐฏ์ เหมือนตา เป็นต้น

PHOTO : SBS

ทีมงานของ บุรีรัมย์ จะมีการคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนจะตัดสินใจปล่อยนักเตะของพวกเขา ออกไปค้าแข้งนอกประเทศ เช่นในเคสของ สุภโชค ที่เพิ่งจะไป เจ ลีก แบบถาวรหลังเพาะบ่มฝีเท้าในประเทศได้ที่แล้ว ส่วนทาง ศุภณัฐฏ์ ต้องรอเวลาที่เหมาะสมต่อไป

ดังนั้นการตัดสินใจครั้งสำคัญของพวกเขา ที่เลือกมอบหมายหน้าที่เฮดโค้ช ช้างศึกชุดเล็ก ให้กับ มิอุระ มาสานงานต่อในการลุยทัวร์นาเมนต์สำคัญครั้งนี้ ย่อมต้องเห็นศักยภาพบางอย่าง ที่มีเคมีตรงสเปคตามที่พวกเขาต้องการ ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นในระยะยาว

สาเหตุใดที่ มิอุระ เทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัย ได้มาอยู่ในตำแหน่งนี้ โปรไฟล์ที่ผ่านมาของเขานั้นมีีแค่ไหน? ร่วมหาคำตอบได้ใน Think Curve - คิดไซด์โค้ง

โปรไฟล์ที่ผ่านมา

เทรนเนอร์แดนอาทิตย์อุทัยอย่าง มิอุระ ถือไลเซนส์ระดับ ยูฟ่า โปร ไลเซนส์ ผ่านการอบรมระดับสูงจาก เจเอฟเอ ที่การันตีคุณภาพด้วย JFA S Licence ดังนั้นจึงสามารถคุมทีมได้ทุกทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ แบบไม่มีปัญหาใบรับรองไม่ถึงเกณฑ์แน่นอน

เส้นทางการคุมทีมของเขาครั้งแรก เปิดตัวแรงด้วยการรับงานในประเทศเยอรมันกับสโมสร บีวี 04 ดุสเซลดอร์ฟ ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีม ตั้งแต่ปี 1993 ก่อนจะขยับมารับงานเป็นโค้ชเยาวชนในปีต่อมา อยู่กับทีมยาวถึงฤดูกาล 1996/97

แน่นอนว่าการทำงานกับสโมสรในเยอรมัน ย่อมถ่ายทอดเรื่องวัฒนธรรมฟุตบอลที่มีระเบียบแบบแผน และความเป็นมืออาชีพให้กับเขาเป็นรากฐาน ยิ่งควบรวมเข้ากับพื้นเพเดิมที่เป็นคนญี่ปุ่นด้วยแล้ว เรื่องความมุ่งมั่นในการทำงาน ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นกังวล

หลังจากเก็บประสบการณ์ในเมืองเบียร์ประมาณสี่ปี มิอุระ ก็ตัดสินใจรับงานในบ้านเกิดกับสโมสร บรุมเมล เซนได คุมทีมอยู่ช่วงสั้นๆ ไม่ถึงครึ่งปี ก่อนจะขยับขยายไปอยู่กับ มิตะ ฮอลลี่ฮ็อค ทีมที่ใหญ่ขึ้นอีกระดับประมาณหนึ่งปี

พอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มากพอควร โอมิย่า อาร์ดิย่า ก็ติดต่อให้เขาไปรับงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม ก่อนจะได้เลื่อนขั้นคุมทีมเต็มตัวในปี 2000 มีแยกทางกันไปช่วงสั้นๆ แล้วก็รีเทิร์นกลับมาอยู่กับทีมในปี 2004 พาทีมไปไกลถึงตำแหน่งรองแชมป์ เจ ทู ในปี 2004 อยู่ยาวกับทีมจนถึงปี 2007

ผลงานของ มิอุระ กับ โอมิย่า ไปเตะตาสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เข้าอย่างจัง จนมีการพูดคุยดึงตัวไปคุมทีม แล้วก็ประสบความสำเร็จตั้งแต่ฤดูกาลแรก ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ เจ ทู ได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดในเวลาต่อมา

ต่อจากนั้นก็ขยับขยายไปอยู่กับทีมที่ใหญ่ขึ้นอย่าง วิสเซล โกเบ แต่ไม่ประสบความสำเร็จากเท่าไหร่นัก เลยลดระดับไปคุมทัพ เวนโฟเร่ต์ โคฟุ เป็นช่วงเวลาสั้นๆ 6 เดือน

PHOTO : HLV

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของ มิอุระ ทำให้ ทีมชาติเวียดนาม สนใจที่จะลองใช้บริการคุมทีมของเขา แล้วเมื่อพูดคุยกันลงตัว เลยได้ร่วมงานกันในปี 2014 รับหน้าเสื่อคุมทั้งทีมชาติชุดใหญ่ และชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ซึ่งเขาได้กล่าวเกี่ยวกับความท้าทายใหม่เอาไว้ว่า

“ผมรู้สึกแฮปปี้เอามากๆ และเชื่อว่าการรับงานคุมทีมแต่ละครั้ง มันจะช่วยพัฒนาองค์ความรู้ของผมได้ เช่นเดียวกับครั้งนี้ ที่จะได้ศึกษาผู้เล่นใน วี-ลีก, การทำงานของสโมสรต่างๆ รวมไปถึงวัฒนธรรม การใช้ชีวิตของคนที่นี่ด้วยเช่นกัน”

“ผมเป็นคนที่ต้องการเอาชนะอยู่เสมอ และต้องการสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับทีม”

แม้ว่าผลงานของเขากับ ทีมชาติเวียดนาม เกือบสองปี จะไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใดๆ มาครองได้เลย แต่อย่างน้อยก็จบในตำแหน่งที่สามได้สองรายการ คือ เอเอฟเอฟ ชิงแชมป์อาเซียน ในปี 2014 และ เหรียญทองแดงศึก ซีเกมส์ 2015

ผลงานการปั้น

การทำงานของ มิอุระ เปิดกว้างให้กับผู้เล่นดาวรุ่งอยู่เสมอ วัดกันที่ฝีเท้าล้วนๆ หากมีของก็พร้อมจะผลักดันให้สุดทาง เป็นคาแรกเตอร์ของเขาตั้งแต่อยู่กับ โอมิย่า อาร์ดิย่า ทั้งสองรอบ

ในปี 2001 เขาไว้ใจใช้งาน บาเร่ กองหน้าชาวบราซิล ซึ่งตอนนั้นอายุแค่เพียง 18 ปี เป็นขุนพลตัวหลักให้กับทีม ลงสนามรวมๆ ในฤดูกาลดังกล่าวไปมากถึง 30 เกม แล้วตัวนักเตะก็ตอบแทนความไว้วางใจ ด้วยการยิงไปถึง 13 ลูก

Photo : Kyodo News

แถมในช่วงเวลานั้นยังค้นพบเพชรเม็ดงามอย่าง เอย์อิจิ คาวาชิมะ ผู้รักษาประตูวัยเพียงแค่ 17 ปี ซึ่งถูกดึงตัวเข้ามาร่วมทีมแบบฟรีๆ แล้วสามารถพัฒนาฝีมือไปไกลถึงระดับเป็นมือหนึ่งทีมชาติญี่ปุ่น

คาวาชิมะ ติดธงไปแล้วถึง 95 นัด โดดเด่นถึงขนาดได้ย้ายออกไปค้าแข้งนอกประเทศกับหลายสโมสร อาทิ สตองดาร์ด ลีแอช, ดันดี ยูไนเต็ด, เม็ตซ์ และทีมปัจจุบันอย่าง สตราส์บูร์ก ในศึก ลีก เอิง ประเทศฝรั่งเศส

ลีลาของ คาวาชิมะ สมัยค้าแข้งในฝรั่งเศส

พอมาอยู่กับ ซัปโปโร ในปี 2007 มิอุระ ก็ค้นพบดาวรุ่งฝีเท้าดีในตำแหน่งแบ็คขวาอย่าง ไดโกะ นิชิ ในวัยเพียงแค่ 18 ปี ที่ฤดูกาลแรกอาจได้เล่นเพียง 5 นัด แต่ก็ยิงให้กับทีมไปได้หนึ่งลูก

ปีต่อมาเมื่อต้นสังกัดได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด นิชิ ก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้สำเร็จ ได้ลงสนามรวมทุกรายการไปถึง 34 นัด ยิงได้ 3 ประตู แถมยังเคยก้าวขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่มาแล้ว 2 นัด

พอย้ายมาอยู่กับ เวนโฟเร่ต์ โคฟุ ก็มีส่วนร่วมช่วยกันปั้น ไมค์ ฮาเวนาร์ ดาวยิงลูกครึ่ง ยิงระเบิด 18 ประตู กับทำไปอีก 3 แอสซิสต์รวมทุกรายการ จนได้ย้ายไปเล่นในลีกฮอลแลนด์ กับสโมสร วิเทสส์ อาร์เนม

ยิ่งไปกว่านั้นพอได้คุม ทีมชาติเวียดนาม ก็เจอกับกองหลังดาวรุ่งฝีเท้าดีอย่าง เกว งอก ไห่ ที่เล่นได้อย่างดุดันไม่เกรงใจใคร ตั้งแต่อายุ 21 ปี แล้วกลายมาเป็นตัวหลักของทีมชาตินับมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยการติดธงไปแล้วถึง 53 นัด ซึ่งทาง มิอุระ เคยกล่าวถึงการทำงานของเขาเอาไว้ว่า

“ในฐานะโค้ชทีมชาติเวียดนาม ผมจะต้องพิจารณากลุ่มผู้เล่นที่เข้าข่ายติดทีมชาติให้มากเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นชุดใหญ่หรือชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี”

“ดังนั้นการมีผู้เล่นฝีเท้าดีใน วี-ลีก จำนวนมากในขณะนี้ แต่ละทีมแข่งขันกันเพื่อชัยชนะ มันจะช่วยให้ผมตามหากลุ่มผู้เล่นที่ดีที่สุดได้ เพื่อเตรียมการในการสู้ศึกของทีมชาติทั้งสองชุด”

ถึงแม้ว่าจะถูกตัดเกรดแล้วไม่ผ่าน แต่ประสบการณ์อันโชกโชนของ มิอุระ ยังคงขายได้เสมอ จึงถูกทาง เอฟซี กิฟุ ทีมในศึก เจ ทรี ดึงตัวไปนั่งแท่นประธานเทคนิค ดูแลพัฒนาและคุมทีมเป็นช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะตอบรับข้อเสนอจากประเทศไทย

ความคุ้นเคยกับทีมชาติไทย

ในระหว่างที่ มิอุระ รับงานคุมทีมชาติเวียดนาม คู่แข่งสำคัญของเขาบนภูมิภาคอาเซียน ที่เป็นศัตรูเบอร์หนึ่งที่เขาต้องล้มให้ได้ ย่อมหนีไม่พ้น ทัพช้างศึก ที่มีทาง ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุมบังเหียนอยู่ในช่วงนั้น

ทีมชาติไทย ช่วงเวลาดังกล่าว ขึ้นชื่อเรื่องการต่อบอล ทำเกมบุกได้ไหลลื่นสวยงาม เล่นเกมรุกได้ดุดันเร้าใจ ทำให้ทาง มิอุระ เจอกับศึกหนัก ต้องพยายามปรับเปลี่ยนแทคติกส์ในการเล่นให้กับ เวียดนาม

ด้วยการลองตั้งแต่รับแล้วสวนกลับ จนมาถึงการเปิดหน้าแลก ซึ่งจบลงด้วยการพ่ายคาบ้านย่อยยับ 0-3 ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่แข่งขันกันในเดือนตุลาคม ปี 2015 ซึ่งเจ้าตัวออกมาให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า

"ผมยอมรับตามตรงว่า ผมผิดหวังมากกับผลการแข่งขันที่ออกมา ทั้งที่ครึ่งแรกเราเล่นได้ดีอยู่นะ แต่พอเสียประตูแรกทุกอย่างก็กลับตาลปัตรไปหมด"

"ทีมชาติไทย เป็นคู่แข่งที่เล่นด้วยได้ยากมาก และพวกเขามีตัวผู้เล่นที่สร้างสรรค์เกมได้เหลายคน แล้วพอเราพลาดท่าเสียประตู ทุกคนก็ดูลนลานไปหมด จากนั้นเราก็ไม่ได้เล่นตามแผนที่วางกันมาเลย"

"มาถึงตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่าชั่วโมงนี้ไทยดีกว่าเรามากจริง ๆ และผมเองก็ไม่รู้ว่าเวียดนามจะตามไทยทันได้เมื่อไหร่"

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อโดนสื่อและแฟนบอลในประเทศเวียดนาม โจมตีอย่างหนัก มิอุระ ก็ตัดสินใจโพสต์ข้อความสื่อในเชิงอำลาทีมบน เฟสบุ๊ค ไว้ดังนี้

“ผมต้องขอโทษทุกคนจากใจจริง กับผลการแข่งขันที่สร้างความเจ็บปวดในครั้งนี้ ทีมชาติไทย เป็นทีมที่แข็งแกร่ง เกมนี้เราอ่อนแอกว่าพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด”

PHOTO : Mthai

“ผมจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเราอย่างที่เห็น แถมแฟนบอลก็ยังไม่หันมาสนับสนุนพวกเราอีก”

“ขอบคุณครับ หลังจากนี้ผมอาจจะไม่ได้ทำทีมต่อไปอีกแล้ว แต่ผมมีความสุขมากๆ กับช่วงเวลาที่ผ่านมา ขอบคุณมากจริงๆ ลาก่อน”

จากบทเรียนที่ผ่านมา มิอุระ คงได้รับประสบการณ์อันยากจะลืมเลือนไปแล้ว กับการคุมทีมในระดับอาเซียน แล้วไม่ประสบความสำเร็จ จนโดนแฟนบอลและสื่อจาก เวียดนาม ถล่มจนยับเยินไม่มีชิ้นดี

ซึ่งการตกลงตอบรับการร่วมงานกับ ทีมชาติไทย ครั้งนี้ เขาคงพอจะรู้แล้วว่า แฟนบอลไทย ต้องการอะไรจากเขาบ้าง เพราะถ้าเสพสื่อโลกออนไลน์อยู่เป็นประจำ คงทราบดีว่าแฟนบอลบ้านเรานั้นดุดันไม่แพ้ชาติไหนจริงๆ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง :

ย้อนหาคำตอบปรัชญาฟุตบอลของ ฟรอนตาเล่ จริง ๆ สไตล์ไหนทำไมขัดชนาธิป ?

เคียวโกะ ฟูรุฮาชิ : กองหน้าตัวเป้าที่สูงแค่ 170 ซม. กับวิธีการเล่นที่แข้งไทยควรศึกษา

คอมเม้นต์แฟนญี่ปุ่นถึง ‘สุภโชค’ ดีไม่ดี ? หลังประเดิมตัวจริงคอนซาโดเลนัดแรก



แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https://www.transfermarkt.my/vietnam/kader/verein/8778/plus/1/galerie/0?saison_id=2014

https://en.wikipedia.org/wiki/2014_AFF_Championship_squads

https://en.wikipedia.org/wiki/Toshiya_Miura

https://en.nhandan.vn/v-league-2015-is-on-interesting-run-toshiya-miura-post30249.html

https://www.bangkokpost.com/sports/728276/thailand-down-vietnam-in-world-cup-qualifier

https://www.transfermarkt.com/toshiya-miura/profil/trainer/7581

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ