จุดดำบนกระดาษขาว : กูรูบอลเวียดนาม เปิดเหตุผลที่ชื่อว่า VAR อาจไม่เวิร์กกับ "วีลีก"

By ชยันธร ใจมูล

6 พ.ค. 2024 , 02:29น.

ฟุตบอลวีลีก หรือลีกสูงสุดของประเทศเวียดนามได้มีการเอาการตัดสินด้วยตัวช่วยจากวีดีโอ หรือ VAR เข้าใช่งานแล้ว โดยนี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พวกเขาใช้ VAR อย่างเป็นทางการ

แม้ในสายตาของคนนอกอย่างเราจะเชื่อว่า VAR น่าจะเหมาะกับทุก ๆ ลีกบนโลกนี้ แต่กูรูฟุตบอลเวียดนามเชื่อว่า VAR จะเป็น "จุดดำบนกระดาษขาว" และให้เหตุผลว่าเทคโนโลยีนี้ไม่เหมาะกับลีกเวียดนาม

มุมมองจากกูรู

เรื่องดังกล่าวเริ่มจากสตีฟ ดาร์บี้ อดีตกุนซือทีมชาติไทยและเคยคร่ำหวอดในวงการฟุตบอลเวียดนามกว่า 10 ปี โดย ดาร์บี้ เริ่มพูดถึงว่า อันที่จริง VAR เป็นสิ่งที่จะช่วยพัฒนาเกมการแข่งขัน วีลีก ได้ โดยเหตุผลหลัก ๆ คือการล็อคผลหรือล็อคกรรมการไม่ให้เป่าเอนเอียงแบบไม่มีหลักฐานเอาผิดเหมือนแต่ก่อน

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาคิดทบทวนดู เขาก็ค่อย ๆ พบความจริงว่าฟุตบอลลีกเวียดนาม คงไม่ดีขึ้นในข้ามคืนหากมี VAR แบบที่ใครหลายคนคิด

"ตอนแรกผมยกมือสนับสนุน VAR นะ เพราะ VAR ช่วยลดความเสี่ยงในการล็อคผลจากคำตัดสินของกรรมการได้ แต่อันที่จริงแล้ว หลังได้เห็นเหตุการณ์นัดที่ผ่านมา ผมคิดว่าบางทีผมอาจจะคิดผิดก็ได้" ดาร์บี้ กล่าว

"อย่างแรกเลยที่ผมนึกออกคือ กรรมการ คือคนที่ได้เงินเดือนต่ำที่สุดแต่กลับมีอำนาจในการตัดสินเกมสูงสุด การมี VAR จะช่วยปราบปรามพวกรรมการสายดำได้ แต่กลับกัน VAR มีค่าใช้จ่ายมากสุด ๆ และเหตุการณ์ในอดีตจากลีกอื่น ๆ ผมดูแล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่จะมาช่วยจบปัญหาทั้งหมดของวีลีกหรอก"

ดาร์บี้ อธิบายต่อว่า วิธีการทำงานของ VAR คือการให้ผู้ตัดสิน VAR ส่งสัญญาณมายังผู้ตัดสินที่ 1 ในเหตุการณ์ที่น่ามีการตรวจสอบหรือดูวีดีโอภาพช้าซ้ำ... เขาพยายามจะบอกว่า VAR นั้นดีแต่ในทฤษฎี แต่ในทางปฎิบัตินั้นผลน่าจะออกมาแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

กับเงินทีลงทุนมหาศาลเกี่ยวกับ VAR ทั้งค่าอุปกรณ์และการอบรม ดาร์บี้ มองว่า มันอาจจะไม่คุ้มกับการลงทุนหากนำมาใช้กับ วีลีก จริง เพราะตัวผู้ตัดสินเองทำให้เกิดปัญหาได้ทุกสัปดาห์ แม้กระทั่งการใช้ VAR ในเกม วีลีก นัดแรกที่เกิดปัญหาให้ถกเถียงกันมากมาย

ดาร์บี้ มองว่า ควรลงทุนกับการพัฒนาผู้ใช้ VAR ก่อน ก่อนที่จะทุ่มเงินมากมายไปกับสิ่งที่ผู้คนในวงการฟุตบอลเวียดนามยังไม่รู้ไม่เท่าทัน และยิ่งของที่ใช้ดีขนาดไหน แต่คนใช้ ใช้ไม่เป็น ก็ยิ่งทำให้การผิดพลาดแต่ละครั้งดูใหญ่และชัดเจนขึ้น เหมือนกับจุดดำบนกระดาษขาว

"มีความคาดหวังเกี่ยวกับ VAR สูงมากเกินไป ทุกคนเชื่อว่าระบบนี้จะตัดสินใจได้ถูกต้องเสมอ กล่าวคือ เป็นการตัดสินใจที่ไม่มีใครโต้แย้งได้ อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกไปแล้วว่าฟุตบอลเป็นกีฬาแห่งมุมมองและดุลยพินิจ ในสถานการณ์เดียวกัน ผู้ตัดสินยังสามารถตัดสินใจที่แตกต่างกันตามมุมมองของเขาเอง"

"ดังนั้น เรามาหยุดเน้นและให้ความสำคัญด้านเทคโนโลยีกันดีกว่า หัวใจหลักของระบบ VAR คือการจัดการกับปัญหาของมนุษย์ แต่ถ้ามนุษย์ผู้ใช้มันไม่ได้พัฒนาด้วยล่ะ ? อะไรจะเกิดขึ้น เราเห็นกันมามากแล้ว มีบทเรียนที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายหน ไม่เพียงแต่สำหรับพรีเมียร์ลีกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวีลีกที่กำลังจะมาถึงด้วย"

เรื่องที่น่าสนใจ

ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม : เบื้องหลังยักษ์มาเลเซียที่สามารถดูดแข้งตัวท็อปไทยลีก

บุรีรัมย์ รั้งที่สอง สโมสรมูลค่านักเตะรวมสูงสุดในอาเซียน

เบรนเเดน กัน : แข้งลูกครึ่งขวัญใจแฟน มาเลเซีย ผู้เอาชนะมะเร็งและคืนสู่สังเวียนลูกหนัง