เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ : นักบอลสุดอินดี้ ที่ต้องการเล่นบอลเพื่อความสบายใจ

เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ : นักบอลสุดอินดี้ ที่ต้องการเล่นบอลเพื่อความสบายใจ
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

ถ้าแฟนฟุตบอลไทยคนไหนทันได้ชมการเล่นของ บอล-เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ อดีตตัวริมเส้นฝีเท้าจัดที่เคยเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่ในศึก ไทยลีก มาแล้วหลากหลายสโมสร อาทิ การท่าเรือ เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บีอีซี เทโรศาสน คงจะนึกถึงจังหวะการลากเลื้อยอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ไม่ยาก

หลังจากแขวนสตั๊ดลาวงการลูกหนังอาชีพไป ชื่อของเขามาโผล่อีกทีกับรายการบอลเดินสาย ซึ่งสามารถพาสโมสรแตงโม คว้าแชมป์ ส.คำมี คว้ารางวัลเงินล้านมาครองได้สองสมัยติดต่อกัน ยังไม่นับรวมรายการยิบย่อย บวกกับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมอีกหลายรายการ

PHOTO : ส. คำมี FC.

หากให้เดาทางบทสัมภาษณ์ที่ผ่านมา แฟนบอลคงคิดไปในทิศทางเดียวกันว่า บอล เลือกมาเล่นบอลเดินสายเพราะเรื่องของรายได้ เหมือนกับอดีตนักฟุตบอลที่มีดีกรีไม่ธรรมดาคนอื่นๆ แต่ความจริงแล้วเหตุผลดังกล่าวแทบไม่มีผลกับเขาเลย

สิ่งเดียวที่เป็นแรงจูงใจให้เขายังวนเวียนอยู่ในเกมลูกหนัง เป็นเพราะว่าจิตใจที่รักในกีฬา ‘ฟุตบอล’ เพียงอย่างเดียว ส่วนชีวิตส่วนตัวเรื่องรายได้ ค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมไปถึงชีวิตครอบครัวล้วนสุขสบายดีไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องห่วง

ทีมงาน Think Curve - คิดไซด์โค้ง ได้มีโอกาสต่อสายพูดคุยกับ บอล เพื่อถามถึงแนวคิดการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ รวมไปถึงความแตกต่างระหว่าง บอลอาชีพ กับ บอลเดินสาย ซึ่งคำตอบจากนักเตะรายนี้นั้นไม่เหมือนใคร มีทั้งความแตกต่างและน่าสนใจแบบที่หาจากใครได้ยากเหลือเกิน

อยากเลี้ยงตัวเองได้

บอล เป็นชาวจังหวัดราชบุรี ใช้ชีวิตเหมือนเด็กผู้ชายทั่วๆ ไป ชอบเล่นกีฬา ออกกำลังกาย แต่ในยุคนั้นวงการลูกหนังในประเทศไทย ยังไม่ได้ผลักดันเป็นอาชีพแบบจริงจัง ลีกยังเป็น ไทยแลนด์ โปรวินเชียล ลีก (กึ่งอาชีพ) อคาเดมี่ก็ยังไม่มี เลยทำได้แค่ฝึกเตะเล่นกันเองกับเพื่อนๆ ตั้งแต่ช่วงอายุ 12 ปี

พอเริ่มย่างเข้าสู่วัยรุ่น เพื่อนๆ ก็ชักชวนกันไปเตะบอลเดินสายรายการเล็กๆ ทั่วไป พออายุได้ 18 ปี ทางพี่ที่รู้จักอย่าง ลิง-วิมล จันทร์คำ ก็มาชักชวนให้ไปลองคัดตัวที่สโมสร โอสถสภา M-150 ด้วยใจที่หลงใหลในกีฬาชนิดนี้อยู่แล้ว บวกกับพอรู้ว่าจะสามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองจากสิ่งที่รักได้ บอล เลยตัดสินใจลองดูสักตั้ง

จากจุดเริ่มต้นที่ดูเหมือนว่าจะช้ากว่าคนอื่นๆ แต่ด้วยสไตล์การเล่นที่แตกต่างไม่เหมือนใครในยุคนั้น มีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็วและการลากเลื้อย ทำให้กราฟการเป็นนักบอลอาชีพของ เอกภูมิ ค่อยๆ ขยับขายไปสู่จุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

PHOTO : Goal

เขาได้ย้ายไปอยู่กับทีมใหญ่ๆ อย่าง การท่าเรือ (คว้าแชมป์ ไทยลีก คัพ 2010), เมืองทอง (แชมป์ ไทยลีก 2012) และ บีอีซี เทโรศาสน (คว้าแชมป์ ไทยลีก คัพ 2014) นับเป็นช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าพีคที่สุดในอาชีพก็ว่าได้

อย่างไรก็ตาม บอล เปิดเผยเรื่องราวสุดช็อคที่ทำให้รู้ว่าเขามีทัศนคติในการเล่นฟุตบอล ที่แตกต่างเอาไว้ว่า

“ผมแค่ชอบเล่นฟุตบอลแค่นั้นเอง แล้วพอรู้ว่ามันสามารถหารายได้เลี้ยงตัวเราเองได้ แตกต่างจากสมัยวัยรุ่นที่ยังต้องขอเงินพ่อ-แม่ ทำเงินจากสิ่งที่รักได้เลยอยากเป็นนักบอลอาชีพ หาเงินมาเลี้ยงมาดูแลตัวเองพอแล้ว”
PHOTO : Trueid
“ตอนผมเซ็นสัญญาผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเลขค่าจ้างผมเท่าไหร่ สมัยอยู่กับ พี่แป้ง ที่การท่าเรือ เขายื่นซองมาให้เช็คตัวเลขก่อนเซ็นสัญญาผมยังไม่ดูเลย บอกพี่แป้งให้เท่าไหนเท่านั้น ผมอยู่กับพี่คือจบ”

ยิ่งไปกว่านั้น เอกภูมิ บอกเรื่องที่หลายคนยังไม่รู้เสริมไปอีกว่า ความจริงเขาได้รับข้อเสนอจากทีมในลีกสูงสุดทั้ง เกาหลี และ ญี่ปุ่น แต่เลือกที่จะปฏิเสธไป ตามเหตุผลที่ว่า

“ผมอยากเตะบอลเฉยๆ ตอนอายุ 22-23 มันมีข้อเสนอจากทีมในลีกสูงสุดของ เกาหลี 1 ทีม กับ ญี่ปุ่น 1 ทีม ยื่นติดต่อโดยตรงมายังสโมสรให้ลองไปซ้อมและทดสอบฝีเท้า แต่เราบอกเขาไปว่าเราไม่ไปหรอก”

PHOTO : บอลไทย

“ผมมองว่าผมไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น ถามว่าอยากไปมั้ยอยากไปแหละ แต่เรารู้ตัวเราว่าเบอร์ไหน ไม่ใช่เราไม่มีความทะเยอทะยาน ความฝันไปเล่นต่างประเทศลีกใหญ่ๆ มันมีกันหมด เราประเมินตัวเราแล้วอยู่ไทยมีความสุขกว่า ได้ลงสนาม ใช้ชีวิตง่าย เดินทางง่าย ไปอยู่โน่นไปนั่งไม่เอาหรอกจะไปทำไม”

อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่ บอล เป็นนักเตะอาชีพ ต้องบอกกันตามตรงว่าเป็นยุคที่ประเทศไทย กำลังผลักดันและพัฒนากีฬาฟุตบอลอย่างหนักหน่วงให้กลายเป็นลีกอาชีพ ดังนั้นเรื่องของค่าเหนื่อยที่ได้รับกันนั้นค่อนข้างสูง นักเตะหน้าใหม่รับกันอยู่ราว 2-3 หมื่นบาท ซึ่งย้อนกลับไป 10 กว่าปีที่แล้วเป็นตัวเลขที่สูงมาก

PHOTO : Goal

พอเข้าช่วงที่เริ่มมีชื่อเสียง ดีกรีฝีเท้าระดับเขาเงินเดือนวิ่งไปแตะหลักแสนได้ไม่ยาก ขนาดตอนลงมาเล่นระดับ ไทยลีก สอง ช่วงปลายอาชีพ ยังรับค่าเหนื่อยระดับ 8 หมื่น ซึ่งเจ้าตัวยังยอมรับตามตรงว่าเยอะมากในช่วงนั้น เพราะรู้กันดีอยู่แล้วว่า สโมสรกลางลงไปล่างมีงบประมาณทำทีมจำกัด

อย่างไรก็ตามเมื่อถึงจุดอิ่มตัวช่วงอายุ 36 ปี บอล ก็ประกาศแขวนสตั๊ดอำลาวงการ ทั้งที่ความจริงแล้วมีข้อเสนอจากสโมสรในลีกรองเข้ามาให้พิจารณาถึง 4-5 ทีม แต่เมื่อมันหมดความท้าทายไปแล้ว เขาก็อยากหันไปใช้ชีวิตบั้นปลายแบบที่ตัวเองต้องการอย่างมีอิสระมากกว่า

ผันตัวเข้าสู่วงการบอลเดินสาย

หลังจากเลิกเล่น บอล ไม่ได้ตั้งเป้าไว้ว่า อนาคตของเขาจะมาลงเอยกับโลกของฟุตบอลเดินสายแบบจริงจังอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ แม้ว่าตอนเด็กๆ จะเคยผ่านเวทีนี้มาบ้าง แต่เป็นการลงแข่งแบบขำๆ สนุกๆ เท่านั้น

แต่พอเลิกเล่นไปเขารู้สึกว่างแปลกๆ จากแผนการใช้ชีวิตที่วางล่วงหน้าไว้ลงตัว บ้านมี รถมี ธุรกิจมี และ รายได้ก็ไม่ขาดมือ ภรรยาก็เลี้ยงตัวเองได้มีการงานมั่นคง และเรื่องลูกๆ ก็ไม่มีอะไรให้ต้องห่วง เขาก็เลยใช้เวลาที่มีไปกับการเข้าป่าอยู่บ้านเพื่อนตามชายแดน ไปสัมผัสกับธรรมชาติ

PHOTO : บอล เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์

อย่างไรก็ตามพอวันไหนที่ต้องอยู่ในบ้านตัวเอง เลือดของนักกีฬาที่ยังอยู่ในตัว มันเรียกร้องให้ต้องไปออกกำลังกาย หาทางเรียกเหงื่อดูบ้าง เพราะคุ้นชินกับโปรแกรมการซ้อมบอลอาชีพเป็นประจำช่วงบ่าย 3-4 โมง ช่วงแรกเลยไปจบที่การวิ่งมาราธอน ลงสมัครทุกรายการที่เข้าร่วมได้

ต่อมามีเพื่อนมาชวนไปเตะบอลเดินสาย ซึ่งตัวเขาก็พยายามเบี่ยงบ่ายไปว่าไม่น่าไหว แต่เพื่อนก็คะยั้นคะยอให้ไปลองดู ช่วงแรกๆ ไปซ้อมไปเล่นก็ต้องปรับตัวอยู่บ้าง เพราะร้างสนามไปนาน แต่พอปรับตัวได้ถูๆ ไถๆ เอาตัวรอดไปได้

แต่ทาง เอกภูมิ ก็เจอจุดเปลี่ยนสำคัญเข้าอีกครั้งตามที่เล่าไว้ว่า

“ตอนนั้นเพื่อนชวนไปกะว่าเตะกันสนุกๆ ทีมเราก็มีเพื่อนเก่งๆ มันก็ประคองเราที่ยังไม่อยู่ตัวได้ ทีนี้พอไปแข่งรายการแรกดันได้แชมป์กับทีม ตะคริว เป็นบอล 6-7 คน สนามหญ้าเทียม ที่แม่กลอง พอเขาจ่ายค่าตัวมา 5 หรือ 6 พัน เลยตกใจว่ามันเยอะไปรึเปล่า เพราะเตะแค่วันเดียวเอง”

PHOTO : บอลไทย
“เราไม่รู้ว่าเขาจ่ายกันหนักแบบนี้จริงๆ ทีนี้เลยบอกเพื่อนว่า ถ้ามีรายการไหนแข่งอีกเรียกด้วยนะ เพราะเราเห็นว่าได้กลับไปเล่นบอลที่รัก ใช้เวลาว่างเป็นประโยชน์ แถมยังได้เงินเสริมมาใช้อีก พอเรามานั่งคิดว่าเตะสักอาทิตย์ละรายการ 4 อาทิตย์ ได้ตั้ง 2 หมื่น มันไม่มีงานไหนอื่นที่ตรงกับที่เราต้องการขนาดนี้ ได้ออกกำลังกายและได้เงินด้วย หลังจากนั้นก็ลดโปรแกรมไปวิ่งมาราธอนน้อยลง หันไปซ้อมบอลมากขึ้น”

สเน่ห์ของบอลเดินสายที่ เอกภูมิ สัมผัสได้ด้วยตัวเอง คือ การไม่มีกรอบ มีอิสระในการเล่น แตกต่างจากบอลอาชีพ จะเลี้ยงหลบคนพอเข้าระยะลองยิง ด้วยสนามมันไม่ได้ใหญ่มากเลยทำได้ง่าย หาจังหวะเข้าทำก็ฉกฉวย ไม่ต้องไปเน้นเรื่องของแท็คติกให้ปวดหัว ครึ่งสนามเข้าระยะก็ยังส่องได้เลย

ถ้าเทียบกับตอนเล่นบอลลีกแล้ว บอล รู้สึกสบายใจมากกว่า เพราะแท็คติกของบอล 11 คน นั้นมีการกำหนดแนวทางการเล่นชัดเจน ให้ไปแล้วต้องเคลื่อนที่แบบไหน ต้องเข้าทำเช่นไร พอเปลี่ยนมาเป็นบอล 7 คน มันไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องนั้น อาศัยความสามารถเฉพาะตัวก็เล่นได้แล้ว

การต่อยอดที่ไปได้ไกลกว่า

แม้ว่าเรื่องของความรุนแรงและการพนัน เป็นสิ่งที่ บอล อยากให้หายไปจากวงการฟุตบอลเดินสาย เพื่อที่จะได้ปรับภาพลักษณ์ให้แฟนบอลเข้าใจวงการนี้ใหม่ แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่า บางเรื่องก็ห้ามกันได้ยาก แต่ทุกวันนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการเล่นที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ

บอล แชร์ประสบการณ์เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า นักเตะในวงการบอลเดินสาย เดี๋ยวนี้ต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เพราะมันมีการไลฟ์สด มีการบันทึกวิดีโอ หากใครแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกไป ชั่วเวลาเพียงข้ามคืนทัวร์ก็พร้อมลงจนรับมือไม่ทัน

PHOTO : บอล เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์

บางทีการตัดคลิปไปลงตามสื่อโซเชี่ยลต่างๆ มันไม่มีการปูเหตุการณ์ก่อนหน้าทั้งหมดให้คนดูเข้าใจ ใครจะด่าพ่อล่อแม่กันมาก่อน มันไม่มีใครจุดนั้น แต่คลิปที่ถูกตัดไปจะนำเสนอแค่ช่วงที่ใครออกหมัด ใครเตะ หรือใครที่น็อตหลุดแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกไปก่อน กลายเป็นว่า ทุกวันนี้ต่างคนเลยต่างเลี่ยง พยายามจบกันด้วยการขอโทษขอโพย เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์เกินเลย

ยิ่งไปกว่านั้น บอลเดินสาย หลายต่อหลายคนไม่ได้เข้ามาในวงการนี้ เพื่อหวังกอบโกยรายได้จากการลงเล่นเพียงอย่างเดียว แต่มันหมายถึงคอนเนคชั่นที่สามารถต่อยอดไปสู่การหารายได้ช่องทางอื่นๆ ได้มากมายหลายวงการ

“เอาแค่เล่นบอลเดินสายก่อนนะ วันใดวันหนึ่งคุณไปมีเรื่อง ไปเตะใครเขาไว้ แล้วเขาดันเป็นตัวหลักของอีกทีม สามารถเลือกตัวนักเตะรายการต่อๆ ไปได้ บางทีคนที่มีเรื่องกันมาก่อนเขาจำเขาก็ไม่เอาคุณไป การหารายได้มันไม่ได้จบที่รายการนั้นรายการเดียว”

PHOTO : บอยท่าพระจันทร์

“ทุกคนเลยพยายามเป็นเพื่อนกันไว้ วันหนึ่งรู้จักกัน มีความสัมพันธ์ดีต่อกัน พอมีอะไรช่วยเหลือกันได้ก็ผลักดันกันไป ถ้านักเตะทำเกี่ยวกับการรับเหมาก่อสร้าง ไปเจอกับคนรู้จักในวงการที่หาโปรเจ็คท์ได้ เกิดได้งานหลัก 5 ล้านไม่เอาเงินทอน ยกให้รับเหมาไป ลองคิดดูว่าเงินตรงนั้นมันจะมากกว่าเท่าไหร่”

“ผมไปเล่นไม่เคยโดนนอกเกมเล่นงาน เพราะเราไม่เคยไปทำแย่ๆ ใส่ใครเลย ถ้าเราเจอน้องๆ ที่มีแววฝีเท้าโอเค นิสัยการทำตัวดี เราก็จะใช้คอนเนคชั่นของเรา แนะนำชื่อน้องมันไปให้กับโค้ชในลีกอาชีพ มีโค้ชหลายคนที่ไม่เปิดเผยชื่อนะ เขาก็มาหาตัวนักเตะจากบอลเดินสายนี่ละ เพราะเป็นของดีราคาถูก”

ข้อดีอีกอย่างของ บอลเดินสาย คือ นักเตะของแต่ละทีมจะได้ใกล้ชิดกับแฟนๆ ที่เข้ามาเชียร์ในสนาม เข้าถึงตัวกันได้แบบไม่มีถือตัว บางครั้งจบเกมหิวๆ คนที่เข้ามาชมเกมก็แบ่งของกิน แบ่งอาหารที่ซื้อมาให้ หิ้วของมาฝาก จนกลายเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจ

อย่างไรก็ตามแม้ว่า บอลเดินสาย จะมีสเน่ห์มากแค่ไหน บอล ก็มีความเห็นส่วนตัวในการแนะนำน้องๆ ที่เป็นนักเตะดาวรุ่งที่มีศักยภาพว่า ถ้ามีโอกาสไปอยู่สายบอลอาชีพ เพราะเงินเดือนที่ได้มันแน่นอน การันตีรายได้เข้ากระเป๋าทุกเดือน มีโอกาสได้ย้ายไปอยู่กับทีมใหญ่แล้วจะสบาย ไม่ต้องมานั่งลุ้นว่า อาทิตย์นี้จะมีรายการชิงเงินรางวัลเตะหรือไม่

PHOTO : บอลไทย

จากความเห็นส่วนตัวของเขา บอล รู้สึกว่าการไปถึงตำแหน่งแชมป์ระหว่าง บอลเดินสาย กับ บอลอาชีพ เมื่อมาเทียบกันแล้วยังมีความต่างกันอยู่ ถึงแม้ตัวของเขาจะประทับใจกับความสำเร็จทั้งสองโลก เพียงแต่บอลลีกอาชีพ ที่มีเม็ดเงินลงทุนระดับร้อยล้าน มันยังดูยิ่งใหญ่กว่า ยากกว่า และมีนักเตะเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้สัมผัสโมเมนต์ที่แสนปลื้มปริ่มได้แบบเต็มภาคภูมิ

ทัศนคติคือตัวตัดสิน

ประสบการณ์ที่ในวงการลูกหนังทั้งบอลอาชีพและบอลเดินสาย ทำให้ เอกภูมิ รับรู้ได้ว่า การที่ผู้เล่นคนไหนจะไปได้ไกลมากแค่ไหนในเส้นทางนั้นๆ ต้องวัดกันที่เรื่องของทัศนคติเป็นส่วนสำคัญ เพราะสิ่งนี้สามารถตัดสินอนาคตว่าจะลงเอยแบบไหน

บอล เผยว่า การที่เขาเป็นคนง่ายๆ ทำให้เขาสามารถอยู่ในวงการได้นานและไม่เคยมีปัญหากับเจ้าของทีมหรือโค้ชสักครั้งเดียว เขามองว่าหน้าที่ของเขาเป็นแค่พนักงาน พร้อมรับคำสั่งแล้วปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเท่านั้น

PHOTO : Mthai

ต่อให้อยู่ในช่วงที่ฟอร์มกำลังดี แล้วมีใบสั่งให้ต้องพักการลงสนามเขาก็สามารถยอมรับได้ เนื่องจากเขามองว่า การยอมรับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น คือ ความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง ทุกคนย่อมมีมุมมองและเหตุผลที่ต่างกันออกไปในการกระทำแต่ละเรื่อง

หากนักเตะคนไหนเอาตัวเองไปตั้งอยู่บนอีโก้ที่สูง เชื่อว่าตัวเองต้องได้ลงเล่นทุกเกม คิดว่าตัวเองเก่งไม่แพ้ใคร มันก็เหมือนระเบิดเวลาที่อาจทำให้อนาคตของตัวเองพังลง การยอมรับทุกความเปลี่ยนแปลงต่างหาก จะเป็นสิ่งที่ทำให้อาชีพนักเตะยืดระยะไปได้ยาว ตามที่กล่าวเอาไว้ว่า

PHOTO : Sportslab
“มันไม่มีนักบอลคนไหนหรอกที่จะเล่นดีได้ทุกเกม โค้ชและเจ้าของทีมบางครั้งเขาก็มีเหตุผลของเขา บางเกมเขาพักเราเพราะอยากให้เราอยู่ในสภาพร่างกายที่พร้อมกว่านี้ ถ้าเราไม่เอามาเก็บเป็นอารมณ์ ตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ผลงานมันก็จะออกมาดีเอง เราแค่ต้องเตรียมตัวรอให้พร้อม รอโอกาสที่จะมาถึง”

ยิ่งไปกว่านั้น บอล ยังแนะนำถึงนักเตะที่น้องๆ ควรเอาเป็นแบบอย่างไว้ว่า

“นักเตะที่หลายคนควรเอาเป็นแบบอย่างด้านความเป็นมืออาชีพ คือ ชนาธิป และ ธีราทร สองคนนั้นเก่งจริงเพราะการจะไปเล่นที่ เจลีก ประเทศญี่ปุ่นเป็นอะไรที่ไม่ง่ายเลย น้อยคนที่จะทำตามความฝันได้สำเร็จ”

PHOTO : BG Pathum United

“ผมเคยใช้ชีวิตร่วมกับ เจ ช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่น ตอนนั้นเป็นทีมชาติชุดยู-19 ของ น้าฉ่วย ยังโทรไปหาน้าแกอยู่เลยว่า เด็กคนนี้มันเก่งจัง ของจริง อีกไม่นานขึ้นชุดใหญ่ได้แน่ น้าแกก็บอกว่ายังไงคนนี้ก็ไปถึงแน่ๆ กล้าพูดเอาไว้ตรงนี้เลย”

“แล้วพอผมกับ เจ ดันมาเกิดอาการบาดเจ็บยาวพร้อมกันในสมัยที่เล่นให้กับ บีอีซี เทโรศาสน ก็ได้อยู่ห้องเดียวกันนอนด้วยกัน เชื่อมั้ยว่า เจ มันปลุกผมไปยิมเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายตามตารางทุกวัน ขนาดผมไม่อยากตื่นก็ยังต้องโดนลากไป”

PHOTO : BG Pathum United
“เจ ทำทุกอย่างตามตารางด้วยความเป็นมืออาชีพ เข้ายิม กินอาหาร เข้านอน หรือแม้แต่ฝึกซ้อมทักษะบางอย่างที่เขามองว่ายังไม่ดีพอ หากน้องๆ จะหานักเตะต้นแบบในการเดินรอยตามต้องเป็นแบบนี้ ไม่ได้อวยน้องมันนะ แต่มันเป็นคนแบบนั้นจริงๆ ทุกวันนี้ผมยังแอบส่องดูเลยว่า วันๆ น้องมันทำอะไรบ้าง”

สิ่งสำคัญที่ บอล ฝากเตือนมาถึงน้องๆ ที่ยึดการเล่นฟุตบอลเป็นอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นบอลลีกหรือบอลเดินสาย คือ การวางแผนเรื่องอนาคตและการใช้เงินให้ดีๆ เนื่องจากช่วงพีคของอาชีพนี้มันสั้น ช่วงที่มีรายได้สูงๆ ก็ควรเก็บไว้ มองเรื่องการบริหารเงินเก็บเอาไว้ลงทุนในอนาคต

หากมีเท่าไหร่ใช้ไปจนหมด บั้นปลายอาจต้องมาเจอกับความยากลำบากมากกว่าเดิม เพราะจะกลับไปเตะบอลเลี้ยงตัวเองอายุก็เกินเกณฑ์แล้ว ซึ่งถ้าตัวเขาไม่ได้มีการวางแผนไว้ก่อน มีธุรกิจที่เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้รองรับ ทุกวันนี้อาจต้องเล่น บอลเดินสาย แบบไม่มีความสุขอย่างที่เห็นตอนนี้ก็เป็นได้

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : การสัมภาษณ์ออนไลน์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ประทุม ชูทอง : นักสู้มืออาชีพแห่งโลกบอลเดินสาย
เปิดใจ ‘เบ็ค-สมเกียรติ คุณมี’ : ทำไมตัวท็อป ‘ฟ็อกซ์ฮันท์’ ถึงเลือกเส้นทางบอลเดินสาย ?
‘ผักบุ้ง PBDS’ : หญิงแกร่งแห่งวงการฟุตบอลเดินสาย
‘ใหญ่ นิลวงษ์ ’: โค้ชจอมเลื่อนชั้นแห่ง T3 ที่คุมทีมเดินสายที่ชนะ 100%
สโมสร ‘แตงโม’ : ตำนานแชมป์เงินล้านบอลเดินสายสองปีติดทีมเดียวในประเทศไทย
ศราวุฒิ มาสุข : กับชีวิตใหม่ในเส้นทางฟุตบอลเดินสาย

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ