กองหน้าทีมชาติไทย : ทายใจ “มาโน่” เยือนอาหรับตัวเลือกเดิมหรือเพิ่มใครดี ?
ช่วงเข้าสู่ปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ ปลายเดือนมีนาคมนี้ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมเกมอุ่นเครื่องอย่างเป็นทางการ เก็บแต้มเพิ่มเติมในการลุ้นขยับอันดับโลก จากการจัด ฟีฟ่า แร้งค์กิ้ง จำนวนสองเกมด้วยกัน
โดยคู่แข่งที่ ทัพช้างศึก จะต้องดวลฝีเท้าด้วย คือ ทีมชาติซีเรีย ที่รั้งอันดับโลกอยู่ที่ 90 และ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี อันดับที่ 70 ของโลก ลงแข่งกันในวันที่ 25 และ 28 มีนาคม ตามลำดับ
แน่นอนว่าสิ่งที่แฟนบอลกำลังลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อ คือ การเรียกผู้เล่นมาติดทีมชุดนี้รอบแรก จำนวน 26 คน ที่จะประกาศออกมาในอีกไม่นานนี้ เพื่อทำการซ้อมในวันที่ 20 มีนาคม ก่อนจะตัดตัวให้เหลือแค่ 23 คนสุดท้าย แล้วออกเดินทางไปแข่งในวันที่ 23 มีนาคมต่อไป
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง : วิเคราะห์ปัจจัยทำไมกองหน้า “เบอร์ 9” จึงกลับมาเป็นที่นิยมในโลกฟุตบอล
ปฐมพร จาวะลา
ก่อนหน้านี้ทีมงานได้นำเสนอการวิเคราะห์ กลุ่มผู้เล่นที่คิดว่าเข้าข่ายไล่เรียงมาจากตำแหน่ง ผู้รักษาประตู, กองหลัง และ กองกลางรวมตัวริมเส้นกันไปแล้ว เหลือเพียงตำแหน่งปิดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ กองหน้าตัวเป้า
วันนี้ Think Curve - คิดไซด์โค้ง พร้อมวิเคราะห์และทายใจ มาโน่ โพลกิ้ง ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ ตามความน่าจะเป็น กับตำแหน่งสุดท้ายนี้ว่า ใครกันบ้างที่ผลงานในสนามดีพอ จะคว้าโควต้าที่เหลือไปครองได้สำเร็จ
แนวทางในการเลือกตัว
หากสังเกตุจากความคิดตั้งต้นของ มาโน่ ในการเลือกตัวผู้เล่นตำแหน่งศูนย์หน้า หากเป็นรายการสำคัญ มีผลต่อชะตาการคุมทีมของตัวเอง เป็นรายการใหญ่ที่แฟนบอลให้ความสนใจสูง จะไม่มีการเสี่ยงลองเรียกผู้เล่นหน้าใหม่สักเท่าไหร่นัก
กลุ่มที่ยืนพื้นเป็นขาประจำแน่ๆ คือ ตัวยืนในทีมชาติกลุ่มที่การันตีเลยว่า มีชื่อติดมาแน่ๆ ส่วนกลุ่มที่ลุ้นสอดแทรกจะคัดจากผลงานฟอร์มการเล่นเป็นเกณฑ์ โดยต้องมีสไตล์เข้ากับระบบการเล่นที่เขาจะเลือกใช้
การเลือกใช้ ศูนย์หน้าตัวเป้า ของกุนซือรายนี้ จะต้องมีคุณสมบัติจำเป็นในการเล่นอย่าง ยิงประตูไดด้เฉียบคม, เก็บบอลในแดนหน้าได้ดี และ สามารถลงมาช่วยเพื่อนเชื่อมเกมได้ ถ้ายิ่งมีโปรไฟล์ผ่านเวทีระดับชาติมาก่อนยิ่งได้เปรียบ
ดังนัันโอกาสที่รายชื่อจะพลิกโผ นั้นมีความเป็นไปได้น้อยมากๆ เวียนใช้ตัวหน้าเดิมๆ เป็นแกนหลัก เนื่องจากคุ้นมือกันดีอยู่แล้ว ความเข้าใจเรื่องของแทคติกส์ต่างๆ แทบไม่ต้องมาอธิบายอะไรกันใหม่ แต่ละคนล้วนรู้บทบาทของตัวเองดี มีผลมาจากการเก็บประสบการณ์ที่ผ่านมา
กลุ่มการันตีร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามาแน่
รายแรกที่แฟนบอลแทบไม่ต้องลุ้นกันให้เหนื่อย คือ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงตัวเก๋าวัย 34 ปี จากสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ ทัพช้างศึก ในอันดับที่ 3 ทำไปแล้ว 53 ประตู จากการติดธง 116 นัด
ธีรศิลป์ เป็นกองหน้าที่มีความครบเครื่อง ยิงประตูได้เฉียบคม ไม่ว่าจะเป็นการใช้เท้าหรือเป็นการโหม่ง เก็บบอลแดนหน้าได้ดี และเซ้นส์ในการลงมาช่วยเพื่อน เชื่อมเกม ต่อเกม มีส่วนร่วมกับเกมรุกแดนบนทุกจังหวะ ส่งผลให้เขายืนเป็นตัวหลักเบอร์หนึ่งให้กับทีมชาติ มาเป็นทศวรรษ
แม้ว่าผลงานของ มุ้ย กับต้นสังกัด กระต่ายแก้ว ในฤดูกาลนี้ อาจไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือนก่อน เจออาการบาดเจ็บรบกวนเนืองๆ ไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมต่อเนื่องเท่าไหร่นัก มีช่วงที่หยุดพักไปบ้าง นับจนถึงตอนนี้ทุกรายการกดไปแล้ว 14 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 22 นัด ย่อมบ่งบอกถึงคุณภาพของเขาได้ดี
ถึงฟอร์มของต้นสังกัดจะอยู่ในช่วงไม่เอาอ่าว เกมรับรั่วจัด เกมรุกไม่เป็นทรง มุ้ย ก็ยังยิงประตูกู้หน้าให้กับทีมได้บ่อยครั้ง ต่อให้ผลสกอร์จะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ ดังนั้นถ้าวัดกันจากผลงานการเล่นส่วนตัว ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ที่จะเรียกเขามาติดทีมแน่นอน
เชื่อได้เลยว่าประสบการณ์ค้าแข้งอันโชกโชนของ ธีรศิลป์ ที่ผ่านการเล่นในต่างแดนประเทศเขี้ยวๆ อย่าง สเปน และ ญี่ปุ่น มาก่อนหน้านี้ บวกกับเกมที่กดดันสูงในระดับชาติ เขาจะยังคงเป็นที่พึ่งให้กับน้องๆ ได้แบบไร้ปัญหา
ต่อเนื่องกันที่รายที่สองที่ไม่มีทางจะหลุดโผแน่ นั่นก็คือ ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา ดาวยิงฟอร์มฮอตวัย 20 ปี จากค่าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เป็น วันเดอร์คิด เบอร์หนึ่งของวงการฟุตบอลไทยตอนนี้ สร้างสถิติเอาไว้มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นครองสถิติผู้เล่นอายุน้อยสุดที่ได้ลงสนามในศึก ไทย ลีก แล้วเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงได้บนเวทีนี้ ด้วยวัยไม่ถึง 16 ปีด้วยซ้ำ
แถมพออายุได้ 16 ปี 8 เดือน 7 วัน ก็กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุด ที่ยิงได้บนเวที เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ผลงานดังกล่าวทำให้เขามีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ด้วยวัยเพียง 16 ปี 10 เดือน กับอีก 3 วัน นับว่าเป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดเป็นประวัติกาลของทัพ ช้างศึก
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : ศุภณัฎฐ์ พุ่งพรวด : อัพเดท 10 อันดับนักเตะไทยลีกมูลค่าสูงที่สุดในเวลานี้
ธนกรณ์ ปราโมกข์ชน
แม้ว่า ศุภณัฎฐ์ จะมีช่วงที่เจออาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่บ้างเมื่อปีก่อน แต่พอกลับมาฟิตสมบูรณ์เต็มร้อย ผลงานก็แรงดีไม่มีตก ถูกส่งตัวไปเก็บประสบการณ์ถึงประเทศอังกฤษ กับสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมความหวังว่าจะได้ย้ายไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก ในอนาคต
แบงค์ มีองค์ประกอบที่ครบเครื่องในการเป็นศูนย์หน้าที่ดี มีความเร็ว ความพริ้ว ความขยัน การหาตำแหน่งที่ว่างที่ยอดเยี่ยม และ การยิงประตูที่เฉียบคม ยิ่งพอได้ไปฝึกพัฒนาสภาพร่างกายนอกประเทศ ก็ได้เรื่องความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาอีก
ตำแหน่งการเล่นของเขาในทีม ปราสาทสายฟ้า อาจจะถูกใช้งานเป็น อินไซด์ ฟอร์เวิร์ด ถ่างตัวเองออกมาทางริมเส้นมากกว่าประจำการเป็นตัวเป้า แต่นั่นก็ทำให้เขามีพื้นที่เล่นมากขึ้น มีการเล่นที่หลากหลายขึ้น แล้วก็สามารถสอดเข้าไปยิงประตูได้บ่อย
สถิติของ ศุภณัฎฐ์ ในซีซั่นนี้สุดยอดเอามากๆ ลงสนามทุกรายการรวมไป 28 นัด กดไปแล้ว 11 ประตู บวกกับทำอีก 12 แอสซิสต์ ไม่มีทางที่ มาโน่ จะไม่ใช้งานอาวุธที่อันตรายขนาดนี้อย่างแน่นอน
ถัดมาที่รายที่สามยังคงเป็นดาวยิงจากค่าย ปราสาทสายฟ้า ที่ฤดูกาลนี้ ผลงานร้อนแรงเหลือเกิน เป็นผู้รั้งหัวหาดนำเป็นดาวซัลโวร่วมของ ไทย ลีก อยู่ในขณะนี้ที่จำนวน 13 ประตู นั่นก็คือ ศุภชัย ใจเด็ด ดาวยิงวัย 24 ปี ซึ่งมีสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึง ธีรศิลป์ อยู่ไม่น้อย
ศุภชัย มีรูปร่างที่สูงใหญ่ มีทักษะการเก็บบอลแดนหน้าที่ดี สามารถลงมาเชื่อมเกมให้เกิดความไหลลื่นได้ แถมยังมีเซ้นส์ในการเคลื่อนที่หาที่ว่างในการทำประตูได้เก่ง อันเป็นผลมาจากการไปเก็บประสบการณ์ที่อังกฤษ แล้วนำมาพัฒนาฝีเท้าของตัวเองได้อย่างน่าชื่นชม
บทความที่เกี่ยวข้อง : หากวัดจากค่าเฉลี่ย : ศุภชัย จะทำลายสถิติดาวยิงไทยสูงสุดของ ธีรศิลป์ ได้หรือไม่ ?
วิสูตร ดำหริ
ผลงานของ อาร์ม กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้ ลงเล่นทุกรายการไปแล้ว 27 เกม ทำไป 16 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ แฟนบอลไทยคงได้แต่หวังว่า มาโน่ จะเจอแนวทางการใช้งานเขาเหมือนกับในสโมสรเสียที เพราะฟอร์มการเล่นบนเวทีระดับชาติ ยังไม่เคยทำผลงานได้เปรี้ยงปร้างเลย
ปิดท้ายกลุ่มที่คิดว่ามีชื่อติดแน่ๆ กันที่ ดาวยิงวัย 24 ปี จากสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เพิ่งจะเป็นซูเปอร์ซับลงมาพลิกเกมพาทีมบุกไปเอาชนะ การท่าเรือ เอฟซี ได้สุดมัน 3-2 แล้วทาง ปรเมศย์ อาจวิไล ก็รับบทเป็นผู้ยิงประตูชัยอีกด้วย
แฟนบอลไทยคงจำภาพ ฟร้องซ์ กันได้ดีอยู่ เพราะในช่วงศึก อาเซียน คัพ ที่ผ่านมา เขาเพิ่งจะเบิกสกอร์แรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ ในเกมที่บุกไปเสมอกับ เวียดนาม ได้อย่างสนุก 2-2 ก่อนจะปูทางเป็นแชมป์ได้ในเวลาต่อมา
เรื่องที่เกี่ยว : ปรเมศย์ อาจวิไล : ฟอร์มเปรี้ยงเข้าตาเพราะของดีที่ได้มาจาก "โค้ชมาริโอ"
Nutthapol Oumruangsri
แนวทางการเล่นของ ปรเมศย์ เป็นศูนย์หน้าแนวทุ่มเท โค้ชสั่งให้เล่นแบบไหนทำแบบนั้น วิ่งแบบไม่มีหมดเมื่อได้รับโอกาสลงสนาม หาตำแหน่งที่ว่างได้ดี การจบสกอร์ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ไว้ใจได้ ยิ่งอยู่ในช่วงที่กำลังมั่นใจ น่าจะมีบวกบัฟพลังเพิ่มขึ้นไปอีก
แม้ว่าผลงานรวมๆ ของ ทัพกิเลนผยอง ฤดูกาลนี้ อาจไม่น่าพอใจเท่าใดนัก ถ้ามองกันที่อันดับในตารางคะแนน แต่อย่างน้อยฟอร์มส่วนตัวของ ปรเมศย์ ก็ถือว่าพอจะเป็นความชื่นใจเล็กๆ น้อยๆ ให้กับแฟนบอลได้บ้าง เนื่องจากลงสนามไปทุกรายการ สลับกันไปทั้งตัวจริงและตัวสำรองทั้งหมด 24 นัด ฟร้องซ์ ทำไปถึง 5 ประตู กับ 5 แอสซิสต์
โดยเมื่อเป็นดาวยิงสายทุ่มเกินร้อย พร้อมปล่อยพลังงานแบบไม่มีหมด ส่วนใหญ่ลงมาแล้วสามารถพลิกโฉมหน้าให้กับทีมได้ ฟร้องซ์ คงเป็นไพ่โจ๊กเกอร์บนม้านั่งสำรอง ที่น่าจะสร้างประโยชน์ให้กับ มาโน่ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
กองหน้าตัวสอดแทรก
จากโควต้าด้านบนที่อัดแน่นมาเต็มระบบ มาโน่ คงจะเหลือพื้นที่ว่างให้กับตำแหน่งกองหน้าอีกแค่ไม่เกินสองที่ เพราะต้องแบ่งโควต้าไปให้กองหน้ากึ่งปีกด้วยเช่นกัน
ในเมื่อคัดตัวเด่นๆ ที่ผลงานติดท็อปชาร์ตของลีกไปหมดแล้ว ตัวเลือกที่พอจะเหลืออยู่แล้วผลงานเข้าข่าย ต้องเฟ้นหาจากฐานข้อมูลเดิมๆ ตามสไตล์ มาโน่ ที่เลือกนักเตะจากความคุ้ยเคยผลงานเก่าๆ เป็นหลัก เพื่อจะได้ลดความเสี่ยง
ดังนั้นโควต้าแรกที่เข้าจ่ายตำแหน่งนี้ ย่อมหนีไม่พ้น อดิศักดิ์ ไกรษร ดาวยิงวัย 32 ปี ที่ตอนนี้ออกไปเปิดตลาด ค้าแข้งนอกประเทศอยู่กับ ตรังกานู เอฟซี ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีประสบการณ์เล่นบนเวทีทีมชาติมาอย่างโชกโชน ถูกตั้งความหวังเอาไว้สูงในตอนแรกว่า จะขึ้นมาแทนที่ ธีรศิลป์ ได้ในอนาคต
กอล์ฟ เป็นกองหน้าในสไตล์การเล่นแบบโป้งปิดบัญชี มีจังหวะการยิงประตูที่รุนแรงเฉียบคม หากวันไหนเล่นได้เข้าฝัก รับรองเลยว่าหยุดเขาได้ยากมาก การันตีด้วยการซัดในสีเสื้อทีมชาติไปแล้ว 21 ประตู จากการลงสนาม 56 นัด
ถ้าจะตัดเกรดฟอร์มของ อดิศักดิ์ ในซีซั่นนี้ ต้องแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ช่วงเลกแรกที่อยู่กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ลงเล่นทุกรายการไป 14 นัด ทำไป 5 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ มาตรฐานพอไปวัดไปวาได้อยู่
แต่เลกที่สองหลังจากย้ายไปเล่นกับ ตรังกานู แล้วลงสนามไปทั้งหมด 3 เกม กอล์ฟ ยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกให้กัยต้นสังกัดได้เลย ซึ่งถ้ามองกันแบบแฟร์ๆ ก็ต้องมองเรื่องการต้องให้เวลาดดาวยิงรายนี้ ในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ด้วย ดังนั้นก็ถือว่ายังอยู่ในโผที่ มาโน่ มีสิทธิ์เลือกมาใช้งาน หากวัดกันเรื่องประสบการณ์
ปิดท้ายกันที่กองหน้าตัวสอดแทรกรายสุดท้าย ที่แฟนบอลตามเพจต่างๆ บนโลกออนไลน์ ต่างเชียร์กันเหลือเกินให้ มาโน่ เรียกตัวทาง สิทธิโชค กันหนู ดาวยิงฟอร์มร้อนวัย 26 ปี จากสโมสร ราชบุรี เอฟซี มาติดธงทีมชาติชุดใหญ่เสียที จากผลงานในซีซั่นนี้ที่ทำไปแล้ว 7 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 27 นัด
หากย้อนกลับไปในสมัยที่เป็นดาวรุ่ง สิทธิโชค เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แล้วได้รับการยกย่องให้เป็น วันเดอร์ คิดส์ วงการบอลไทยเช่นกัน เคยถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติมาแล้วหลายชุดในรุ่นเยาวชน อาทิ ยู-17, ยู-19 และ ยู-23
สไตล์การเล่นของเขาเป็นสไตล์ดุดัน พร้อมชนพร้อมปะทะกับแนวรับคู่แข่ง เพื่อหาจังหวะสับไกในระยะทำการ ซึ่งความคมจัดว่าอยู่ในระดับไว้ใจได้เลยทีเดียว แต่ถ้ามองว่าเกมอุ่นเครื่องสองนัดนี้เป็นเกมใหญ่ อาจจะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ในการทดลองเรียกเขามาเปิดซิงกับงานยากเช่นนี้
ท้ายที่สุดแล้วแฟนบอลชาวไทย ก็คงต้องรอกันต่อไปว่า บทสรุปในการเรียกตัวผู้เล่นในแต่ละตำแหน่งของ มาโน่ จะออกมาเป็นอย่างไร? ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วย และกลุ่มที่มองค้านในบางตำแหน่งเป็นธรรมดา แต่เชื่อว่าทั้งสองกลุ่มก็จะสามัคคีกันเหมือนเดิม ในการเชียร์ทัพ ช้างศึก ลงอุ่นเครื่องในสองเกมสำคัญนี้
สำหรับเวลาอย่างเป็นทางการในการแข่งขันทั้งสองเกม ซึ่งทีมชาติไทยจะพบกับ ซีเรีย และ ยูเออี จะมีประกาศกันออกมาอีกที แต่ตารางที่ลงไว้แล้วแน่นอน คือวันที่ 25 และ 28 มีนาคม แล้วขอย้ำกันอีกครั้งว่าจะมีการถ่ายทอดสดสัญญาณ มาให้แฟนบอลในบ้านเราที่รอติดตามชม ผ่านทาง AIS Play เหมือนเช่นเคย
บทความที่เกี่ยวข้อง
กลางอัดแน่น : มาโน่สไตล์ มิดฟิลด์ลุยอุ่นเครื่อง ซีเรีย, ยูเออี ใครตัวจริง ?
กองหลังช้างศึก : เดาใจมาโน่ เลือก 23 แข้งทีมชาติไทยนัดอุ่นเครื่อง ซีเรีย & ยูเออี
เริ่มต้นที่นายทวาร : เดาใจมาโน่เลือก 23 แข้งในเกมอุ่นเครื่องกับ ซีเรีย และ ยูเออี
ข่าวและบทความล่าสุด
MOST POPULAR
ผลจับสลากผู้ตัดสิน เปาวิศเวศ เป่าเกม บุรีรัมย์-เมืองทอง
เจริญศักดิ์ มอง เมืองทอง กำลังเข้าฝัก หวังหยิบแต้มจากบ้านบุรีรัมย์
โค้ชทาจิกิสถาน ประกาศลาออก หลังเกมชนะทีมชาติไทย
สเตนิโอ อดเล่นเพลย์ออฟไทยลีก 2 โดนแบน 4 เกม เหตุชกแข้งชัยนาท
อบจ.ชัยนาท U14 ยิงคู่แข่ง 21-0 แต่จบเกมด้วยมิตรภาพ
