วิลเลี่ยน พ๊อพพ์ : การกลับมา “เมืองทอง” เพื่อยืนยันว่าแข้งนอกที่เข้าขาหาใหม่ไม่ง่าย

วิลเลี่ยน พ๊อพพ์ : การกลับมา “เมืองทอง” เพื่อยืนยันว่าแข้งนอกที่เข้าขาหาใหม่ไม่ง่าย
ชยันธร ใจมูล

วิลเลี่ยน พ๊อพพ์ ดาวยิงชาวบราซิลกลับมาลงเล่นให้กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด อีกครั้งในช่วงศึกไทยลีก 2022-23 เลกที่ 2  ซึ่งตอนนี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าเขาสำคัญกับทัพกิเลนผยองอย่างไร

นี่คือเรื่องราวและวิธีการเล่นของ วิลเลี่ยน พ๊อพพ์ ที่ทำให้ทุกคนในทีม เมืองทอง เฝ้ารอการกลับมาของเขา เขาเล่นแบบไหน ทำไมเพื่อนร่วมทีมจึงชอบนักชอบหนา ? ติดตามที่นี่

นักเตะต่างชาติทุกคนต้องใช้เวลา

น้อยมากที่นักเตะต่างชาติจะย้ายเข้ามาค้าแข้งในไทยลีกแล้วติดเครื่องโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงทันที ไม่ว่าดีกรีจะดีแค่ไหน เรื่องการปรับตัวนั้นยังคงเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะนักเตะที่ขาดแมตช์ฟิตมานาน ๆ ยิ่งเห็นผลชัดมากขึ้น

โดยนักเตะที่ที่ขาดเกมนาน ๆ หลาย ๆ คนก็น่าจะเป็นที่สังเกตุเห็นของแฟนฟุตบอลไทยมาโดยตลอด เพราะต้องยอมรับว่าไม่มีนักเตะต่างชาติที่ฟอร์มกำลังพีกคนไหนปักหมุดมาค้าแข้งในเมืองไทยเป็นอันดับแรกแน่นอน

สโมสรไทยจึงมักจะได้นักเตะที่อยู่ในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไปเป็นส่วนใหญ่ และบางคนก็ไม่ได้อยู่ในช่วงฟอร์มที่ดีที่สุดของอาชีพ แน่นอนว่าบางคนถึงกับขาดเกมการแข่งขันไปหลายเดือนเลยก็มี ยกตัวอย่างง่าย ๆ เห็นภาพชัดคือ จูเนียร์ เนเกรา ที่ย้ายมาเล่นให้กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในช่วงปี 2016

โดยในเวลานั้น เนเกรา ไม่มีเกมเล่นเลยมานาน แต่เมืองทองก็ส่งเขาลงสนามทันที จนที่สุดเเล้วเขาก็ไม่สามารถเรียกฟิตทัน จนฟอร์มย่ำแย่โดนแฟน ๆ ตีตราว่าของปลอม ก่อนเจ้าตัวจะพิสูจน์ตัวเองได้หลังถูกปล่อยให้พัทยา ยูไนเต็ด ยืมตัวไปใช้งาน ซึ่งเป็นช่วงที่เจ้าตัวเรียกฟิตเต็มถังและจบฤดูกาลด้วยการยิง 20 ประตูจาก 29 จนได้ไปค้าแข้งในลีกสูงสุดของเกาหลีใต้ในเวลาต่อมา

Photo : Goal

เรื่องการปรับตัวนี้ "โค้ชอ๊อตโต้" พันธ์นารายณ์ พันธุ์ศิริ เคยเขียนบทความให้กับทาง Think Curve - คิดไซด์โค้งว่า

"ถ้าหากนักกีฬาไม่ได้มีทีมในการลงเล่นในช่วงเลกแรก กรณีนี้จะใช้เวลาปรับตัวนานที่สุด เพราะต้องให้นักกีฬาเริ่มเตรียมร่างกายด้วยการนับ 1 ใหม่เลย"

"ต้องใช้เวลาในการเริ่มฝึกซ้อมสมรรถภาพเรื่องต่างๆ และต้องให้นักกีฬาค่อยๆมีเกมอุ่นเครื่องอยู่ทุกๆสัปดาห์ หรือลงไปเล่นเกมอุ่นเครื่องพร้อมกับผู้เล่นชุดเยาวชน เพื่อปรับความคุ้นชินกับแทคติก ซึ่งในกรณีนี้อาจจะต้องใช้เวลามากถึง 8-21สัปดาห์เลยทีเดียว" โค้ชอ็อตโต้ เขียนในบทความ

กลับมาที่เรื่องของ วิลเลี่ยน พ๊อพพ์ ในช่วงแรก ๆ เจ้าตัวก็มีปัญหาเรื่องความฟิตเหมือนเพราะในตอนที่ย้ายมาเล่นให้กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในไทยลีก 2020 เขาไม่ได้ลงเล่นใน 4 เกมแรกของฤดูกาล และพอได้ลงในเกมที่ 5 และ 6 กับ สุโขทัย และ สมุทรปราการ ตามลำดับ เขาไม่สามารถยิงประตู หรือจ่ายบอล แม้กระทั่งการสร้างความแตกต่างให้ในฐานะโควต้าต่างชาติได้ ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็ต้องถูกวิจารณ์ผลงานไปตามระเบียบ

Photo : Goal

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป พ๊อพพ์ เริ่มปรับตัวเข้ากับระบบการเล่น โดยเฉพาะในยุคของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ได้ และเริ่มรู้จักมักคุ้นกับนิสัยใจคอเพื่อนร่วมทีมได้ เขาก็กลายเป็นตัวหลักของทีม และเป็นขวัญใจของแฟนบอลในทันที

ระบบที่รอคนอย่างเขา

นับตั้งแต่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ เข้ามาคุมทีมเมืองทอง วิลเลี่ยน พ๊อพพ์ ถือเป็นนักเตะเกมรุกที่อันตรายที่สุดในทีมมาโดยตลอด ฤดูกาล 2020 พ๊อพพ์ ยิงไป 12 ลูกในไทยลีก ในฤดูกาล 2021-22 พ๊อพพ์ ยิงบวกเพิ่มอีก 15 ประตู แน่นอนว่าในเลกแรกของซีซั่นนี้การขาด พ๊อพพ์ ไปส่งผลต่อเกมรุกของเมืองทองหนักมาก โดยในเลกแรก 15 เกม เมืองทอง ยิงประตูได้แค่ 23 ลูกเท่านั้น และนักเตะที่ยิงได้มากที่สุดในทีมคือ ซาดอร์ มีร์ซาเยฟ ที่ยิงไปแค่ 4 ประตู

การขาด พ๊อพพ์ ไม่ได้เสียหายแค่เรื่องการทำประตูที่หายไปเท่านั้น แต่มันคือภาพรวมเกมรุกของทีมทั้งหมด ทีมงานคิดไซด์โค้งได้ต่อสายถึง มาริโอ ยูรอฟสกี้ หลังจากที่ พ๊อพพ์ ลงเล่นเกมแรกในเลกสองกับ ลำปาง เอฟซี ก่อนยิงได้ 2 ประตู โดยกุนซือทัพกิเลนผยองยังยืนยันด้วยตัวเองว่า "พ๊อพพ์ คือนักเตะที่ทีมเฝ้ารอ"

Photo : Goal

"เราใช้ระบบการเล่นแบบเดียวกับในปีที่เเล้ว ดังนั้นเมื่อได้ พ๊อพพ์ เข้ามาจึงเป็นเหมือนการใส่จิ๊กซอว์ที่ใช้งานได้ทันที ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ผลงานแต่ แต่การมี พ๊อพพ์ เข้ามายังช่วยเรื่องการเล่นในพื้นที่สุดท้าย เขาเป็นนักเตะที่ขยับตัวเยอะ หาพื้นที่เเละเล่นร่วมกับคนอื่นเก่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมขาดไปในเลกแรก" มาริโอ กล่าว

"คุณจะเห็นได้ว่าในช่วงเลกแรก นักเตะเกมรุกของเราฟอร์มไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะ ซาดอร์ มีร์ซาเยฟ ที่ถือว่าเล่นเข้าขารู้ใจกับ พ๊อพพ์ นั้นก็ฟอร์มตกลงไป เพราะขาดคนที่ร่วมเล่นด้วยแบบนี้"

สิ่งที่ มาริโอ บอกน่าจะทำให้ทุกคนเห็นภาพชัดขึ้น เพราะ พ๊อพพ์ ไม่ใช่กองหน้าเบอร์ 9 ที่เข้าไปปักเล่นในเขตโทษเพียงอย่างเดียว จังหวะการทำชิ่งกับเพื่อนร่วมทีม หรือการเอาตัวรอดในที่เเคบ ๆ ถือว่าเป็นจุดเด่นของเขา เหนือสิ่งอื่นใดคือการอยู่ถูกที่ถูกเวลาซึ่งเป็นทักษะที่สอนกันไม่ได้ คุณสมบัติของ พ๊อพพ์ ตอบโจทย์กับแท็คติกของมาริโอเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม เมืองทอง ต้องไปคว้าตัวเขากลับมาจาก ชาเปโคเอนเซ ในช่วงเลก 2 นี้

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
The NEXT COACH : นักเตะที่ย้ายทีมในตลาดเลก 2 ต้องปรับตัวอย่างไรบ้าง? | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
Think Curve - คิดไซด์โค้ง พูดถึงเดือนมกราคม อีกหนึ่งสิ่งที่แฟนบอลอย่างเราๆนึกถึง คงจะเป็นความสนุกของการติดตามข่าวการย้ายทีมของนักเตะในช่วงที่ตลาดซื้อ-ขายนักเตะกำลังเปิด ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปลายธันวาคม จนถึงสิ้นสุดปลายเดือนมกราคม

สิ่งที่ยืนยันได้ชัด ๆ อีกอย่างก็คือคำพูดของ มีร์ซาเยฟ ที่ยอมรับว่าเขามีความสุขมาก ๆ ที่ พ๊อพพ์ กลับมาเล่นให้เมืองทองอีกครั้ง

"ผมดีใจมากที่ พ๊อพพ์ กลับมาอีกครั้ง เขาเป็นนักเตะที่มีคุณภาพคับแก้วอยู่แล้ว เขาเล่นกับเรามาก่อน เขารู้จักสภาพแวดล้อมของทีมเป็นอย่างดี"

"2 เดือนที่ผ่านมาเราก็ฝึกซ้อมร่วมกันอย่างหนัก ซึ่งเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก เรามีเป้าหมายเหมือนกันนั่นคือการทำเต็มที่เพื่อผลงานและวิธีการเล่นที่ดีขึ้น ... เราอยากจะทำให้ดีขึ้นในเลกที่ 2 ไม่ว่าจะในฟุตบอลลีกหรือฟุตบอลถ้วย เราร่วมกันพยายามให้ถึงที่สุด"

มากกว่าเพื่อนร่วมทีม

นอกจากการกลับมาเล่นกับระบบที่ลงตัวและตอบโจทย์กับวิธีการใช้งานของโค้ชแล้ว สิ่งหนึ่งที่ พ๊อพพ์ ได้รับคำชื่นชมมาก ๆ จากกลุ่มนักเตะไทยในทีม กิเลนผยอง คือ เขาเป็นนักเตะที่มีอัทธยาสัยดี มีกิจกรรมกับเพื่อนร่วมทีมอยู่ตลอด ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างนักเตะในทีมคนอื่น ๆ กับ พ๊อพพ์ ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงาน แต่รู้สึกเหมือนกับเป็นเพื่อนกันมากกว่า

พิชา อุทรา กองกลางของทีมให้สัมภาษณ์ถึง พ๊อพพ์ ว่า "พวกเราจูนติดกับ พ๊อพพ์ ได้ง่ายมาก ๆ  เพราะพ๊อพพ์ เคยผ่านการร่วมงานกันมานาน ไม่ใช่แค่เรื่องในสนามเท่านั้น แต่พ๊อพพ์ ยังเป็นเหมือนคนที่คอยให้คำปรึกษาให้กับนักเตะในทีมได้แทบทุกเรื่อง ทั้งในและนอกสนาม"

Photo : Muangthong United FC.

ไม่ใช่แค่ พิชา เท่านั้นนักเตะอย่าง สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ และ บุญทวี เทพวงค์ ก็พูดตรงกันว่าการได้ พ๊อพพ์ กลับมาเล่นให้กับทีม ถือเป็นเหมือนการต้อนรับเพื่อนเก่ากลับบ้าน แค่ซ้อมร่วมกันปรับจังหวะกันในช่วงพักเลก ก็เข้าใจกันแล้ว ไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวอะไรมากมาย ยิ่งนอกสนามก็ยังพูดคุย และมีกิจกรรมร่วมกันตลอด มันจึงเหมือนการ "ละลายพฤติกรรม" ไปในตัว พอทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง และรู้ว่าเพื่อนร่วมทีมเล่นแบบไหน แถมยังรู้ไปถึงนิสัยใจคอ ผลงานในสนามก็ดีขึ้นมาเป็นเงาตามตัว

การกลับมาของ พ๊อพพ์ ถือเป็นการซื้อขายระดับบิ๊กดีลที่ทรงอิทธิพลในเลกที่ 2 เลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุผลที่เรากล่าวมาทั้งหมด มันชัดเจนเหลือเกินว่านักเตะต่างชาติที่ปรับตัวกับทีมได้ทั้งในและนอกสนามสำคัญมากขนาดไหนสำหรับฟุตบอลไทยลีก ณ เวลานี้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

มาปุ๊ปร้อนปั๊ป : 7 แข้งไทยลีกที่ย้ายทีมเลก 2 แล้วปังทันที

เปิดกฎเวิร์คเพอร์มิตพรีเมียร์ลีก : ศุภณัฎฐ์ ไป เลสเตอร์ ได้จริงหรือ ?

ฟิลิป โรกิช : แข้งต่างชาติป้ายเเดง บุรีรัมย์ ที่เคยฮ็อตเตะตากุนซือ เชลซี

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ