ยศกร บูรพา : 1 ปีจากนักเตะนอกลีกที่ยิงบอลคมจนถูกปั้นติดทีมชาติไทย

สำหรับชื่อของ ธนา ชะนะบุตร แฟนบอลไทย อาจคุ้นชื่อของเขาในบทบาทนักเตะทีมชาติไทย ที่เล่นในตำแหน่งแนวรุก มีทีเด็ดอยู่ที่ความเร็ว ความคล่องตัว ความขยัน ทุ่มเทแบบเกินร้อยในสนาม จนสามารถยืนระยะการเล่นได้อย่างยาวนาน ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ที่ลงมาเป็นตัวโจ๊กเกอร์ ยิงประตูสำคัญได้บ่อย

อย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่อกาลเวลาล่วงเลยไป ธนา ได้ปรับเปลี่ยนบทบาทของตัวเอง กลายเป็นเฮดโค้ชของ สมุทรปราการ ซิตี้ สโมสรในศึก ไทยลีก สอง แล้วเพิ่งจะพาทีมรอดพ้นจากการตกชั้นได้อย่างหวุดหวิดสุดๆ

ทีมงานได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์ส่วนตัวสั้นๆ กับ โค้ชแมน ทั้งในเรื่องของมุมมองการทำทีม? แนวทางคร่าวๆ ในฤดูกาลหน้า? รวมไปถึงมุมมองต่อลูกทีมคนเก่งอย่าง ยศกร บูรพา กองหน้าดาวรุ่งวัย 17 ปีของทีม ที่ติดทีมชาติไปลุยศึก ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชาอีกด้วย

ทุกคำตอบที่น่าสนใจถูกรวบรวมเอาไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว สามารถร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง

จากนักเตะสู่โค้ช

หลังจากแขวนสตั๊ดในช่วงปี 2022 ธนา ที่คลุกคลีกับวงการฟุตบอลในบ้านเรามาอย่างยาวนาน ก็เลือกเส้นทางที่จะไปต่อในฐานะ โค้ช เคยผ่านงานมาแล้วกับหลายสโมสร ยกตัวอย่างเช่น ราชประชา ก่อนจะมีผู้ใหญ่จากทางสโมสร สมุทรปราการ ซิตี้ มาติดต่อให้ไปทำทีมในเลกที่สอง

เป้าหมายของทีมในตอนที่ โค้ชแมน รับงาน มีการพูดคุยกันชัดเจนว่า ทำยังไงก็ได้ขอให้ทีมรอดพ้นการตกชั้นก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นค่อยไปว่ากันทีหลัง ซึ่งมีการเปิดเผยถึงแนวทางการทำทีมในแบบของเขาเอาไว้ว่า

“จริงๆ ตอนที่เราเริ่มมาทำทีมก็จะใช้สไตล์ฟุตบอลแบบผสมผสาน แต่หลักๆ ที่เน้นเลยก็คือ การทำทีมให้เล่นฟุตบอลที่สามารถเอนเตอร์เทนแฟนๆ ได้ตลอด 90 นาที ด้วยการใช้เกมรุกเป็นจุดเด่น ต้องเล่นให้สนุกไว้ก่อน”

“ประสบการณ์จากที่เคยเป็นผู้เล่นมาก่อน สามารถนำมาช่วยได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นทั้งในสนามหรือนอกสนาม หรือแม้แต่การฝึกซ้อม”

“อันไหนที่ดีก็นำมาถ่ายทอด อันไหนไม่ดีก็นำมาถ่ายทอดเหมือนกัน เพื่อให้ลูกทีมของเราได้รับรู้ทั้งสองมุม จะได้นำไปปรับปรุงและพัฒนาตัวเองได้”

การทำทีมของ โค้ชแมน ที่เน้นเกมบุกตลอด 90 นาที ต้องใช้พละกำลังของร่างกายอย่างหนักหน่วง ซึ่งเคล็ดลับในส่วนนี้ต้องโฟกัสไปที่การดูแลสภาพร่างกาย

ซึ่งเขาก็ได้นำประสบการณ์ตรงตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะ ที่ผ่านช่วงเวลาที่ผลงานไม่ดีเพราะไม่ใส่ใจเรื่องนี้ในช่วงวัยรุ่น ก่อนจะหันมาดูแลตัวเองในช่วงท้ายของการค้าแข้ง จนประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นมาเป็นตัวอย่าง โดยแนวทางดังกล่าว ก็ทำให้ทีมรอดตกชั้นได้อย่างที่เห็น

มุมมองเกี่ยวกับบอลลีกในประเทศไทยรวมๆ โค้ชแมน มองว่า ทุกวันนี้การพัฒนาในเรื่องของการใช้เทคโนโลยี และ วิทยาศาสตร์การกีฬาต่างๆ สามารถช่วยได้เยอะในหลายด้าน แต่ยังด้อยในเรื่องระบบการจัดการที่ยังคลุมเครือ

ไฮไลท์การเล่นของ สมุทรปราการ ซิตี้ นัดที่ 32

เงินรางวัลของแต่ละลีกนั้นยังไม่เหมาะสม ไม่ครอบคลุมเรื่องภาระค่าใช้จ่ายในการทำทีม ยากที่จะพาทีมเล็กๆ ก้าวขึ้นไปคานอำนาจกับสโมสรใหญ่ๆ ได้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของเม็ดเงินสนับสนุน ที่แตกต่างกันแบบคนละชั้น

แม้ว่าจะมีแนวทางการวางแผนพัฒนาลีกที่ดี ในเรื่องของกฏบังคับระดับไลเซนส์ของโค้ช แต่การให้ระยะเวลาการเตรียมตัวสั้น มันไม่เอื้อให้โค้ชที่มีงาน มีสัญญากับสโมสรเดิมอยู่แล้ว ต้องทิ้งงานทิ้งโอกาสไปแบบไม่สมควรเท่าไหร่ ไม่ต่างกับการตัดโอกาสของพวกเขาไปเช่นกัน ถ้ามีสัญญาผูกมัดกันอยู่แล้วก็ควรให้สิทธิ์โค้ชคนเดิมทำต่อ

วันเดอร์คิด “ยศกร บูรพา”

หนึ่งในนักเตะที่เป็นสตาร์ประจำทีมของ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนาทีนี้ คือ “มิค” ยศกร บูรพา ดาวยิงวัยแค่ 17 ปี ที่มีชื่อติดทีมของ “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร ไปลุยศึก ซีเกมส์ ที่ประเทศกัมพูชา หลังทำผลงานได้อย่างร้อนแรง ด้วยการกดไป 7 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ จากการลงเล่นเกมลีก 31 นัด

ก่อนหน้านี้ มิค สร้างชื่อจากการเป็นกำลังสำคัญพา กองเรือรบ ยูไนเต็ด สโมสรนอกลีก เข้ามาเล่นใน ไทยลีก สาม ได้สำเร็จ จากฟอร์มที่โดดเด่นไปเตะตาทีมจอมปั้นอย่าง ชลบุรี เอฟซี เข้าอย่างจัง จนจีบมาร่วมทีมได้สำเร็จได้ในเวลาต่อมา

หลังจากนั้นก็ทำการส่ง ยศกร มาให้กับทีมพันธมิตรอย่าง สมุทรปราการ ซิตี้ ช่วยเพาะบ่ม ฝึกปรือ ฝีเท้า แล้วเจ้าตัวก็ใช้เวลาไม่นาน สร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ที่สามารถยิงประตูได้บนเวที ไทยลีก สอง ในเกมที่ต้นสังกัดเปิดบ้านเอาชนะ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ไปได้สบายเท้า 2-0 โดยเขาเป็นคนยิงประตูขึ้นนำให้กับทีมได้ในเกมดังกล่าว

ไฮไลท์การเล่นของ ยศกร บูรพา

ตอนที่ โค้ชแมน เข้ามารับงานที่ สมุทรปราการ ซิตี้ ช่วงกลางเลกสอง ยศกร เป็นตัวเลือกเบอร์ต้นๆ ในทีมอยู่แล้ว ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้ว่า ยศกร ไม่ได้เล่นเป็นกองหน้าธรรมชาติมาก่อน แต่เล่นเป็นกองกลางมาตั้งแต่สมัยเล่นบอลนักเรียน

เมื่อถามถึงจุดเด่นของ ยศกร ดาวเตะตัวหลักประจำทีม โค้ชแมน กล่าวเอาไว้ว่า

“เรื่องของร่างกาย รูปร่าง พละกำลัง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมไปถึงการยิงบอลที่ดี คือ ข้อได้เปรียบของเขา”

“ผมเป็นคนชอบทำบอลเด็กอยู่แล้ว พอศักยภาพน้องเขาถึง เล่นได้ เราก็พร้อมให้โอกาส แต่เราก็ต้องเติมเรื่องประสบการณ์ให้เขา ด้วยอายุที่ยังน้อย”

“จริงๆ ถ้าน้องเค้าดูแลร่างกายตัวเองดีๆ ผมไม่ห่วงเลยถ้าวัดกับผู้เล่นรุ่นเดียวกัน แต่ถ้าขึ้นไปเล่นกับรุ่นที่โตขึ้นหรือทีมชาติชุดใหญ่ ต้องมาวัดกันที่การยืนระยะรักษามาตรฐานการเล่นอีกที ต้องมีการปรับวิธีการเล่นบางจุด ถ้าเค้าพร้อมปรับก็มีโอกาสไปได้ไกล”

จากประสบการณ์การเป็นนักเตะในแนวรุกมาก่อนของ โค้ชแมน เชื่อว่า ยศกร ยังต้องใช้เวลาเสริมสร้างกระดูกฟุตบอลให้แข็งขึ้นไปแบบเป็นขั้นเป็นตอน ค่อยเป็นค่อยไป ไม่สามารถอัดหลักสูตรเร่งรัดให้เก่งเลยทันทีทันใด เนื่องด้วยวัยของนักเตะที่ยังเป็นวัยรุ่นเองด้วย ที่ต้องดูเรื่องของการเปิดรับคำแนะนำเช่นกัน

เรื่องของวินัยและการดูแลร่างกายของ ยศกร นั้นดีอยู่แล้ว แต่ยังต้องปรับวิธีการเล่นอีกหลายจุด จากการที่เคยเล่นเป็นกองกลางมาก่อน เลยทำให้การเคลื่อนที่บางจังหวะนั้นยังไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการถอยต่ำลงมาเชื่อมเกมตามธรรมชาติ ที่ทำให้ทีมขาดกองหน้าที่คอยทำหน้าที่จบสกอร์ด้านบน

การวิ่งหาตำแหน่ง การสอดเข้าช่องต่างๆ ต้องใช้ประสบการณ์และการเรียนรู้กันใหม่พอสมควร ถ้าตัวนักเตะปรับได้ ยอมรับฟัง ศึกษาจากผู้ที่มีประสบการณ์ ก็จะพัฒนาเป็นกองหน้าตัวเป้าที่เก่งได้ เพราะตัวเขายิงบอลได้ดี ยิงบอลได้แรง ร่างกายแข็งแกร่ง ชนกับแนวรับได้สบาย ทุกคุณสมบัติเหมาะกับการยืนตรงนั้น เพียงแต่วิธีการเล่นของเขา ยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

สำหรับการที่ ยศกร มีชื่อติดไปเป็นหนึ่งในขุนพลชุดซีเกมส์ โค้ชแมน มองว่า มันเป็นก้าวแรกที่สำคัญของนักเตะหลายคน ที่มีโอกาสจะเลื่อนขั้นเป็นขุนพลของทัพ ช้างศึก ชุดใหญ่ ในอนาคต ซึ่งตัวของเขาเองก็ได้ผ่านเวทีนี้มาแล้วเช่นกัน แล้วพอคว้าเหรียญทองมาได้ โชว์ฟอร์มได้ดี ก็ขยับขึ้นทีมชาติชุดใหญ่ได้ตามสเต็ป

มันเป็นก้าวแรกที่ต้องประสบความสำเร็จให้ได้ด้วย เพราะความคาดหวังกับทัวร์นาเมนต์นี้ จากทางผู้หลักผู้ใหญ่และแฟนบอลนั้นสูงมาก เหมือนเป็นทัวร์นาเมนต์ที่เราต้องการันตีการเป็นแชมป์ให้ได้ ซึ่งเขาคิดว่าน้องๆ ชุดนี้มีศักยภาพดีพอ ขอเป็นกำลังใจให้ ขอให้ทำเต็มที่ ทำเพื่อชาติ เดี๋ยวผลลัพธ์มันก็ออกมาดีเอง

การเตรียมทีมในฤดูกาลหน้า

เป้าหมายที่ทาง โค้ชแมน วางเอาไว้ในฤดูกาลหน้า คือ การพาทีมทะยานขึ้นไปอยู่ในกลุ่มที่มีลุ้นเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดให้ได้ ดังนั้นก็ต้องมองถึงเรื่องของการวิเคราะห์ตัวผู้เล่นว่า มีคนไหนที่เข้ากับสไตล์การเล่นที่เราต้องการ หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของการเดินเกมเสริมทัพต่อไป

การเตรียมทีมทั้งหมดของ สมุทรปราการ ซิตี้ ต้องจบในช่วง ปรี-ซีซั่น เพราะพอเข้าสู่ช่วงฤดูกาลแข่งขัน จะได้ไม่ต้องมาปรับเปลี่ยนอะไรกันมากมายกลางคัน แล้วอาจเข้าแคมป์กันเร็วหน่อย

ก่อนจะทิ้งท้ายถึงแฟนบอลของ สมุทรปราการ ซิตี้ เอาไว้ว่า

“อยากฝากให้แฟนบอลติดตามทีมกันเหมือนเดิม ต้องยอมรับว่า ปีนี้เราโชคดีที่รอดมาได้ ก็ต้องขอขอบคุณกองเชียร์ที่คอยให้กำลังใจกันมาตลอด”