เริ่มต้นที่นายทวาร : เดาใจมาโน่เลือก 23 แข้งในเกมอุ่นเครื่องกับ ซีเรีย และ ยูเออี

By ชยันธร ใจมูล

27 ก.ค. 2024 , 08:35น.

ทีมชาติไทยหาทางลงในช่วงปฎิทินฟีฟ่าเดย์ ได้อย่างลงล็อคด้วยการได้โปรเเกรมบุกเยือนทีมแกร่งจากตะวันออกกลางอย่าง ซีเรีย และ ยูเออี ในวันที่ 25 และ 28 มีนาคม นี้ตามลำดับ

เมื่อโปรเเกรมใกล้เข้ามาก็ได้เวลาที่เราจะมาลองสอดส่องกันดูว่าในช่วงโปรเเกรมฟีฟ่าเดย์ ที่มีแต้มฟีฟ่าเเรงกิ้งเดิมพันสูงที่สุดในรอบหลายปีเพราะไทยจะได้เจอกับทีมที่อันดับดีกว่าพร้อม ๆ กันถึง 2 ทีมแบบนี้ นักเตะคนไหนจะมีชื่อติดเข้ามาอยู่ในทีมชุดนี้กันบ้าง ?

หลังช่วงจบศึก AFF 2022 มีนักเตะไทยหลายคนฟอร์มเปรี้ยงขึ้นมาในไทยลีก แต่ใครล่ะจะเหมาะที่สุดในโปรเเกรมสำคัญนี้ วันนี้ Think Curve - คิดไซด์โค้ง จะเริ่มจากตำแหน่งผู้รักษาประตูกันก่อนเลย .. มาดูกันดีกว่าว่าจะมีใครบ้างที่มีลุ้นขึ้นมาเป็นมือ 1 และใครบ้างที่อาจจะหลุดจากทีมชุดนี้ ?

กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก

ตัวเลือกอันดับ 1 ของทีมชาติไทยในศึก AFF2022 อย่าง กิติพงศ์ ถือว่าเป็นเจอจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่โดยเริ่มตั้งแต่รายการชิงเเชมป์อาเซียนโดยแท้จริง

เส้นทางอาชีพของ กิตติพงศ์ ที่มักจะถูกรู้จักกันในฐานะผู้รักษาประตูมือ 2 เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่วันที่ ฉัตรชัย บุตรพรหม ผู้รักษาประตูมือ 1 ที่นำหน้าเขาทั้งในสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ ทีมชาติไทย เกิดได้รับบาดเจ็บในรายการ AFF 2021 และต้องพักรักษาตัวเป็นปี

โอกาสดังกล่าวจึงตกมาเป็นของ กิตติพงษ์ เริ่มจากในระดับสโมสร ที่เจ้าตัวได้รับความไว้วางใจจาก มาโกโตะ เทกุระโมริ จนมีผลงานที่โดดเด่น ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก มีส่วนสำคัญในการพาทีมเกาะหัวตารางไทยลีก ต่อเนื่องด้วยการผ่านเข้าไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

ผลงานความเหนียวหนึบและลูกเซฟประเภท "เหลือเชื่อ" ที่มีให้เห็นบ่อย ๆ ของเขาเริ่มทำให้ชื่อเสียงของเขาถูกพูดถึงขึ้นมา จนกระทั่งก้าวมาเป็นตัวเลือกของ มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ก่อนจะเริ่มให้โอกาสเขาลงเล่นในฐานะนายทวารมือ 1 เต็มตัวใน AFF2022 ดังที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น

นอกจากความเหนียวหนึบในช่วงเวลานั้นแล้ว กิตติพงศ์ ยังถือเป็นผู้รักษาประตูที่เคยทำงานร่วมกับ มาโน่ มานาน สมัยที่ มาโน่ ยังคุมทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ดีว่า มาโน่ ชอบใช้ผู้รักษาประตูในแบบที่สามารถเล่นฟุตบอลกับเท้าได้ดี สามารถบิลด์อัพเกมได้ตั้งแต่ปากประตูของตัวเอง

อย่างไรก็ตามผลงานของ กิตพงศ์ ก็มาพลิกเอาใน AFF2022 เช่นกัน โดยเฉพาะในเกมที่เสมออินโดฯ เขาจ่ายบอลพลาดไปโดนตัดหน้าเขตโทษ จน อินโดฯ ได้ยิงโล่งๆ ไหรืออีกช็อตคือในเกมกับมาเลเซีย ประตูที่เขาออกมาชกแล้วไม่เจอบอล แม้ทั้ง 2 จังหวะทีมจะไม่ได้เสียประตู แต่นั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ มาโน่ เปลี่ยนเอา กิตติพงศ์ ออกในเกมรอบรองชนะเลิศเลกที่ 2 และให้โอกาส กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล จากราชบุรี เอฟซี ลงสนามแทน ซึ่งในเกมนั้นไทยชนะไป 3-0 ก่อนที่ กัมพล จะยึดตัวจริงไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศ และสามารถเอาชนะ เวียดนาม ไปได้และคว้าแชมป์ในท้ายที่สุด

เรืองของ กิตติพงศ์ นั้นยังไม่จบการเสียตำแหน่งในทีมชาติ เพราะหลังจบทัวร์นาเม้นต์เขากลับมาเล่นให้ บีจี ปทุม อีกครั้ง ภายใต้การทำงานของกุนซือ แม็ตต์ สมิธ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผลงานของ บีจี ปทุม หลุดลุ่ย เกมรับที่เคยเหนียวเเน่นก็เสียประตูมากมาย โดยหลังจากเปิดเลก 2 มานั้น กิตติพงศ์ ได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัดในเกมลีกครบทุกนัด เต็ม 90 นาทีทุกเกม แต่เขาก็เสียประตูไปถึง  12 ลูก จาก 7 เกม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลงานที่น่าผิดหวังของทีม แต่อย่างไรเสียผู้รักษาประตูอย่างเขาก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบในส่วนหนึ่งด้วย

ท้ายที่สุดนี้หากจะว่าถึงโอกาสของ กิตติพงศ์ ในการติดทีมชาติช่วงฟีฟ่า เดย์ ก็ต้องยอมรับว่ามีโอกาสน้อยพอสมควร เพราะทั้งผลงานส่วนตัวไม่ค่อยจะดี ผลงานของทีมก็ย่ำแย่ อีกทั้งยังมีผู้รักษาประตูมือดีอีกหลายคนที่ระเบิดฟอร์มขึ้นมาในช่วงเลกที่ 2 ... ดังนั้นหาก กิตติพงศ์ หลุดจากทีมชุดนี้ ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์เท่าไรนัก

กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล

กัมพล ถือว่าเป็นผู้รักษาประตูที่โดดเด่นที่สุดในไทยลีกช่วงเลกแรกอย่างแท้จริง โดยเขาพา ราชบุรี เกาะหัวตาราง ด้วยผลงานเก็บคลีนชีทได้ถึง 7 นัด นอกจากนี้ยังเป็นผู้รักษาประตูที่ช็อตเซฟเเบบเหลือเชื่อมาให้เห็นบ่อย ๆ

ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้าตัวมีชื่อในทีมชุด AFF 2022 และอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นคือ เมื่อ กัมพล ได้โอกาสเบียด กิตติพงศ์ ในทีมชาติ เขาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอย โดย 3 เกมที่ลงเล่นให้ทีมชาติไทยในทัวร์นาเม้นต์นั้น กัมพล เสียประตูเพียงลูกเดียวเท่านั้นและช่วยให้ทีมกลายเป็นแชมป์อาเซียนอีกด้วย

อย่างไรก็ตามผลงานหลังจากทัวร์นาเม้นต์นั้นต้องบอกว่าดรอปลงไปพอสมควร โดยผลงานของ กัมพล กับ ราชบุรี นั้นตกลงพร้อม ๆ กัน เนื่องจากหลังออกสตาร์ทเลก 2 มาแล้วทั้งหมด 7 นัด เขายังไม่สามารถเก็บคลันชีทได้เลยแม้แต่เกมเดียว ... เพียงแต่ว่าหากใครได้ดูเกม หรือไฮไลต์ในแต่ละนัดที่ กัมพล ลงสนามให้ ราชบุรี ก็ยังมีจังหวะเซฟสวย ๆ ให้เห็นเสมอ

ซึ่งจุดนี้เชื่อว่า มาโน่ โพลกิ้ง ที่มักจะส่งทีมสเก้าท์ไปดูฟอร์มในหลาย ๆ สนามก็น่าจะเห็นอะไรบางอย่างในตัวของ กัมพล อยู่ โดยเฉพาะเรื่องความนิ่ง ความชัวร์ของเขาถือว่ายังคงเหลือกิน ไม่มีจังหวะพลาดง่าย ๆ หรือจังหวะความผิดพลาดส่วนบุคคลให้เห็น แม้ทีมจะผลงานไม่ดีเท่าไรนัก

ดังนั้นในโควต้าผู้รักษาประตู ไม่ว่าจะตัวจริงหรือตัวสำรอง หากมองจากประสบการณ์ ผลงานในทีมชาติ และผลงานปัจจุบัน อย่างน้อย ๆ กัมพล ก็น่าจะยังมีชื่อในทีมชุดฟีฟ่า เดย์ ครั้งนี้ ส่วนจะเป็นผู้รักษาประตูมือ 1 หรือไม่ เรื่องนั้นยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจนในเวลานี้

สมพร ยศ

สมพร ยศ ยังไม่เคยเล่นทีมชาติไทยชุดใหญ่เลยแม้แต่เกมเดียว แต่ชื่อของเขาก็ถูกพูดถึงอยู่บ่อย ๆ หากใครติดตามศึกไทยลีกมาตลอดในระยะหลัง โดยเฉพาะช่วงที่เล่นให้กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ต่อเนื่องมาจนถึงการย้ายทีมครั้งล่าสุดกับการท่าเรือ ที่ต้องบอกได้เลยว่าหากจะเอ่ยชื่อนายทวารไทยฟอร์มฮ็อตชื่อของ สมพร ยศ คงต้องติดเข้ามาเป็น 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 5 เป็นอย่างน้อยแน่นอน

จริงอยู่ที่ผลงานของต้นสังกัดของเขาอย่าง การท่าเรือ จะยังเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้มากมายนัก และหากคุณมองจากสถิติการเสียประตูของท่าเรือที่ในเลกที่ 2 เป็นต้นมา ไม่มีเกมไหนเก็บคลีนชีทได้เลย และเสียไปถึง 11 ลูกจาก 7 เกม แต่ถ้าคุณได้ดูเกมแต่ละนัดที่สมพร ยศ เล่นให้ท่าเรือ คุณจะสามารถตอบได้ทันทีเลยว่า หลาย ๆ แต้มที่ท่าเรือได้มาในเลกที่ 2 นั้น เขามีส่วนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเกมที่เอาชนะหนองบัว พิชญ 2-1 นั้น มีจังหวะเหลือเชื่อสุด ๆ ที่นักเตะของ หนองบัวฯ หลุดดวลกับเขาแบบ 2-1 ซึ่งสมพร ก็ตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาด ตัดบอลได้ในจังหวะสำคัญ ซึ่งจังหวะนั้นท่าเรือยังตามอยู่ 0-1 ... และหลังจากจังหวะนั้นไม่นานนัก ท่าเรือ ก็พลิกยิง 2 ประตูในช่วงท้ายเกม คว้าชัยไปครองได้โดยที่ สมพร จะต้องได้เครดิตอย่างมหาศาลในเกมนั้น

เหนือสิ่งอื่นในคือ สมพร ถือว่ามีคุณสมบัติของผู้รักษาประตูที่ดีครบ กล่าวคือเล่นบอลกับเท้าได้ดีในระดับหนึ่ง มีลูกเซฟปาฎิหาริย์ให้เห็น เหนือสิ่งอื่นใดคือความชัวร์ไม่มีการพลาดแบบหมูหกให้เห็น ดังนั้นด้วยทั้งหมดที่กล่าวมา สมพร มีโอกาสจะติดเข้ามาในรายชื่อชุดลุยศึก ฟีฟ่า เดย์ ครั้งนี้ และไม่แน่เขาอาจจะดีพอสำหรับการเป็นมือ 1 ของทีมก็ได้

ปฎิวัติ คำไหม

ปฏิวัติ คำไหม เคยได้โอกาสติดทีมชาติไทยชุดใหญ่มาแล้วในยุคของกุนซือ อากิระ นิชิโนะ ที่เสมอกับ ทาจิกิสถาน ไป 2-2 เมื่อปี 2021 ซึ่งในเกมนั้น ปฎิวัติ เซฟอุตลุตจนทำให้ได้รับคำชมมาไม่น้อย ทว่าหลังจากนั้นชื่อของเจ้าตัวก็เงียบ ๆ ไปบ้าง จนกระทั่งเริ่มมาถูกพูดถึงอีกครั้งในช่วงไทยลีก เลกที่ 2 ที่เขาถูก เมืองทอง ยิมตัวมาใช้งานจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

เมืองทอง นั้นหมายมั่นปั้นมือว่าเขาจะต้องมาเป็นมือ 1 ของทีมแทนที่ของ สมพร ยศ ที่ย้ายไปอยู่กับท่าเรือ ซึ่ง ปฎิวัติ ก็เข้ามาและแทบไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวอะไรเลยแม้ว่าจะไม่มีโอกาสได้ลงเล่นเลยแม้แต่นาทีเดียวในช่วงไทยลีกเลกแรก

ปฎิวัติ ลงเล่นกับเมืองทองทุกเกมในช่วงเลกที่ 2 ตลอด 7 เกมที่ผ่านมา เขามีส่วนสำคัญที่ทให้เมืองทองแพ้ไปแค่เกมเดียว(แพ้ สุโขทัย 1-2) ส่วนที่เหลือนั้นเป็นการชนะถึง 5 เกม และเสมออีก 1 เกม ซึ่งหากจะจำแนกสถิติ จะพบได้ว่า ปฎิวัติ ทำคลีนชีทได้ 3 เกม และมีเพียง 2 เกมเท่านั้นที่เขาโดนคู่ยิงประตูมากกว่า 1 ลูก (ชนะท่าเรือ 3-2, เสมอ บุรีรัมย์ 4-4)

ในทีมเมืองทองที่มี มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่ใช้วิธีการเล่นแบบ "มาริโอ เวย์" ที่เน้นเรื่องการบิลด์อัพเกตั้งแต่เเดนของตัวเอง ตัวของปฎิวัติ ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ได้รับคำชมจาก มาริโอ ว่าเป็นกุญแจสำคัญในแท็คติกการเล่นของเขาอย่างแท้จริง

แน่นอนว่าวิธีการเล่นในแบบที่ ปฎิวัติ ทำอยู่กับเมืองทอง ถือว่าเป็นวิธีการเดียวกับที่ มาโน่ โพลกิ้ง ต้องการพอดิบพอดี ดังนั้นหากว่ากันจากทั้งฟอร์มการเล่น สถิติการเซฟ และการมีอิทธิพลต่อทีม ปฎิวัติ จึงเป็นหนึ่งในคนที่มีลุ้นติดทีมชุดนี้อย่างเต็มตัว

ศิวลักษณ์ เทศสูงเนิน

พี่ใหญ่ในวัย 38 ปี อย่าง ศิวลักษณ์ เทศสูงเนิน กลับมาทวงตำแหน่งมือ 1 ของต้นสังกัดอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จาก นพพล ละครพล ได้สำเร็จ หลังจากที่ นพพล สร้างข้อผิดพลาดในเกมที่ บุรีรัมย์ บุกเสมอ เมืองทอง ไป 4-4 และหลังจากที่ ศิวลักษณ์ เฝ้าเสาให้ บุรีรัมย์ ใน 3 เกมหลังสุด เขายังไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว

เรื่องของคุณภาพสำหรับ ศิวลักษณ์ เราคงไม่ต้องพูดอะไรมาก เนื่องจากผลงานของเขาสะท้อนมาให้เห็นตลอดอาชีพค้าแข้งอยู่แล้ว สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือเรื่องของความชัวร์ และประสบการณ์ ซึ่ง 2 สิ่งนี้สำคัญมาก ๆ เพราะโปรเเกรมที่จะเจอกับทั้ง ซีเรีย และ ยูเออี ถือเป็นโปรเเกรมยาก และไทยก็เป็นรองในแง่ของภาพรวมและอันดับฟีฟ่าแรงกิ้ง

ก่อนจะถึงช่วงโปรเเกรมฟีฟ่า เดย์ ศิวลักษณ์ มีโอกาสลงเล่นอีก 2 เกม ในเกมกับ หนองบัว พิชญ และ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ดังนั้นหากเขาไม่แสดงข้อผิดพลาด รักษาคลีนชีทได้ และมีจังหวะเซฟที่ส่งอิทธิพลต่อเกม เชื่อว่า ศิวลักษณ์ น่าจะแบเบอร์ในการมีชื่อติดทีมชุดนี้ เหลือแค่เพียงลุ้นว่าจะได้เป็นมือ 1 ของทีมชาติไทยหรือไม่เท่านั้นเอง

ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ Think Curve - คิดไซด์โค้ง จะนำเสนอต่อจากนี้ อย่าลืมกดติดตามกันเอาไว้ให้ดี เพราะเราจะทำให้ครบทั้ง 26 คน (ก่อนจะคัดเลือกเหลือ 23 คนสุดท้าย) ในทุกตำแหน่งก่อนการแข่งขันขันจริงจะมาถึง

สำหรับโปรเเกรม ฟีฟ่า เดย์ กับ ซีเรีย และ ยูเออี นั้นจะมีการแข่งขันกันในวันที่ 25 และ 28 มีนาคม ตามลำดับ ส่วนรายละเอียดเรื่องสนาม และเวลาแข่งขัน จะแจ้งรายละเอียดให้ทาบอีกครั้งในภายหลัง แต่ยืนยันแล้วว่าจะมีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทาง AIS Play เหมือนเช่นเคย

ทางด้านกำหนดการประกาศรายชื่อนักเตะนั้น ทีมชาติไทย มีคิวจะประกาศรายชื่อภายในสัปดาห์หน้า โดย ทีมชาติไทย จะเรียกนักกีฬาทั้งหมด 26 คน มารวมตัวกันเพื่อฝึกซ้อมในวันที่ 20 มีนาคม และออกเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในวันที่ 23 มีนาคมนี้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง :

องค์ประกอบการปลุกพลังแฝง : "ยิม" วรชิต หลังจุดติดด้วยประตูสุดสวย

กี่นาทีก็มีความหมาย : สุภโชค กับโอกาสน้อยนิดที่วัดกันด้วยทัศนคติล้วน ๆ

Inside Forward : ตำแหน่งตัวรุกโมเดิร์นฟุตบอลที่ทำให้ ศุภณัฏฐ์ ฮ็อตปรอทแตก