สัมผัสได้ ยังไงก็แชมป์ : ค่ำคืนก่อนนัดชิงชนะเลิศบอลโลก 2002 ของ บราซิล ที่โลกไม่รู้

สัมผัสได้ ยังไงก็แชมป์ : ค่ำคืนก่อนนัดชิงชนะเลิศบอลโลก 2002 ของ บราซิล ที่โลกไม่รู้
ชยันธร ใจมูล

"นี่คือเรื่องราวของทีมที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้ชนะ ... ผมจะเล่าให้ฟัง" โรแบร์โต้ คาร์ลอส แบ็คซ้ายทีมชาติบราซิลชุดแชมป์โลกปี 2002 กล่าวเริ่มในสารคดีเรื่อง  'Brazil 2002: The Real Story'

ในค่ำคืนก่อนชิงแชมป์โลกที่นักเตะส่วนใหญ่ จากชาติต่าง ๆ ต้องนอนคิดถึงเรื่องของวันพรุ่งนี้ พวกเขากระสับกระส่าย ตื่นเต้น หลับไม่ลง ... แต่ไม่ใช่กับ บราซิลชุดนั้น

พวกเขาจัดปาร์ตี้กันเล็ก ๆ นั่งคุยกัน และลุกลามไปถึงขั้นแข่งพัตต์กอล์ฟ ... นี่คือเรื่องราวเบื้องลึกในแคมป์ทีมชาติบราซิลก่อนพวกเขาจะลงเล่นกับ เยอรมัน ในนัดชิงชนะเลิศ

ติดตามที่ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ผู้ทำลายความคลาสสิก : เมื่อ เอ็มบัปเป้ กำลังไล่เก็บรอยเท้าตำนาน ‘โรนัลโด้ R9’ | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
Think Curve - คิดไซด์โค้ง จะรวบรวมข้อมูลของ เอ็มบัปเป้ และจากปากคำของเหล่านักเตะดังที่เคยรับมือกับเขา รวมถึงนักเตะที่เคยรับมือกับ R9 และหาความน่าจะเป็นว่า...”เอ็มบัปเป้ จะไปถึงระดับของ โรนัลโด้ ได้หรือไม่ ?” ติดตามที่นี่


เคยเครียดมาเเล้ว...ไม่เวิร์ก

บราซิล คือชาติที่ผ่านเข้าชิงฟุตบอลโลกมากครั้งที่สุด พวกเขาเข้าชิงมาแล้วทั้งหมด 6 ครั้ง และได้แชมป์ไปทั้งหมดถึง 5 สมัย  

1 ครั้งที่พลาดคือในปี 1998 ที่พวกเขาแพ้ให้กับ ฝรั่งเศส แบบหมดรูปเสียทรง บราซิล ด้วยสกอร์ 0-3 ... ว่ากันว่าการแพ้ครั้งนั้นเกิดจากความรู้สึกที่ตึงเครียดเกินไป ผิดธรรมชาติของชาวบราซิเลี่ยน ... และเรื่องนี้มันเริ่มตั้งแต่ค่ำคืนก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศจะเริ่มขึ้น

ณ ตอนนั้นผู้เล่นบราซิลทุกคนเชื่อมั่นในความมหัศจรรย์ของ "นักเตะที่ไม่มีใครหยุดได้" อย่าง โรนัลโด้ นาซาริโอ หรือ R9 ... ไม่มีใครเถียงในแง่ของผลงานและผลลัพธ์ เพราะ โรนัลโด้ เองก็มีส่วนอย่างมากที่แบกทีมมาจนถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ในทางตรงกันข้ามคือทุกคนในทีมหวังกับเขาไว้สูงขนาดนั้น และพวกเขาไม่เคยเตรียมใจไว้เลยว่าถ้าไม่มี โรนัลโด้ จะทำยังไง ?

และสิ่งที่ทุกคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นก็เกิดจริง โรนัลโด้ เกิดอาการป่วยในคืนก่อนเเข่ง เขามีอาการคล้ายลมชักและท้องเสีย ว่ากันว่าเขาได้กินยาที่เรียกว่า "ยาเม็ดสีฟ้า" ซึ่งเป็นยาบรรเทาอาการปวดกับ โรนัลโด้ มันทำให้เขาหายปวดท้องก็จริงแต่ผลข้างเคียงคือทำให้เขาง่วงซึมจนทำให้เขาไม่ตื่นตัวจนเล่นไม่ออกในเกมนัดชิงชนะเลิศกับฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังเกิดทฤษฎีต่าง ๆ มากมาย

ที่สุดแล้ว บราซิล ก็ลงเล่นเกมนัดชิงฟุตบอลโลก 1998 ด้วยสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ โรนัลโด้ โดนจัดการจนเล่นไม่ออก นักเตะคนอื่นไม่สามารถก้าวขึ้นมาทดแทนได้ในวันที่เขามีสภาพร่างกายไม่พร้อม ... ฝรั่งเศส ปูพรมใส่จนจบเกม และชนะ บราซิล ไปแบบหมดทางสู้

Photo : PLO

เซซาร์ ซัมปาโญ กองกลางทีมชาติบราซิลชุดฟุตบอลโลกปี 1998 บอกเล่าเรื่องราวของสภาพจิตใจนักเตะบราซิลชุดนั้นว่า การที่เห็นโรนัลโด้ต้องเข้าโรงพยาบาลก่อนวันเเข่ง ทำเอานักเตะในแคมป์ของบราซิลนอนไม่หลับ

พวกเขากังวลตั้งแต่เกมยังไม่เริ่ม และสุดท้ายก็กลายเป็นการโดนต้อนแบบสู้ไม่ได้ บราซิล ไม่มีความอันตรายเลยในเกมนัดชิงชนะเลิศนัดนั้น พวกเขาบุกไม่ได้ เล่นไม่ออก ผิดธรรมชาติการเล่นแบบแซมบ้าสไตล์ ที่ใช้ความสนุก ผสมกับคุณภาพ เพื่อสร้างผลการแข่งขันที่ดี

นั่นคือเรื่องราวความเครียดในแคมป์เมื่อปี 1998… และ 4 ปีต่อมา ในฟุตบอลโลกปี 2002 พวกเขาเข้าชิงอีกครั้งแต่บรรยากาศในเกมก่อนนัดชิงชนะเลิศเปลี่ยนไปจากปี 1998 อย่างสิ้นเชิง

สโลคารี แฟมิลี่

ทีมชาติบราซิลชุดปี 2002 นำทัพโดย "บิ๊กฟิล" หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี โดยตัวของเขานั้นเชื่อมั่นในการสร้างทีมให้เป็นหนึ่ง สโคลารี ทดลองผู้เล่นมากมายหลายคน ผ่านวิธีการคัดเลือกว่านักเตะคนนั้น ๆ ต้องตอบโจทย์ต่อ แท็คติก,ทัศนคติ และ ความหลากหลายในการใช้งาน

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงได้เห็นนักเตะบราซิลที่เล่นในลีกประเทศตัวเองหลายคนในฟุตบอลโลก 2002 (มีนักเตะเล่นในประเทศทั้งหมด 13 คน)

ส่วนเรื่องแท็คติก สโคลารี ทำให้ทีมมีความสมดุลมากขึ้น เขารู้ว่าแบ็คอย่าง โรแบร์โต้ คาร์ลอส และ คาฟู ชอบเล่นเกมบุก เขาก็ใส่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เพิ่มขึ้นมาเป็น 3 ตัวได่แก่ ลูซิโอ, เอ็ดมิลสัน และ โรเก้ จูเนียร์   ส่วนกองกลางก็วางตัวตัดเกมลงพร้อมกัน 2 คนไปเลยทั้ง จิลแบร์โต้ ซิลวา และ เคลแบร์สัน ด้านตัวเลือกในเเดนหน้านั้นหลากหลายมาก ๆ จากปี 1998 ที่ โรนัลโด้ แบกอยู่คนเดียวหนนี้ ริวัลโด้ และ โรนัลดินโญ่ เข้ามาขนาบข้าง และกลายเป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้ บราซิล ชุดนี้ ทั้งเหนียวในเกมรับ ทั้งร้อนแรงในเกมรุก

Photo : Bleacher Report

จิลแบร์โต้ ซิลวา เผยถึงหลักใหญ่ใจความของทีมชุดนั้นคือเชื่อมั่นในกันและกัน ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเอง และเล่นฟุตบอลให้สนุก ... ซึ่งนี่คือการสรุปความถึงทีมชาติชุดบราซิลปี 2002 ได้อย่างดี

พวกเขาผ่านคู่แข่งในรอบต่าง ๆ เข้ามาแบบไม่ยากเย็นนัก นักเตะแต่ละคนพร้อมใจพีก อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะ 3 R อย่าง โรนัลโด้ โรนัลดิญโญ่ และ ริวัลโด้ ที่ได้รับคำชมและคำชกย่องเป็นทริโอที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลแห่งฟุตบอลโลกเลยทีเดียว

เมื่อทุกอย่างลงตัว สภาพติใจในทีมก็ผ่อนคลาย ... ทีมชาติบราซิล ชนะ ตุรกี ในรอบ 4 ทีมสุดท้าย และในคืนก่อนเข้าชิงชนะเลิศกับ เยอรมัน พวกเขาก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขามั่นใจแค่ไหนว่าตัวเองจะเป็นผู้ชนะ

สนุกไว้เดี๋ยวดีเอง

สโคลารี เล่าให้สื่อฟังว่าตัวของเขากำลังจะเข้านอนอก่อนวันเเข่งนัดชิงชนะเลิศ แต่เขาก็กังวลว่าลูกทีมจะกดดันกันจนเกินไป เพราะเห็นแสงไฟที่เปิดอยู่ในห้องโถง ที่เป็นห้องรวมทีมทำกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ ... เขาคิดว่าลูกทีมเครียดจนนอนไม่หลับ จนกระทั่งเขาเปิดประตูเข้าไปเท่านั้นแหละ ความจริงก็ปรากฎ

"ขณะที่ผมกังวลว่าพวกเขากำลังเครียดก่อนเกมมาถึง พวกเขากลับออกมาจากห้องพัก เเข่งกันพัตต์กอล์ฟ บางคนก็ตั้งวงนั่งคุยกันบนโซฟาด้วยท่าทีที่สบาย ๆ พวกเขายิ้มแย้ม และผมคิดวาพวกเขาพร้อมสำหรับการแข่งขันเต็มที่เเล้วจริง ๆ" สโคลารี เล่าผ่าน Sky documentary Brazil 2002: The Real Story

Photo : FIFA

"ใช่แล้วล่ะ พวกเราไม่เคยกังวลเลย” คาร์ลอสกล่าวเสริม "ทีมชุดปี 2002 ของเราแข็งแกร่งมากกว่าในปี 1998 ผมตอบคำถามนี้เหมือนเดิมตลอดเวลา การเตรียมตัวและสิ่งที่เราทำในปี 1998 ยังเหมือนเดิมทุกประการ... แต่ในปี 2002 ทุกอย่างยอดเยี่ยมมาก!"

เรื่องนี้เริ่มต้นจาก "บิ๊กบอส" ของทีมอย่าง สโคลารี่ ที่เป็นคนที่รวมทีมได้จนติด เข้าหานักเตะทุกคน และเป็นนักสร้างบรรยากาศแง่บวกตัวยง ซึ่งสิ่งนี้แสดงผลบวกอย่างมากเมื่อเอามาใช้กับแข้งบราซิล ที่มี DNA เรื่องความสุขและความสนุกสนานเป็นจุดเด่น

จิลแบร์โต้ ซิลวา เสริมเรื่อง สโคลารี ว่า "เขาเป็นแกนนำที่สร้างบรรยากาศ ข้อดีอย่างหนึ่งที่เขาทำคือไม่รบกวนและยัดเยียดวิธีการของตัวเองให้กับผู้เล่นมากนัก

"บางครั้งผู้จัดการทีมอาจเก่งมากในแง่ของแท็คติกและกลยุทธ์ แต่ถ้าคุณต้องการสอน โรแบร์โต้หรือโรนัลโด้ให้เล่นฟุตบอล มันต้องเป็นอีกแบบหนึ่ง พวกเขาคืออัจริยะที่รู้ทุกอย่างในเกมอยู่แล้ว  - ดังนั้นมันจึงเป็นการสอนแบบ เอาเลย! แค่เกาะตามแท็คติกไว้หลัก ๆ และถ้าแท็คติกมีปัญหาพวกคุณก็น่าจะรู้วิธีแก้ปัญหานั้นดีอยู่เเล้ว"

บิ๊กฟิล เป็นแบบนั้นจริง ๆ ในการประชุมทีมก่อนวันเเข่งขันจริงเขาแทบไม่สอนอะไรนักเตะบราซิลเพิ่มเติมเลย เขาเปิดวีดีโอที่บันทึกภาพการเชียร์ฟุตบอลตามที่ต่าง ๆ ในประเทศ บราซิล โดยภาพที่นักเตะบราซิลฮึกเหิมที่สุดคือภาพของชนเผ่าในป่าอเมซอน ที่พยายามต่อโทรทัศน์เพื่อชมบราซิลแข่งในฟุตบอลโลก 2002 แม้ไฟฟ้าจะไม่พอใช้ ทำให้จอติด ๆ ดับ ๆ ตลอดเวลาก็ตาม

Photo : The Guardian

"สำหรับเรา วีดีโอนั้นทำให้น้ำตารื้นขึ้นมาเลย พวกเขาดูทีวีทั้ง ๆ ที่มันติด ๆ ดับ ๆ พอภาพมาพวกเขาก็เฮกันลั่นป่า สิ่งนี้ทำให้พวกเรารู้สึกภาคภูมิใจถึงจุดที่พวกเรายืนอยู่นี้ .. มันทำให้เรารู้ว่ามีคนอีกมากที่รอคอยดูพวกเราแข่ง และสนับสนุนพวกเราอย่างสุดชีวิต" จิลแบร์โต้ ซิลวา กล่าวกับ The Mirror และสุดท้าย บราซิล ก็คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 มาครอง ด้วยการเอาชนะเยอรมัน ด้วยวิธีการเล่นที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

สิ่งทีเกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าทัศนคติ ความคิด และการทำสิ่งทำอยู่ด้วยความสุข สำคัญมาก ๆ ในเกมฟุตบอลที่มีความเข้มข้นและสูสีอย่างฟุตบอลโลก ... ทีมไหนผ่อนคลายและมั่นใจ ทีมนั้นมีโอกาสเป็นผู้ชนะมากกว่าเสมอ นี่คือสิ่งที่แชมป์โลก 5 สมัยสอนให้เรารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้

https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/ronaldo-world-cup-2022-brazil-28504473

https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-10972679/Brazils-2002-World-Cup-winning-team-reunited-now.html

https://sportsbrief.com/football/barcelona/19283-brazil-legend-ronaldinho-celebrates-twentieth-anniversary-2002-world-cup-final-victory-over-germany/

https://www.theguardian.com/football/2002/jun/29/worldcupfootball2002.sport3

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

MOST POPULAR

สนใจโฆษณาติดต่อ