กี่นาทีก็มีความหมาย : สุภโชค กับโอกาสน้อยนิดที่วัดกันด้วยทัศนคติล้วน ๆ

กี่นาทีก็มีความหมาย : สุภโชค กับโอกาสน้อยนิดที่วัดกันด้วยทัศนคติล้วน ๆ
ชยันธร ใจมูล


ช่วงเวลานี้แฟนบอลชาวไทย ที่กำลังติดตามให้กำลังใจนักเตะทัพ ช้างศึก ซึ่งออกไปเผชิญโชคแบบเสี่ยงดวง ด้วยการย้ายออกไปค้าแข้งนอกประเทศ คงไม่สบอารมณ์มากเท่าไหร่นักกับการรอรับชม ฟุตบอล เจ ลีก ประเทศญี่ปุ่น

อย่างที่ทราบกันดีว่า ชนาธิป สรงกระสินธิ์ เพลย์เมคเกอร์ร่างจิ๋ว ถูกทางต้นสังกัด คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ จับดองไม่มีชื่อในทีมมาแล้วสองเกมติดในลีก เป็นสมาชิกในทีมชุดใหญ่ก็จริง แต่มีส่วนร่วมแค่การซ้อมตามโปรแกรมและแข่งขันในเกมอย่างไม่เป็นทางการเท่านั้น

ส่วนในรายของ “เช็ค” สุภโชค สารชาติ อดีตแนวรุกคนสำคัญของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งย้ายไปอยู่กับสโมสร ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร แบบถาวร ด้วยสัญญายาว 5 ปี หลังจากสร้างผลงานได้น่าพอใจระหว่างย้ายไปเล่นแบบยืมตัวฤดูกาลก่อน ก็ยังคงต้องต่อสู้เพื่อโอกาสในการลงสนามต่อไป

สถานการณ์ของ เช็ค นับรวมจนถึงตอนนี้ ได้ลงเล่นรวมสองนัดในลีก ไปไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ ออกสตาร์ทบนม้านั่งสำรอง จากการตัดสินใจของ มิไฮโล เปรโตวิช โค้ชชาวเซอร์เบีย ที่เริ่มโดนกระแสแฟนบอลและนักเตะเก่าออกมาโจมตี เนื่องจากผลงานไม่เข้าตา

อย่างไรก็ตามหากมองในอีกมุมหนึ่ง สุภโชค จะได้ประโยชน์อะไรบ้าง กับจำนวนเวลาที่น้อยนิดแต่ละเกม ในการที่เขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ ร่วมหาคำตอบแบบต่างมุมได้ใน Think Curve - คิดไซด์โค้ง

เก็บเกี่ยวประสบการณ์

แน่นอนว่าความคาดหวังของแฟนฟุตบอลไทย คือ การได้เห็นผู้เล่นจากประเทศของเรา ถูกส่งตัวออกไปเล่นในลีกชั้นนำในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในทวีปเอเชียหรือในยุโรป ซึ่งบางประเทศยังติดเรื่องข้อกำหนดหลายๆ อย่างเกี่ยวกับใบอนุญาตการทำงาน

จุดหมายที่ดูมีความเป็นไปได้มากที่สุด ย่อมเป็น เค ลีก ประเทศเกาหลีใต้ และ เจ ลีก ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสองลีกชั้นนำในภูมิภาคเดียวกันกับเรา แล้วมีนักเตะรุ่นพี่อย่าง “เดอะ ตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ไปกรุยทางไว้ก่อนแล้ว

ในเคสของ สุภโชค นักเตะไทยรายล่าสุด ที่ได้ไปค้าแข้งในศึก เจ ลีก ในมุมมองของแฟนบอลไทยทุกคน ย่อมต้องการเห็นเขาลงเล่นเป็นประจำ เพื่อโชว์ฝีเท้าของนักเตะไทยให้ชาติอื่นๆ ยกย่องว่า สามารถทำประโยชน์ในสนามได้อย่างไรบ้าง?

Photo : J.League

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายที่ตัวของนักเตะ จะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ต้องใช้เวลาค่อยเป็นค่อยไปตามที่ เช็ค เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า

“ตอนนี้ผมก็ค่อนข้างปรับตัวได้ดีกว่าช่วงแรกๆ ที่มา ทั้งเรื่องภาษา อาการการกิน ทุกอย่างมันต่างจากบ้านเรามากเลย”

“แต่ช่วงสองสามเดือนที่ได้มาซ้อมและอยู่ที่ ซัปโปโร ก็เป็นการปรับตัวได้ดีมาก ทุกอย่างทำเองได้เกือบหมดแล้ว”

“ในมุมมองของผม การแข่งขันในทีมที่นี่จะเข้มข้นกว่าบ้านเราถ้าเทียบกัน ช่วงแรกผมรู้สึกว่าสปีดบอลการจ่ายของผมน้ำหนักไม่เท่ากับนักเตะญี่ปุ่น เพราะพวกเขาค่อนข้างจะส่งบอลแรงกว่าที่ไทยเยอะ”

“มันเป็นเรื่องของการชิงความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง หากเราส่งได้เร็ว ได้แรง แม่นยำ ก็จะทำให้เราได้เปรียบ ซึ่งนักเตะญี่ปุ่นค่อนข้างจะมีเบสิคฟุตบอลที่ดีกว่า”

Photo : Goal

“ผมก็มาในที่ที่มันใหม่สำหรับตัวผมเองด้วย มันคือการออกนอกประเทศครั้งแรกของผม ฟุตบอลมันก็เปลี่ยนไป แทคติกส์ต่างๆ ไม่เหมือนเดิม จังหวะไทม์มิ่ง การรับบอล-ส่งบอล การเล่นเกมรุก-รับ ความเข้มข้นของเกมที่มันเพิ่มขึ้นเยอะมาก”

“การซ้อมในสนาม หากเราทำได้ไม่ตรงตามที่โค้ชต้องการ โค้ชเขาก็จะเดินลงสนามในสนาม แล้วก็จะจูงมือเราไปตามตำแหน่งต่างๆ ว่าต้องขยับแบบไหน ซึ่งทุกคนก็โดนเหมือนกัน แต่การที่ผมมาใหม่อาจโดนเยอะกว่าคนอื่นหน่อย”

“การทำงานของผู้เล่นที่นี่ ทุ่มเทให้กับฟุตบอลแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ มีการซ้อมพิเศษเพิ่มเติมเองหลังจากโปรแกรมปกติ เริ่ม 7 โมง จบ 10 โมง แต่อยู่กันถึงบ่ายสองบ่ายสาม”

“ผมคิดว่าตอนนี้ตัวผมก็เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ก็มีเรื่องให้ต้องปรับปรุงอยู่อีกเหมือนกัน”

Photo : J.League

แม้ว่าช่วงเวลาการลงสนามซีซั่นก่อนจะน้อย รวมทุกเกมเพียงแค่ 93 นาที แต่ตัวของเขาก็ใช้เวลาส่วนนั้นให้เป็นประโยชน์สูงสุด ด้วยการทำไปได้ถึง 3 แอสซิสต์ ซึ่งถ้าตัดเกรดออกมาให้มาตรฐาน นับว่าเป็นสถิติที่ไม่เลวเลยทีเดียว

การใช้เวลาซ้อมและศึกษาแนวทาง การใช้ชีวิตนักเตะอาชีพในญี่ปุ่น ย่อมส่งผลถึงทัศนคติของ เช็ค ให้มีแรงกระตุ้นให้กับตัวเอง ต่างกับการอยู่ที่ไทย ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเซฟโซนของเขา การพัฒนาไปแบบเป็นขั้นเป็นตอนต้องใช้เวลา ยากที่จะเร่งกันตามแบบที่แฟนบอลคาดหวัง

อดทนเพื่อรอโอกาส

ความทุ่มเทของ เช็ค ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ค่ายเก็บตัวช่วงก่อนเปิดฤดูกาลที่ยาก ไม่เคยสัมผัสมาก่อน แตกต่างกับที่เคยผ่านมาคนละแบบ หนักหนาสาหัสในมุมมองที่แตกต่างกันไปคนละรสชาติ เพราะเป็นประสบการณ์ปรี-ซีซั่นครั้งแรกของเจ้าตัวแบบเต็มรูปแบบที่ญี่ปุ่น

อย่างน้อยการเตรียมความพร้อมในจุดนี้ ก็จะสามารถช่วยพัฒนาเรื่องศักยภาพร่างกายของเขา ให้ดีขึ้นกว่าฤดูกาลก่อนได้แน่นอน อ้างอิงจากประวัติการบาดเจ็บของเขาในปีก่อนที่พลาดการลงเล่นไปถึง 6-7 นัดเต็มๆ เพราะมีปัญหาเรื่องความฟิต

การได้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น ได้ซ้อมกับกลุ่มผู้เล่นที่มีฝีเท้าและศักยภาพยอดเยี่ยม ล้วนเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตัวเอง ไม่ได้ใช้เวลาไปแบบเสียเปล่าย่ำอยู่กับที่ แม้ว่าสองนัดแรกจะได้ลงโชว์ในบทบาทตัวสำรองเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม

Photo : J.League

ทัศนคติของ เช็ค ยังคงมองโลกในแง่บวกเข้าใจการตัดสินใจของโค้ช "มิชา" เป็นอย่างดี จากการให้สัมภาษณ์หลังจบเกมลีกนัดแรกที่เป็นตัวสำรองไม่ได้ลงเล่น แล้วทีมสามารถบุกไปเก็บหนึ่งแต้มในเกมเยือน ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า เอาไว้ว่า

“ผลงานทีมก็ดี ถึงตัวผมเองจะไม่ได้ลงก็ไม่เป็นไรครับ ถือว่าวันนี้มาเยือนแล้วเก็บผลเสมอได้ก็ถือว่าโอเคครับ”

“จริงๆ 6 เดือนแรกที่เรามา มันเหมือนเป็นการมาซ้อมก่อน มาเรียนรู้ พอปีนี้ก็ช่วยเรื่องการใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น”

“ผมว่าการเป็นตัวสำรองเป็นเรื่องธรรมดา โค้ชแต่ละคนมีแทคติกส์ของเค้า เราเป็นนักบอลเรามีหน้าที่เล่นก็เล่นไป ทำหน้าที่ของเราไป”

Photo : J.League

“ส่วนแฟนบอลจะคอมเมนท์จะพิมพ์อะไรก็พิมพ์ไป ทางนี้ไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว ก็พยายามทำงานของเราต่อไป”

“ผมอยากพาทีมไปให้ไกลที่สุด อยากได้สักแชมป์นึงอะไรก็ได้ติดไม้ติดมือสักหน่อย สำหรับผลงานส่วนตัวก็อยากได้เล่นมากขึ้นแค่นั้น”

สถานการณ์ของ เช็ค กับสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ยังไม่ได้เข้าขั้นแย่จนน่าเป็นห่วง แบบที่แฟนบอลไทยกำลังกังวลกันอยู่ว่าเขาจะไปไม่รอด ซึ่งขนาดนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ในวงการลูกหนังคนอื่นๆ ก็เคยเจอมาแล้วเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น ซอน เฮือง-มิน สตาร์เบอร์หนึ่งทีมชาติเกาหลีใต้ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จากที่เคยเป็นตัวจริงขาประจำ ก็หลุดเป็นตัวสำรองในเกมลีกมาแล้วสองนัดติด เจ้าตัวมีข่าวลือว่าไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ก็ยอมรับการตัดสินใจของโค้ชได้ หากผลงานของทีมเก็บชัยชนะได้ตามเป้า

Photo : tbrfootball.com

ย้อนกลับไปในยุคอดีต โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กองหน้าชาวนอร์เวย์จากสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เคยรับบทบาทตัวสำรองอดทน รอทำหน้าที่เป็น ซูเปอร์ซับ ลงไปเปลี่ยนเกมยามที่ทีมต้องการ หลายครั้งหลายหนสามารถลงไปยิงประตูสำคัญได้ ยกตัวอย่างเช่นประตูชับนัดชิงศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1998/99

ตัวของ โซลชา เก็บประสบการณ์จากการนั่งบนซุ้มม้านั่งสำรอง ได้เห็นการทำงานของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รวมไปถึงการพูดคุยกันก่อนจะถูกส่งลงสนาม

แล้วนำสิ่งเหล่านั้นมาปรับใช้ในการทำงานของตัวเอง ตอนรับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม ปีศาจแดง ซึ่งหนึ่งในนักเตะที่เขาดูแลแบบประคบประหงม คือ เมสัน กรีนวู้ด ผู้เล่นดาวเด่นจากทีมอะคาเดมี่ ที่มีจุดเริ่มต้นในทีมชุดใหญ่ด้วยการเป็นตัวสำรองไปก่อนเช่นกัน

เกมตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด เป็นศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ ยูไนเต็ด บุกไปพลิกสถานการณ์เอาชนะ ไก่เดือยทอง ภายใต้การนำทัพของ โชเซ่ มูรินโญ่ 3-1 ซึ่งตัวหมากสำคัญที่ โซลชา เปลี่ยนลงไปเป็น ซูเปอร์ซับ คือ กรีนวู้ด ที่ลงไปทำหนึ่งแอสซิสต์ บวกกับประตูปิดกล่องอีกหนึ่งลูก

Photo : The Busby Babe

โดยทาง กรีนวู้ด ได้พูดถึงประเด็นนั้นเอาไว้ว่า

“โอเล่ เล่าประสบการณ์การลงเป็นตัวสำรองนัดชิงบอลยุโรปปี 1999 หลายต่อหลายครั้งให้กับผมฟัง ยิ่งผมได้ดูวิดีโอประกอบไปด้วย ผมเลยไม่มีวันลืมเหตุการณ์นั้นเลย”

“เขาบอกผมว่าเขาเตรียมพร้อมอยู่เสมอ แล้วอยากให้ผมทำแบบนั้นเช่นกัน มันเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดส่งต่อกันมาตั้งแต่ในทีมเยาวชนมาจนถึงตอนนี้”

“แน่นอนว่าคุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอบนม้านั่งสำรอง เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะได้ลงเล่นตอนไหน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ตัวสำรองทุกคนรอคอยแบบเดียวกัน”

“เมื่อผมถูกสั่งให้ลงสนาม ก็แค่ลงไปทำสิ่งที่ตัวเองต้องการอยู่แล้ว พยายามทำผลงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”

Photo : Goal

“แล้วพอผมมีส่วนร่วมกับสองประตูที่ทีมทำได้ มันก็ทำให้ผมรู้สึกภูมิใจกับผลงานของตัวเองสุดๆ”

จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่ยกมา แฟนบอลไทยอย่างเราๆ คงไม่มีใครสามารถเดาความคิดของ โค้ชมิช่า ในการดูแลและใช้งาน สุภโชค ได้ตรงเป้าแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน

แต่ถ้าวันหนึ่งที่ผลงานในฐานะการเป็นตัวสำรองออกมาดี มีประตูหรือแอสซิสต์ ย่อมเป็นบันไดปูทางให้โอกาสได้ลงเล่นเป็นตัวจริงของ เช็ค มีมากขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
3 ทางของ “เจ” : มองรอบด้านถึงอนาคต ชนาธิป ในการค้าแข้งต่างเเดน | Think Curve - คิดไซด์โค้ง
Think Curve - คิดไซด์โค้ง กระแสเรื่องอนาคตของ “เจ - ชนาธิป สรงกระสินธ์” เพลย์เมคเกอร์เบอร์หนึ่งของทีมชาติไทย กลายเป็นที่พูดถึงของแฟนบอล ตามกลุ่มโลกสังคมออนไลน์กันแบบหนาหู หลังเจ้าตัวต้องเปิดฤดูกาลนี้ ด้วยการไม่มีชื่อแม้แต่ตัวสำรองกับต้นสังกัด


แสดงให้เห็นถึงความเป็นเลือดนักสู้

การต่อสู้ของ สุภโชค ที่ใช้ความสามารถทางฟุตบอล ไต่เต้าไล่ระดับมาตั้งแต่สมัยอายุยังน้อย ไม่ต้องสอบเข้าโรงเรียน แต่อาศัยโควต้านักกีฬาที่มีศักยภาพสูง ผ่านการคัดเลือกเข้าไปได้สบาย แต่กว่าจะเก่งขนาดนั้นได้ ก็ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง เพื่อขัดเกลาพรสวรรค์ให้เฉียบคม

แต่นั่นเป็นเพียงแค่บททดสอบแรกเริ่มที่ยังไม่หนักหนาเท่าไหร่ เนื่องจากยังอยู่ในโซนบ้านเกิดจังหวัด ศรีสะเกษ ที่ต้องยอมรับกันตามตรงว่า คู่แข่งยังเป็นระดับตำบลและจังหวัด

ด่านแรกที่ เช็ค แสดงให้เห็นถึงความใจสู้ แล้วเป็นเวทีใหญ่ที่ยากจะผ่านได้ง่ายๆ คือ การเดินทางไปคัดตัวเข้าอะคาเดมี่ของสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ซึ่งเจ้าตัวต้องแบกอายุวัย 13 ปี ไปวัดกระดูกบอลกับเด็กที่โตกว่า

Photo : Goal

ด้วยความใจสู้ของ สุภโชค ที่ต้องแข่งขันกับผู้เข้าร่วมคัดเลือกกว่า 1,000 คน เขาใช้จุดเด่นเรื่องการวิ่งสู้ฟัด ทุ่มเทแบบเกินร้อย จนเอาชนะใจกรรมการคว้าอันดับหนึ่งมาครองได้อย่างน่าทึ่ง แล้วก็สู้ต่อจนสามารถขึ้นมาเป็นขุนพลชุดใหญ่ของ ปราสาทสายฟ้า ได้สำเร็จ

เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ซึ่งสามารถทำแฮตทริกได้บนลีกสูงสุด ด้วยวัยเพียง 18 ปี 9 เดือน กับอีก 17 วัน แต่ไม่เคยเหลิงไปกับความสำเร็จและถ้วยแชมป์ที่ถาโถมเข้ามา ยังคงมุ่งมั่นแบบเต็มร้อยในการลงสนามทุกเกม เคยบาดเจ็บหนักคิ้วแตกระหว่างเกม มีแผลแตกเย็บ 19 เข็ม ในนัดที่พบกับ การท่าเรือ มาแล้ว

การต่อสู้ในศึก เจ ลีก รอบนี้ ก็เป็นเพียงแค่อีกบททดสอบหนึ่ง บนเวทีที่ต่างออกไป ซึ่งตัวของเขาต้องผ่านมันไปให้ได้ หากหวังจะไปไกลกว่านี้บนเส้นทางสายลูกหนัง แล้วยังเหลือเวลาอีกยาวไกลให้พิสูจน์ตัวเอง เนื่องจากสัญญากับต้นสังกัด เซ็นกันยาวถึงปี 2027 เวลาเพิ่งจะผ่านไปเพียงแค่เศษเสี้ยวไม่กี่เดือน

โอกาสที่ได้มาเล่นในลีกเอเชียที่มีมาตรฐานสูงที่สุดลีกหนึ่งในทวีปอย่าง เจ ลีก ประเทศญี่ปุ่น ไม่ใช่ทุกคนจะคว้ามันมาได้เหมือนกับเขา ดังนั้นต้องแสดงศักยภาพออกมาให้เต็มที่เหมือนที่เคยทำมาตลอด คงคาแรกเตอร์พูดน้อยต่อยหนัก ให้ผลงานในสนามของตัวเองตอบทุกข้อสงสัย

Photo : Goal

ไม่ว่าบทสรุปครั้งนี้ของเขาจะลงเอยแบบไหน แฟนบอลชาวไทยก็พร้อมส่งกำลังใจ ตั้งหน้าตั้งตารอชมการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางต่างๆ กันอยู่เป็นประจำเช่นเดิม ด้วยความเชื่อมั่นว่า เช็ค จะใช้ความอดทนและลูกฮึด ผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้เหมือนกับทุกครั้งก่อนหน้านี้

ต่อให้มันจะลงเอยแบบไม่สมหวังดังคาด แต่ประสบการณ์ในการลงสนามทุกนาทีของเขาบนเวทีใหญ่ขนาดนี้ ก็มีค่า จนประเมินออกมาเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

Inside Forward : ตำแหน่งตัวรุกโมเดิร์นฟุตบอลที่ทำให้ ศุภณัฏฐ์ ฮ็อตปรอทแตก

ศุภณัฎฐ์ พุ่งพรวด : อัพเดท 10 อันดับนักเตะไทยลีกมูลค่าสูงที่สุดในเวลานี้

30 ปีเจลีก: ย้อนรอยก้าวแรกลีกอาชีพญี่ปุ่นก่อนการเป็นเบอร์ 1 ของเอเชีย

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https://www.youtube.com/watch?v=zV52oCHIBls

https://www.youtube.com/watch?v=DV-1gi0fQXw

https://www.youtube.com/watch?v=PcnIyHwN_7M

https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=yTjO_WGZpc4

https://www.goal.com/en/news/greenwood-reveals-how-1999-tales-have-made-him-a-man-utd-super-sub-in-the-solskjaer-mould/lyjx4q8dr7hs161iihesvw3fa

https://www.transfermarkt.com/hokkaido-consadole-sapporo/startseite/verein/16032

https://www.transfermarkt.com/supachok-sarachat/leistungsdaten/spieler/426623/plus/0?saison=2022

แชร์บทความนี้
หัวหน้ากองบรรณาธิการ, คิดไซด์โค้ง-ThinkCurve
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

MOST POPULAR

สนใจโฆษณาติดต่อ