long-read

Story

Talentspotter

Top

Popular

ปีเดียวเป็นตำนาน : คิม ชิน วุก ตัวตึง FIFA ที่ถล่มลีกสิงคโปร์ราบคาบ

จะมีผู้เล่นสักกี่คนบนโลก ที่เกมชื่อดังอย่าง FIFA กล้ามอบค่าพลังให้เต็มหลอด 99 สำหรับหมวดค่าใดค่าหนึ่ง ซึ่งส่งผลต่อการเล่นให้เกิดความได้เปรียบเข้าขั้นโกง ยิ่งเป็นผู้เล่นที่ค้าแข้งอยู่ฝั่งทวีปเอเชียแล้วนั้น แทบจะปัดตกไปได้เลย

แต่สำหรับ แ ดาวเตะสัญชาติเกาหลีใต้ เป็นหนึ่งคนที่ได้รับเกียรตินั้น ในเกม FIFA 14 กองหน้ารายนี้มค่าพลังหมวดความแข็งแกร่งของร่างกายเต็ม 99 ทั้งหมวด Strength และ Stamina จนคอเกมตั้งฉายาให้ว่า “อิบราฮิโมวิชแห่งเกาหลี” ซึ่งต่อยอดไปเป็นตัวเมต้า (พลังแฝงเกินค่าพลังจริง) บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง FIFA ONLINE 3 อีกด้วย

เส้นทางการค้าแข้งของดาวยิงแดนโสม ที่กล้าเสี่ยงย้ายออกไปเล่นใน เอส ลีก สิงคโปร์ กับสโมสร สร้างปรากฏการณ์อันครั่นคร้ามไปทั้งวงการ เหตุใดเขาถึงประสบความสำเร็จถึงขั้นนั้นได้? เส้นทางการค้าแข้งที่ผ่านมาของเขาเป็นเช่นไร? หาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

ยักษ์ปักหลั่นแห่งเคลีก

คิม ชิน วุก เริ่มต้นเล่นฟุตบอลในระดับมัธยมกับโรงเรียน กวาชอน ไฮสคูล และต่อยอดในมหาวิทยาลัยกับ ชุง-อาง ยูนิเวอร์ซิตี้ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจ คือ ตำแหน่งการเล่นของเขา ที่เปิดตัวด้วยการเป็นกองหลังตัวกลาง ที่สามารถดันขึ้นไปเป็น กองกลางตัวรับ แบบขัดตราทัพได้

ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่น อุลซาน ฮุนได สโมสรชั้นนำในศึก เค-ลีก เกาหลีใต้ ดึงตัวเขามาร่วมทีมในปี 2009 ซึ่งทางผู้จัดการทีม คิม โฮ-กอน เห็นประโยชน์จากรูปร่างที่สูงใหญ่เกือบสองเมตร และ ความแข็งแกร่งในการเล่นลูกกลางอากาศ จึงกล้าเสี่ยงที่จะปรับตำแหน่งให้มายืนเป็น กองหน้าตัวเป้า คอยทำหน้าที่จบสกอร์หน้าปากประตู พร้อมกับให้คำแนะนำในแนวทางการเล่นแบบใหม่

แม้ว่า ชิน วุก จะถูกโยกมายืนตำแหน่งการเล่นที่ไม่คุ้นชิน แต่การจบปีแรกด้วยการยิงทุกรายการรวมไป 9 ลูก ก็เป็นการเริ่มต้นที่ไม่เลวเลยทีเดียว ซึ่งต่อมาในปี 2010 ก็เพิ่มสถิติการยิงเป็น 11 ลูก ขณะที่ปีถัดไปก็เครื่องติดยิงไปถึง 19 ลูก จนเริ่มมีข่าวลือในยุคที่ลีกรัสเซียการเงินเฟื่องฟูกับสโมสรอย่าง อันชี่ มาคัชคาล่า และ รูบิน คาซาน

ฝีเท้าของเขาพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน ภายใต้การแนะแนวทางของ คิม โฮ-กอน เทรนเนอร์คู่บุญ ซึ่งได้รับการตอบแทนเป็นถ้วยแชมป์ เค-ลีก ในปี 2011 ต่อเนื่องด้วยแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2012 โดย ชิน วุก ระเบิดฟอร์มกดไปถึง 22 ประตูรวมทุกรายการ แตะระดับ 20 ประตูเป็นครั้งแรกในอาชีพ

"ชิน วุก เป็นกองหน้าที่พิสูจน์ว่าตัวเองเป็นยอดดาวยิงแล้ว ด้วยการเล่นในลีกที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งเป็นผู้เล่นที่จะนำความกระหายชัยชนะ และ ประสบการณ์ต่างๆ ในการลงสนาม มาช่วยทีมได้อย่างมากในเกมใหญ่" คิม โด ฮุน อดีตโค้ชของ อุลซาน อธิบาย

จากฟอร์มอันร้อนแรงดังกล่าว น็อตติ้งแฮม ฟอร์เรสต์ อดีตยักษ์ใหญ่จากประเทศอังกฤษ แสดงความสนใจที่จะดึงตัวดาวยิงรายนี้ไปเสริมทัพแดนหน้า แต่ตัวนักเตะเลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว เพราะต้องการอยู่ช่วยเทรนเนอร์ที่ปลุกปั้นเขาขึ้นมา บทสรุปเลยลงเอยไม่ต่างจากการบอกปัดโอกาสไปเล่นที่รัสเซีย

ในปี 2013 ชิน วุก พลาดคว้ารางวัลส่วนตัวด้วยการเป็นดาวซัลโวของลีกไปอย่างน่าเสียดาย เพราะกฏของลีกจะมอบรางวัลให้กับนักเตะที่ยิงประตูได้เท่ากัน แต่มีจำนวนนัดที่ลงเล่นน้อยกว่า ซึ่งเขาก็ได้รับเลือกเป็น ผู้เล่นทรงคุณค่าของลีก, อดิดาส ออล-อิน แฟนแทสทิก เพลเยอร์ และ เบสท์ อีเลฟเว่น สไตรเกอร์ มาปลอบใจถึงสามรายการ

และด้วยฟอร์มที่แสนร้อนแรง การันตีด้วยสถิติการยิงประตูถล่มทลาย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เกม FIFA 14 จะให้พลังในหมวดความแข็งแกร่งของร่างกายเต็ม 99 ทั้ง Strength และ Stamina จนคอเกมตั้งฉายาให้ว่า “อิบราฮิโมวิชแห่งเกาหลี” ซึ่งต่อยอดไปเป็นตัวเมต้า (พลังแฝงเกินค่าพลังจริง) บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง FIFA ONLINE 3 ในอนาคต

แต่ความยอดเยี่ยมของเขาไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้

เฉิดฉายนอกบ้านเกิด

ชิน วุก เลือกอยู่ค้าแข้งกับ อุลซาน ฮุนได อีกสองปี และยังคงรักษามาตรฐานในการยิงประตูแตะเลขสองหลักเหมือนเดิม แต่เนื่องด้วยอาการบาดเจ็บที่มารบกวนเป็นบางช่วงเวลา จึงทำให้จำนวนประตูของเขารวมสองซีซั่นอยู่ที่ 31 ลูก ก่อนจะถูกปล่อยตัวไปให้กับ ชอนบุก ฮุนได มอเตอร์ส คู่แข่งระดับลุ้นแชมป์ลีก จนแฟนบอลเกิดอาการเคืองทั้งสโมสรและนักเตะเป็นการใหญ่

แล้วสิ่งที่น่ากลัวก็เกิดขึ้นจริง เพราะการซื้อตัว ชิน วุก ไปร่วมทีมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าของ ชอนบุก ฮุนได มอเตอร์ส ที่คว้าแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ในปี 2016 ต่อเนื่องด้วยแชมป์ เค-ลีก ในปี 2017 และ 2018

ถัดมาในปี 2019 ชิน วุก ย้ายไปร่วมทีม เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ในศึก ไชนีส ซูเปอร์ลีก ยุคเฟื่องฟู ได้กลับมาร่วมงานกับ ชอย คาง-ฮี อดีตผู้จัดการทีมของ ชอนบุก ฮุนได มอเตอร์ส อีกครั้ง ยิงประตูได้ตั้งแต่เกมแรกนัดเปิดตัว แต่ทีมต้องลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ให้กับ เหอเป่ย ด้วยสกอร์ 1-2

ชิน วุก ช่วยพาทีมไต่อันดับรอดพ้นการตกชั้นไปได้ จากการยิงไป 10 ประตู จากการลงเล่น 15 เกม แถมยังไปถ้วยแชมป์ ไชนีส เอฟเอ คัพ 2019 ติดไม้ติดมือเป็นรางวัลปลอบใจอีกด้วย

ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นาน ลีกจะแดนมังกรจะเกิดอาการฟองสบู่แตก จนมีข่าวลือว่าเขาอาจถูกยกเลิกสัญญา และได้รับความสนใจจากทีมชั้นนำในเอเชียหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น, เกาหลี หรือแม้แต่ ไทย

ในที่สุด ชิน วุก ก็ได้ทีมใหม่ตามคาด และเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ เมื่อเขาตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพ ไลอ้อน ซิตี้ เซลเลอร์ส สโมสรในศึก เอส ลีก ประเทศสิงคโปร์ ในช่วงปลายปี 2021 แต่กว่าจะได้ลงสนามก็ต้องรอจนถึงช่วงเดือนมกราคมปี 2022

แม้ว่ามันจะเป็นการย้ายทีมแบบไร้ค่าตัว แต่หลายสื่อคาดว่า ไลอ้อน ซิตี้ ต้องจ่ายค่าเหนื่อยตลอดระยะเวลาสามปี เป็นเงินมูลค่ารวมสูงถึงราว 3 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ (ราว 99 ล้านบาท) ส่งผลให้เขาเป็นนักเตะที่รับค่าจ้างแพงสุดใน เอส ลีก สิงคโปร์ ทันที

Photo : AFC Champions League | the-AFC.com

และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของตำนาน

ดุดันไม่เกรงใจใคร

“แผนงานของสโมสรแห่งนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยาน กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ผลลัพธ์แบบทันทีทันควัน ผมเข้าใจถึงวิสัยทัศน์ของทีมงานที่พาทีมมาถึงจุดนี้ด้วยความพยายามมาตลอดหลายปี ดังนั้นผมจึงรับรู้ได้ทันทีว่า อยากเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานนี้” ชิน วุกบอกถึงเหตุผลในการย้ายมาเล่นในลีกสิงคโปร์

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับโอกาสที่จะสร้างผลงานบางอย่างกับทีมนี้ และผมกำลังตั้งหน้าตั้งตารอความท้าทายที่น่าตื่นเต้นหลายปีนับจากนี้ไป”

และอดีตดาวยิงทีมชาติเกาหลีใต้ ที่เคยคว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ปี 2014 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เปิดตัวได้อย่างอลังการตั้งแต่เกมแรก หลังรับบทฮีโร่เหมาคนเดียวสองประตู พา ไลออน ซิตี้ เอาชนะ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ ไปได้ 2-1 คว้าแชมป์ สิงคโปร์ คอมมูนิตี้ ชิล ได้สำเร็จ

หลังจากนั้น เขาก็เดินหน้าซัดประตูอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นนัดเปิดสนามในเกมลีกกับ โฮกัง ยูไนเต็ด หรือประตูชัยช่วยให้ทีมเฉือนชนะ แทมปิเนส โรเวอร์ ได้ในอีกสองนัดต่อมา นอกจากนี้เขายังทำแฮตทริค ได้ถึง 2 ครั้ง จาก 8 เกมแรก ในเกมพบกับ บาเลสเทียร์ คาลห์ และ โฮกัง ยูไนเต็ด

แน่นอนว่าด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ถึง 198 เซนติเมตร จุดเด่นของเขา จึงเป็นลูกกลางอากาศ และประตูส่วนใหญ่ที่ทำได้จะมาจากลูกโหม่ง หรือเข้าชาร์จจากในกรอบเขตโทษ ซึ่งเป็นการเข้าทำรูปแบบคลาสสิคของสโมสรแถบเอเชีย

อย่างไรก็ดี การใช้งานเขานั้นมีจำกัด จากการที่เป็นกองหน้าตัวเป้าที่มีสไตล์การเล่นแบบโบราณ คอยปักหลักค้ำแดนหน้า มีหน้าที่ปะทะกับกองหลังฝั่งตรงข้ามโดยตรง บวกกับความเร็ว ที่มีสปีดต้นที่ค่อนข้างช้า ตามแบบฉบับดาวยิงร่างใหญ่

แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งเหล่านี้ก็แทบไม่ได้มีปัญหาในการลงเล่นในลีกสิงคโปร์ เนื่องจากศักยภาพทางร่างกายของเขาโดดเด่นกว่าคนอื่น การเบียด การปะทะ การแย่งโหม่ง ล้วนเป็นทักษะที่เขาคุ้นชินมาตั้งแต่การเล่นในลีกเกาหลีใต้

ก่อนที่ในฤดูกาลดังกล่าว ชิน วุก จะตอบแทนไลออน ซิตี้ อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย พังประตูคู่แข่งเป็นว่าเล่น ด้วยสถิติ 21 ประตูจาก 26 นัด และทำแฮตทริคได้ถึง 4 ครั้ง ตลอดทั้งฤดูกาล

"การจบสกอร์ที่เฉียบคมของเขา การดวลลูกกลางอากาศที่ทรงพลัง และ การเก็บบอลในแดนหน้า ช่วยเพื่อนร่วมทีมในแนวรุกได้อย่างมาก ซึ่งนั่นจะทำให้เขากลายเป็นส่วนประกอบอันล้ำค่าสำหรับทีม" โค้ช โด ฮุน ที่ได้ร่วมงานกับลูกน้องเก่าอีกครั้งที่ไลออน ซิตี้ ชื่นชม

"แต่เหนือสิ่งอื่นใด ชุน วุก เป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบเรื่องของความเป็นมืออาชีพ"

"ผมเชื่อว่า เขาจะเป็นผู้นำในห้องแต่งตัวที่ยอดเยี่ยม มีหน้าที่คอยกระตุ้น และ คอยสอนเหล่านักเตะดาวรุ่ง ให้ซึมซับประสบการณ์ ความรู้ต่างๆที่จำเป็น ในการพาทีมไปอยู่แถวหน้าของลีก รวมไปถึงในระดับภูมิภาคนี้"

ทว่า มันก็ยังไม่พอที่จะทำให้ ไลออน ซิตี้ ขึ้นไปคว้าแชมป์ลีกได้ หลังมีแต้มน้อยกว่า อัลบิเร็กซ์ นีงาตะ สิงคโปร์ แค่ 2 คะแนน แต่พวกเขาก็ได้รางวัลปลอบใจ ด้วยโควต้า เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ หลัง อัลบิเร็กซ์ คุณสมบัติไม่ผ่าน

ทั้งนี้ ชิน วุก อยู่กับ ไลออน เพียงแค่ซีซั่นเดียว เนื่องจากหลังจากนั้น ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร หลังได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจ อีกทั้งบริษัทแม่ที่แบกเงินทุนอยู่ทั้ง การีน่า และ ช็อปปี้ ประสบปัญหาขาดทุนย่อยยับ ต้องตัดสินใจปลดพนักงานออก และลามมายังสโมสรฟุตบอลในเครือ จนทำให้เขาถูกยกเลิกสัญญา

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวต่อไป

หลังแยกทางกับทีมในลีกสิงคโปร์ ดาวยิงร่างยักษ์ไม่ได้ตรงกลับบ้านทันที เมื่อเขาได้เซ็นสัญญากับ คิตฉี เอสซี ทีมดังในศึก ฮ่องกง พรีเมียร์ลีก ด้วยสัญญายาวจนถึงปี 2026 และรับค่าเหนื่อยแพงที่สุดในลีก ซึ่งเป็นการมีค่าจ้างแพงที่สุดเป็นหนที่ 2

หมายความว่า ชิน วุก ต้องแบกรับความกดดันอันหนักหน่วงอีกครั้ง กับการออกมาผจญภัยในพื้นที่ที่ตัวเขาไม่คุ้นเคย มีความแตกต่างในเรื่องของ วัฒนธรรม ภาษา และ อาหารการกิน รวมไปถึงการร่วมงานกับเพื่อนร่วมทีมหน้าใหม่

ต้องมาดูกันว่าครั้งนี้ ชิน วุก จะสามารถสร้างปรากฏการณ์แบบ วัน ซีซั่น วันเดอร์ เหมือนครั้งที่ทำได้ใน เอส ลีก สิงคโปร์ อีกครั้งหรือไม่? ในช่วงวัยที่เข้าสู่ช่วงท้ายของการค้าแข้ง แล้วตัวต้นสังกัดใหม่ จะได้ประโยชน์มากแค่ไหน? กับการทุ่มทุนแบบเต็มข้อในครั้งนี้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

สืบจาก มิโตมะ : ลีกเบลเยี่ยมเหมาะกับแข้งจากชาติที่ได้ "เวิร์ค เพอร์มิต" ยากอย่างไร ?

ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา : ไปเจออะไรมาที่ เลสเตอร์ ทำไมถึงเก่งเบอร์นั้น ?

จีน,เกาหลี, ญี่ปุ่น ให้ความสำคัญกับศึกชิงแชมป์ระดับภูมิภาคแค่ไหน?

แหล่งอ้างอิง :

https://en.wikipedia.org/wiki/Kim_Shin-wook

https://ko.wikipedia.org/wiki/%EA%B9%80%EC%8B%A0%EC%9A%B1

https://www.the-afc.com/en/club/afc_champions_league/news/star_signing_kim_shin-wook_looks_to_fire_lion_city_sailors_to_domestic_and_continental_glory.html

https://namu.wiki/w/%EA%B9%80%EC%8B%A0%EC%9A%B1

https://www.straitstimes.com/sport/football/football-former-sailors-kim-shin-wook-signs-with-hong-kong-side-kitchee

http://www.football-asian.com/news/articleViewAmp.html?idxno=466

https://tnp.straitstimes.com/sports/football/singapore-premier-league-lose-its-highest-paid-player-kim-shin-wook