‘เจ-ชนาธิป’ เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติไทย : ภายใต้ระบบการเล่นของ ‘โค้ชธง’
หลังจากสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก ไทยลีก ตกเป็นข่าวกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แนวรุกทีมชาติไทยที่สังกัดสโมสร คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ทีมชั้นนำในศึก เจ ลีก ประเทศญี่ปุ่น มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ชวงเบรคทีมชาติเป็นต้นมา
ปรากฏว่าสถานการณ์ล่าสุด เจ เปิดตัวกับสโมสรใหม่ กระต่ายแก้ว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องของรายละเอียดค่าตัวระหว่างการเจรจาของสองสโมสร คงไม่ต่างจากตัวเลขที่สื่อคาดการณ์ไว้เท่าไหร่นัก ที่ราว 70 ล้านบาท ซึ่งทำให้เขาเป็นนักเตะไทยที่มีมูลค่าซื้อ-ขายสูงสุดคนปัจจุบันทันที
แน่นอนว่าแฟนบอลบีจี คงกำลังตื่นเต้นและตั้งหน้าตั้งตารอให้ฤดูกาลใหม่ เริ่มต้นแข่งขันกันสักที เพราะทีมรักของพวกเขากำลังเดินหน้าเต็มสูบยกเครื่องใหม่ ทั้งตัวเฮดโค้ชที่ได้ ‘โค้ชธง’ ธงชัย สุขโกกี’ กุนซือที่พา นครปฐม ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีกสองแบบเหลือเชื่อทั้งที่มีข้อจำกัดมากมาย
ณัฐพล อ่วมเรืองศรี
รวมไปถึงนักเตะหน้าใหม่ที่มีการเดินหน้าเสริมทัพทั้ง หน้า-กลาง-หลัง ซึ่งนำทัพมาโดยซูเปอร์สตาร์อย่าง ชนาธิป สิ่งที่น่าสนใจคือการปรับจูนแท็คติกของ โค้ชธง ในการปรุงแต่งวัตถุดิบชั้นยอดในมือให้ออกมากลมกล่อมมากที่สุด
การรวบรวมข้อมูลต่างๆ ของ โค้ชธง ที่เริ่มงานกับ บีจี ไปเมื่อปลายฤดูกาลที่แล้ว และแนวทางการเล่นของ ชนาธิป มาวิเคราะห์จะออกมาเป็นเช่นไรกันบ้าง ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับ Think Curve - คิดไซด์โค้ง
แท็คติกของโค้ชธง
การเริ่มต้นของ โค้ชธง กับ บีจี ในช่วงท้ายฤดูกาล เจองานหินไม่น้อยกับระยะเวลาเตรียมทีมที่มีจำกัด แล้วต้องนำทัพ กระต่ายแก้ว ไปชิงดำในนัดชิงชนะเลิศศึก รีโว่ คัพ 2022/23 กับเต็งแชมป์อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งต้องยอมรับกันตามตรงว่า บีจี นั้นเป็นรองอยู่พอสมควรตามหน้าเสื่อ
ระบบการเล่นที่จัดลงไปสู้ในเกมดังกล่าวเป็น 4-3-3 รูปเกมที่เกิดขึ้นในสนาม ลูกทีมของโค้ชธงถือว่าสร้างความลำบากใจให้กับ ปราสาทสายฟ้า ไม่น้อย แต่ก็ต้องพ่ายไป 0-2 เนื่องจากเรื่องของความเฉียบคม รวมไปถึงจังหวะทีเด็ดทีขาดที่เป็นรอง
โดยหลังจบเกม โค้ชธง ได้แย้มเอาไว้ถึงแผนงานของเขาในซีซั่นหน้าเอาไว้ว่า
“ฤดูกาลหน้าแทคติกส์ที่จะนำมาใช้ ก็คงจะเป็นในเรื่องของฟุตบอลที่มันเร็วทั้งรุกและรับมากกว่านี้ เพียงแต่ว่าผมก็ต้องไปปรับในเรื่องของวิธีการถ่ายทอด วีธีการสื่อสาร ให้เด็กนำมาใช้จริงได้ในสนามได้ดีกว่านี้”
“โครงสร้างหลักๆ ก็อยู่กับเกือบครบ อาจจะมีผู้เล่นต่างชาติบางตำแหน่ง เพราะเราใช้ผู้เล่นต่างชาติยังไม่ครบตามโควต้า ดังนั้นผู้เล่นต่างชาติจะมีการเสริมเข้ามาใหม่ มาเป็นกำลังเสริมให้กับผู้เล่นคนไทยตัวหลักในฤดูกาลนี้”
การเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นของ บีจี หลังตลาดซื้อ-ขายนักเตะเปิดทำการ มีการย้ายเข้าและย้ายออกนับสิบๆ ดีลที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่แกนหลักผู้เล่นไทยที่เป็นตัวระดับทีมชาติยังอยู่กันครบครัน
ซึ่งการเสริมทัพดีลสำคัญๆ แล้วน่าจะช่วยยกระดับทีมได้ดีขึ้น ประกอบไปด้วยแดนหลังที่ได้ เรนาโต้ เคลิช เซนเตอร์แบ็คจาก ชลบุรี เอฟซี และ ชินภัทร์ ลีเอาะ มาจาก เชียงราย ยูไนเต็ด รวมไปถึงการดึงตัว วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ แนวรับจอมถล่มประตู กลับมาจาก กว่างโซ้งมหาภัย เพื่อเป็นตัวเลือกในการใช้งานอีกครั้ง
แดนหน้าเสริมดาวยิงต่างชาติเข้ามาสองราย เป็นผู้เล่นในสไตล์หน้าเป้า คอยรับหน้าที่แบบโป้งปิดบัญชีทั้ง อิกอร์ เซเกอเยฟ ที่ย้ายมาจาก เอฟซี โทโบล และ ดานิโล่ อัลเวส ดาวยิงจากค่าย ฉลามชล
ส่วนแดนกลางเสริมเป็นตัวรุกที่มีสไตล์การเล่นคล้ายๆ กัน คือ เฟร็ดดี้ อัลวาเรซ แนวรุกสัญชาติคอสตาริก้า มาจาก เอฟซี สคูปี้ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติไทย ที่ย้ายมาจาก คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ซึ่งทั้งคู่มีจุดเด่นในเรื่องของการเลี้ยงกินตัว, จ่ายบอลได้-เสีย และ การยิงประตูที่หวังผลได้
แนวทางการใช้งานชนาธิป
จากระบบการเล่น 4-3-3 ของ โค้ชธง พอเวลาลงสนามไปเล่นจริงๆ การยืนตำแน่งต่างๆ จะมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์เป็น 4-2-3-1 โดยจะใช้กองกลางที่เล่นเกมรับได้ดีสองคน คือ สารัช อยู่เย็น และ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล คอยสกรีนบอลเป็นด่านสุดท้าย ก่อนจะทะลุไปเจอกับแผงหลัง
แผงมิดฟิลด์จะเหลือพื้นที่ว่างให้กับเพลย์เมคเกอร์หนึ่งตำแหน่ง ซึ่งหากต้องการเรื่องของความเข้าขารู้ใจ โอกาสจะตกเป็นของ ชนาธิป ที่เล่นร่วมกับ พิธิวัตต์ และ สารัช อยู่เป็นประจำในทีมชาติ ยิ่งถ้ามี ธีรศิลป์ แดงดา ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า การประสานงานจะยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ เพราะเซ้นส์บอลในการขยับรับ-ส่งบอลทันกัน
มองไปที่แนวรุกสามตัวบนที่ว่างทางฝั่งซ้าย ที่เคยเป็นตำแหน่งของ สเตนิโอ จูเนียร์ จะว่างลง แล้วคนที่สามารถเล่นในตำแหน่งนั้นได้จะมีสามคน คือ ชนาธิป, อิคซาน ฟานดี้ และ เฟร็ดดี้ อัลวาเรซ ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องของความเร็ว การเลี้ยงกินตัว และการยิงประตูเหมือนๆ กัน
ตำแหน่งของ ชนาธิป และ อัลวาเรซ สามารถสลับกันได้ตลอดทั้งเกม ต้องมาลุ้นกันว่าเรื่องของการปรับจูนการเล่น จัดวางแบบไหนจะเข้าท่าเข้าทางมากที่สุด แต่เชื่อว่าโอกาสที่จะใช้งานพร้อมๆ กันในรูปแบบเพลย์เมคเกอร์คู่ในสนามนั้นมีแน่
ประเด็นที่ โค้ชธง ต้องนำมาขบคิดแล้วลำบากใจไม่น้อย คือ การบริหารโควต้านักเตะต่างชาติ 3 (ต่างชาติ), 1 (เอเชีย) และ 1 (อาเซียน) ในการลงสนามให้ออกมาได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งเวลาที่เหลือก็ต้องมาลุ้นกันว่า ชนาธิป จะเข้ามาแล้วมีบทบาทสำคัญ ในการพาทีมกลับไปเป็นแชมป์ได้สักรายการหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ฝีเท้าของเขานั้นไม่ต่างกับการได้ตัวต่างชาติมาเสริมขุมกำลังจริงๆ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
https://thinkcurve.co/tlaadchuue-khaaynaketa-riiow-aithyliik-2022-23-elks-ng/
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ยุคนั้นมีใครบ้าง : ตามหาเเข้งไทยยู-17 ที่ไปเล่นบอลโลก 1999
Outside In : ฟุตบอลโลก U17 1999 ทัวร์นาเมนต์ล่าสุดที่ไทยไปโชว์ฝีเท้าในระดับโลก
“ถ้าเขามีผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด” : มุมมอง ‘โค้ชอ๊อตโต้’ ถึง ‘มาโน่’ ช่วงแฟนบอลเริ่มเสียงแตก
“โค้ชอ๊อตโต้” : กุนซือวัย 26 ปีผู้คืนชีพ ชัยนาท เอฟซี ด้วย “เข็มทิศแห่งอนาคต”
เทพนิยายภูธร : ‘สโมสร ดอนมูล’ ตำนานทีมระดับตำบลผู้พิชิตแชมป์ เอฟเอ คัพ
เมื่อครั้งหนึ่ง “อิชิอิ” เคยทำงานในโรงอาหาร หลังคว้ารองแชมป์สโมสรโลก
คล้ายตรงไหนบ้าง? : ศุภณัฏฐ์ นักเตะเงา โลซาโน่ ในสายตาสื่อต่างประเทศ
เวียดนามกร้าวก่อนซีเกมส์ : "4 ปีก่อน ทรุสซิเย่ร์ ก็เคยพาทีมเวียดนามยู 19 เอาชนะไทยมาแล้ว
เก่งในสนามไม่พอ : สาเหตุใด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงครองความยิ่งใหญ่ได้แบบยั่งยืน ?
บุรีรัมย์ ยังห่างแค่ไหน ? 10 สถิติไร้พ่ายนานที่สุดในโลก ณ ตอนนี้
ข่าวและบทความล่าสุด
MOST POPULAR
ส.บอล เผยหลักเกณฑ์พิจารณาเลือก สงขลา จัดคิงส์คัพ ครั้งที่ 50
ชลบุรี ตั้ง ชาญณรงค์ กัปตันคนใหม่ ดัน ลูกชายโค้ชโม้ ขึ้นทีมชุดใหญ่
ครั้งหนึ่งที่ ‘อาแจ็กซ์’ ยอดทีมลีกดัตช์ ยังคุม ‘ซิฟโควิช’ กองหน้าป้ายแดง แบงค็อก ไม่อยู่!
สเปอร์ส ปิดดีลคว้า ยาง มิน-ฮยอก เด็กเทพเคลีกวัย 18 ปี
ผู้บริหารดอร์ทมุนด์ จำทริปไทยไม่ลืม ซ้อนพี่วินไปสนามแข่งบีจี
