‘สยาม แย็ปป์’ : ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวังจากยุโรป ที่กำหนดชะตาของตัวเองด้วยฝีเท้า

‘สยาม แย็ปป์’ : ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวังจากยุโรป ที่กำหนดชะตาของตัวเองด้วยฝีเท้า
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี

หลังจบโปรแกรมศึก ไทยลีก สัปดาห์ที่ 3 แฟนบอลที่ได้รับชมเกมการแข่งขันต่างๆ พร้อมติดตามข่าวตามหน้าสื่อบอลไทย คงจะได้เห็นประตูสุดสวยที่เกิดขึ้นในเกมระหว่าง โปลิศ เทโร ที่เอาชนะ ชลบุรี เอฟซี ไปได้แบบเฉียดฉิว 3-2 ซึ่งหนึ่งในประตูไฮไล์เกิดขึ้นจากแนวรุกตัวสำรองอายเพียงแค่ 19 ปี

ช่วงเวลาที่ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 1-1 ดาวเตะลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่มีชื่อว่า ‘สยาม แย็ปป์’ ถูกส่งลงมาเป็นไพ่เด็ดในครึ่งหลัง โชว์ตัดบอลจากความผิดพลาดของแนวรับอาคันตุกะ ลากโซโล่เดี่ยวจากแดนตัวเองเข้าไปยิงด้วยซ้ายให้ต้นสังกัดพลิกขึ้นนำ 2-1

ประตูของ สยาม นาทีที่ 4.30 เป็นต้นไป

หลังจบเกมดังกล่าวมีกระแสของแฟนบอลไทย พูดถึงประตูของ สยาม เยอะเอามากๆ เพราะดาวเตะรายนี้แสดงให้เห้นถึงความกระหาย ความตื่นตัว และ ทักษะสำคัญในการพาบอลเข้าไปยิงประตูได้อย่างเฉียบคม จนมองไปไกลถึงเรื่องการติดธงรับใช้ชาติในอนาคต

ความจริงแล้วชื่อของ สยาม เคยเป็นกระแสมาก่อนในยุคที่แมวมองทีมชาติ พยายามตามหานักเตะลูกครึ่งฝีเท้าดี เพื่อหวังติดต่อให้มาช่วยทีมชาติไทยแต่เนิ่นๆ แล้วอยู่ดีๆ ชื่อของเขาก็หายเงียบไปจากสารบบ ผลุบๆ โผล่ๆ มีข่าวว่าย้ายไปอยู่กับทีมนั้นทีมนี้ แต่กลับไม่ค่อยได้เห็นเขาลงเล่นในเกมลีกสักเท่าไหร่

เรื่องราวที่มาที่ไปของ สยาม ในการเริ่มต้นเป็นนักเตะอาชีพเป็นอย่างไร? ความผิดหวังในการเซ็นสัญญากับทีมดังในยุโรปเพราะอุปสรรคเรื่องใด? ทำไมเขาถึงได้มีโอกาสลงสนามในสีเสื้อ บาเยิร์น มิวนิค สโมสรอันดับหนึ่งในประเทศเยอรมัน? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับบทสัมภาษณ์พิเศษของเขากับทีมงาน Think Curve - คิดไซด์โค้ง

พื้นฐานฟุตบอลสไตล์บราซิล

สยาม เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่เกิดและเติบโตในจังหวัดภูเก็ตที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ครอบครัวของเขาถือว่ามีพื้นฐานด้านการเงินที่ดีทีเดียว เพราะสามารถส่งเขาเข้าเรียนที่ British International School ซึ่งมีค่าเทอมราวครึ่งล้านได้แบบไม่มีปัญหา

เขาเป็นเด็กหนุ่มที่พยายามตามหาความฝันของตัวเอง ติดตามสื่อต่างๆ หลากหลายรวมไปถึงกีฬาฟุตบอล การที่เขาได้เห็นลีลาของนักเตะระดับโลกผ่านทางการถ่ายทอดสด ย่อมเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเขาที่ยังอยู่ในช่วงวัยอยากรู้อยากลอง โดยผู้เล่นเบอร์หนึ่งที่เขามองว่าทัศนคติและมีสไตล์การเล่นที่ประทับใจเขามากที่สุด คือ ‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’ ดาวยิงสูงสุดทีมชาติโปรตุเกส

PHOTO : Siam Yapp

ด้วยความพร้อมด้านศักยภาพด้านโรงเรียนที่เป็นท็อปของประเทศไทย ที่หวังให้ผู้เลือกมาศึกษามีทักษะพร้อมสรรพในทุกสิ่งที่อยากเรียนรู้ทั้งการศึกษาและกิจกรรม เรื่องของกีฬายอดนิยมย่อมไม่มีทางถูกมองข้าม ด้วยการทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับสโมสรชั้นนำในประเทศบราซิลอย่าง ครูไซโร่

สยาม เป็นเด็กที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริง พอเขาได้สัมผัสกับการซ้อมกับโค้ชจากสโมสรครูไซโร่ เจอโปรแกรมการฝึกซ้อมต่างๆ ที่อยู่ในขั้นสูง ยิ่งเพิ่มความอยากให้เขาต้องการเป็นนักเตะอาชีพเข้าสักวัน ซึ่งตัวเขาในวัย 12-13 ปี ไม่ได้มองเป้าหมายไว้กับการค้าแข้งในบ้านเกิด แต่ฝันไกลถึงยุโรปตามที่กล่าวไว้ว่า



“หลังจากฝึกฝนกับโค้ชในอคาเดมี่จากครูไซโร่มาได้สักพัก ผมอายุได้ราว 13-14 ปี จึงบอกความต้องการของผมไปตรงๆ กับโค้ชว่าอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แล้วก็เริ่มโปรแกรมการเตรียมตัวไปทดสอบฝีเท้าในยุโรปอย่างเข้มข้นทันที”

PHOTO : Siam Yapp


“โค้ชของผมมีช่องทางการติดต่อกับสโมสร สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งหลังจากส่งข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงโปรไฟล์ของผมไปยังสโมสร ก็ได้รับการตอบรับกลับมาให้ไปทดสอบฝีเท้าเป็นเวลา 2 อาทิตย์”

สยาม เดินทางไปยังประเทศโปรตุเกสด้วยตัวคนเดียว พร้อมกับความตั้งมั่นว่าต้องการผ่านการทดสอบ เพื่อเป็นนักเตะในสโมสรเดียวกับไอดอลของเขาอย่าง CR7 ให้ได้ ตำแหน่งที่เขาเลือกเล่นคือแนวรุกแดนบน ที่ต้องโชว์ความสามารถหลายด้าน อาทิ การลากเลื้อย, ความเร็ว, การครองบอล และจังหวะการยิงประตู

จากความตั้งใจอันแรงกล้าของเขา ทำให้ผลงานในระหว่างสองอาทิตย์ที่ไปเสี่ยงดวงทดสอบฝีเท้านั้น ตอบแทนเป็นผลลัพธ์ในการยิงประตูได้มากมาย โค้ชของ สปอร์ติ้ง ชื่นชมและมองว่าฝีเท้าของเขานั้นเหมาะกับการเล่นในลีกโปรตุเกส พร้อมกับแจ้งกลับมาทางเอเย่นต์ของเขาว่าผลทดสอบ คือ “ผ่านฉลุย”

เส้นทางความผิดหวังที่ยุโรป

ขั้นตอนต่อไปของ สยาม ในการจะเป็นนักเตะในสังกัดสโมสร สปอร์ติ้ง ลิสบอน คือ การเซ็นสัญญาอาชีพอย่างเป็นทางการ แต่แล้วด้วยกฎระเบียบของ ฟีฟ่า ที่ระบุไว้ว่า การเซ็นสัญญาของดาวรุ่งต้องเริ่มขึ้นตอนอายุครบ 16 ปีบริบูรณ์ ทำให้ความฝันของเขายังไม่เป็นจริงในตอนนั้นที่เขาอายุเพียงแค่ 14 ปี

สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยังไม่ลดละความพยายามที่จะเซ็นสัญญากับ สยาม เพื่อนำไปปลุกปั้นต่อจากคำบอกเล่าของเจ้าตัว แล้วเสนอให้เขารอเป็นเวลา 2 ปี แต่ทุกปีจะให้เขาเดินทางมาฝึกซ้อมร่วมกับทีมได้เสมอจนกว่าจะถึงกำหนดเซ็นสัญญา

PHOTO : Sanook

อย่างไรก็ตามเพียงไม่กี่เดือนก่อนจะอายุครบ 16 ปี สยาม ก็ต้องเจอกับเรื่องน่าผิดหวังอีกครั้ง แล้วทำให้เขาชวดเซ็นสัญญากับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน รวมไปถึงตัวเลือกรองอย่าง เอสโตริล ตามที่กล่าวกับทีมงานไว้ว่า

“แค่ 2-3 เดือนก่อนผมจะอายุครบ 16 ปีเต็ม ปัญหาเรื่องการเมืองและการเปลี่ยนแปลงกับสมาชิกใน EU เกิดขึ้นแบบที่ผมไม่ทันตั้งตัว นั่นก็คือ Brexit ซึ่งสืบเนื่องมาจาก ประเทศอังกฤษ ต้องการแยกตัวออกจากการเป็นชาติสมาชิกในกลุ่ม EU”

ไฮไลท์ผลงานของเขาในปี 2020

“กลายเป็นว่าหากผมต้องการเซ็นสัญญาอาชีพในยุโรป ผมต้องรอไปอีกสองปีเพื่ออายุครบ 18 ปีตามเกณฑ์ที่ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่าเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์”

จากการที่เป็นคนมีแรงกระหายเพื่อไปถึงฝั่งฝันให้ได้ ช่วงเวลาที่เขารอคอยที่จะเซ็นสัญญากับสโมสรในโปรตุเกส สยาม ไม่ได้นิ่งเฉย แต่เลือกที่จะไปฝึกซ้อมกับอคาเดมี่กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นเวลา 6 เดือน แม้ว่าเว็บไซต์ในต่างประเทศจะระบุว่ามีการเซ็นสัญญากัน แต่เจ้าตัวยืนยันว่า ไม่เคยมีข้อตกลงนั้นเกิดขึ้นเลย

หลังจากการรอคอยที่เนิ่นนานแล้วจบลงด้วยความเสียใจครั้งใหญ่ สยาม ยังไม่ยอมแพ้และเลิกล้มความตั้งใจที่จะไปค้าแข้งในยุโรปเพราะเชื่อมั่นใจศักยภาพฝีเท้าของตนเอง เขาจึงเดินทางไปยังประเทศอังกฤษเพื่อทดสอบฝีเท้ากับทีมในลีกล่างๆ ตามที่เอเย่นต์ส่วนตัวแนะนำ

เขาได้รับการตอบรับทันทีจากสโมสรกึ่งอาชีพในแดนผู้ดีที่มีชื่อว่า เฮเมล เฮมป์สตีดทาวน์ หลังได้ลงเล่นให้กับทีมไป 2-3 เกม ซึ่งในเกมเปิดตัว สยาม ใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาที ยิงประตูไปได้ถึงสองลูก แล้วทำให้แมวมองจากสโมสร วีคอมบ์ วันเดอร์เรอร์ส (ลีก วัน) ยื่นข้อเสนอให้เขาไปทดสอบฝีเท้า

PHOTO : Siam Yapp

ผลทดสอบออกมาเป็นที่น่าพอใจ วีคอมบ์ ต้องการเซ็นสัญญากับ สยาม เพียงแต่ว่ามีเงื่อนไขให้เขาเล่นกับทีมสำรองไปก่อน ซึ่งเจ้าตัวคิดว่ามันไม่ใช่ข้อตกลงที่ดีพอสำหรับเขา หลังจากนั้นก็ได้ไปทดสอบกับสโมสร เอ็กเซเตอร์ อีกหนึ่งทีม ผลออกมาผ่านเช่นกันแต่น่าเสียดายที่จำนวนผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ของทีมนี้เต็มโควต้าไปเรียบร้อยแล้ว กลายเป็นว่าต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งที่จุดเริ่มต้นเหมือนจะราบรื่น

สยาม รู้สึกผิดหวังมากกับเหตุการณ์ล่าสุดที่ต้องพลาดการเซ็นสัญญากับ เอ็กเซเตอร์ เนื่องจากสโมสรแห่งนี้เป็นทีมที่อยู่ในเมืองที่ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ แล้วจำเป็นต้องมุ่งหน้ากลับมายังประเทศไทยอีกครั้ง

นับหนึ่งใหม่ที่ไทย

สยาม กลับมายังประเทศไทยพร้อมกับความผิดหวัง แต่แล้วเอเย่นต์ของเขาก็ยื่นข้อเสนอจากสโมสรหนึ่งในประเทศไทยที่สนใจในตัวเขาเข้ามาให้พิจารณา นั่นก็คือ โปลิศ เทโร ต้นสังกัดปัจจุบันของเขา ที่มองเห็นศักยภาพของเด็กหนุ่มลูกครึ่งรายนี้

เขายอมรับว่าไม่มีข้อมูลหรือรู้ตื้นลึกหนาบางใดๆ เกี่ยวกับฟุตบอลอาชีพในประเทศไทยเลย การเซ็นสัญญาที่เกิดขึ้นเป็นการเสี่ยงวัดดวงกับโชคชะตา ที่เขาต้องกล้าก้าวกระโดดไปสู่โอกาสที่ยื่นเข้ามาให้ ผลเลยลงเอยแบบที่เห็น

PHOTO : Siam Yapp

สยาม มองว่าตัวของเขานั้นมีทัศนคติการเป็นนักฟุตบอลที่แตกต่างกับนักเตะในประเทศไทย แล้วบางครั้งอาจถูกมองในแง่ลบ จากการที่เป็นคนจริงจัง มุ่งมั่น และต้องการจะประสบความสำเร็จให้ได้ ซึ่งบางครั้งนำไปสู่การเข้าใจผิดกัน เนื่องจากการสื่อสารของเขากับเพื่อนร่วมทีมยังไม่ลงตัวกันร้อยเปอร์เซ็นต์

เขามองว่าเรื่องของจิตใจที่กล้าแกร่งของเขาเป็นจุดแข็งที่สุด ที่เป็นเครื่องกระตุ้นให้เขาพัฒนาตัวเองแบบไม่มีหยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็นการจ้างโค้ชเพื่อฝึกซ้อมโปรแกรมพิเศษส่วนตัว หรือแม้แต่การสร้างกล้ามเนื้อเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งด้านร่างกายด้วยการเล่นฟิตเนส

แม้ว่าจะมีการเซ็นสัญญาอาชีพกันไปแล้วกับ โปลิศ เทโร แต่โอกาสในการลงสนามของเขายังไม่มากนัก ขนาดถูกปล่อยออกไปเล่นแบบยืมตัวกับ บางกอก เอฟซี (ไทยลีก 3) ยังได้ลงสนามรวมๆ สองปี ไม่ถึง 10 เกม แต่เขาก็ยังไม่หยุดที่จะสู้และฝันต่อ

PHOTO : Siam Yapp

สยาม ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนให้ลองสมัครแคมเปญคัดเลือกเป็นหนึ่งในผู้เล่นของ บาเยิร์น มิวนิค เวิลด์ สควอด ชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี ที่คัดเลือกนักเตะที่เข้ารับสมัครจากทั่วโลก แล้วก็ผ่านเกณฑ์ได้เดินทางไปฝึกฝนและลงแข่งในสีเสื้อของ เสือใต้ ระหว่างที่ลีกฟุตบอลอาชีพในประเทศไทยปิดฤดูกาล

ซึ่งตรงจุดนี้เองที่เปลี่ยนแปลงตัวของ สยาม ให้มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดด จนทำผลงานได้อย่างน่าจับตามองในปัจจุบันกับ โปลิศ เทโร ตามที่ให้ข้อมูลไว้ว่า

“การเข้าร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค เวิลด์ สควอด สโมสรมีความตั้งใจจะให้ผู้เล่นทุกคนในทีม สามารถเข้าใจถึงมาตรฐานการเป็นนักเตะอาชีพในระดับสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อม, จิตวิทยา. การวิเคราะห์สถิติ, กิน-อยู่ และพักผ่อน รวมไปถึงการเข้ารับการทดสอบตามโปรแกรมต่างๆ เพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่ระดับที่สูงขึ้น”

PHOTO : Siam Yapp



“บาเยิร์น ใส่ใจในทุกรายละเอียดแล้วเคี่ยวพวกผมหนักจริงๆ ต้องซ้อมอย่างน้อยสองเซสชั่นต่อวัน ไม่รับรวมการเข้าฟิตเนสเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกาย ส่วนการวัดผลต่างๆ ก็ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสุดเข้ามาช่วย ทั้งการติด GPS, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดความเร็ว และเก็บสถิติทุกรายละเอียดเวลาลงสนาม”

PHOTO : Siam Yapp


“เฮดโค้ชของทีมอย่าง รอย มาคาย สอนผมถึงมุมมองในการเล่นอย่างละเอียดในยุคของ โมเดิร์น ฟุตบอล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเอามากๆ ยิ่งไปกว่านั้นพวกผมก็ได้ลงแข่งขันเกมอุ่นเครื่องกับ บาเยิร์น ยู-23 ที่มีทาง มาร์ติน เดมิเคลิส เป็นคนคุมทีมอีกด้วย”

แม้ว่าจะเป็นประสบการณ์ช่วงสั้นๆ แต่มันก็ล้ำค่ามากในมุมมองของ สยาม ซึ่งเขาคิดว่าการไปเข้าโปรแกรมดังกล่าวกับสโมสรระดับโลก มีส่วนช่วยพัฒนาฝีเท้าของเขาให้ดีขึ้นในฤดูกาลนี้ แล้วมันก็สะท้อนออกมาด้วยผลงาน

พอบวกเข้ากับประสบการณ์ที่เคยสั่งสมมาก่อนในวัยรุ่น สมัยที่ตระเวนทดสอบฝีเท้าในหลายประเทศในยุโรป ทุกปัจจัยส่งผลให้ตัวของ สยาม ถูกเพาะบ่มมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ที่มีทัศนคติแบบมืออาชีพแท้ๆ เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่แรงกล้า แล้วไม่มีความคิดที่ย่อท้อต่ออุปสรรคง่ายๆ เนื่องจากเขายังมีความคิดที่จะตั้งเป้ากลับไปค้าแข้งในยุโรปอยู่

เป้าหมายต่อจากนี้

เป้าหมายของนักเตะดาวรุ่งที่ชื่อว่า สยาม แย็ปป์ นั้นเรียบง่ายและตรงประเด็น คือ การพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นในทุกๆ วัน แล้วไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ศักยภาพฝีเท้าเขาจะก้าวไปถึงได้ ซึ่งผลงานที่ผ่านมาของเขายังเป็นแค่การจุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีส่วนที่ต้องพัฒนาอีกมากพอสมควร

ซีซั่นนี้ สยาม ต้องการยึดตำแหน่งตัวจริงให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก แล้วแสดงศักยภาพให้แฟนบอลได้เห็นว่าเขาสามารถช่วยทีมได้มากขนาดไหน เพื่อหวังให้ต้นสังกัดจบฤดูกาลในบอลลีกด้วยอันดับที่ดีที่สุด ส่วนประตูสำหรับการติดทีมชาติไทยนั้น เจ้าตัวได้แย้มเอาไว้ว่า

“ผมจะไม่มีวันหยุดพัฒนาตัวเองจนไปถึงจุดสูงสุด ถ้าผมทำผลงานได้ดีก็อยากจะกลับไปติดทีมชาติอีกครั้งเหมือนตอนเป็นเยาวชน ชุดอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งจุดที่เหมาะสมกับเขาตอนนี้อาจต้องไปเริ่มที่ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปีก่อนเป็นขั้นแรก”

PHOTO : Changsuek

“ผมเชื่อว่าทักษะและความสามารถของตัวเองในเรื่องของ ความแข็งแกร่ง, ความเร็ว, การจ่ายบอล และ การยิงประตู จะช่วยทีมชาติไทยได้อย่างแน่นอน หากได้รับโอกาสให้รับใช้ชาติในอนาคต ซึ่งมันจะเป็นเกียรติอย่างมากสำหรับตัวผมเองและครอบครัว”

สุดท้ายนี้ สยาม ขอขอบคุณแฟนๆ ที่คอยให้การสนับสนุนตัวเขาและสโมสร โปลิศ เทโร จากใจจริง โดยเขาสัญญาว่าจะสู้ต่อไปแล้วทำผลงานในสนามให้ดีที่สุด หวังว่า เกมต่อๆ ไปจะมีแฟนบอลเข้ามาให้กำลังใจกันจำนวนมากเช่นเดิม เพราะเชื่อว่าตัวของเขาและต้นสังกัดจะสามารถสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ ได้อีกในอนาคต

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : การสัมภาษณ์ส่วนตัว
https://www.youtube.com/watch?v=b8xqsigtvrU&t=277s

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ประทุม ชูทอง : นักสู้มืออาชีพแห่งโลกบอลเดินสาย
เปิดใจ ‘เบ็ค-สมเกียรติ คุณมี’ : ทำไมตัวท็อป ‘ฟ็อกซ์ฮันท์’ ถึงเลือกเส้นทางบอลเดินสาย ?
‘ผักบุ้ง PBDS’ : หญิงแกร่งแห่งวงการฟุตบอลเดินสาย
‘ใหญ่ นิลวงษ์ ’: โค้ชจอมเลื่อนชั้นแห่ง T3 ที่คุมทีมเดินสายที่ชนะ 100%
สโมสร ‘แตงโม’ : ตำนานแชมป์เงินล้านบอลเดินสายสองปีติดทีมเดียวในประเทศไทย
ศราวุฒิ มาสุข : กับชีวิตใหม่ในเส้นทางฟุตบอลเดินสาย

แชร์บทความนี้
mask-bg
logo-black

SOCIAL MEDIA

สนใจโฆษณาติดต่อ