ชาริล ชัปปุยส์ : จากตัวท็อปไทยลีกสู่การผจญภัยครั้งใหม่ในลีกรอง

ชาริล ชัปปุยส์ : จากตัวท็อปไทยลีกสู่การผจญภัยครั้งใหม่ในลีกรอง
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

หลังจากตลาดนักเตะในประเทศไทยทุกดิวิชั่น กำลังจะข้ามผ่านเส้นตายในอีกไม่ช้า ดีลที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายๆ กลายเป็นการย้ายทีมสุดเซอร์ไพรส์ของ ชาริล ชัปปุยส์ กองกลางมากประสบการณ์วัย 31 ปี ที่ย้ายจาก การท่าเรือ เอฟซี ยักษ์ใหญ่ในลีกสูงสุด ไปอยู่กับ ‘พยัคฆ์ล้านนา’ เชียงใหม่ เอฟซี ด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลา 6 เดือน

PHOTO : Official Chiangmai Football Club

ดีกรีของ ชัปปุยส์ นักเตะลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ ถือว่าเป็นการเปิดตลาดดีลแรกๆ ที่กลายเป็นเทรนด์ยอดฮิตให้กับหลายสโมสรใน ไทยลีก ช่วงหลัง ที่พยายามค้นหานักเตะที่มีเชื้อสายไทย มีประสบการณ์ค้าแข้งในลีกต่างแดนระดับสูงๆ เพื่อนำเข้ามายกระดับทีมในตำแหน่งต่างๆ

โปรไฟล์ของ ชัปปุยส์ นั้นทำให้แฟนฟุตบอลในเมืองไทย ตื่นเต้นไม่น้อยในช่วงนั้น เพราะเคยคว้าแชมป์บอลโลกยู-17 กับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์มาแล้ว แถมยังเคยเล่นเคียงข้างนักเตะชื่อดังอย่าง กรานิต ชาก้า อดีตกัปตันทีมของสโมสร อาร์เซน่อล อีกด้วย

เส้นทางการค้าแข้งที่ผ่านมาของเขาในประเทศไทยเป็นอย่างไร? การมาของเขาช่วยปลุกกระแสอะไรให้เกิดความ ฟีเวอร์ ขึ้นมาบ้าง? การย้ายทีมของเขาในครั้งล่าสุดด้วยการลงไปเล่นในลีกรอง หากวิเคราะห์แล้วจะส่งผลดีหรือเสียมากกว่ากัน ร่วมหาคำตอบได้ไปกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ความหวังใหม่ในวงการบอลไทย

หลังจากที่มีการติดต่อ ชัปปุยส์ ให้ตัดสินใจมาช่วยทีมชาติไทย ตามสัญชาติของคุณแม่ที่เป็นคนไทยแท้ๆ ตัวนักเตะเองก็ไม่ได้มีการบ่ายเบี่ยงหรือปฏิเสธแต่อย่างใด ซึ่งเฮดโค้ชของทัพช้างศึกในช่วงเวลานั้น คือ ‘วินนี่’ วินฟรีด เชเฟอร์ เทรนเนอร์มากประสบการชาวเยอรมัน ที่กำลังทำทีมอได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

PHOTO : Grasshopper Club Zürich

แน่นอนว่าหากทีมชาติไทยในเวลานั้นได้ตัว ชัปปุยส์ ซึ่งเคยผ่านการเล่นฟุตบอลลีกยุโรปทั้งลีกสูงสุดและลีกรองในประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับทีม กราสฮอปเปอร์ ซูริค, โลการ์โน่ และ เอฟซี ลูกาโน่ ย่อมต้องเข้ามาช่วยยกระดับทีมได้มาก หากตัวนักเตะสามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้

ตำแหน่งการเล่นของเขานั้น สามารถยืนได้ทั้งแบ็คขวาและมิดฟิลด์ตัวกลาง เล่นเกมรุกและเกมรับได้อย่างสมดุลย์ มีประโยชน์ต่อทีมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์เกมรุกหรือการตัดบอล เพื่อชิงจังหวะให้ฝั่งตัวเองได้กลับมาเป็นฝ่ายบุก

PHOTO : Charyl Chappuis Fanclub

อย่างไรก็ตามการดำเนินการเพื่อให้ ชัปปุยส์ ย้ายมาเล่นให้กับทีมชาติไทยแบบเร่งด่วน เนื่องจากมีเกมสำคัญๆ รออยู่ทั้งศึก เอเชียน คัพ ต่อด้วยการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก นั้นค่อนข้างตะกุกตะกักไม่น้อย เพราะเอกสารที่ทางสมาคมฟุตบอลส่งไปกลับมีปัญหา กว่าจะเคลียร์กับทั้ง เอเอฟซี และ ฟีฟ่า ได้ลงตัว ก็ใช้เวลาไปพอสมควร

สุดท้ายแล้ว ชัปปุยส์ ก็ได้ลงเล่นให้กับทัพช้างศึกสมใจ หลังจากนั้นก็ต่อยอดด้วยการย้ายมาเล่นใน ไทยลีก กับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีฐานแฟนบอลคอยสนับสนุนแน่นถนัดเป็นทุน ยิ่งนักเตะมีหน้าตาที่แสนหล่อเหลา บวกกับคุณภาพฝีเท้าที่เก่งกาจ ย่อมกระแส ‘ชัปปุยส์ ฟีเวอร์’ แพร่กระจายในหมู่แฟนบอลสาวๆ ทั่วบ้านทั่วเมือง

PHOTO : Charyl Chappuis Fanclub

น่าเสียดายที่ตัวของ ชัปปุยส์ ที่กำลังทำผลงานได้อย่างเข้าฝัก ต้องมาโชคร้ายประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่เข่าจนต้องพักรักษาตัวยาว กลายเป็นสาเหตุให้เขาต้องย้ายไปเล่นให้กับอีกหลายสโมสร อาทิ สุพรรณบุรี เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี

อย่างน้อยตัวของ ชัปปุยส์ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดในการย้ายมาประเทศไทย แถมยังกล่าวถึงความประทับใจเอาไว้ว่า

“การคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 เหมือนการปลุกความคลั่งไคล้ฟุตบอลของแฟนๆ ขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้คุณจะเห็นว่ามีคนใส่เสื้อบอลอยู่เต็มถนนไปหมดทั้งเด็กๆ ทุกคนต่างสนับสนุนเรา”
PHOTO : Charyl Chappuis Fanclub
“แฟนบอลของเรามองโลกในแง่ดีเสมอ พวกเขาสนับสนุนเราได้ยอดเยี่ยมมาก มันเหมือนความฝันที่จะพาไทยไปฟุตบอลโลก แฟนๆในประเทศคงคลั่งกันสุดๆ แน่นอนมันยาก แต่ผมไม่เคยที่จะหยุดฝัน”

ช่วงเวลาที่เขาห่างหายไปจากการลงสนามบนผืนหญ้า ชัปปุยส์ ก็ไม่ได้หายหน้าหายตาไปเลยเสียทีเดียว เพราะเขายังมีงานพรีเซนเตอร์สินค้าต่างๆ มากมายที่ติดต่อเข้ามา แล้วสามารถกอบโกยเม็ดเงินนอกจากการเล่นฟุตบอลเลี้ยงชีพได้แบบเป็นกอบเป็นกำ

PHOTO : Pantip

เขาเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สำคัญที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า นักฟุตบอลหนึ่งคนถ้ามีองค์ประกอบครบทั้งเรื่อง ฝีเท้า, หน้าตา และทัศนคติที่ยอดเยี่ยม ย่อมสร้างมูลค่าทางการตลาดให้กับตัวเองได้สูงเอามากๆ แถมยังมีอิทธิพลต่อวงการอื่นๆ แบบทางอ้อมอีกด้วย

เชื่อมั่นในเพื่อนร่วมทีม

ความสำเร็จของ ชัปปุยส์ ในเส้นทางลูกหนังนั้น เขาสามารถคว้าแชมป์มาครองได้หลายรายการ ถ้วย ก. 2 สมัย, ไทยลีก, เอฟเอ คัพ และลีกคัพกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ลีกคัพ กับ แม่โขง คัพ กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ส่วนเวทีทีมชาติก็ไปถึงแชมป์ซีเกมส์ 2013 และ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2 สมัย ปี 2014 กับ 2016

แน่นอนว่าเขาย่อมได้ร่วมทีมกับนักเตะฝีเท้าดีมากมาย แล้วเก็บความทรงจำของการร่วมงานในแต่ละสโมสรเอาไว้ ซึ่งทาง ชัปปุยส์ เคยกล่าวถึงความประทับใจในฝีเท้าของผู้เล่นได้ที่เก่งกาจติดอันดับท็อป 5 ในใจเอาไว้ว่า

“ให้เลือกนักเตะไทยที่เป็นท็อป 5 ในใจนั้นเป็นเรื่องง่ายเลยสำหรับผม เพราะผมรู้จักเพื่อนๆ ของผมดี”

PHOTO : Supersub Thailand

“คนแรกที่ผมเลือกเลย คือ อดิศักดิ์ ไกรษร เนื่องจากเขาเคยเป็นรูมเมทของผม แล้วเราเคยมีประสบการณ์คว้าแชมป์ร่วมกันมาแล้ว, เจ-ชนาธิป, อุ้ม-ธีราทร, ตัง-สารัช และคนสุดท้ายคงเป็นตัวเลือกที่ยากที่สุด ซึ่งผมมองว่าเป็น ต้น-นฤบดินทร์”

PHOTO : Supersub Thailand
“พวกเขาเป็นกลุ่มผู้เล่นที่มีศักยภาพมาก ผมใช้เวลาอยู่กับพวกเขาเยอะ เห็นการเติบโตมาด้วยกัน แต่ละคนล้วนไปถึงเป้าหมายที่ตัวเองตั้งเป้าไว้ในการเป็นนักเตะอาชีพได้หมด นั่นคือสาเหตุที่ผมเลือกพวกเขา”

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องเล่นร่วมกันเป็นทีม ต่อให้นักเตะคนใดก็ตามที่เก่งกาจขนาดไหน แต่ไม่มีความไว้วางใจในตัวเพื่อนๆ ที่ต้องทำงานร่วมกัน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้นเป็นไปได้ยาก แต่การที่ผู้เล่นที่เคยเล่นในลีกระดับสูงมาแล้วอย่าง ชัปปุยส์ การันตีศัภยภาพนักเตะไทยที่เขาเคยร่วมงานด้วยว่ามีดีพอ

PHOTO : ESPN

หมายความว่า มูลค่าของนักเตะไทยนั้นสามารถไปต่อได้ในวงการฟุตบอล เพียงแต่ต้องมีช่องทางในการส่งเสริมสนับสนุนที่เหมาะที่สม ซึ่งตัวอย่างก็มีให้เห็นกันไปแล้วทั้ง ชนาธิป และ ธีราทร ที่สามารถก้าวออกไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในศึก เจ ลีก ประเทศญี่ปุ่นได้แบบไม่อายใคร

อย่างไรก็ตามน่าเสียดายไม่น้อยที่ ชัปปุยส์ ที่เคยเป็นนักเตะที่มีมูลค่าทั้งทางด้านฝีเท้าและการตลาดสูลระดับท็อปๆ ของประเทศ กลายมาเป็นผู้เล่นส่วนเกินของทีม สิงห์เจ้าท่า ในฤดูกาลหลังๆ แม้ว่าจะได้รับการต่อสัญญามาเรื่อยๆ แต่โอกาสในการลงเล่นของเขานั้นลอดน้อยถอยลงไป อันเป็นผลมาจากอากาบาดเจ็บหนักของเขาในอดีต ซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญให้เขาไม่เคยเล่นได้เท่ากับช่วงพีคของอาชีพอีกเลย

PHOTO : Official Chiangmai Football Club

ส่งผลให้อนาคตของเขาต้องไปลงเอยกับ เชียงใหม่ เอฟซี ในศึก ไทยลีก สอง ถ้าดูผ่านๆ อาจเป็นดีลที่เป็นประโยชน์กับตัวนักเตะที่จะมีโอกาสได้ลงสนามเป็นประจำ แต่เอาจริงๆ แล้วนักเตะอย่าง ชัปปุยส์ สามารถสร้างความนิยมในหมู่ของแฟนบอลได้มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า

ถึงได้เล่นก็ไม่การันตีว่ามีคนดู

ความจริงแล้วนักเตะที่ดีกรีระดับ ชัปปุยส์ ตัดสินใจย้ายลงไปเล่นในลีกรองอย่าง ไทยลีก สอง เป็นดีลที่ทำให้มูลค่าทางการตลาดของลีกนั้นๆ ควรจะมีมูลค่าสูงขึ้น เพราะได้ผู้เล่นระดับแม่เหล็ก มาช่วยดึงดูดแฟนบอลให้หันมาใ่ห้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น

PHOTO : FA Thailand

แต่แล้วปรากฎว่า ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของ ไทยลีก สอง จากเดิมที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เหมือนว่าจะมีท่าทีช่วยเรื่องการดำเนินสำหรับการจัดการสัญญาณถ่ายทอดสดให้ ภาระในการรับผิดชอบในส่วนนี้ เลยตกเป็นของสโมสรที่ต้องดูแลกันเอง

ซึ่งการมาแจ้งเรื่องสำคัญขนาดนี้ แล้วเหลือระยะเวลาให้ทางสโมสรต่างๆ แก้ไขและดำเนินการต่างๆ เพียงแค่ราว 1 อาทิตย์ นับเป็นผลเสียอย่างมากกับการบริหารของแต่ละทีม ที่นอกจากต้องจัดการเรื่องภายในทีมตัวเองแล้ว ยังต้องเพิ่มหน้าที่ในการดิ้นเพื่อเอาตัวรอดในส่วนนี้อีก

เงินสนับสนุนที่ทาง ส.บอล แจ้งว่าจะจ่ายให้ภายในอาทิตย์หน้า ก็ยังไม่มีกำหนดการออกมาว่าเมื่อไหร่ถึงมือสโมสรกันแน่ กลายเป็นว่า หากทีมไหนต้องการถ่ายทอดสดเกมการแข่งขันตั้งแต่นัดแรก ต้องไปหาทีมงานที่พร้อมเข้ามาช่วย แล้วต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก

เงินรางวัลเจียดมาจ่ายให้ทีมในลีกล่างก็น้อยลง ทั้งที่ค่าใช้จ่ายในการทำทีมฟุตบอลมีแต่เพิ่มสูงขึ้น ทุกอย่างมันสวนทางกันไปหมด ต่อให้มีเงินทุนในการดึงสตาร์หัวแถวมาร่วมทีม หากไม่มีช่องทางในการโปรโมทสโมสร หรือ ถ่ายทอดสดเกมเพื่อเพิ่มฐานแฟนบอล หาเงินรายได้มาจุนเจือทีม ความพยายามทุกอย่างก็จะลงเอยแบบไร้ค่า

PHOTO : Thai League 2

ต่อให้จะมีนักเตะดีกรีระดับ ชัปปุยส์ อีกนับสิบนับร้อยคน ตัดสินใจย้ายลงไปเล่นในลีกรอง หากการบริหารจัดการของทางผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ยังไม่สามารถช่วยเหลือสโมสรสมาชิกได้แบบนี้ โอกาสที่จะพัฒนาให้บอลลีกล่างๆเดินต่อไปได้ คงจะมีแค่ปาฏิหาริย์เท่านั้น ซึ่งถ้ารากฐานยังไม่มั่นคง การจะมองถึงความสำเร็จต่อยอดในระดับที่สูงขึ้น คงไม่ต้องไปนึกถึงให้เสียเวลาชีวิตเปล่าๆ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https://sport.mthai.com/football/thaileague/300300.html

https://www.siamsport.co.th/football-thailand/thaileague-1/27785/#google_vignette

https://www.youtube.com/watch?v=u8LBa28wc7A

https://www.youtube.com/watch?v=YCXGaw1FqY0

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ประทุม ชูทอง : นักสู้มืออาชีพแห่งโลกบอลเดินสาย
เปิดใจ ‘เบ็ค-สมเกียรติ คุณมี’ : ทำไมตัวท็อป ‘ฟ็อกซ์ฮันท์’ ถึงเลือกเส้นทางบอลเดินสาย ?
‘ผักบุ้ง PBDS’ : หญิงแกร่งแห่งวงการฟุตบอลเดินสาย
‘ใหญ่ นิลวงษ์ ’: โค้ชจอมเลื่อนชั้นแห่ง T3 ที่คุมทีมเดินสายที่ชนะ 100%
สโมสร ‘แตงโม’ : ตำนานแชมป์เงินล้านบอลเดินสายสองปีติดทีมเดียวในประเทศไทย
ศราวุฒิ มาสุข : กับชีวิตใหม่ในเส้นทางฟุตบอลเดินสาย

แชร์บทความนี้

ข่าวและบทความล่าสุด

mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

MOST POPULAR

สนใจโฆษณาติดต่อ